"โรคจิตเภท ปัญหาครอบครัว" ให้กำลังทุกท่านที่ครอบครัวประสบเจอกันนะค่ะ

พาพันไฟท์ติ้ง

สวัสดีค่ะ ไม่ได้ตั้งกระทู้นานมาก ห่างการเล่าสู่กันฟังมานาน

เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะค่ะ กุ๊ก เป็นอีกคน ที่ประสบปัญหาชีวิตคู่ ด้วยคำว่า "รัก" และ คำนี้ ก็เป็นคำเดียว ที่ทำให้ฟันฝ่า ทุกอย่างมา โดน ใช้ ความรู้สึก สัญชาตญาณ ของคำว่า "เมีย" และ "แม่" มาต้อสู้ เท่านั้น

สามี เป็นลูกคนโต (ครอบครัว พ่อแม่ หย่าร้าง ไม่อบอุ่นเลย)
กุ๊ก เป็นลูกคนเล็ก (ครอบครัว อบอุ่นรักกันดี)

ย้อนไปนิดนึง สามีกับกุ๊ก เจอกันครั้งแรก เมื่อกุ๊กอายุ แค่เพียง 13 ปี ขณะนั้นเรา มอต้น เขา ปวช เราก็นินทาเขาในใจไม่ชอบขี้หน้า ก็มาเป็นแฟนเพื่อนเรา

และก็มาเจอกันอีกที กุ๊กจบ มอต้น มาเรียนต่อ ปวช และ สามี เรียน ปวส (รู้สึก อีตานี่ เรียนช้าจัง มัวแต่จีบสาวอะดิ)

และเจออีกที กุ๊ก จบ ปริญญาตรี กลับมา เป็นอาจารย์ ที่โรงเรียน ปวช ที่เดิม แต่ยังเจอสามี เรียน ปวส อีกเหมือนเดิม (ดรอปนานไปปะ)

ความรู้สึก เออ ทำไมต้องมาเจอ และ ลูกศิษย์กะ แซวอาจารย์วันแรก ด้วยคำถามว่า "อาจารย์แต่งงานยังครับ" นอกเรื่องตำราการสอนมากมาย
กุ๊กก็สอนได้สักพัก แล้วก็ตัดสินใจลาออกไปทำงานที่อื่น เพราะไม่อยากเสียความเชื่อมั่น สามีทำให้เสียดุล ทำตัวจีบออกหน้าออกตา ดูไม่เหมาะสม

แต่พรหมลิขิต หรือ กรรม มิทราบ หนีไม่พ้น เราตัดสินใจคบกัน ด้วยเพราะใจอ่อน ในความตื้อของสามี จนกระทั่ง อยู่ด้วยกัน และมา แต่งงานกัน ระยะ เวลาที่ จากวันนั้น ผ่านอะไรมากมาย รวมกันก็ 9 ปี

** สองปีแรก เรารักหวานชื่นค่ะ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้

    พอเข้าปีที่สาม กุ๊ก ท้องสามีเริ่มเปลี่ยนไป ติดเพื่อน ติดเที่ยว ติดเหล้า และติดสาวคาราโอเกะ เปลี่ยนไปเป็นคนละคน (ก่อนหน้าจะแต่งงานกันไม่รู้ด้วยว่า สามีเคยเสพยาบ้า แต่พยายามเลิกแล้วยังแอบเสพ เป็นครั้งคราว จนกุ๊กจับได้ แต่อดทนพาไปเลิกแล้วอยู่ด้วยกันต่อไป) กุ๊กทนจนทนไม่ไหว เราก็ ทางใครทางมัน กุ๊ก ขายบ้าน แล้วย้ายที่อยู่ใหม่ ด้วยต้องการเริ่มใหม่กับชีวิต (ส่วนลูกในท้อง กุ๊กคลอดมาเสียชีวิตหมดเพราะดูแลตัวเองไม่ดี มัวแต่เศร้า ไม่สนใจตัวเอง รู้สึกผิดจนทุกวันนี้) จนผ่านไป ปีครึ่ง ระหว่างนั้น เพื่อน ๆ บอกเสมอว่า สามี ได้ตามหา กุ๊ก ตลอด พยายามไปถามเอากับเพื่อนทุกคน ว่ากุ๊กอยู่ที่ไหน และเพื่อน ๆ พี่น้อง ๆ ก็ไม่มีใคร บอกหรอก เพราะไม่อยากให้กลับ แต่ก็อีก โชคชะตา เล่นตลก สามีไปได้ที่อยู่เบอร์โทรใหม่ จากอาจารย์ที่กุ๊กนับถือ มากมาก โดยอาจารย์ไม่รู้ว่า กุ๊กเลิกกับสามีแล้ว เพราะอาจารย์ ป่วยไม่อยากให้อาจารย์เครียดค่ะ แกรักกุ๊ก มากรักเป็นลูกอีกคนได้
   
   สามี ตามไปหา ถึงสุราษฎร์ธานี ซึ่งตอนนั้น กุ๊ก มีแฟนใหม่แล้ว กำลังมีแพลน จะแต่งงาน ชีวิตเหมือนจะได้ดี แต่ลึก ๆ ในใจ เรารู้ว่า เรายังรักสามีเก่าอยู่เลย นั้นและ เยื่อใยมันไม่ขาด ทำให้กุ๊ก กลายเป็น ผู้หญิง ในตำนาน "วันทอง" โมรา กากี ด่าตัวเองเลย กุ๊กตัดสินใจ กลับมาอยู่กับสามีคนนี้ คนดีดีทำไมไม่รัก

  กุ๊กกลับ กรุงเทพฯ มาเริ่มต้นใหม่ พร้อมกับเสียง สวรรค์ ของคนที่บ้าน "กระหน่ำรอบแรก โง่ยิ่งกว่า ควาย" โดยไล่ออกจากบ้าน เพราะแม่บอกหากรักกันมากไปอยู่ที่อื่น ความอัดอั้น ณ วันนั้น สงสารแม่ เข้าใจแม่ ว่า "เราทำให้ท่านเสียใจอีกแล้ว" แต่ตัดสินใจออกไปอยู่กันสองคน สามีภรรยา และบอกให้สามีอดทน เพราะเราต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะ พิสูจน์ว่า สามีเป็นคนดี ได้นะ

   ระหว่างนั้น สามีทำตัวดีมากทุกอย่างค่ะ แต่เหมือน มี กรรมมาตามติด "สามีมีอาการ โรคอารมณ์สองขั้ว เป็นจิตเภทชนิดหนึ่ง" สองบุคคลิก เป็นผลพวงจากการยาสารเสพติด และ เป็นโรคที่ถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม ซึ่ง พ่อสามี ก็เคยมีประวัติรักษาอยู่ แต่เราไม่รู้เอง

   ช่วงที่เป็นนั้น กุ๊กมีลูกชายที่น่ารักแล้ว สองขวบได้แล้วค่ะ ลูกกำลังติดพ่อ เครียดมากเลยนะ ตอนเขามีอาการเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น เขามีอารมณ์ สองอารม คือ ร้องไห้ง่าย ๆ และ โมโหง่าย พอเวลาโมโห จะตบตีทำร้ายร่างกาย คนอื่น ค่ะ

   อาการของโรคนี้ หากไม่ได้ทานยา หรือ ขาดยา จะเป็น ๆ หาย ๆ ตอนที่เป็นจะไม่มีสติค่ะ ทำอะไรไป จำไม่ได้ค่ะ

  ผู้ ที่เป็นจะมีอาการแสดงออกมาทั้งในด้านอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม โดยในแต่ละระยะจะมีอาการนานหลายสัปดาห์ จนอาจถึงหลายเดือนหากไม่ได้รับการรักษ
  
เขาจะนั่งอยู่เฉยๆ ได้เป็นชั่วโมงๆ  ความ จำก็แย่ลง มักหลงๆ ลืมๆ เพราะใจลอย ตัดสินใจอะไรก็ไม่ได้ เพราะไม่มั่นใจไปเสียหมด เขาจะมองสิ่งต่างๆ ในแง่ลบไปหมด
  
ในทางตรงกันข้าม ในระยะหนึ่ง เขาจะมีอาการเปลี่ยนไปอีกขั้วหนึ่งเลย เขาจะมั่นใจตัวเองมาก รู้สึกว่าตัวเองเก่ง ความคิดไอเดียต่างๆ แล่นกระฉูด เวลาคิดอะไรจะมองข้ามไป 2-3 ช็อตจนคนตามไม่ทัน การพูดจาจะลื่นไหลพูดเก่ง คล่องแคล่ว มนุษยสัมพันธ์ดี เรียกว่าเจอใครก็เข้าไปทักไปคุย เห็นใครก็อยากจะช่วย   ช่วง นี้เขาจะหน้าใหญ่ใจโต ใช้จ่ายเกินตัวมีโครงการโปรเจคต่างๆ มากมาย   พลัง ของเขาจะมีเหลือเฟือ นอนดึกเพราะมีเรื่องให้ทำเยอะแยะไปหมด ตีสี่ก็ตื่นแล้ว ตื่นมาก็ทำโน่นทำนี่เลย ด้วยความที่เขาสนใจสิ่งต่างๆ มากมาย จึงทำให้เขาวอกแวกมาก ไม่สามารถอดทนทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานๆ ความยับยั้งชั่งใจตนเองมีน้อยมากเรียกว่าพอนึกอยากจะทำอะไรต้องทำทันที หากมีใครมาห้ามจะโกรธรุนแรง  อาการในระยะนี้หากเป็นมากๆ จะพูดไม่หยุด เสียงดัง เอาแต่ใจตัวเอง โกรธรุนแรงถึงขั้นอาละวาดถ้ามีคนขัดขวาง  

  อาการ ระยะซึมเศร้าจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป มักเป็นหลังมีเรื่องกระทบกระเทือนใจ เช่น สอบตก เปลี่ยนงาน มีปัญหาครอบครัว แต่จะต่างจากปกติคือเขาจะเศร้าไม่เลิก งานการทำไม่ได้ ขาดงานบ่อยๆ มักเป็นนานเป็นเดือนๆ  
        
  อาการมักเกิดขึ้นเร็ว และเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จนภายใน 2-3 สัปดาห์ อาการจะเต็มที่อารมณ์รุนแรง ก้าวร้าวจนญาติจะรับไม่ไหวต้องพามาโรงพยาบาล อาการในครั้งแรกๆ จะเกิดหลังมีเรื่องกดดัน แต่หากเป็นหลายๆ ครั้งก็มักเป็นขึ้นมาเองโดยที่ไม่มีปัญหาอะไรมากระตุ้นเลย  
       
ข้อสังเกตประการหนึ่งคือคนที่อยู่ในระยะเมเนียจะไม่คิดว่าตัวเองผิดปกติ มองว่าช่วงนี้ตัวเองอารมณ์ดีหรือใครๆ ก็ขยันกันได้  ในขณะที่หากเป็นระยะซึมเศร้าคนที่เป็นจะพอบอกได้ว่าตนเองเปลี่ยนไปจากเดิม
        
  ในระยะซึมเศร้าหากคนใกล้ชิดสนใจมักสังเกตไม่ยากเพราะเขาจะซึมลงดูอมทุกข์  แต่ อาการแบบเมเนียจะบอกยากโดยเฉพาะในระยะแรกๆ ที่อาการยังไม่มาก เพราะดูเหมือนเขาจะเป็นแค่คนขยันอารมณ์ดีเท่านั้นเอง แต่ถ้าสังเกตจริงๆ ก็จะเห็นว่าลักษณะแบบนี้ไม่ใช่ตัวตนของเขา เขาจะดู เวอร์ กว่าปกติไปมาก

   ที่บ้านสามี แม่สามี บอกให้เลิกกัน เพราะอย่าให้เป็นภาระ ให้เราเลี้ยงลูกเอง เอาไว้ที่โรงบาลอย่างงั้น โรคนี้ ใครอยู่ด้วยไม่ได้หรอก คงเป็นสาเหตุ ที่แม่สามี เลิกกะ พ่อสามี นั้นเอง แต่กุ๊ก กลับยิ่งสงสารสามี กุ๊กเอาสามีไปรักษา ที่โรงพยาบาลกัลยาฯ แถวพุทธมณฑลสายสองค่ะ สามี เป็นเรื้อรังมานานมาก นับจริง ๆ เขาเป็น หาย ๆ กินยาไม่สม่ำเสมอ มานานมาก โอกาสหายยาก เพราะคุยกับแพทย์ฯ คือ เอาประวัติการรักษามานั่ง คุยกันเลย ครั้งที่กุ๊กพาไปเป็นครั้งที่สาม ก่อนหน้า บ้านสามีพาไป สองครั้งแล้ว และก็ จบลงตรงที่ ช๊อคไฟฟ้า ซี่งมันไม่ดีเลย การรักษาขั้นตอนนี้ มันเหมือนเรา เอาเครื่องคอมฯ ไปฟอร์แมต แต่กุ๊ก เลือกยอมและรับผลที่จะตามมา

  สามีเหมือนเด็กเล็ก ๆ ค่ะ เขียนหนังสือ เองไม่ได้ ไม่กล้าเจอใคร ต้องประกบกันตลอด เป็นบัดดี้กันเลย เหมือนเรามีลูกเลยค่ะ ที่บ้านสามีไม่มีใครช่วยเหลืออะไร เพราะทุกครั้งที่รักษามา ก็ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นและค่ะ จนกว่า ความจำเขาจะกลับมาเอง ซี่ง นานมาก กุ๊กลงทุนชีวิตใหม่อีกรอบ ด้วยการไปเรียน นักจิตวิทยา เพื่อเอามาดำรงการใช้ชีวิตกับ คนเป็นโรคทางนี้โดยตรง ปัจจุบัน สามี ยังทานยาอยู่ ทานต่อเนิ่องพบแพทย์ และเป็นสามีที่ดี รักลูก รักครอบครัว สาเหตุ ที่เขาเป็นหรือมีอาการเนื่องจาก มีช่วงนั้น เราย้ายบ้านไปอยู่ใกล้บ้านแม่สามีค่ะ เรื่องในอดีต คือ เรื่องพ่อและแม่ กับไปตอกย้ำความคิดเขาว่า แม่ไม่รักเขา  คนที่เป็นโรคนี้ สิ่งแวดล้อมสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการได้ กุ๊กย้ายบ้าน เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่หมด และ ทุกวันเราก็ได้ พยานรักคนที่สอง เป็นผู้หญิง มาอีกคน

   ปัญหาของคนที่เป็นโรคจิตเภทไม่มีคำว่า "สายเกินไป"  ด้วยสายใยรัก เราสามารถทำให้เขาอยู่ในสังคม และมีงาน มีชีวิตที่ดีได้ค่ะ หากคนในครอบครัว เข้าใจ และ อดทนให้ความรัก ความใส่ใจ ดูแลกันไป ความรักเป็นยาที่วิเศษ สำหรับผู้ป่วยทางจิตค่ะ หากให้แต่ยา แต่ขาดการดูแลการให้กำลังใจ เขาก็จะเป็นแบบเดิมอีก อดทนรอบเดียว ดีกว่าอดทนหลายรอบ สู้ ๆ นะ ค่ะ หากใครในครอบครัวเป็นแบบกุ๊ก "ความสุขที่ดีที่อยู่ คำว่า ครอบครัว" จริง ๆ ค่ะ อย่าทอดทิ้งเขาในวันที่เขามองหาเราแมเขาจะไม่รู้ตัวว่าเขาทำร้ายเรา (แอบคิดไปถึงประเด็น คุณเอ๊กซ์) โหดร้ายงิ๊

    "สถาบันที่ดี รักแรกของลูก คือ พ่อและแม่ค่ะ แม่และพ่อ เอาอะไรใส่ให้ลูก ลูกจะได้อย่างงั้น" พ่อแม่เป็นครูคนแรกนะค่ะ ขอให้รักนี้ตจงเจริญฯ

คุณกุ๊ก แม่น้องเบสและน้องบัว พาพันขอบคุณพาพันชอบ



แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาครอบครัว ครอบครัว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่