**สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปที่เคารพรักทุกท่าน**
สืบเนื่องจากในห้วงช่วงนี้คุณแม่ของผมกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายที่กำลังคุกคามสุขภาพกายของท่านอยู่ โดยตอนนี้ตัวเชื้อร้ายมันลามไปที่กระดูกและสมองจนส่งผลในเรื่องการพูด ความจำ และการใช้ชีวิตของท่านเป็นอย่างมาก จากที่ก่อนจะเข้าโรงพยาบาลนั้นท่านสามารถพูดคุย เดินเหิน ขับถ่าย หรือกินข้าวได้เอง แต่ปัจจุบันคุณแม่ของผมได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเพราะโรคร้ายจนแปรสภาพเป็นเหมือนกับเด็กทารกที่ต้องกลับมาใช้ผ้าอ้อมอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้ท่านได้กลับมารักษาตัวที่บ้านซักพักใหญ่ๆแล้วหลังจากคุณหมอที่โรงพยาบาลบอกให้ญาติๆทำใจและให้รักษาแบบประคับประคองตามอาการไปเรื่อยๆเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นแม้ท่านจะมีปัญหาเรื่องการขับถ่ายรึการใช้ชีวิตแต่ก็ยังสามารถกินข้าว อาหารเสริม และยาขนานต่างๆได้ แต่เมื่อเร็วๆนี้จู่ๆคุณแม่ท่านก็เริ่มเบื่ออาหาร ไม่ยอมกลืนข้าว รวมถึงเริ่มนอนหลับและเซื่องซึมตลอดเวลาจนผมอดเป็นห่วงไม่ได้ ประกอบกับที่ตัวผมเองได้มีโอกาสไปพบเจอกระทู้นี้ระหว่างกำลังหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์เข้า
การดูแลเมื่อผู้ป่วยเข้าช่วงสุดท้ายของชีวิต ..การจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี ของคนที่คุณรัก
http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2010/09/L9723518/L9723518.html
ซึ่งนั่นทำให้ผมพบว่าอาการต่างๆของคุณแม่ผมนั้นมันน่าจะเข้าข่ายเดียวกับเคสต่างๆเหล่านี้เลย ตอนอ่านกระทู้นั้นจบหัวใจของผมหล่นไปที่ตาตุ่มและแตกยับเป็นเสี่ยงๆไม่มีชิ้นดีเหมือนถูกค้อนเหล็กฟาดกระหน่ำ แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเองได้เตรียมตัวทำใจเอาไว้เป็นปีแล้วและรู้ว่าอย่างไรเสียเรื่องเช่นนี้มันต้องมาถึงเข้าซักวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว แต่เมื่อมาถึงช่วงเวลานี้แล้วผมกลับทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ตลอดทั้งวันผมเอาแต่พร่ำพูดกับคุณแม่ที่นอนหลับอยู่บนเตียง ไปกระซิบบอกว่ารักท่านแค่ไหนและขออโหสิให้กับสิ่งต่างๆที่เคยได้กระทำผิดไป และสำนึกเสียใจที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตนเองน่าจะมีเวลาให้ท่านมากกว่านี้อีกหน่อย แม้ช่วงเวลาเกือบสองปีนี้ชีวิตส่วนใหญ่ของผมจะหมดไปกับการดูแลคุณแม่ที่ป่วยแต่พอถึงวันนี้ผมกลับยังรู้สึกว่าตนเองยังทำได้ไม่ดีพอ
บอกตามตรงตอนนี้ผมรู้สึกกลัวมากครับกลัวว่าจะต้องสูญเสียท่านไปตลอดกาลแบบไม่มีวันหวนกลับ คุณแม่ของผมเป็นหญิงแกร่ง เป็นหญิงเหล็ก เป็น Iron Lady ที่สามารถดูแลลูกๆหลายคนได้ด้วยตัวคนเดียว แม้ชีวิตครอบครัวของเราจะพังพินาศไปนานแล้วแต่ท่านก็ยังไม่ยอมแพ้แต่สามารถกัดฟํนเลี้ยงดูลูกๆของท่านมาได้ด้วยตัวคนเดียวโดยไม่ยอมก้มหัวให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น แต่วันนี้หญิงเหล็กที่รักของผมกำลังป่วยหนักและตัวผมเองที่เป็นลูกกลับไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้เลย ตอนนี้คุณแม่เอาแต่นอนหลับตาและไม่ยอมรับประทานอาหารจนผมอดห่วงไม่ได้ ตอนนี้บอกตรงๆถ้าทำให้ท่านสุขภาพฟื้นฟูได้ถึงผมต้องมานั่งเช็ดอึเช็ดฉี่ของท่านแบบนี้ต่อไปผมก็ยินดีที่จะทำ แต่ทว่าเมื่อผมได้สอบถามทางญาติๆทั้งหลายแล้วส่วนใหญ่กลับมีความเห็นไปในสองทางคือ
1.) ปล่อยท่านไว้แบบนี้โดยคอยดูแลเท่าที่ทำได้ตามอาการและให้ท่านจากไปอย่างสงบบนเตียงในบ้าน
2.) พาท่านส่งโรงพยาบาลซึ่งหมอก็อาจจะยื้ออาการไว้ด้วยสายน้ำเกลือ อาหารทางหลอดเลือด การปั๊มหัวใจ ฯลฯ
ซึ่งบอกเพื่อนๆทุกท่านตามตรงแม้จะเตรียมใจไว้นานมากแล้วแต่ผมที่เป็นลูกก็คงทำใจยอมรับไม่ได้ถ้าจะปล่อยให้ท่านนอนหลับไปเฉยๆโดยไม่ยอมทำอะไรเลย ตอนนี้ผมจึงคิดจะลองสังเกตุอาการดูก่อนและคิดว่าถ้าท่านยังไม่ตื่นมากินข้าวก็อาจจะต้องพาส่งโรงพยาบาลเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน และอยากจะสอบถามเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เป็นแพทย์ครับว่าในเมื่ออาการของคุณแม่มาถึงขั้นนี้แล้วผมควรจะทำอย่างไรดีครับเพื่อไม่ให้ท่านต้องทนทรมาณกับความเจ็บปวดที่ได้รับ
ป.ล. ที่เขียนกระทู้ขึ้นนั้นส่วนหนึ่งเพราะอยากจะให้ทุกท่านที่ยังมีบุพการีหรือพระในบ้านอยู่ข้างตัว ขอให้หมั่นทำดีกับท่านมากๆเข้าไว้ในวันที่ยังมีโอกาสเถิดครับ เพราะวันใดที่ท่านจากไปแล้วต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้านก็ไม่สามารถส่งไปให้ท่านได้แม้แต่บาทเดียว เคยมีคนบอกผมว่าตัวผมนั้นยังมีโชคดีอยู่มากที่ได้มีโอกาสมาดูแลคุณแม่แบบนี้ เพราะหลายคนนั้นบุพการีของท่านจากไปอย่างปัจจุบันทันด่วนโดยที่ลูกหลานไม่มีโอกาสจะมาสนองคุณหรือร่ำลากันอย่างจริงจัง ทุกวันนี้ผมเองก็คิดแต่เพียงว่าจะทำหน้าที่ของลูกชายคนหนึ่งให้ดีที่สุดก็พอ
ขอขอบคุณในน้ำใจของเพื่อนๆทุกท่านมากๆครับ ตลอดเวลานับสิบปีที่ผมรู้จักกับเว็บพันทิปมานี้ สิ่งที่ผมได้รับมาตลอดคือความสนุกสนานเฮฮาแลความมีน้ำใจจากเพื่อนๆทุกคน แม้นต่อไปผมอาจจะไม่มีโอกาสหวนกลับมายังที่แห่งนี้แล้วด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่น้ำใจที่ทุกๆท่านมีให้ตลอดมานั้นผมจะไม่มีวันลืมเลือนแน่นอนครับ
(ขออนุญาตแท็ก "ห้องหว้ากอ" นะครับเพราะส่วนตัวแล้วผมรู้สึกผูกพันกับห้องแห่งนี้มากเป็นพิเศษจริงๆ)
(May the Spoil be with you)
ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน
**คุณแม่กำลังถูกมะเร็งร้ายคุกคาม** ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ ผมกลัวเหลือเกินที่จะต้องสูญเสียท่านไป!
สืบเนื่องจากในห้วงช่วงนี้คุณแม่ของผมกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายที่กำลังคุกคามสุขภาพกายของท่านอยู่ โดยตอนนี้ตัวเชื้อร้ายมันลามไปที่กระดูกและสมองจนส่งผลในเรื่องการพูด ความจำ และการใช้ชีวิตของท่านเป็นอย่างมาก จากที่ก่อนจะเข้าโรงพยาบาลนั้นท่านสามารถพูดคุย เดินเหิน ขับถ่าย หรือกินข้าวได้เอง แต่ปัจจุบันคุณแม่ของผมได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเพราะโรคร้ายจนแปรสภาพเป็นเหมือนกับเด็กทารกที่ต้องกลับมาใช้ผ้าอ้อมอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้ท่านได้กลับมารักษาตัวที่บ้านซักพักใหญ่ๆแล้วหลังจากคุณหมอที่โรงพยาบาลบอกให้ญาติๆทำใจและให้รักษาแบบประคับประคองตามอาการไปเรื่อยๆเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นแม้ท่านจะมีปัญหาเรื่องการขับถ่ายรึการใช้ชีวิตแต่ก็ยังสามารถกินข้าว อาหารเสริม และยาขนานต่างๆได้ แต่เมื่อเร็วๆนี้จู่ๆคุณแม่ท่านก็เริ่มเบื่ออาหาร ไม่ยอมกลืนข้าว รวมถึงเริ่มนอนหลับและเซื่องซึมตลอดเวลาจนผมอดเป็นห่วงไม่ได้ ประกอบกับที่ตัวผมเองได้มีโอกาสไปพบเจอกระทู้นี้ระหว่างกำลังหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์เข้า
การดูแลเมื่อผู้ป่วยเข้าช่วงสุดท้ายของชีวิต ..การจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี ของคนที่คุณรัก
http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2010/09/L9723518/L9723518.html
ซึ่งนั่นทำให้ผมพบว่าอาการต่างๆของคุณแม่ผมนั้นมันน่าจะเข้าข่ายเดียวกับเคสต่างๆเหล่านี้เลย ตอนอ่านกระทู้นั้นจบหัวใจของผมหล่นไปที่ตาตุ่มและแตกยับเป็นเสี่ยงๆไม่มีชิ้นดีเหมือนถูกค้อนเหล็กฟาดกระหน่ำ แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเองได้เตรียมตัวทำใจเอาไว้เป็นปีแล้วและรู้ว่าอย่างไรเสียเรื่องเช่นนี้มันต้องมาถึงเข้าซักวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว แต่เมื่อมาถึงช่วงเวลานี้แล้วผมกลับทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ ตลอดทั้งวันผมเอาแต่พร่ำพูดกับคุณแม่ที่นอนหลับอยู่บนเตียง ไปกระซิบบอกว่ารักท่านแค่ไหนและขออโหสิให้กับสิ่งต่างๆที่เคยได้กระทำผิดไป และสำนึกเสียใจที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตนเองน่าจะมีเวลาให้ท่านมากกว่านี้อีกหน่อย แม้ช่วงเวลาเกือบสองปีนี้ชีวิตส่วนใหญ่ของผมจะหมดไปกับการดูแลคุณแม่ที่ป่วยแต่พอถึงวันนี้ผมกลับยังรู้สึกว่าตนเองยังทำได้ไม่ดีพอ
บอกตามตรงตอนนี้ผมรู้สึกกลัวมากครับกลัวว่าจะต้องสูญเสียท่านไปตลอดกาลแบบไม่มีวันหวนกลับ คุณแม่ของผมเป็นหญิงแกร่ง เป็นหญิงเหล็ก เป็น Iron Lady ที่สามารถดูแลลูกๆหลายคนได้ด้วยตัวคนเดียว แม้ชีวิตครอบครัวของเราจะพังพินาศไปนานแล้วแต่ท่านก็ยังไม่ยอมแพ้แต่สามารถกัดฟํนเลี้ยงดูลูกๆของท่านมาได้ด้วยตัวคนเดียวโดยไม่ยอมก้มหัวให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น แต่วันนี้หญิงเหล็กที่รักของผมกำลังป่วยหนักและตัวผมเองที่เป็นลูกกลับไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้เลย ตอนนี้คุณแม่เอาแต่นอนหลับตาและไม่ยอมรับประทานอาหารจนผมอดห่วงไม่ได้ ตอนนี้บอกตรงๆถ้าทำให้ท่านสุขภาพฟื้นฟูได้ถึงผมต้องมานั่งเช็ดอึเช็ดฉี่ของท่านแบบนี้ต่อไปผมก็ยินดีที่จะทำ แต่ทว่าเมื่อผมได้สอบถามทางญาติๆทั้งหลายแล้วส่วนใหญ่กลับมีความเห็นไปในสองทางคือ
1.) ปล่อยท่านไว้แบบนี้โดยคอยดูแลเท่าที่ทำได้ตามอาการและให้ท่านจากไปอย่างสงบบนเตียงในบ้าน
2.) พาท่านส่งโรงพยาบาลซึ่งหมอก็อาจจะยื้ออาการไว้ด้วยสายน้ำเกลือ อาหารทางหลอดเลือด การปั๊มหัวใจ ฯลฯ
ซึ่งบอกเพื่อนๆทุกท่านตามตรงแม้จะเตรียมใจไว้นานมากแล้วแต่ผมที่เป็นลูกก็คงทำใจยอมรับไม่ได้ถ้าจะปล่อยให้ท่านนอนหลับไปเฉยๆโดยไม่ยอมทำอะไรเลย ตอนนี้ผมจึงคิดจะลองสังเกตุอาการดูก่อนและคิดว่าถ้าท่านยังไม่ตื่นมากินข้าวก็อาจจะต้องพาส่งโรงพยาบาลเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน และอยากจะสอบถามเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เป็นแพทย์ครับว่าในเมื่ออาการของคุณแม่มาถึงขั้นนี้แล้วผมควรจะทำอย่างไรดีครับเพื่อไม่ให้ท่านต้องทนทรมาณกับความเจ็บปวดที่ได้รับ
ป.ล. ที่เขียนกระทู้ขึ้นนั้นส่วนหนึ่งเพราะอยากจะให้ทุกท่านที่ยังมีบุพการีหรือพระในบ้านอยู่ข้างตัว ขอให้หมั่นทำดีกับท่านมากๆเข้าไว้ในวันที่ยังมีโอกาสเถิดครับ เพราะวันใดที่ท่านจากไปแล้วต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้านก็ไม่สามารถส่งไปให้ท่านได้แม้แต่บาทเดียว เคยมีคนบอกผมว่าตัวผมนั้นยังมีโชคดีอยู่มากที่ได้มีโอกาสมาดูแลคุณแม่แบบนี้ เพราะหลายคนนั้นบุพการีของท่านจากไปอย่างปัจจุบันทันด่วนโดยที่ลูกหลานไม่มีโอกาสจะมาสนองคุณหรือร่ำลากันอย่างจริงจัง ทุกวันนี้ผมเองก็คิดแต่เพียงว่าจะทำหน้าที่ของลูกชายคนหนึ่งให้ดีที่สุดก็พอ
ขอขอบคุณในน้ำใจของเพื่อนๆทุกท่านมากๆครับ ตลอดเวลานับสิบปีที่ผมรู้จักกับเว็บพันทิปมานี้ สิ่งที่ผมได้รับมาตลอดคือความสนุกสนานเฮฮาแลความมีน้ำใจจากเพื่อนๆทุกคน แม้นต่อไปผมอาจจะไม่มีโอกาสหวนกลับมายังที่แห่งนี้แล้วด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่น้ำใจที่ทุกๆท่านมีให้ตลอดมานั้นผมจะไม่มีวันลืมเลือนแน่นอนครับ
(ขออนุญาตแท็ก "ห้องหว้ากอ" นะครับเพราะส่วนตัวแล้วผมรู้สึกผูกพันกับห้องแห่งนี้มากเป็นพิเศษจริงๆ)
(May the Spoil be with you)
ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน