สมัยก่อน ใบปลิวเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อ สื่อทีวี วิทยุ
สมัยนี้ สื่อทางโลกออนไลน์ โซเชียลมีเดีย เข้าถึงคนได้ทุกคนในโลก ทุกระดับชั้น ทุกสถานที่แม้แต่ในส้วม
หมดยุคของการจ้างคนไปตะโกนในโรงหนัง
แค่จ้างคนกลุ่มนึงที่หารายได้พิเศษ มีความถนัดในการใช้คอมพิวเตอร์ สร้างเว็บเพจ ใช้เฟซบุ๊ค หรือแค่ให้ประจำอยู่ในเว็บบอร์ดคอยตอบโต้กระทู้อื่นๆ
พวกนี้ไม่ต้องมีอะไรมาก ข้อมูลได้ป้อนมาจากเว็บเช่น เนชั่น เมเนเจอร์ เอเอสทีวี หรือจากเฟซ บล็อกที่เป็นฝ่ายตรงข้าม มีภาพในสต็อกมากมายที่พร้อมจะเอามาเล่น ทั้งภาพที่ตัดต่อ หรือภาพเจาะถ่าย snapshot เอามาโพสได้อย่างไม่อั้น
ผลคือ สร้างความสับสน ความเข้าใจผิด ยุแยงตะแคงรั่ว หรือเพื่อให้อีกฝ่ายโกรธ แต่คนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเอาข้อมูลมาหักล้าง หรือจำเป็นต้องพิมพ์ หรืออ่านความเห็นของคนอื่นมากนัก (เพราะจะเสียเวลามีโควต้ากระทู้อีกมากที่ต้องเข้าไปทำแต้ม) เราจึงเห็นพวกนี้อ่านไม่ค่อยเกินสามบรรทัด
อิทธิพลของ 2.4 ที่ฝังตัวทำหน้าที่มานานหลายปี ทำให้เหล่าสาวกเฟซบุ๊คกลายเป็นกองกำลังม็อบในขณะนี้ เพราะได้แต่เสพข้อมูลด้านลบของรัฐบาลที่ฝ่ายนี้ปลุกแต่งขึ้น
อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ หลายคนนัดออกไปผ่านเฟซบุ๊ค ประเด็นล้มรัฐบาลก็พูดเหมือนกันเหมือนเป็นโรบอต ถ้าให้อธิบายก็จะพูดเหมือนๆ กับที่อ่านแชร์ต่อๆ กันมา
สร้างวัฒนธรรม หรือ เทรนด์ว่า ต้องออกไปไล่รัฐบาลเป็นสิ่งที่ควรทำ เหมือนตอนน้ำท่วมกรุงเทพแล้วคนออกไปช่วยมัดถุงยังชีพ ช่วยบรรจุกระสอบทรายนั่นแหละ ทั้งที่เป็นคนละเรื่อง
เมื่อหมดยุคใบปลิว ตะโกนในโรงหนัง ทุกวันนี้ก็หันมาเล่นในโซเชียลมีเดีย
สมัยนี้ สื่อทางโลกออนไลน์ โซเชียลมีเดีย เข้าถึงคนได้ทุกคนในโลก ทุกระดับชั้น ทุกสถานที่แม้แต่ในส้วม
หมดยุคของการจ้างคนไปตะโกนในโรงหนัง
แค่จ้างคนกลุ่มนึงที่หารายได้พิเศษ มีความถนัดในการใช้คอมพิวเตอร์ สร้างเว็บเพจ ใช้เฟซบุ๊ค หรือแค่ให้ประจำอยู่ในเว็บบอร์ดคอยตอบโต้กระทู้อื่นๆ
พวกนี้ไม่ต้องมีอะไรมาก ข้อมูลได้ป้อนมาจากเว็บเช่น เนชั่น เมเนเจอร์ เอเอสทีวี หรือจากเฟซ บล็อกที่เป็นฝ่ายตรงข้าม มีภาพในสต็อกมากมายที่พร้อมจะเอามาเล่น ทั้งภาพที่ตัดต่อ หรือภาพเจาะถ่าย snapshot เอามาโพสได้อย่างไม่อั้น
ผลคือ สร้างความสับสน ความเข้าใจผิด ยุแยงตะแคงรั่ว หรือเพื่อให้อีกฝ่ายโกรธ แต่คนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเอาข้อมูลมาหักล้าง หรือจำเป็นต้องพิมพ์ หรืออ่านความเห็นของคนอื่นมากนัก (เพราะจะเสียเวลามีโควต้ากระทู้อีกมากที่ต้องเข้าไปทำแต้ม) เราจึงเห็นพวกนี้อ่านไม่ค่อยเกินสามบรรทัด
อิทธิพลของ 2.4 ที่ฝังตัวทำหน้าที่มานานหลายปี ทำให้เหล่าสาวกเฟซบุ๊คกลายเป็นกองกำลังม็อบในขณะนี้ เพราะได้แต่เสพข้อมูลด้านลบของรัฐบาลที่ฝ่ายนี้ปลุกแต่งขึ้น
อย่างที่เห็นๆ กันอยู่ หลายคนนัดออกไปผ่านเฟซบุ๊ค ประเด็นล้มรัฐบาลก็พูดเหมือนกันเหมือนเป็นโรบอต ถ้าให้อธิบายก็จะพูดเหมือนๆ กับที่อ่านแชร์ต่อๆ กันมา
สร้างวัฒนธรรม หรือ เทรนด์ว่า ต้องออกไปไล่รัฐบาลเป็นสิ่งที่ควรทำ เหมือนตอนน้ำท่วมกรุงเทพแล้วคนออกไปช่วยมัดถุงยังชีพ ช่วยบรรจุกระสอบทรายนั่นแหละ ทั้งที่เป็นคนละเรื่อง