กับความที่เป็นคนค่อนข้างจะไม่ค่อยตามกระแส แต่จะติดในเรื่องของใช้ของถูกแต่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากกว่า
เลยเลือก Samsung ตั้งแต่รุ่น smart phone รุ่นบุกเบิกตลาด
Galaxy Y ตามด้วยให้แฟนเปลี่ยนจาก Nokia มาเป็น Note 1 และหลังจากนั้นไม่นานผมก็เก็บ Y เข้ากรุไว้ถอย S3 ออกมาใช้
ก่อนที่จะยกมรดก S3 ให้กับน้องและตั้งใจจะไปถอย Note3 แต่คำนวณราคาดูแล้วเห็น Note2 ราคายั่วใจเหลือ 15k นิด ๆ
ต่างกับ Note3 ที่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นานเกือบ 9k เลยตัดสินใจถอย Samsung Note2 เป็นเครื่องที่ 4 ของแบรนด์นี้มาใช้ท่ามกลาง
เสียงท้วงติงจากเพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คนเพราะกระแส iphone 5s มาแรง (ผมทำงาน IT เกือบทุกคนใช้ iphone) จากร้านเดิม
เรียกได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านก็ว่าได้
หลังจากชำระเงินเสร็จ (เครดิตนะค้าบ) พี่พนักงานก็แกะกล่องเปิด note2 ให้มาตรวจสอบผมก็ตรวจแบบไม่ละเอียดเท่าไหร่
(จริง ๆ การตรวจรับสินค้าอย่างละเอียดสำคัญ) ด้วยความที่ว่าเราก็ซื้อสินค้าจากร้านนี้ตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย และจากนั้น
พนักงานก็ใส่ sim กับ mem จากเครื่อง s3 เข้าไปสิงใน note2 และทางร้านก็แถม case ให้ชิ้นหนึ่งเป็นแบบธรรมดา และจริง ๆ
แล้วปัญหาที่ผมเจอหากใครไม่สังเกตุจริง ๆ จะไม่เห็นเลยว่ามันผิดปกติครับ
เข้าเรื่องเลยละกันครับ เรื่องมีอยู่ว่ากาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้าของเมื่อวานผมเช็ดโทรศัพท์ในที่ทำงาน ปกติก็เช็ดเฉพาะหน้าจอด้วยผ้า
นุ่ม ๆ เช็ดเบา ๆ แบบโอ๋สุด ๆ (ปกติอยู่บ้านก็เช็ดนะครับวันละครั้ง 2 ครั้ง) แต่มาวันนี้สังเหตุเห็นว่าขอบจอบริเวณรอยใกล้ ๆ กับขอบ
ของ case ทำไมมันมีฝุ่นเกาะเยอะจังเลย เลยถอดเคสออกแล้วเช็ดแต่ฝุ่นเจ้ากรรมดันทะลึ่งผลุบเข้าไปในซอกบริเวณจอด้านซ้ายบน
กับแนวขอบกระจกจอด้านซ้าย ซึ่งเห็นว่ามันมีระยะห่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เลยลองใช้มือกดเบา ๆ บริเวณขอบกระจกรอบ ๆ ตัวเครื่อง
ท่านผู้อ่านทั้งหลายครับ ขอบจอบริเวณด้านซ้ายไล่จากทางด้านบนลงมามันเผยอ (เขียนถูกไหมคับ) แบบลักษณะคนกำลังแง้มประตู
แอบมองดูเราทำอะไรสักอย่างนิด ๆ และผมลองย้ายมากดตรงกลางจอด้วยมืออันนุ่มปรากฏว่าที่ขอบจอ มันก็ยกขึ้นยกลงรับกับแรง
กดที่กระแทกลงไปตามจังหวะ (อุ๊ยยยซ) ไม่ใช่ละผมอุทานออกมา อย่างนี้ต้องมี Claim และคิดในใจต่าง ๆ นานา กระผมโดนย้อมแมว
ขายมารึ หรือว่ามันมาจากงานประกอบของทาง samsung
ในวันเดียวกันนั้นก็ได้โทรติดต่อพนักงาน Callcenter สาวน้ำเสียงสวยจาก Samsung Thiland พนักงานก็แนะนำให้นำเครื่อง
ไปติดต่อให้กับทางช่างตรวจเช็คที่สาขาใกล้บ้าน บ้านผมอยู่ลำพูน ต้องติดต่อที่สาขาเชียงใหม่ แต่น้องสาวบอกว่า สามารถติดต่อที่
shop ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย samsung ได้
เย็นวันเดียวกันนั้น หลังจากเลิกงาน ก็บึ่งรถเข้า Big C เพื่อติดต่อ shop ผมก็ชี้แจง บลา บลา ๆ ๆ ๆ และพี่ที่ขายให้ก็ตรวจสอบ
และลงความเห็นว่าน่าจะเป็นที่เครื่อง แต่ต้องส่งให้ช่างที่ศูนย์ซ่อมให้ ผมก็อ้อนวอนเพื่อขอเปลี่ยนสินค้า ทางร้านก็บอกว่า สินค้าเกิน
7 วันเปลี่ยนให้ไม่ได้ (ผมซื้อเครื่องเมื่อวันที่ 2/11/2013) 20 กว่าวันแล้ว ถ้าจะเปลี่ยน พนักงานคนที่ขายเครื่องให้ผมต้องเป็นคนรับ
ผิดชอบ แต่มีอีกวิธีคือให้ติดต่อกับ call center เพื่อสอบถามว่าอาการแบบนี้เปลี่ยนได้หรือไม่ แต่ก้ได้รับคำตอบว่าทาง Samsung
ไม่มีนโยบายในการเปลี่ยนเครื่องให้ใหม่หลัง 7 วันครับ (อ้างอิงข้อความจากทางน้องพนักงาน เมื่อเวลา 17:45 ของวันอังคารที่ 26 Nov
และขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อน้องคนที่ผมได้โทรสอบถามนะคับ)
ตกลงแล้วเครื่องที่ซื้อมา 20 วัน ยืนยันว่าการใช้งานปกติดีทุกอย่างแต่หน้าจอไม่แนบสนิทชิดเชื้อกับตัวบอดี้ตามใบแจ้งซ่อมที่แนบมานี้
ต้องกลับเข้าศูนย์เพื่อซ่อมครับ เครื่องที่ซื้อมาใหม่จะต้องถูกแกะต้องราคีเป็นแน่แท้ ทำไมน้อการผลิตมีปัญหา แต่ดันมาโทษลูกค้าว่าคุณมีเวลาตั้ง 7 วันเพื่อตรวจสอบแต่ดันไม่มา Claim ภายใน 7 วันพูดแล้วเซรงงงจิตรคับ
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อสินค้าภายของ Samsung นะครับ ดูให้ดีก่อนออกจากร้าน อย่าใช้ความ
ไว้เนื้อเชื่อใจ ว่าเคยซื้อร้านนี้ไม่มีปัญหาควรตรวจสอบสินค้าก่อนออกจากร้านให้ดีนะก้าบจะได้ไม่เสียใจภายหลัง เป็นไปได้แนะนำยี่ห้อ
อื่นนะครับ.....
อีกอย่างไม่รู้จะซ่อมนานไปไหน พนักงานแจ้งว่านับจากส่งที่ร้านจะใช้เวลา ประมาณ 3 -4 สัปดาห์ (โอ้แม่จ้าว พระเจ้าจ๊อดดด ผมซื้อมาใช้ได้
20 วันแต่เข้าซ่อม 1 เดือนนนน)
จริง ๆ ที่เล่ามายืดยาวนี่ก็เผื่อว่าทาง samsung thailand จะเห็นใจลูกค้าบ้างครับ
รูปนนี้แสดงให้เห็นว่าผมภักดีกับแบรนด์ samsung นะ
รูปนี้เป็นใบแจ้งซ่อมซึ่งต้องขอให้ทางร้าน remark เพิ่มเติมให้ว่าของที่ผมส่ง claim นั้นไม่มีแม้แต่ริ้วรอยใดเลย
ใสกิ๊ก
ขอบใจ๋หลายที่ทนอ่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง samsung จะเห็นใจเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้จักเป็นพระคุณอย่างหาที่สุดซอยมิได้..
Samsung Thailand แจ้งไม่มีนโยบายในการเปลี่ยนสินค้าหลังซื้อไปแล้ว 7 วัน
เลยเลือก Samsung ตั้งแต่รุ่น smart phone รุ่นบุกเบิกตลาด
Galaxy Y ตามด้วยให้แฟนเปลี่ยนจาก Nokia มาเป็น Note 1 และหลังจากนั้นไม่นานผมก็เก็บ Y เข้ากรุไว้ถอย S3 ออกมาใช้
ก่อนที่จะยกมรดก S3 ให้กับน้องและตั้งใจจะไปถอย Note3 แต่คำนวณราคาดูแล้วเห็น Note2 ราคายั่วใจเหลือ 15k นิด ๆ
ต่างกับ Note3 ที่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นานเกือบ 9k เลยตัดสินใจถอย Samsung Note2 เป็นเครื่องที่ 4 ของแบรนด์นี้มาใช้ท่ามกลาง
เสียงท้วงติงจากเพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คนเพราะกระแส iphone 5s มาแรง (ผมทำงาน IT เกือบทุกคนใช้ iphone) จากร้านเดิม
เรียกได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านก็ว่าได้
หลังจากชำระเงินเสร็จ (เครดิตนะค้าบ) พี่พนักงานก็แกะกล่องเปิด note2 ให้มาตรวจสอบผมก็ตรวจแบบไม่ละเอียดเท่าไหร่
(จริง ๆ การตรวจรับสินค้าอย่างละเอียดสำคัญ) ด้วยความที่ว่าเราก็ซื้อสินค้าจากร้านนี้ตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย และจากนั้น
พนักงานก็ใส่ sim กับ mem จากเครื่อง s3 เข้าไปสิงใน note2 และทางร้านก็แถม case ให้ชิ้นหนึ่งเป็นแบบธรรมดา และจริง ๆ
แล้วปัญหาที่ผมเจอหากใครไม่สังเกตุจริง ๆ จะไม่เห็นเลยว่ามันผิดปกติครับ
เข้าเรื่องเลยละกันครับ เรื่องมีอยู่ว่ากาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้าของเมื่อวานผมเช็ดโทรศัพท์ในที่ทำงาน ปกติก็เช็ดเฉพาะหน้าจอด้วยผ้า
นุ่ม ๆ เช็ดเบา ๆ แบบโอ๋สุด ๆ (ปกติอยู่บ้านก็เช็ดนะครับวันละครั้ง 2 ครั้ง) แต่มาวันนี้สังเหตุเห็นว่าขอบจอบริเวณรอยใกล้ ๆ กับขอบ
ของ case ทำไมมันมีฝุ่นเกาะเยอะจังเลย เลยถอดเคสออกแล้วเช็ดแต่ฝุ่นเจ้ากรรมดันทะลึ่งผลุบเข้าไปในซอกบริเวณจอด้านซ้ายบน
กับแนวขอบกระจกจอด้านซ้าย ซึ่งเห็นว่ามันมีระยะห่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เลยลองใช้มือกดเบา ๆ บริเวณขอบกระจกรอบ ๆ ตัวเครื่อง
ท่านผู้อ่านทั้งหลายครับ ขอบจอบริเวณด้านซ้ายไล่จากทางด้านบนลงมามันเผยอ (เขียนถูกไหมคับ) แบบลักษณะคนกำลังแง้มประตู
แอบมองดูเราทำอะไรสักอย่างนิด ๆ และผมลองย้ายมากดตรงกลางจอด้วยมืออันนุ่มปรากฏว่าที่ขอบจอ มันก็ยกขึ้นยกลงรับกับแรง
กดที่กระแทกลงไปตามจังหวะ (อุ๊ยยยซ) ไม่ใช่ละผมอุทานออกมา อย่างนี้ต้องมี Claim และคิดในใจต่าง ๆ นานา กระผมโดนย้อมแมว
ขายมารึ หรือว่ามันมาจากงานประกอบของทาง samsung
ในวันเดียวกันนั้นก็ได้โทรติดต่อพนักงาน Callcenter สาวน้ำเสียงสวยจาก Samsung Thiland พนักงานก็แนะนำให้นำเครื่อง
ไปติดต่อให้กับทางช่างตรวจเช็คที่สาขาใกล้บ้าน บ้านผมอยู่ลำพูน ต้องติดต่อที่สาขาเชียงใหม่ แต่น้องสาวบอกว่า สามารถติดต่อที่
shop ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย samsung ได้
เย็นวันเดียวกันนั้น หลังจากเลิกงาน ก็บึ่งรถเข้า Big C เพื่อติดต่อ shop ผมก็ชี้แจง บลา บลา ๆ ๆ ๆ และพี่ที่ขายให้ก็ตรวจสอบ
และลงความเห็นว่าน่าจะเป็นที่เครื่อง แต่ต้องส่งให้ช่างที่ศูนย์ซ่อมให้ ผมก็อ้อนวอนเพื่อขอเปลี่ยนสินค้า ทางร้านก็บอกว่า สินค้าเกิน
7 วันเปลี่ยนให้ไม่ได้ (ผมซื้อเครื่องเมื่อวันที่ 2/11/2013) 20 กว่าวันแล้ว ถ้าจะเปลี่ยน พนักงานคนที่ขายเครื่องให้ผมต้องเป็นคนรับ
ผิดชอบ แต่มีอีกวิธีคือให้ติดต่อกับ call center เพื่อสอบถามว่าอาการแบบนี้เปลี่ยนได้หรือไม่ แต่ก้ได้รับคำตอบว่าทาง Samsung
ไม่มีนโยบายในการเปลี่ยนเครื่องให้ใหม่หลัง 7 วันครับ (อ้างอิงข้อความจากทางน้องพนักงาน เมื่อเวลา 17:45 ของวันอังคารที่ 26 Nov
และขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อน้องคนที่ผมได้โทรสอบถามนะคับ)
ตกลงแล้วเครื่องที่ซื้อมา 20 วัน ยืนยันว่าการใช้งานปกติดีทุกอย่างแต่หน้าจอไม่แนบสนิทชิดเชื้อกับตัวบอดี้ตามใบแจ้งซ่อมที่แนบมานี้
ต้องกลับเข้าศูนย์เพื่อซ่อมครับ เครื่องที่ซื้อมาใหม่จะต้องถูกแกะต้องราคีเป็นแน่แท้ ทำไมน้อการผลิตมีปัญหา แต่ดันมาโทษลูกค้าว่าคุณมีเวลาตั้ง 7 วันเพื่อตรวจสอบแต่ดันไม่มา Claim ภายใน 7 วันพูดแล้วเซรงงงจิตรคับ
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อสินค้าภายของ Samsung นะครับ ดูให้ดีก่อนออกจากร้าน อย่าใช้ความ
ไว้เนื้อเชื่อใจ ว่าเคยซื้อร้านนี้ไม่มีปัญหาควรตรวจสอบสินค้าก่อนออกจากร้านให้ดีนะก้าบจะได้ไม่เสียใจภายหลัง เป็นไปได้แนะนำยี่ห้อ
อื่นนะครับ.....
อีกอย่างไม่รู้จะซ่อมนานไปไหน พนักงานแจ้งว่านับจากส่งที่ร้านจะใช้เวลา ประมาณ 3 -4 สัปดาห์ (โอ้แม่จ้าว พระเจ้าจ๊อดดด ผมซื้อมาใช้ได้
20 วันแต่เข้าซ่อม 1 เดือนนนน)
จริง ๆ ที่เล่ามายืดยาวนี่ก็เผื่อว่าทาง samsung thailand จะเห็นใจลูกค้าบ้างครับ
รูปนนี้แสดงให้เห็นว่าผมภักดีกับแบรนด์ samsung นะ
รูปนี้เป็นใบแจ้งซ่อมซึ่งต้องขอให้ทางร้าน remark เพิ่มเติมให้ว่าของที่ผมส่ง claim นั้นไม่มีแม้แต่ริ้วรอยใดเลย
ใสกิ๊ก
ขอบใจ๋หลายที่ทนอ่าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง samsung จะเห็นใจเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้จักเป็นพระคุณอย่างหาที่สุดซอยมิได้..