ดิฉันเป็นลูกค้าตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นorange จนปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นtrue move นับร่วม10ปีที่ใช้บริการ และส่วนใหญ่คนในครอบครัวก้อใช้บริการของทรู หลายๆผลิตภัณฑ์ ทั้งที่ได้รับบริการแย่ๆมาโดยตลอด นับครั้งได้ที่จะประทับใจ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้มันเป็นจุดเปลี่ยนจริงๆที่ต้องออกมาเล่าเรื่องราวให้เพื่อนๆร่วมเครือข่ายได้ฟังถึงจุดบอดจุดใหญ่ของบริษัทคือพนักงานช็อบมารยาทแย่ๆ และcall center ห่วยๆ คือดิฉันได้จดทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์มือถือเป็นชื่อตัวเองแต่พี่สาวที่อยู่ต่างจังหวัดเป็นผู้ใช้ ใช้มานานมากหลายปี ในข้อมูลการจดทะเบียน ชื่อพี่สาวก้อคือชื่อผู้ใช้งาน บิลก้อส่งที่บ้านเค้า แต่เมื่อทางบริษัทมีการแจ้งให้ลูกค้าที่ใช้ทรูมูฟ จำเป็นจะต้องเปลี่ยนเครือข่ายเป็นทรูมูฟเฮช call center ก้อโทรแจ้งพี่สาวดิฉันให้ไปติดต่อที่สาขาเพื่อเปลี่ยนเครือข่าย แต่เมื่อไปติดต่อที่สาขนาซ่ามอลล์ และสาขาบิ๊กซีอ่างทอง แต่พนักงานแจ้งว่าทำไม่ได้ต้องให้เจ้าของหมายเลขมาดำเนินการเอง พร้อมกับกิริยาที่ไมเต็มใจในการให้ข้อมูลหน้าบึ้งตึงถามคำตอบคำ ดิฉันจึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพื่อสอบถามข้อมูลจากcall centerเอง แต่ข้อมูลที่ได้คือสามารถดำเนินการเปลี่ยนเครือข่ายได้ที่เซเว่นเพียงแค่แจ้งหมายเลข โดยไม่ต้องแสดงบัตรประชาชนเพียงเท่านี้ก้อสามารถดำเนินการเสร็จสิ้นการเปลี่ยนเครือข่ายพร้อมทั้งให้ซิมใหม่เพื่อทำการเปลี่ยนหลังจากระบบเปลี่ยนเครือข่ายภายใน7วัน(พนักงานแจ้ง) นี่เหรอคือมาตรฐานของการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกันเลย ทำไมน้องที่สาขาจึงไม่ทราบว่าสามารถทำได้ที่เซ่เว่น พนักงานขาดการอบรมเรื่องข้อมูลมาก แต่แล้วเวาลาผ่านไปเกือบเดือนซิมก้อยังไม่สามารถใช้งานได้จึงโทรเข้าไปสอบถามที่call center เพื่อสอบถามว่าเกิดปัญหาอะไรซิมถึงใช้งานไม่ได้ทั้งที่ดิฉันก้อได้แจ้งหมายเลขซิมเพื่อให้พนักงานเช็คก่อนว่ามีการswap sim ในระบบแล้วหรือยังสรุปคือยัง นี่คือความผิดที่ลูกค้าต้องรับผิดชอบในการกระทำของพนักงานที่ไม่ดำเนินการให้ จึงจำเป็นที่จะต้องไปติดต่อเองที่สาขาตามที่พนักงานแจ้งเพื่อให้ทางสาขาดำเนินการให้แต่ดิฉันแจ้งไปแล้วว่าไม่สะดวกเลยที่จะต้องไปติดต่อสาขาเพราะไม่ค่อยมีเวลาว่างและคิดว่าcall center น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ ได้ยินเช่นนั้นถึงกับมีอารมณ์ ว่าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องยุ่งยากด้วย ดิฉันก้อยังยืนยันที่จะให้คุณวราภรณ์(call center ) ดำเนินการให้แต่เค้ากลับแจ้งอย่างเดียวว่าไม่ได้ค่ะไม่ได้ค่ะและยังบอกอีกว่าไม่งั้นให้กลับไปติดต่อที่เซเว่นอีกที ว่าทำไมใช้งานไม่ได้ทั้งที่เซเว่นที่รับซิมอยู่ที่อ่างทองตัวดิฉันอยู่กรุงเทพและเซ่เว่นสาขานั้นก้อปิดปรับปรุงอีกตามที่สอบถามกับหลานสาว แค่นี้ก้อทดสอบได้ว่าพวกคุณกำลัง

ไสไร่ส่งลูกค้าแบบไม่ใยดีเลยไม่รับผิดชอบอะไรกันเลย หลังจากนั้นคุณวราภรณ์ก้อได้ขอเวลาเพื่อปรึกษากับหัวหน้างาน ชื่อนภัสสรจินดานุเพื่อแก้ไขปัญหาสรุปหัวหน้าก้อเป็นได้แค่หัวตอช่วยอะไรไม่ได้เลยพร้อมทั้งประโยคที่ว่าเมื่อก่อนทางcall center ก้อเคยทำเคสแบบนี้ได้แต่เด๋วไม่ทำให้แล้วเนื่องจากมีการแอบอ้างจากบุคคลที่ไม่ประสงค์ดีทั้งที่ดิฉันได้เอ่ยปากขอร้องว่าช่วยทำให้หน่อยได้ไหมเดือดร้อนจริงๆพี่สาวพี่เค้าซื้อโทรศัพท์มาใหม่และจำเป็นต้องใส่ซิมอันใหม่เพราะเป็นไมโครซิมเครื่องต้องใส่ซิมเล็กเท่านั้น แต่ก้อไม่ได้ผลและบอกอีกว่าเป็นที่ระบบต้องส่งเรื่องให้ไอทีแก้ไขอีกโยนกันโยนกันมาลูกค้าสับสน แต่สิ่งหนึ่งที่สงสัยคือทำไมทุกครั้งที่ติดต่อเข้าไปพนักวานมักจะสอบข้อมูลส่วนตัวก่อนให้การบริการนั่นคือการตรวจสอบเบื้องต้นถึงตัวตนที่แท้จริงของลูกค้าแต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยแล้วคุณจะทำกันไปทำไมในเมื่อคุณก้อบอกว่ามีบุคคลแอบอ้างพนักงานควรจะมีจิตวิทยาในการรู้ถึงเจตนาของลูกค้านแต่ละคน ว่าคนไหนควรทำอย่างไรกับเค้าและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคุณนภัสสรไม่แสดงสปิริตของคนที่ตำแหน่งว่าเป็นmanagerเลย ไม่เคลียร์ปัญหาด้วยตัวเองให้น้องพนักงานรับลูกค้าแต่เพียงลำพังดิฉันผ่านงานบริการมาก้อเยอะทุกครั้งที่มีปัญหาหัวหน้าจะต้องรีบออกมาแสดงความรับผิดชอบ หากเป็นแบบนี้คุณนภัสสรคุณควรจะพิจารณาตัวเองแล้วหางานที่เหมาะกับความสามารถและความรับผิดชอบอันน้อยนิดนะคะจะได้เหมาะกับคุณทำงานแบบนี้ไม่คุ้มกับค่าจ้างเลย ออกไปทำงานอื่นเถอะงานบริการไม่เหมาะกับคุณจริงๆยอมรับความผิดพลาดซะเถอะหวังว่าบริษัทนี้ต่อไปคงจะมีแต่พนักงานมารยาทดีๆหลงเหลืออยู่นะคะ บริษัทจะได้เจริญและสูงขึ้น
Call center บริการห่วยๆ ของ true move