คำว่า "ลูกทุ่ง" กับ "ภาพยนตร์" เป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะภาพยนตร์เป็นสื่อที่มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางด้วยเช่นกัน จึงมีคนหลากหลายสถานะเข้ามาแวะกันอย่างมากมาย รวมถึงศิลปินนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังหลายต่อหลายท่านก็มีโอกาสได้เล่นหนังประกบกับนักแสดงมืออาชีพ พระเอกหล่อๆ นางเอกสวยๆ ดาวตลกเฮฮา หรือว่าจะเป็นคนลูกทุ่งด้วยกันเอง นับเป็นอีกสีสันที่โลดแล่นเข้าไว้ด้วยกัน แต่ในปัจจุบัน ภาพของลูกทุ่งกับหนังไทยดูชักเลือนลางหายไปทุกที อาจเป็นเพราะว่าจำนวนภาพยนตร์ไทยในรอบปีมีแนวโน้มว่าน้อยลง อาจจะสอดคล้องกับแนวเพลงลูกทุ่งที่เปลี่ยนโฉมไปไม่เหมือนเก่า เนื้อหาเป็นเรื่องแบบว่าไอทีแทบจะทุกเพลง สวนทางกับนักร้องลูกทุ่งและจำนวนเพลงที่เพิ่มขึ้น ก็นานๆ ทีจะผุดขึ้นมาให้เห็นกันบ้าง ก็ถือเป็นการสับหลีกจากความจำเจในวงการภาพยนตร์ไทย
ตราบที่วงการภาพยนตร์ไทยยังเปิดกว้างอยู่ จึงปฏิเสธหรือมองข้ามไม่ได้เลย เมื่อเอ่ยถึงวงการเพลงลูกทุ่ง หรือนักร้องลูกทุ่งที่เข้ามาเล่นหนังเอาดังกับเค้าบ้าง เท่าที่สังเกต เราก็ได้เห็นบรรดานักร้องลูกทุ่งเหล่านั้นได้สวมคาแรกเตอร์ ไม่ว่าจะเลือกเป็นนักร้องลูกทุ่งตามถนัด หรือเลือกที่จะเป็นอย่างอื่นบ้าง ก็ถือเป็นความโชคดีของมิตรรักแฟนเพลงและแฟนหนังตามๆ กัน
ในที่นี้เราจะจำเพาะในช่วงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 หรือปี ค.ศ. 2000 จนถึงปัจจุบัน หรือช่วงผันผวนของเพลงลูกทุ่ง ว่าใครบ้างที่ทำให้ลูกทุ่งสนั่นบนจอเงิน
ถ้าจะกล่าวถึงปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของเพลงลูกทุ่งบนจอภาพยนตร์ ก็ต้องย้ิอนไปที่เมื่อปี 2545 กับภาพยนตร์เรื่อง "มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม" ที่ชุมนุมคนลูกทุ่งกว่าร้อยชีวิตมาร่วมแสดง ทั้งตัวแสดงนำ และตัวแสดงประกอบ พร้อมทั้งเพลงประกอบที่คุ้นหูกว่า 30 เพลง โดยมีวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์คลื่นวิทยุ "ลูกทุ่งเอฟเอ็ม" ในขณะนั้น แต่เมื่อคลื่นวิทยุลูกทุ่งเอฟเอ็มหายไปจากหน้าปัด และเพลงลูกทุ่ง(พันธุ์แท้ๆ) หาฟังกันน้อยลง เจ้าของต้นตำรับอย่าง "วิทยา ศุภพรโอภาส" ก็ปลุกขึ้นมาสร้างหนังลักษณะนี้อีกครั้งในเรื่อง "รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน" ในปีนี้ แม้ว่าจะไม่มีรายการลูกทุ่งเอฟเอ็มของเขาเองอยู่ที่คลื่นใดสักคลื่นหนึ่ง แต่ทุกค่ายทุกช่องทุกคลื่นต่างก็กระจายข่าวสารนั้นให้ผู้คนได้เปิดรับความสุขเมื่อเข้าโรงหนัง
และถ้าจะกล่าวเป็นรายบุคคลก็ว่าดังนี้
เริ่มต้นด้วยราชาลูกทุ่ง
ยอดรัก สลักใจ กับบทบาทนักร้องยอดนิยมในเรื่อง "อีส้มสมหวัง" จากการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม เมื่อปี 2550 และเป็นผลงานแสดงเรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขาผู้นี้
ส่วนพี่เบิร์ดแห่งปักษ์ใต้
เอกชัย ศรีวิชัย ถือว่าเป็นนักร้ิองที่มีผลงานแสดงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่นับเรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม และ รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน ที่ตัวเองร่วมแสดง เขาเคยฝากผลงานแสดงหนังไว้หลายเรื่อง โดยเป็นพระเอกลูกทุ่งในเรื่อง "รักเธอเท่าฟ้า" ก่อนจะพลิกบทบาทเป็นอย่างอื่นในเรื่อง "เหยิน เป๋ เหล่" ทั้งยังพลิกโฉมเป็นแต๋วในเรื่อง "หอแต๋วแตก" ตั้งแต่ภาคแรกถึงภาคล่าสุด
ทางด้านนักร้องจอมชี้นิ้ว
ยิ่งยง ยอดบัวงาม เคยแสดงเรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" ของผู้กำกับ หม่ำ จ๊กมก ด้วยล่ะ
นักร้องลำเต้ยรุ่นเก๋าอย่าง
พรศักดิ์ ส่องแสง ก็เคยแสดงเป็นตัวเองโดยไร้บท เพราะอยู่ในหนังสารคดีเรื่อง "เสือร้องไห้" ของ สันติ แต้พานิช
ส่วนสาวเสียงพิณ
จินตหรา พูนลาภ เคยพลิกบทบาทตัวเ้องมาเล่นบู๊ในหนังแนวแอ็คชั่นเรื่อง "ไฉไล" ที่แสดงร่วมกับ ตั๊ก บงกช, กระแต ศุภักษร
นักร้องขวัญใจแรงงานตลอดกาลอย่าง
ไมค์ ภิรมย์พร ก็เคยเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ในเรื่อง "ครอบครัวตัวดำ" จากการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม
มาถึงคนลูกทุ่งรุ่นหลังอย่างนักร้องหนุ่ม
ไผ่ พงศธร ก่อนจะมาถึงเรื่องรวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน ก็เคยปรากฏตัวสั้นๆ ในเรื่อง "อีส้มสมหวัง ชะชะช่า" ร่วมกับ
ตั๊กแตน ชลดา มาแล้ว
ด้าน
เอิร์น สุรัตน์ติกานต์ หรือ เอิร์น เดอะสตาร์ ก็เคยแสดงหนังแนวอนุรักษ์เรื่อง "เหลือแหล่" เช่นเดียวกับทายาทลิเก ซาย-
หทัยชนก สวนศรี
ส่วนลิเกหนุ่ม
อ๊อฟ ศุภณัฐ หรือ อ๊อฟ เอเอฟ2 ก็เคยเป็นพระเอกมาแล้วในเรื่อง "ลิขิตรัก ขัดใจแม่" และ "ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่" ในปี 2550
นักร้องลูกทัพฟ้า
บ่าววี อาร์สยาม ก็เคยร่วมสวมวิญญาณนักสู้ในเรื่อง "บางระจัน 2" และล่าสุดกลับมาเล่นหนังอีกครั้งในเรื่อง "ละติจูดที่ 6" ซึ่งกำลังซุ่มๆ อยู่ยังไม่เปิดเผยการเข้าฉาย
ทางด้านวงดนตรี
โปงลางสะออน ที่นำทีมโดย อี๊ด-ลาล่า-ลูลู่(ในอดีต) ก็ได้มีโอกาสแสดงหนังกับเค้าด้วย ผลงานเด่นๆ ก็อย่างเช่น "สามย่าน", "รักจัง", "เสือภูเขา", "น้ำพริกลงเรือ" และ "โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า" ซึ่งเล่นได้หลายบทบาทตามแต่ละเรื่อง
ศิลปินแห่งชาติ
ขวัญจิต ศรีประจันต์ เคยเป็นคุณยายในเรื่อง "บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อนพ่อสอนไว้", "คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์" และยังได้รับเชิญพิเศษในเรื่อง "เหลือแหล่"
ศิลปินแห่งชาติอีกท่าน
ชาย เมืองสิงห์ เคยแสดงเรื่อง "หนุมานคลุกฝุ่น" ในบทครูชาย และ "ผีเสื้อสมุทร" ในบทเฒ่าทะเล
ส่วนนักร้องรุ่นเจ๊สุดแซ่บ
อาภาพร นครสวรรค์ ก็เคยตีบทกระจุยไว้ในเรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" จนเธอได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ในปี 2547 ต่อมาก็มีผลงานแสดงหนังตามมาอีกหลายเรื่องเช่น "วงษ์คำเหลา", "ซูเปอร์แหบแสบสะบัด", "หอแต๋วแตกแหวกชิมิ" ฯลฯ
เรื่องรางวัลเป็นสมบัติติดตัวที่ทรงค่ายิ่งในชีวิต นักร้องเจ้ารางวัลอีกคนอย่าง
สน เดอะสตาร์ หรือ นายสน ก็เคยผ่านผลงานแสดงหนังเรื่อง "มหา'ลัยเหมืองแร่" ในบทคนเหมือง จนได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ปี 2548 ตามด้วยเรื่อง "ไชยา" ที่เขาได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ปี 2550 และ รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง สาขาผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม อีกเช่นกัน
คนนี้ก็ใช่ย่อย
นพดล ดวงพร หัวหน้าวงดนตรีคณะเพชรพิณทองที่ลือลั่นในแดนอีสาน ก็เคยแสดงเรื่อง "15 ค่ำ เดือน 11" ของผู้กำกับ เก้ง-จิระ มะลิกุล ด้วยบทหลวงพ่อโล่ ที่ตัวเขาแสดงได้อย่างงดงามไร้ที่ติ จนได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม และ รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง สาขาผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม ในปี 2545
นักร้องสาวสุดฮอตของวันนี้
เปาวลี พรพิมล เริ่มแนะนำตัวเองบนแผ่นฟิล์มเป็นครั้งแรกในเรื่อง "พุ่มพวง" เมื่อปี 2554 ด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอ ประกอบกับการสวมวิญญาณราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้อย่างแนบเนียนและกลมกลืน ทำให้เธอได้รับรางวัล คม ชัด ลึก อวอร์ด สาขาผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เป็นเรื่องแรกในชีวิตที่ได้รับรางวัลแรกในชีวิตการแสดง ส่งต่อให้เธอมีงานแสดงทั้งภาพยนตร์และละครโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับทายาทราชาลูกทุ่ง แอ๊ด-
สุรชัย สมบัติเจริญ ก็เคยรับบทเด่นในเรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ภาค2" ในมาดผู้บริหารค่ายเพลงบังหน้า นอกจากนี้ยังมี
รุ่ง สุริยา ในมาดหนุ่มสไตล์เกาหลีในเรื่อง "บังเอิญ รักไม่สิ้นสุด" หรือแม้แต่ฝรั่งใจลูกทุ่ง
โจนัส แอนเดอร์สัน ก็เคยแสดงเป็นบาทหลวงในเรื่อง "แม่" เมื่อไม่นานนี้เอง
ในปีนี้ นักร้องสาว
หลิว อาจารียา ก็ได้โชว์ฝีมือการแสดงเป็นครั้งแรกในเรื่อง "ยัง'บาว" ในบทบาทนักร้องลูกทุ่งร่วมทัวร์กับวงคาราบาว
แต่ที่ลือลั่นสนั่นไกลไร้พรมแดนก็เห็นจะเป็น ทายาทลิเกสาว
แอน มิตรชัย ที่ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ในบอลลีวูด แพร่สะพัดให้คนไทยได้คิดถึงและเฝ้าติดตาม เพราะยังไม่มีหนังไทยให้เธอเล่นนั่นเอง
ก็เชื่อได้ว่าคนลูกทุ่งดังๆ ที่ตกหล่นไปอย่างเช่น ฝน ธนสุนธร / ใบเตย อาร์สยาม / ต่าย อรทัย / บานเย็น รากแก่น หรือ แม้แต่ ก๊อท จักรพันธ์ ก็มีแววที่จะโชว์ลวดลายแอ็คติ้งผ่านจอเงินได้ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน ต้องคอยติดตามว่าจะมีคนลูกทุ่งท่านใดอีกที่ตบเท้าก้าวเข้ามาโลดแล่นในศาสตร์และศิลป์แห่งภาพยนตร์บ้าง
เอาเท่านี้แล้วกัน สวัสดี
ย้อนดู..."คนลูกทุ่ง" ในหนังไทย
คำว่า "ลูกทุ่ง" กับ "ภาพยนตร์" เป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะภาพยนตร์เป็นสื่อที่มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางด้วยเช่นกัน จึงมีคนหลากหลายสถานะเข้ามาแวะกันอย่างมากมาย รวมถึงศิลปินนักร้องเพลงลูกทุ่งชื่อดังหลายต่อหลายท่านก็มีโอกาสได้เล่นหนังประกบกับนักแสดงมืออาชีพ พระเอกหล่อๆ นางเอกสวยๆ ดาวตลกเฮฮา หรือว่าจะเป็นคนลูกทุ่งด้วยกันเอง นับเป็นอีกสีสันที่โลดแล่นเข้าไว้ด้วยกัน แต่ในปัจจุบัน ภาพของลูกทุ่งกับหนังไทยดูชักเลือนลางหายไปทุกที อาจเป็นเพราะว่าจำนวนภาพยนตร์ไทยในรอบปีมีแนวโน้มว่าน้อยลง อาจจะสอดคล้องกับแนวเพลงลูกทุ่งที่เปลี่ยนโฉมไปไม่เหมือนเก่า เนื้อหาเป็นเรื่องแบบว่าไอทีแทบจะทุกเพลง สวนทางกับนักร้องลูกทุ่งและจำนวนเพลงที่เพิ่มขึ้น ก็นานๆ ทีจะผุดขึ้นมาให้เห็นกันบ้าง ก็ถือเป็นการสับหลีกจากความจำเจในวงการภาพยนตร์ไทย
ตราบที่วงการภาพยนตร์ไทยยังเปิดกว้างอยู่ จึงปฏิเสธหรือมองข้ามไม่ได้เลย เมื่อเอ่ยถึงวงการเพลงลูกทุ่ง หรือนักร้องลูกทุ่งที่เข้ามาเล่นหนังเอาดังกับเค้าบ้าง เท่าที่สังเกต เราก็ได้เห็นบรรดานักร้องลูกทุ่งเหล่านั้นได้สวมคาแรกเตอร์ ไม่ว่าจะเลือกเป็นนักร้องลูกทุ่งตามถนัด หรือเลือกที่จะเป็นอย่างอื่นบ้าง ก็ถือเป็นความโชคดีของมิตรรักแฟนเพลงและแฟนหนังตามๆ กัน
ในที่นี้เราจะจำเพาะในช่วงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 หรือปี ค.ศ. 2000 จนถึงปัจจุบัน หรือช่วงผันผวนของเพลงลูกทุ่ง ว่าใครบ้างที่ทำให้ลูกทุ่งสนั่นบนจอเงิน
ถ้าจะกล่าวถึงปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของเพลงลูกทุ่งบนจอภาพยนตร์ ก็ต้องย้ิอนไปที่เมื่อปี 2545 กับภาพยนตร์เรื่อง "มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม" ที่ชุมนุมคนลูกทุ่งกว่าร้อยชีวิตมาร่วมแสดง ทั้งตัวแสดงนำ และตัวแสดงประกอบ พร้อมทั้งเพลงประกอบที่คุ้นหูกว่า 30 เพลง โดยมีวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์คลื่นวิทยุ "ลูกทุ่งเอฟเอ็ม" ในขณะนั้น แต่เมื่อคลื่นวิทยุลูกทุ่งเอฟเอ็มหายไปจากหน้าปัด และเพลงลูกทุ่ง(พันธุ์แท้ๆ) หาฟังกันน้อยลง เจ้าของต้นตำรับอย่าง "วิทยา ศุภพรโอภาส" ก็ปลุกขึ้นมาสร้างหนังลักษณะนี้อีกครั้งในเรื่อง "รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน" ในปีนี้ แม้ว่าจะไม่มีรายการลูกทุ่งเอฟเอ็มของเขาเองอยู่ที่คลื่นใดสักคลื่นหนึ่ง แต่ทุกค่ายทุกช่องทุกคลื่นต่างก็กระจายข่าวสารนั้นให้ผู้คนได้เปิดรับความสุขเมื่อเข้าโรงหนัง
และถ้าจะกล่าวเป็นรายบุคคลก็ว่าดังนี้
เริ่มต้นด้วยราชาลูกทุ่ง ยอดรัก สลักใจ กับบทบาทนักร้องยอดนิยมในเรื่อง "อีส้มสมหวัง" จากการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม เมื่อปี 2550 และเป็นผลงานแสดงเรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขาผู้นี้
ส่วนพี่เบิร์ดแห่งปักษ์ใต้ เอกชัย ศรีวิชัย ถือว่าเป็นนักร้ิองที่มีผลงานแสดงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่นับเรื่อง มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม และ รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน ที่ตัวเองร่วมแสดง เขาเคยฝากผลงานแสดงหนังไว้หลายเรื่อง โดยเป็นพระเอกลูกทุ่งในเรื่อง "รักเธอเท่าฟ้า" ก่อนจะพลิกบทบาทเป็นอย่างอื่นในเรื่อง "เหยิน เป๋ เหล่" ทั้งยังพลิกโฉมเป็นแต๋วในเรื่อง "หอแต๋วแตก" ตั้งแต่ภาคแรกถึงภาคล่าสุด
ทางด้านนักร้องจอมชี้นิ้ว ยิ่งยง ยอดบัวงาม เคยแสดงเรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" ของผู้กำกับ หม่ำ จ๊กมก ด้วยล่ะ
นักร้องลำเต้ยรุ่นเก๋าอย่าง พรศักดิ์ ส่องแสง ก็เคยแสดงเป็นตัวเองโดยไร้บท เพราะอยู่ในหนังสารคดีเรื่อง "เสือร้องไห้" ของ สันติ แต้พานิช
ส่วนสาวเสียงพิณ จินตหรา พูนลาภ เคยพลิกบทบาทตัวเ้องมาเล่นบู๊ในหนังแนวแอ็คชั่นเรื่อง "ไฉไล" ที่แสดงร่วมกับ ตั๊ก บงกช, กระแต ศุภักษร
นักร้องขวัญใจแรงงานตลอดกาลอย่าง ไมค์ ภิรมย์พร ก็เคยเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ในเรื่อง "ครอบครัวตัวดำ" จากการกำกับของ โน้ต เชิญยิ้ม
มาถึงคนลูกทุ่งรุ่นหลังอย่างนักร้องหนุ่ม ไผ่ พงศธร ก่อนจะมาถึงเรื่องรวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน ก็เคยปรากฏตัวสั้นๆ ในเรื่อง "อีส้มสมหวัง ชะชะช่า" ร่วมกับ ตั๊กแตน ชลดา มาแล้ว
ด้าน เอิร์น สุรัตน์ติกานต์ หรือ เอิร์น เดอะสตาร์ ก็เคยแสดงหนังแนวอนุรักษ์เรื่อง "เหลือแหล่" เช่นเดียวกับทายาทลิเก ซาย-หทัยชนก สวนศรี
ส่วนลิเกหนุ่ม อ๊อฟ ศุภณัฐ หรือ อ๊อฟ เอเอฟ2 ก็เคยเป็นพระเอกมาแล้วในเรื่อง "ลิขิตรัก ขัดใจแม่" และ "ก่อนบ่ายเดอะมูฟวี่" ในปี 2550
นักร้องลูกทัพฟ้า บ่าววี อาร์สยาม ก็เคยร่วมสวมวิญญาณนักสู้ในเรื่อง "บางระจัน 2" และล่าสุดกลับมาเล่นหนังอีกครั้งในเรื่อง "ละติจูดที่ 6" ซึ่งกำลังซุ่มๆ อยู่ยังไม่เปิดเผยการเข้าฉาย
ทางด้านวงดนตรีโปงลางสะออน ที่นำทีมโดย อี๊ด-ลาล่า-ลูลู่(ในอดีต) ก็ได้มีโอกาสแสดงหนังกับเค้าด้วย ผลงานเด่นๆ ก็อย่างเช่น "สามย่าน", "รักจัง", "เสือภูเขา", "น้ำพริกลงเรือ" และ "โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า" ซึ่งเล่นได้หลายบทบาทตามแต่ละเรื่อง
ศิลปินแห่งชาติ ขวัญจิต ศรีประจันต์ เคยเป็นคุณยายในเรื่อง "บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อนพ่อสอนไว้", "คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์" และยังได้รับเชิญพิเศษในเรื่อง "เหลือแหล่"
ศิลปินแห่งชาติอีกท่าน ชาย เมืองสิงห์ เคยแสดงเรื่อง "หนุมานคลุกฝุ่น" ในบทครูชาย และ "ผีเสื้อสมุทร" ในบทเฒ่าทะเล
ส่วนนักร้องรุ่นเจ๊สุดแซ่บ อาภาพร นครสวรรค์ ก็เคยตีบทกระจุยไว้ในเรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" จนเธอได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ในปี 2547 ต่อมาก็มีผลงานแสดงหนังตามมาอีกหลายเรื่องเช่น "วงษ์คำเหลา", "ซูเปอร์แหบแสบสะบัด", "หอแต๋วแตกแหวกชิมิ" ฯลฯ
เรื่องรางวัลเป็นสมบัติติดตัวที่ทรงค่ายิ่งในชีวิต นักร้องเจ้ารางวัลอีกคนอย่าง สน เดอะสตาร์ หรือ นายสน ก็เคยผ่านผลงานแสดงหนังเรื่อง "มหา'ลัยเหมืองแร่" ในบทคนเหมือง จนได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ปี 2548 ตามด้วยเรื่อง "ไชยา" ที่เขาได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ปี 2550 และ รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง สาขาผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม อีกเช่นกัน
คนนี้ก็ใช่ย่อย นพดล ดวงพร หัวหน้าวงดนตรีคณะเพชรพิณทองที่ลือลั่นในแดนอีสาน ก็เคยแสดงเรื่อง "15 ค่ำ เดือน 11" ของผู้กำกับ เก้ง-จิระ มะลิกุล ด้วยบทหลวงพ่อโล่ ที่ตัวเขาแสดงได้อย่างงดงามไร้ที่ติ จนได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ สาขาผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม และ รางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง สาขาผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม ในปี 2545
นักร้องสาวสุดฮอตของวันนี้ เปาวลี พรพิมล เริ่มแนะนำตัวเองบนแผ่นฟิล์มเป็นครั้งแรกในเรื่อง "พุ่มพวง" เมื่อปี 2554 ด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอ ประกอบกับการสวมวิญญาณราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้อย่างแนบเนียนและกลมกลืน ทำให้เธอได้รับรางวัล คม ชัด ลึก อวอร์ด สาขาผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เป็นเรื่องแรกในชีวิตที่ได้รับรางวัลแรกในชีวิตการแสดง ส่งต่อให้เธอมีงานแสดงทั้งภาพยนตร์และละครโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับทายาทราชาลูกทุ่ง แอ๊ด-สุรชัย สมบัติเจริญ ก็เคยรับบทเด่นในเรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ภาค2" ในมาดผู้บริหารค่ายเพลงบังหน้า นอกจากนี้ยังมี รุ่ง สุริยา ในมาดหนุ่มสไตล์เกาหลีในเรื่อง "บังเอิญ รักไม่สิ้นสุด" หรือแม้แต่ฝรั่งใจลูกทุ่ง โจนัส แอนเดอร์สัน ก็เคยแสดงเป็นบาทหลวงในเรื่อง "แม่" เมื่อไม่นานนี้เอง
ในปีนี้ นักร้องสาวหลิว อาจารียา ก็ได้โชว์ฝีมือการแสดงเป็นครั้งแรกในเรื่อง "ยัง'บาว" ในบทบาทนักร้องลูกทุ่งร่วมทัวร์กับวงคาราบาว
แต่ที่ลือลั่นสนั่นไกลไร้พรมแดนก็เห็นจะเป็น ทายาทลิเกสาว แอน มิตรชัย ที่ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ในบอลลีวูด แพร่สะพัดให้คนไทยได้คิดถึงและเฝ้าติดตาม เพราะยังไม่มีหนังไทยให้เธอเล่นนั่นเอง
ก็เชื่อได้ว่าคนลูกทุ่งดังๆ ที่ตกหล่นไปอย่างเช่น ฝน ธนสุนธร / ใบเตย อาร์สยาม / ต่าย อรทัย / บานเย็น รากแก่น หรือ แม้แต่ ก๊อท จักรพันธ์ ก็มีแววที่จะโชว์ลวดลายแอ็คติ้งผ่านจอเงินได้ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน ต้องคอยติดตามว่าจะมีคนลูกทุ่งท่านใดอีกที่ตบเท้าก้าวเข้ามาโลดแล่นในศาสตร์และศิลป์แห่งภาพยนตร์บ้าง
เอาเท่านี้แล้วกัน สวัสดี