คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1 ดูจากรูปในคอมน่าจะอยู่ที่รามา ก็ถามกับหมอโดยตรงเลยครับ เดินไปหาที่หน่วยก็ได้ เพราะหน้าจอนี้อย่างน้อยต้องเป็น จนท. จึงจะเข้าถึงได้ แต่ถ้าไม่ใช่ที่รามาก็ขออภัยด้วย
2 เรื่องชนิดของเซลล์มะเร็งนั้นต้องเข้าใจก่อนว่าเซลล์เยื่อบุผิวนั้นมีต้นกำเนิดมาจากเซลล์เดียวกันแต่ได้พัฒนาจนมีหน้าที่เฉพาะ (Differentiation) แบ่งตามหน้าตาที่เห็นได้เป็นหลายชนิดแต่ในปอดที่สำคัญคือ Squamous cell และ Columnar Cell ซึ่งเมื่อกลายเป็นมะเร็งจะเรียก Squamous cell carcinoma และ Adenocarcinoma ตามลำดับ เวลากลายเป็นมะเร็งเซลล์เหล่านี้อาจย้อนพัฒนาการขึ้นมา (De-Differentiation) จาก Well diff เป็น Moderated diff จนเป็น Poorly diff ซึ่งแทบจะไม่มีลักษณะเฉพาะของ Squamous หรือ Adenocarcinoma ให้เห็นแล้ว ยิ่งบางครั้งอาจย้อนไปจนเป็น Undifferentiated พวกนี้มักจะแยกไม่ออกเลยทีเดียว
กรณีนี้คาดว่า
A ผลชิ้นเนื้อหลักเป็นลักษณะคล้าย Squamous cell แต่เป็น Poorly diff ซึ่งไม่มีลักษณะเฉพาะมากนัก
B แต่ที่รพ.แรกอ่านว่าเป็น Adenocarcinoma เพราะมีบางบริเวณซึ่งรพ.ที่สองอาจไม่เห็นหรือเห็นแตกต่างว่ามีลักษณะเป็น Glandular differentiation ตรงนี้เป็นลักษณะที่บ่งว่าน่าจะมีต้นกำเนิดจาก Columnar cell หรือเรียกว่าเป็น Adenocarcinoma นั่นเอง
โดยสรุปกรณีนี้อาจเป็น
1 Pure Poorly diff SCCA โดยที่บริเวณที่ว่ามีลักษณธของ Adenocarcinoma นั้นอาจไม่ใช่บริเวณที่เป็นของเนื้องอก (เช่น Columnar cell ปกติในบริเวณนั้น)
2 Pure poorly diff Adenocarcinoma โดยที่ความเป็น Poorly อาจทำให้หน้าตามันผิดเพี้ยนไป
3 Mixed Poorly diff SCCA + Adenocarcinoma มีทั้งสองอย่างผสมกัน
ความสำคัญคือ
1 หากมี SCCA component ไม่ว่าจะเป็นทั้งหมดหรือผสม ยาบางตัวอาจได้ผลไม่ดี
2 หากตรวจแล้วมี EGFRmutation หรือ ALKrearragement การใช้ยาตรงเป้าอาจไม่ได้ผลดีทุกจุดหากมีส่วนของ SCCA ผสมอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ผลเลย
ส่วนคำถามที่ 3 เรื่อง CEA นั้น สามารถพบได้แม้จะเป็น SCCA ซึ่งมักจะพบน้อยราวๆ 10-20% แต่เป็นตัวที่บ่งชี้พยากรณ์โรคที่ไม่ดี (ส่วนหนึ่งเพราะมันน่าจะแสดงว่าเนื้องอกมี Poorly diff = High Grade tumor = Poor prognosis) ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ CEA ไม่สามารถใช้เป็นตัวตรวจหามะเร็งลำไส้ได้ดีเพราะมะเร็งอะไรมันก็ขึ้นได้และเป็นมะเร็งแต่ไม่ขึ้นก็ได้ การที่ CEA สูงมักสัมพันธ์กับระยะที่มากซึ่งทำให้การตรวจไม่ค่อยมีประโยชน์เพราะพบก็มักจะเป็นมาก
2 เรื่องชนิดของเซลล์มะเร็งนั้นต้องเข้าใจก่อนว่าเซลล์เยื่อบุผิวนั้นมีต้นกำเนิดมาจากเซลล์เดียวกันแต่ได้พัฒนาจนมีหน้าที่เฉพาะ (Differentiation) แบ่งตามหน้าตาที่เห็นได้เป็นหลายชนิดแต่ในปอดที่สำคัญคือ Squamous cell และ Columnar Cell ซึ่งเมื่อกลายเป็นมะเร็งจะเรียก Squamous cell carcinoma และ Adenocarcinoma ตามลำดับ เวลากลายเป็นมะเร็งเซลล์เหล่านี้อาจย้อนพัฒนาการขึ้นมา (De-Differentiation) จาก Well diff เป็น Moderated diff จนเป็น Poorly diff ซึ่งแทบจะไม่มีลักษณะเฉพาะของ Squamous หรือ Adenocarcinoma ให้เห็นแล้ว ยิ่งบางครั้งอาจย้อนไปจนเป็น Undifferentiated พวกนี้มักจะแยกไม่ออกเลยทีเดียว
กรณีนี้คาดว่า
A ผลชิ้นเนื้อหลักเป็นลักษณะคล้าย Squamous cell แต่เป็น Poorly diff ซึ่งไม่มีลักษณะเฉพาะมากนัก
B แต่ที่รพ.แรกอ่านว่าเป็น Adenocarcinoma เพราะมีบางบริเวณซึ่งรพ.ที่สองอาจไม่เห็นหรือเห็นแตกต่างว่ามีลักษณะเป็น Glandular differentiation ตรงนี้เป็นลักษณะที่บ่งว่าน่าจะมีต้นกำเนิดจาก Columnar cell หรือเรียกว่าเป็น Adenocarcinoma นั่นเอง
โดยสรุปกรณีนี้อาจเป็น
1 Pure Poorly diff SCCA โดยที่บริเวณที่ว่ามีลักษณธของ Adenocarcinoma นั้นอาจไม่ใช่บริเวณที่เป็นของเนื้องอก (เช่น Columnar cell ปกติในบริเวณนั้น)
2 Pure poorly diff Adenocarcinoma โดยที่ความเป็น Poorly อาจทำให้หน้าตามันผิดเพี้ยนไป
3 Mixed Poorly diff SCCA + Adenocarcinoma มีทั้งสองอย่างผสมกัน
ความสำคัญคือ
1 หากมี SCCA component ไม่ว่าจะเป็นทั้งหมดหรือผสม ยาบางตัวอาจได้ผลไม่ดี
2 หากตรวจแล้วมี EGFRmutation หรือ ALKrearragement การใช้ยาตรงเป้าอาจไม่ได้ผลดีทุกจุดหากมีส่วนของ SCCA ผสมอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ผลเลย
ส่วนคำถามที่ 3 เรื่อง CEA นั้น สามารถพบได้แม้จะเป็น SCCA ซึ่งมักจะพบน้อยราวๆ 10-20% แต่เป็นตัวที่บ่งชี้พยากรณ์โรคที่ไม่ดี (ส่วนหนึ่งเพราะมันน่าจะแสดงว่าเนื้องอกมี Poorly diff = High Grade tumor = Poor prognosis) ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ CEA ไม่สามารถใช้เป็นตัวตรวจหามะเร็งลำไส้ได้ดีเพราะมะเร็งอะไรมันก็ขึ้นได้และเป็นมะเร็งแต่ไม่ขึ้นก็ได้ การที่ CEA สูงมักสัมพันธ์กับระยะที่มากซึ่งทำให้การตรวจไม่ค่อยมีประโยชน์เพราะพบก็มักจะเป็นมาก
แสดงความคิดเห็น
รบกวนหมอผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งค่ะ(Onco Med)
Case ผู้ป่วยชายไทย 55ปี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้า
กุมภา56 check up พบ CEA30 มีนา56ไปwork upสถาบันมะเร็ง ส่องกล้องพบติ่งเนื้อตัดออกไป บอกว่าเปนpolypธรรมดา นัดอีกทีมีนา57
กรกฎา56 ตรวจเลือดซ้ำเองอีกครั้ง CEA 207 กันยา56 chest x- ray พบก้อน จึง CT chest with contrast ผลเปนLUL mass2cm, lung cancer with TLS metas จึงไป PET CT scan ผลสอดคล้องกะ CT จึงไปพบ chest med broncho Lt hilar biopsyแต่ผล negative จึงไปรพ เอกชน CVTทำVATS ผลfresh frozen realtime เป็น pooly differential squamous cell carcinoma แต่ผล official report อีก2วันถัดมา ออกมาว่าเป็น adenocarcinoma
จึงไปพบ onco. อาจารยให้ส่งตรวจ EGFR mutation และALK เพิ่ม รอผล2อาทิต ตอนนี้ผ่านไป1อาทิต
ให้เพื่อนดูผลให้ ผลออกมาเปน scc
อยากถามว่า ปกติ SCC ค่า CEA มันขึ้นเยอะได้ไหมคะแล้ว ตอนนี้ควร ทำยังไง เพราะงง กะผลpatho ไปหมดแล้วค่ะ