ปวดหัวหมดแล้ว
เหมือนไม่มีที่ยืน ด่ารัฐบาลได้อย่างสง่าผ่าเผย ออกสื่อได้สบาย ๆ แต่ด่าม๊อบได้เฉพาะกลุ่มที่เข้าใจกัน อ้าปาก ก็อาจจะโดนไล่ไปอยู่กลุ่มนู้นกลุ่มนี้
ไม่เข้าใจเลยว่า ม๊อบนี้ มันยังไง ต้องการอะไร ต้องการให้รัฐทำอะไร ที่ไม่ใช่ยุบสภา หรือลาออก
ไม่อยากจะเชื่อว่าม๊อบจะยืนระยะได้ แค่มีจุดร่วมเดียวกัน แต่เข้าใจว่าอยู่นาน ๆ ก็อาจจะ เชื่อตามได้
ดังนั้น หากจะเลิกม๊อบได้ ต้องสร้างความพึงพอใจในระดับนึงให้ม๊อบ
จุดร่วมเดียวกันของม๊อบนี้ คือ ไม่พอใจรัฐบาล
ส่วนความต่างของคนในกลุ่มนี้ คือ มันมีความหลากหลายในความไม่พอใจ
แยกออกเป็นประเภท แล้วหาทางออกไปทีละจำพวก ให้เหลือเฉพาะพวกฮาร์ดคอ ที่ไม่ว่าจะยังไง ก็ไม่มีวันจะพอใจ
ดูเหมือน ม๊อบ นี้ ถูกจุดติดขึ้นมาด้วย
1. ความไม่พึงพอใจ ในการออกกฎหมายเือื้อประโยชน์ส่วนตน
แม้ว่า ... มันจะล่ม ไปแล้ว ชั่วคราว
อาจจะมีคนส่วนนึงอยากเห็นรัฐบาล แสดงออกถึงความเสียใจ ที่ดำเนินการแบบนี้ โดยลุแก่อำนาจไป
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีสักครั้งที่ จะเห็นว่า รัฐบาล รัฐสภา หรือ คนที่เกี่ยวข้องจะออกมา ขอโทษประชาชน
ขอโทษแล้ว ไม่ทำอีก คนส่วนนึง จะพึงพอใจ และ หยุดร่วมกับม๊อบนี้มั้ย
2. ความไม่พึงพอใจ ในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล
ส่วนตัวเป็นจำพวกแรก แต่พอ มันตก ก็เลิก และเป็นแบบพวกที่สองอย่างชัดเจน
ความไม่พอใจ ที่รัฐบาลไม่สนใจ ว่า นโยบายที่กำลังดำเนินการ จะทำให้มีความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างไร
ใครเตือนก็ไม่ใส่ใจ ไม่คิดจะแก้ไข
ในวันอภิปรายประกาศเดินหน้าโครงการจำนำ ถึงกับหัวใจ กระตุก เอร่อ ขนาดนี้แล้ว ไม่คิดสักนิดเลยหรอ
3. คนที่ไม่พอใจ ผลงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นศก.ตกต่ำ ค่าครองชีพสูง ฯลฯ
คนพวกนี้ จะไม่สามารถ ทำให้พอใจได้ด้วยคำพูดก็จริง แต่การกระทำบางอย่างของรัฐบาลอาจจะช่วยได้
เช่น การปรับคณะรัฐมนตรี การปรับทีมเศรษฐกิจ หรือ อะไรก็ตามที่จะพอทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกได้ว่า มันจะมีความดีงามเกิดขึ้น มีอนาคตที่ดีรออยู่
4. คนที่ไม่พอใจ ตระกูลนี้ ไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่ดีขึ้น ปล่อยกลุ่มนี้ไว้
แต่คนที่ไป คงไม่ได้ขนาดนั้น ทุกคนให้เวลานายก มาถึง 2 ปี พันธมิตรเสื้อเหลือง ไม่น่าจะยืนระยะได้นาน ส่วนมากจะดับไปตามกาลเวลา
5. คนที่ไปร่วมเพราะกระแส ถ้าปล่อยให้เหลือเฉพาะพวกที่ 4 คนไปร่วมเพราะกระแสก็จะดับไปเอง
สุดท้าย มันต้องมีสักวันที่เราด่ารัฐบาลได้อย่างสนุกปากวิจารณ์กันได้ตรง ๆ และไม่อายที่จะบอกว่าเห็นด้วยกับเรื่องไหนบ้าง
มันต้องมีสิ่งที่เราเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ทุกโครงการ ทุกรัฐบาล ไม่ใช่ ฝั่งนี้ทำอะไรก็ผิด ฝั่งนั้นทำผิดยังไงก็ถูก
หาทางออก ประเทศไทย
เหมือนไม่มีที่ยืน ด่ารัฐบาลได้อย่างสง่าผ่าเผย ออกสื่อได้สบาย ๆ แต่ด่าม๊อบได้เฉพาะกลุ่มที่เข้าใจกัน อ้าปาก ก็อาจจะโดนไล่ไปอยู่กลุ่มนู้นกลุ่มนี้
ไม่เข้าใจเลยว่า ม๊อบนี้ มันยังไง ต้องการอะไร ต้องการให้รัฐทำอะไร ที่ไม่ใช่ยุบสภา หรือลาออก
ไม่อยากจะเชื่อว่าม๊อบจะยืนระยะได้ แค่มีจุดร่วมเดียวกัน แต่เข้าใจว่าอยู่นาน ๆ ก็อาจจะ เชื่อตามได้
ดังนั้น หากจะเลิกม๊อบได้ ต้องสร้างความพึงพอใจในระดับนึงให้ม๊อบ
จุดร่วมเดียวกันของม๊อบนี้ คือ ไม่พอใจรัฐบาล
ส่วนความต่างของคนในกลุ่มนี้ คือ มันมีความหลากหลายในความไม่พอใจ
แยกออกเป็นประเภท แล้วหาทางออกไปทีละจำพวก ให้เหลือเฉพาะพวกฮาร์ดคอ ที่ไม่ว่าจะยังไง ก็ไม่มีวันจะพอใจ
ดูเหมือน ม๊อบ นี้ ถูกจุดติดขึ้นมาด้วย
1. ความไม่พึงพอใจ ในการออกกฎหมายเือื้อประโยชน์ส่วนตน
แม้ว่า ... มันจะล่ม ไปแล้ว ชั่วคราว
อาจจะมีคนส่วนนึงอยากเห็นรัฐบาล แสดงออกถึงความเสียใจ ที่ดำเนินการแบบนี้ โดยลุแก่อำนาจไป
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีสักครั้งที่ จะเห็นว่า รัฐบาล รัฐสภา หรือ คนที่เกี่ยวข้องจะออกมา ขอโทษประชาชน
ขอโทษแล้ว ไม่ทำอีก คนส่วนนึง จะพึงพอใจ และ หยุดร่วมกับม๊อบนี้มั้ย
2. ความไม่พึงพอใจ ในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล
ส่วนตัวเป็นจำพวกแรก แต่พอ มันตก ก็เลิก และเป็นแบบพวกที่สองอย่างชัดเจน
ความไม่พอใจ ที่รัฐบาลไม่สนใจ ว่า นโยบายที่กำลังดำเนินการ จะทำให้มีความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างไร
ใครเตือนก็ไม่ใส่ใจ ไม่คิดจะแก้ไข
ในวันอภิปรายประกาศเดินหน้าโครงการจำนำ ถึงกับหัวใจ กระตุก เอร่อ ขนาดนี้แล้ว ไม่คิดสักนิดเลยหรอ
3. คนที่ไม่พอใจ ผลงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นศก.ตกต่ำ ค่าครองชีพสูง ฯลฯ
คนพวกนี้ จะไม่สามารถ ทำให้พอใจได้ด้วยคำพูดก็จริง แต่การกระทำบางอย่างของรัฐบาลอาจจะช่วยได้
เช่น การปรับคณะรัฐมนตรี การปรับทีมเศรษฐกิจ หรือ อะไรก็ตามที่จะพอทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกได้ว่า มันจะมีความดีงามเกิดขึ้น มีอนาคตที่ดีรออยู่
4. คนที่ไม่พอใจ ตระกูลนี้ ไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่ดีขึ้น ปล่อยกลุ่มนี้ไว้
แต่คนที่ไป คงไม่ได้ขนาดนั้น ทุกคนให้เวลานายก มาถึง 2 ปี พันธมิตรเสื้อเหลือง ไม่น่าจะยืนระยะได้นาน ส่วนมากจะดับไปตามกาลเวลา
5. คนที่ไปร่วมเพราะกระแส ถ้าปล่อยให้เหลือเฉพาะพวกที่ 4 คนไปร่วมเพราะกระแสก็จะดับไปเอง
สุดท้าย มันต้องมีสักวันที่เราด่ารัฐบาลได้อย่างสนุกปากวิจารณ์กันได้ตรง ๆ และไม่อายที่จะบอกว่าเห็นด้วยกับเรื่องไหนบ้าง
มันต้องมีสิ่งที่เราเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ทุกโครงการ ทุกรัฐบาล ไม่ใช่ ฝั่งนี้ทำอะไรก็ผิด ฝั่งนั้นทำผิดยังไงก็ถูก