คือว่า ดิฉันได้เข้าไปทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งนึง (เป็นบริษัทที่ พ่อดิฉันแนะนำให้มาทำ) ตอนแรกเข้าไปสัมภาษณ์ เค้าก็บอกให้มาเริ่มงานวันที่ 16 ก.ย 56 ดิฉันได้เข้าไปทำงานวันแรกแบบ งงๆ สิ่งแรกที่เห็นคือ ทั้งบริษัทไม่ใหญ่มาก เป็นตึกทั้งหมด 7 ชั้น แต่มีพนักงานอยู่ 4 คน รวมถึงดิฉันด้วยนะค่ะ
1. เจ้าของบริษัท
2. ดิฉัน
3. คนขับรถ + ทำความสะอาดตึก
4. แม่บ้าน ทำอาหาร + ทำความสะอาดตึก
และมีพนักงานอีก อีก 7 คน แต่อยู่ข้างนอกไม่ได้เข้าบริษัทบ่อย บางคนต้องออกไปหาลูกค้ามาลงบูธตลอดๆ บางคนก็ดูแลบิ๊กซี สาขาอื่นๆ
ต้องโทษ ตัวเองก่อนเลย เป็นคนขี้เกรงใจ เลยไม่กล้าที่จะถามอะไรเจ้าของบริษัทมาก
แต่ตอนที่สัมภาษณ์ เค้าบอกฉันว่า บริษัทเปิดมานานแล้ว แต่ไม่เคยรับพนักงานจริงจัง ไม่เคยทำเป็นรูปแบบบริษัทเลย เพิ่งจะรับดิฉันเป็นคนแรก และ กำลังจะรับพนักงานเพิ่ม เพื่อให้เป็นรูปแบบ บริษัทมายิ่งขึ้น ดิฉันก็ตกลงมาทำงานที่บริษัทนี้ เพราะเห็นว่ามันใกล้บ้านค่ะ
พอทำงานได้ 1 วัน ผ่านไป พอวันที่ 2 ดิฉันได้ทวงถามไปยังสัญญาจ้าง เค้าบอกว่า เอาไว้ก่อนนะ ตอนนี้เค้ายุ่งมาก เดี๋ยวจะมีพนักงานมาเพิ่มสิ้นเดือนนี้ เดี๋ยวค่อยเซ็นไปเลยพร้อมกัน ไม่ต้องกลัวที่จะไม่ได้เงินเดือนหรอก
ดิฉันก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ก็ได้แต่รอ ตอนแรกตกลงกับดิฉันว่า ทำงาน จันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่ 9 โมง ถึง 5 โมงเย็น มาทำเป็นพนักงานคล้ายๆกับบัญชีค่ะ หน้าที่ คือ เก็บเงินค่าเช่าที่ใน ห้างบิ๊กซี ค่ะ ออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ประมาณนี้ค่ะ พอดิฉันขอเอกสารเก่าๆ เพื่อมาเป็นข้อมูล และตัวอย่างในการทำงาน เพราะดิฉันไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อนเลยค่ะ เค้าบอกไม่มี เพราะไม่เคยรับเอกสารพวกนี้เข้ามาในบริษัทเลย คือคนเก่าของเค้าที่ทำก็ไม่ใช่พนักงานบัญชี เป็นคนรู้จักกัน ทำแบบไม่ดี เค้าก็เลยไม่รับเข้ามาในบริษัท แบบนี้เค้าเลี้ยงภาษีมาโดยตลอดหรือเปล่าค่ะ
ดิฉันก็เริ่มไม่แน่ใจในบริษัทนี้แล้วค่ะ แต่พอทำไปได้ 2 อาทิตย์ อาทิตย์ที่ 3 เค้าก็วาดฝันให้กับพนักงานในบริษัท ถ้าทุกคนทำได้นะ จะมีโบนัสให้ โบนัส 2 แสน บลาๆๆๆ ดิฉันหันไปมองหน้าทุกคน ทุกคนก็ยิ้ม เสมืองหวังว่าฉันต้องได้เงินโบนัส
แล้วบอกกับดิฉันว่า ให้ดิฉันเอารถออกไปหาลูกค้า (พอดีว่าดิฉันมีรถค่ะ)แล้วก็บอกให้ดิฉันจ่ายค่าน้ำมันไปก่อน ดินฉัจ่ายค่าน้ำมันไปทั้งหมด 5,000 บาท (ที่จ่ายให้ก่อนเพราะเจ้าของบริษัทรู้จักกับพ่อของดิฉัน และดิฉันก็ไม่คิดว่าเค้าจะไม่จ่าย) ดิฉันเบิกจ่ายเหมือนบริษัทอื่นทั่วไปเลยค่ะ มีใบเสร็จทุกอย่างครบถ้วนค่ะ แต่ดิฉันเบิกจ่ายไปเรื่อยๆค่ะ เค้าก็ผลัด บอกเอาไว้ก่อน ทำ มาบอกดิฉันว่า งานอย่างเรามันเป็นงานตลาด ซึ่งก็ต้องทำทุกวันค่ะ
ตอนแรกรับมาเป็นพนักงานเก็บเงิน ทำเอกสาร ทำไปทำมา ให้ออกตลาดหาลูกค้า ดิฉันเพลียใจเลยค่ะ แต่เห็นว่ามันยังพอรับไหวก็เลยทำไปก่อน เพราะยังหางานใหม่ไม่ได้ด้วยค่ะ
วันที่ 1 ต.ค 56 มีคนใหม่เข้ามา 1 คน ดิฉันก็ปรึกษากันรื่องสัญญาจ้าง ว่าทำไมเค้าไม่มีให้เรา แล้วเรื่อง ประกันสังคม ดิฉันก็ได้ทวงถามไป เค้าก็เงียบและ ผลัดมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายเค้าคงโมโหดิฉัน ที่ทวงถามไปมากๆ เค้าเลยบอกว่า ไม่มีใครในบริษัท อยากจ่ายประกันสังคมหรอก ถ้าอยากทำก็ให้ไปทำเอาเอง แล้วเรื่องการจ่ายเงินเดือน ก็จ่ายตามบัญชีที่เค้าเองสะดวก เดือนแรกจ่ายไทยพาณิชย์ เดือนที่ 2 จ่าย กสิกร ดิฉันเริ่มไม่มั่นใจแล้วอยากจะลาออก ดิฉันกับพนักงานใหม่อีกคน เริ่มสงสัยในการทำงานของบริษัทนี้ จึงเริ่มไปคุยและปรึกษากับ พนักงานคนอื่นที่อยู่มาก่อน พี่เค้าบอกว่า บริษัทนี้เค้าไม่เคยให้ใครเซ็นสัญญาหรอก ประกันสังคมเค้าก็ไม่ทำให้หรอก ดิฉันเลยถามเค้าว่าทำไมถึงทำอยู่ไม่กลัวเค้าโกงหรอ เค้าบอกว่า ที่ทำอยู่เพราะติดหนี้ เจ้าของบริษัทเลยทำไป เค้ายังถามเลยว่าทำไมมาทำที่นี่ ดิฉันตัดสินใจออกแล้วค่ะ แต่รอเงินเดือนก่อน และเงินที่จ่ายให้เค้าไปก่อน คิดว่าถ้าได้ทั้งหมดออกแน่ๆค่ะ
พอเค้ารู้ว่าดิฉันจะลาออก เค้าก็เริ่มไม่พอใจ เพราะวัน เสาร์ที่ 19 และ อาทิตย์ที่ 20 ดิฉันได้ลากลับบ้านไปหาแม่ที่ ตจว. ค่ะ เค้าก็เอาเรื่องนี้มาว่าดิฉันค่ะ หาว่าดิฉันไม่ยอมทำงาน เอิ่ม!!! คือ วัน ส-อา นี่มันวันหยุดฉันไม่ใช่หรอค่ะ ดิฉันมี แม่มีครอบครัวนะค่ะ จะไม่ให้ดิฉันหยุดเลยหรอกค่ะ ก่อนหน้านี้ ดิฉันก็ทำงานให้ทุกวัน กลับบ้านที่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ทำไมไม่คิดบ้างล่ะค่ะ และเค้าก็เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นและไล่ฉันออก ในวันที่ 22 ตุลาคม 56ค่ะ แล้วไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้ฉัน บอกดิฉันดิว่าดิฉันทำงานไม่ดี ไม่ควรได้เงินเดือน มันมีอย่างนี้ด้วยหรอค่ะ แล้วเงินที่ดิฉันจ่ายให้ไปก่อนล่ะค่ะ เค้าก็ไม่คืนให้ดิฉัน ทวงถามไปทุกทาง บอกดิฉันทำงานไม่ดี ไม่ควรได้เงินเดือน ไม่เคยเจอคนแบบนี้เลยค่ะ T_T
พอนึกย้อนกลับไปค่ะ คือเค้าให้ดิฉันติด Internet ที่บริษัท เค้าบอกให้ดิฉันไปเอาบัตรประชาชนของพนักงานขับรถมาสมัคร Internet ฉันก็ถามว่าทำไมไม่สมัครเป็นชื่อบริษัทก็เอาไปหักภาษีได้ เค้าก็ทำหน้ามึนๆค่ะ แล้วบอกให้สมัครอะไรก็สมัครไป แล้วพอโทรไปสมัคร สรุปว่า ชื่อนี้มียอดค้างอยู่ 7,000 ก่าบาทไม่สามารถสมัครได้ ถ้าจะสมัครต้องชำระส่วนที่ค้างไว้ให้หมดก่อน ดิฉันก็เดินไปบอกเค้าว่าสมัครไม่ได้ค่ะ มียอดค้างชำระ เค้าบอกโอเค เอาบัตรไปคืน แล้วอย่าไปบอกเค้านะว่ามียอดค้างชำระ เงียบๆไว้ เอ๋อ!!! เลยค่ะ ดิฉันคิดว่า เค้าคงฉวยโอกาศจากคนที่ไว้ใจเค้าแน่เลยค่ะ คนแบบนี้ดิฉันอยากให้เค้ารับรู้ว่าไม่ควรมาหลอก มาแกล้ง กับคนไม่มีทางสู้ เค้าคิดว่า เค้ามีเงินสามารถทำได้ทุกอย่างมั้งค่ะ
รบกวนช่วยทีนะค่ะ อยากให้เค้าได้รับโทษจากการกระทำของเค้ามากเลยค่ะ ไม่งั้นเค้าก็จะทำแบบนี้กับคนอื่นไปเรื่อยๆ
อยากถามว่าถ้าเจอปัญหาแบบนี้ควรจะทำอย่างไรดีค่ะ
1. เจ้าของบริษัท
2. ดิฉัน
3. คนขับรถ + ทำความสะอาดตึก
4. แม่บ้าน ทำอาหาร + ทำความสะอาดตึก
และมีพนักงานอีก อีก 7 คน แต่อยู่ข้างนอกไม่ได้เข้าบริษัทบ่อย บางคนต้องออกไปหาลูกค้ามาลงบูธตลอดๆ บางคนก็ดูแลบิ๊กซี สาขาอื่นๆ
ต้องโทษ ตัวเองก่อนเลย เป็นคนขี้เกรงใจ เลยไม่กล้าที่จะถามอะไรเจ้าของบริษัทมาก
แต่ตอนที่สัมภาษณ์ เค้าบอกฉันว่า บริษัทเปิดมานานแล้ว แต่ไม่เคยรับพนักงานจริงจัง ไม่เคยทำเป็นรูปแบบบริษัทเลย เพิ่งจะรับดิฉันเป็นคนแรก และ กำลังจะรับพนักงานเพิ่ม เพื่อให้เป็นรูปแบบ บริษัทมายิ่งขึ้น ดิฉันก็ตกลงมาทำงานที่บริษัทนี้ เพราะเห็นว่ามันใกล้บ้านค่ะ
พอทำงานได้ 1 วัน ผ่านไป พอวันที่ 2 ดิฉันได้ทวงถามไปยังสัญญาจ้าง เค้าบอกว่า เอาไว้ก่อนนะ ตอนนี้เค้ายุ่งมาก เดี๋ยวจะมีพนักงานมาเพิ่มสิ้นเดือนนี้ เดี๋ยวค่อยเซ็นไปเลยพร้อมกัน ไม่ต้องกลัวที่จะไม่ได้เงินเดือนหรอก
ดิฉันก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ก็ได้แต่รอ ตอนแรกตกลงกับดิฉันว่า ทำงาน จันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่ 9 โมง ถึง 5 โมงเย็น มาทำเป็นพนักงานคล้ายๆกับบัญชีค่ะ หน้าที่ คือ เก็บเงินค่าเช่าที่ใน ห้างบิ๊กซี ค่ะ ออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ประมาณนี้ค่ะ พอดิฉันขอเอกสารเก่าๆ เพื่อมาเป็นข้อมูล และตัวอย่างในการทำงาน เพราะดิฉันไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อนเลยค่ะ เค้าบอกไม่มี เพราะไม่เคยรับเอกสารพวกนี้เข้ามาในบริษัทเลย คือคนเก่าของเค้าที่ทำก็ไม่ใช่พนักงานบัญชี เป็นคนรู้จักกัน ทำแบบไม่ดี เค้าก็เลยไม่รับเข้ามาในบริษัท แบบนี้เค้าเลี้ยงภาษีมาโดยตลอดหรือเปล่าค่ะ
ดิฉันก็เริ่มไม่แน่ใจในบริษัทนี้แล้วค่ะ แต่พอทำไปได้ 2 อาทิตย์ อาทิตย์ที่ 3 เค้าก็วาดฝันให้กับพนักงานในบริษัท ถ้าทุกคนทำได้นะ จะมีโบนัสให้ โบนัส 2 แสน บลาๆๆๆ ดิฉันหันไปมองหน้าทุกคน ทุกคนก็ยิ้ม เสมืองหวังว่าฉันต้องได้เงินโบนัส
แล้วบอกกับดิฉันว่า ให้ดิฉันเอารถออกไปหาลูกค้า (พอดีว่าดิฉันมีรถค่ะ)แล้วก็บอกให้ดิฉันจ่ายค่าน้ำมันไปก่อน ดินฉัจ่ายค่าน้ำมันไปทั้งหมด 5,000 บาท (ที่จ่ายให้ก่อนเพราะเจ้าของบริษัทรู้จักกับพ่อของดิฉัน และดิฉันก็ไม่คิดว่าเค้าจะไม่จ่าย) ดิฉันเบิกจ่ายเหมือนบริษัทอื่นทั่วไปเลยค่ะ มีใบเสร็จทุกอย่างครบถ้วนค่ะ แต่ดิฉันเบิกจ่ายไปเรื่อยๆค่ะ เค้าก็ผลัด บอกเอาไว้ก่อน ทำ มาบอกดิฉันว่า งานอย่างเรามันเป็นงานตลาด ซึ่งก็ต้องทำทุกวันค่ะ
ตอนแรกรับมาเป็นพนักงานเก็บเงิน ทำเอกสาร ทำไปทำมา ให้ออกตลาดหาลูกค้า ดิฉันเพลียใจเลยค่ะ แต่เห็นว่ามันยังพอรับไหวก็เลยทำไปก่อน เพราะยังหางานใหม่ไม่ได้ด้วยค่ะ
วันที่ 1 ต.ค 56 มีคนใหม่เข้ามา 1 คน ดิฉันก็ปรึกษากันรื่องสัญญาจ้าง ว่าทำไมเค้าไม่มีให้เรา แล้วเรื่อง ประกันสังคม ดิฉันก็ได้ทวงถามไป เค้าก็เงียบและ ผลัดมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายเค้าคงโมโหดิฉัน ที่ทวงถามไปมากๆ เค้าเลยบอกว่า ไม่มีใครในบริษัท อยากจ่ายประกันสังคมหรอก ถ้าอยากทำก็ให้ไปทำเอาเอง แล้วเรื่องการจ่ายเงินเดือน ก็จ่ายตามบัญชีที่เค้าเองสะดวก เดือนแรกจ่ายไทยพาณิชย์ เดือนที่ 2 จ่าย กสิกร ดิฉันเริ่มไม่มั่นใจแล้วอยากจะลาออก ดิฉันกับพนักงานใหม่อีกคน เริ่มสงสัยในการทำงานของบริษัทนี้ จึงเริ่มไปคุยและปรึกษากับ พนักงานคนอื่นที่อยู่มาก่อน พี่เค้าบอกว่า บริษัทนี้เค้าไม่เคยให้ใครเซ็นสัญญาหรอก ประกันสังคมเค้าก็ไม่ทำให้หรอก ดิฉันเลยถามเค้าว่าทำไมถึงทำอยู่ไม่กลัวเค้าโกงหรอ เค้าบอกว่า ที่ทำอยู่เพราะติดหนี้ เจ้าของบริษัทเลยทำไป เค้ายังถามเลยว่าทำไมมาทำที่นี่ ดิฉันตัดสินใจออกแล้วค่ะ แต่รอเงินเดือนก่อน และเงินที่จ่ายให้เค้าไปก่อน คิดว่าถ้าได้ทั้งหมดออกแน่ๆค่ะ
พอเค้ารู้ว่าดิฉันจะลาออก เค้าก็เริ่มไม่พอใจ เพราะวัน เสาร์ที่ 19 และ อาทิตย์ที่ 20 ดิฉันได้ลากลับบ้านไปหาแม่ที่ ตจว. ค่ะ เค้าก็เอาเรื่องนี้มาว่าดิฉันค่ะ หาว่าดิฉันไม่ยอมทำงาน เอิ่ม!!! คือ วัน ส-อา นี่มันวันหยุดฉันไม่ใช่หรอค่ะ ดิฉันมี แม่มีครอบครัวนะค่ะ จะไม่ให้ดิฉันหยุดเลยหรอกค่ะ ก่อนหน้านี้ ดิฉันก็ทำงานให้ทุกวัน กลับบ้านที่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ทำไมไม่คิดบ้างล่ะค่ะ และเค้าก็เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นและไล่ฉันออก ในวันที่ 22 ตุลาคม 56ค่ะ แล้วไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้ฉัน บอกดิฉันดิว่าดิฉันทำงานไม่ดี ไม่ควรได้เงินเดือน มันมีอย่างนี้ด้วยหรอค่ะ แล้วเงินที่ดิฉันจ่ายให้ไปก่อนล่ะค่ะ เค้าก็ไม่คืนให้ดิฉัน ทวงถามไปทุกทาง บอกดิฉันทำงานไม่ดี ไม่ควรได้เงินเดือน ไม่เคยเจอคนแบบนี้เลยค่ะ T_T
พอนึกย้อนกลับไปค่ะ คือเค้าให้ดิฉันติด Internet ที่บริษัท เค้าบอกให้ดิฉันไปเอาบัตรประชาชนของพนักงานขับรถมาสมัคร Internet ฉันก็ถามว่าทำไมไม่สมัครเป็นชื่อบริษัทก็เอาไปหักภาษีได้ เค้าก็ทำหน้ามึนๆค่ะ แล้วบอกให้สมัครอะไรก็สมัครไป แล้วพอโทรไปสมัคร สรุปว่า ชื่อนี้มียอดค้างอยู่ 7,000 ก่าบาทไม่สามารถสมัครได้ ถ้าจะสมัครต้องชำระส่วนที่ค้างไว้ให้หมดก่อน ดิฉันก็เดินไปบอกเค้าว่าสมัครไม่ได้ค่ะ มียอดค้างชำระ เค้าบอกโอเค เอาบัตรไปคืน แล้วอย่าไปบอกเค้านะว่ามียอดค้างชำระ เงียบๆไว้ เอ๋อ!!! เลยค่ะ ดิฉันคิดว่า เค้าคงฉวยโอกาศจากคนที่ไว้ใจเค้าแน่เลยค่ะ คนแบบนี้ดิฉันอยากให้เค้ารับรู้ว่าไม่ควรมาหลอก มาแกล้ง กับคนไม่มีทางสู้ เค้าคิดว่า เค้ามีเงินสามารถทำได้ทุกอย่างมั้งค่ะ
รบกวนช่วยทีนะค่ะ อยากให้เค้าได้รับโทษจากการกระทำของเค้ามากเลยค่ะ ไม่งั้นเค้าก็จะทำแบบนี้กับคนอื่นไปเรื่อยๆ