เหตุผลอะไรทำไมทองเนื้อเก้าถึงไม่จบแบบเนื้อเรื่องเดิมใน Manager คะพี่ออฟ

ถ้าจบแบบนี้น้ำตานองประเทศแน่  ขนาดฉากที่สันต์เจอลำยองตอนตัวเป็นแผลแล้วไม่รังเกียจอุ้มลำยองไปส่งบ้าน  แล้วลำยองยิ้มให้ ไม่มีบทพูดแต่เราว่ามันกินใจนะ แววตาของคู่มันสื่อได้ดี

ลำยองตะเกียกตะกายพาตัวเองขึ้นมานอนบนเวทีลิเก เลือดค่อยๆซึมออกจากทวารต่างๆของตัวลำยองนอนหมดแรง น้ำตาซึมอย่างเจ็บปวด แต่นัยน์ตายังมองเวทีลิเกอย่างโหยหาวันเก่าๆ
                 ในอดีต แลลากลำยองที่แต่งตัวสวยเจิดจรัสเข้ามา ลำยองตามมาอย่างไม่เต็มใจนัก
                 "พามาดูลิเกอีกแล้วแม่ น่าเบื่อจะตาย"
                 "น่าเบื่ออะไรวะ สนุกออก พระเอกก็หล่อ นางเอกก็สวย" แลว่า
                 ลำยองเบ้ปากอย่างไม่ใส่ใจ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นสันต์ในวัยหนุ่มแรกรุ่นที่มาส่งปั้นดูลิเก
       เธอตกหลุมรักเขาทันที ราวกับรักแรกพบ สันต์เงยหน้าขึ้นสบตา แล้วยิ้มให้อย่างสุภาพ ลำยองยิ้มตอบอย่างมีความสุข
        
                 ลำยองในปัจจุบัน ยิ้มอย่างยากลำบาก น้ำตาไหล ภาพอดีตแต่ละช่วงซ้อนเข้ามา ลำยองเอาขนมครกให้สันต์ที่ท่าเรือ, ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกัน และ ได้เสียกันที่โรงลิเกแห่งนี้
                 ลำยองน้ำตาไหลพราก จนรวมกับเลือดที่ไหลออกทุกทวารของร่างกาย ตัวเกร็งด้วยความเจ็บปวดทรมาน
                 "แม่"
                 นัยน์ตาลำยองเหมือนรับรู้ ได้สติ ได้ยินเสียงลูก มือไม้ไขว่คว้า วันเฉลิมวิ่งเข้ามาประคองแม่ไว้ในอ้อมแขน สันต์เข้ามานั่งอยู่ข้างๆ
                 "แม่ครับ วันอยู่นี่แล้วครับแม่"
                 "ลำยอง"
                 ลำยองมองหน้าลูกชายแล้วค่อยๆเลื่อนสายตาไปมองหน้าสันต์  พยายามจะพูดบางอย่างอย่างยากเย็นและแผ่วเบา
                 "...คะ...คะ...คิดถึง"
                 สันต์เอื้อมมือไปจับมือลำยองเอาไว้
                 "ลำยอง"
                 จู่ๆลำยองก็ชัก มือหงิกงอ ร่างกายกระตุกอย่างแรงในทุกส่วน เลือดกระฉอกออกจากปาก
                 "แม่! แม่เป็นอะไร แม่ทำใจดีๆไว้นะครับ"
                 วันเฉลิมล็อกตัวลำยองไว้แน่น ลำยองตาเหลือก เหลือแต่ตาขาว ร้องโหยหวนเสียงดัง วันเฉลิมรวบมือทั้งสองข้างของลำยองมาประสานที่อก
                 "นึกถึงพระพุทธคุณไว้ครับแม่ นึกถึงพุทธคุณไว้"
                 ลำยองเกร็งไปทั้งตัว วันเฉลิมพยายามจับมือแม่ให้อยู่ในท่าพนมมือให้ได้ วันเฉลิมน้ำตาร่วงพรู
                 "นึกถึงพระพุทธคุณไว้ครับแม่"
                 ในนาทีสุดท้ายของความเจ็บปวด ภาพอดีตระหว่างแม่กับลูกผ่านเข้ามา
                  ลำยองหลังคลอดไม่ยอมเลี้ยงลูก, เธอตีวันเฉลิมด้วยความโกรธ, วันเฉลิมเอาเงินให้แม่, ขอร้องลำยองให้เลิกกินเหล้า, วันเฉลิมไปตามลำยองถึงในบ่อน, ส่งข้าวส่งน้ำให้แม่ในคุก, เช็ดตัวตอนลำยองไม่สบาย, เข็นรถเข็นพาลำยองย้ายบ้าน, วันเฉลิมบวชเณร ลำยองอุตส่าห์ถ่อสังขารมาบวชลูก, ลำยองตักบาตรเณรได้วันเดียว,เณรวิ่งไล่จับตัวลำยองและห่อตัวลำยองไว้ด้วยจีวร
                 ลำยองอาการสงบลงมาก ตายังจับจ้องที่วันเฉลิม น้ำตาไหลเอ่อออกมา ช่วงลมหายใจสุดท้ายของการได้แสดงความรักต่อลูก วันเฉลิมน้ำตานองไม่แพ้กัน
                 "แม่"
                 ลำยองเหมือนไม่ได้ยินเสียงเรียกของวันเฉลิม เพราะประสาทรับรู้ค่อยๆดับลง เธอพยายามเอื้อมมือไปลูบแก้มลูก แต่วันเฉลิมรวบมือแม่ไว้กุมพนมไว้ในมือตัวเอง
                 ลำยองเหมือนเกิดรอยยิ้มขึ้นเพียงเสี้ยวขณะ แต่ช่วงเวลานี้ช่างสั้นเหลือเกิน รอยยิ้มคลายลงเป็นหน้าที่เรียบ นิ่ง เฉย พร้อมกับลมหายใจที่ค่อยๆหยุดลง และตายังคงลืมไม่ปิดสนิท
                 วันเฉลิมกอดแม่ไว้แน่น สันต์น้ำตาไหลพราก
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
อยากบอกว่าเป็นเรื่องปรกติค่ะ  สำหรับละครของป๋าอ๊อฟ     บ่อยครั้งมักมีการ
ปรับเปลี่ยนบทกะทันหัน   เพื่อนำเสนอมุมมองหรืออารมณ์ในช่วงเวลานั้น(ติสท์จัด)

ฉากที่ลำยองตายคนเดียวนั้น    อาจจะขัดใจไปบ้าง (เหมือนตอนรัชชานนท์)
แต่เราว่าก็เป็นมุมมองที่แตกต่าง    ความพีคของละครสมบูรณ์เมื่ออาทิตย์ทีแล้ว

การนำเสนอมุมที่ลำยองจากไปคนเดียว    ที่เราเห็นและได้จากส่วนนี้ก็คือ
เมื่อมนุษย์เกิดมานั้นมาเพียงคนเดียว   จะแปลกอะไรเล่า หากความตายมาเยือน
มนุษย์ผู้นั้นก็ต้องจากไปเพียงลำพังเหมือนเมื่อแรกที่เราเกิดมา  

การเลือกให้เห็นมรณกรรมโดยที่ปราศจากคนรู้เห็นนอกตัวตัวผู้เสียชีวิตเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่