เมื่อไม่นานมานี้คนไทยมีความสุขที่น้องรัชนก อินทนนท์ สามารถคว้าแชมป์โลกแบดมินตันเอาเหรียญทองมาครองได้ สร้างความดีอกดีใจให้พวกเราคนไทยอย่างถ้วนหน้า
แต่ยังมีแชมป์โลกแบดมินตันที่เป็นคนไทยอีกคนหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้พูดถึง เป็นคนไทยที่ทำเหรียญทองให้กับประเทศไทยมาแล้วถึง 4 ครั้ง 4 คราด้วยกัน เขาผู้นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนคือ คุณเสรี จินตนเสรี อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ของเรานี้เอง
ขณะนี้คุณเสรีอายุ 71 ย่างเข้า 72 แล้ว เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งดูจะไม่เจียมสังขาร ได้สมัครเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกในกีฬาแบดมินตันรุ่นอายุเกิน 70 ปี โดยเข้าแข่งขันในประเภทชายคู่อายุเกิน 65 ปี เท่านั้นยังไม่พอยังเข้าแข่งขันในประเภทชายเดี่ยวอายุเกิน 70 ปีด้วย
ปรากฏว่าประเภทชายเดี่ยวอายุเกิน 70 ปี คุณเสรี จินตนเสรี ของเราได้เหรียญทองเป็นแชมป์โลก โดยเอาชนะคู่แข่งขันถึง 5 ครั้ง และเอาชนะแชมป์เก่าได้ 4 คน เอาชนะเยอรมัน 2 คน เป็นแชมป์เก่า 1 คน แชมป์ฟินแลนด์ 1 คน แชมป์อังกฤษ 1 คน และคนสุดท้ายคือ นายโกจิ ทานากะ แชมป์จากประเทศญี่ปุ่น การแข่งขันประเภทชายเดี่ยวคนมีอายุแล้วไม่แนะนำให้เล่นเพราะมันหนักเกินไป แต่คุณเสรีก็ไม่ยอมจะต้องลงแข่งให้ได้
สำหรับชายคู่อายุเกิน 65 ปีนั้นสบาย สามารถคว้าเหรียญทองรักษาแชมป์ให้ประเทศไทยอีกครั้ง ตกลงในการแข่งขันชิงแชมป์โลกซึ่งจัดโดย สหพันธ์แบดมินตันโลกหรือ Badminton world Federation BWF นักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองมาได้ 4 เหรียญ เป็นของคุณเสรี 2 เหรียญ
สำหรับคุณเสรีนั้น ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่สมัครเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกแบดมินตัน แต่เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2550 ก็เป็นแชมป์โลกแบดมินตันชายคู่รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่เมืองไทเป ไต้หวัน และหลังจากนั้นก็เข้าแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลกมาเรื่อยๆ ทุก 2 ปี ก็ชนะเป็นแชมป์โลก นำเหรียญทองมาฝากคนไทยเสมอมา
เคยถามว่าทำไมถึงกลับมาเล่นแบดมินตันอีกในยามสูงอายุ แม้จะเคยเล่นแต่ก็นานมาแล้วตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมอยู่ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม้จะเคยติดทีมชาติแต่ก็ติดหางแถวเป็นตัวสำรองเสียมากกว่าตัวจริง หลังจากจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สอบเนติบัณฑิตไทยได้แล้วก็ไปเรียนต่อที่อังกฤษ จนได้เนติบัณฑิตอังกฤษจาก Lincoln′s Inn กลับมาทำงานพิพากษาเฉยๆ ก็เห็นเล่นแต่เทนนิสกับเล่นกอล์ฟ
คุณเสรีเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนอายุ 62 ไปตรวจสุขภาพ ผลการตรวจเลือดทุกอย่างเกินเกณฑ์ที่หมอเขากำหนดหมด ไม่ว่าจะเป็นไขมันในเส้นเลือด กรดยูริก น้ำตาล และอื่นๆ หมอจะจับกินยา คุณเสรีเห็นว่าวิธีรับประทานยาไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ไม่ใช่การแก้ไขที่ต้นเหตุ ก็เลยเลือกวิธีธรรมชาติ คือควบคุมอาหาร ลดแป้ง ลดไขมัน ลดเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะมื้อเย็น จะรับประทานแต่ผักสดหรือผักต้มกับผลไม้เท่านั้น
อีกอย่างก็คือการออกกำลังกายทุกเย็น เมื่อจะต้องออกกำลังกายก็เลือกจะเล่นกีฬาดีกว่า เพราะสนุกกว่าการออกกำลังกายอยู่แต่ผู้เดียว
กีฬาที่เคยเล่นก็มีแบดมินตัน เทนนิส และกอล์ฟ สำหรับกอล์ฟใช้เวลามากแล้วก็ไม่ใช่การออกกำลังที่ดีนัก แม้จะเป็นกีฬาก็ตาม สำหรับเทนนิสก็หนักไปหน่อยถ้าจะเอาถึงแชมป์โลก จึงตกลงใจเลือกแบดมินตัน จึงกลับมาเล่นแบดมินตันใหม่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว คือปี 2546
เมื่อจะแข่งชิงแชมป์โลกตอนอายุ 65 เมื่อปี 2550 แข่งชิงแชมป์ประเภทชายคู่อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็เท่ากับต่ออายุให้คู่ต่อสู้ 5 ปี เพราะคู่ต่อสู้ อายุครบ 60 ปี มาใหม่ๆ ทั้งนั้น
สำหรับการเป็นแชมป์โลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 2552 ขณะนั้นอายุ 67 ปีก็เท่ากับต่ออายุให้คู่ต่อสู้ถึง 7 ปี
การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งที่ 3 คราวนี้อายุ 69 ปี ต่ออายุให้คู่แข่งขัน 9 ปี ก็ยังชนะได้แชมป์เหรียญทองประเภทชายคู่อีก คราวนี้ไปแข่งถึงประเทศแคนาดา อากาศค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง ครั้งล่าสุดจึงได้ใจเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกที่สเปนอีก
แล้วก็มาได้แชมป์โลกครั้งที่ 4 ทั้งประเภทชายเดี่ยวและประเภทชายคู่ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จัดโดยสมาพันธ์แบดมินตันโลก หรือ Badminton World Federation อย่างที่ว่ามาแล้วตั้งแต่ตอนต้น
คุณเสรีนั้นเป็นคนที่ชอบเล่นและชอบดูกีฬาเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ถ้ามีโอกาสจะขอเข้าไปดูแข่งขันกับเขาเสมอ ไม่เคยลดละ
เมื่อตอนที่ถูกขอให้ไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็มีข้าราชการหนุ่มๆ ที่กระทรวงการคลังคนหนึ่งนับว่าเก่งในทางเทนนิส มาขอท้าแข่ง คุณเสรีอิดออดอยู่นานไม่ยินยอมรับคำท้า แต่ข้าราชการหนุ่มคนนั้นก็คะยั้นคะยอ ในที่สุดการแข่งขันก็เกิดขึ้น ปรากฏว่าข้าราชการหนุ่มคนนั้นแพ้ยับเยิน ไม่พูดถึงเรื่องเทนนิสอีกเลยจนบัดนี้
ที่สำคัญนอกจากจะเป็นคนชอบเล่นกีฬาแล้วก็ยังเป็นคนชอบดูกีฬาด้วย รวมทั้งเป็นผู้ติดตามข่าวกีฬาทั้งระดับภายในประเทศและระดับโลกอย่างใกล้ชิดเสมอมา
เมื่อจะมีการแข่งขันชิงแชมป์โลกของสโมสรกีฬาต่างๆ คุณเสรีมักจะไม่ค่อยพลาดเดินทางไปดู ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล เทนนิส กอล์ฟ และแบดมินตันอยู่เสมอ บางครั้งมีกิจธุระสำคัญก็หาตัวไม่พบเพราะกำลังอยู่บนอัฒจันทร์ ดูการแข่งขันกีฬาชิงแชมป์โลกอยู่ที่ประเทศนั้นประเทศนี้
การที่คุณเสรีได้เหรียญทองแชมป์โลกแบดมินตันติดต่อกันถึง 4 สมัยซ้อนอย่างนี้ เป็นเรื่องที่ยังไม่เคยมีนักกีฬาแบดมินตันทั้งที่อายุน้อยและสูงอายุเคยทำมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นนักแบดมินตันชายหรือแบดมินตันหญิง ทั้งที่อายุสูงกว่า 60 ปี และต่ำกว่า 60 ปี ส่วนมากเมื่อได้แชมป์โลกแล้วในการแข่งขันคราวต่อไปก็จะเสียตำแหน่งให้กับผู้อื่น เพราะจะมีคนรุ่นใหม่หรือคนหน้าใหม่เข้ามาแข่งขันด้วยเสมอ เรื่องนี้ต้องถือว่าเป็นเรื่องพิเศษจริงๆ เพราะต่ออายุให้ตั้งแต่ 5 ปีก็ชนะ 7 ปีก็ชนะ 9 ปีก็ยังชนะอีก ยังไม่เคยเห็นมีที่ไหน
เมืองไทยนั้นดูท่าจะเป็นเมืองของคนหนุ่มสาว ถ้าหากแชมป์โลกเป็นคนหนุ่มสาว ผู้คนรวมทั้งสื่อมวลชนจะให้ความสนใจมากกว่าคนสูงอายุ ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย
แต่ต่อไปนี้สัดส่วนของผู้สูงอายุในเมืองไทยจะมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องของผู้สูงอายุโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีสุขภาพแข็งแรง สามารถเป็นนักกีฬาขนาดเป็นแชมป์โลกได้ สมควรจะได้รับความสนใจจากสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างการทำลายสถิติโลกของนักกีฬาแบดมินตันเที่ยวนี้ สมควรจะถูกบันทึกไว้ใน Guinness Book ได้แล้ว
ถ้าไม่มีใครเสนอก็ขอเสนอในมติชนนี้เลย
ที่มา : มติชนออนไลน์ 25 ต.ค.2556
คนไทย ! แชมป์โลกแบดมินตัน 4 สมัย
เมื่อไม่นานมานี้คนไทยมีความสุขที่น้องรัชนก อินทนนท์ สามารถคว้าแชมป์โลกแบดมินตันเอาเหรียญทองมาครองได้ สร้างความดีอกดีใจให้พวกเราคนไทยอย่างถ้วนหน้า
แต่ยังมีแชมป์โลกแบดมินตันที่เป็นคนไทยอีกคนหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้พูดถึง เป็นคนไทยที่ทำเหรียญทองให้กับประเทศไทยมาแล้วถึง 4 ครั้ง 4 คราด้วยกัน เขาผู้นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนคือ คุณเสรี จินตนเสรี อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ของเรานี้เอง
ขณะนี้คุณเสรีอายุ 71 ย่างเข้า 72 แล้ว เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งดูจะไม่เจียมสังขาร ได้สมัครเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกในกีฬาแบดมินตันรุ่นอายุเกิน 70 ปี โดยเข้าแข่งขันในประเภทชายคู่อายุเกิน 65 ปี เท่านั้นยังไม่พอยังเข้าแข่งขันในประเภทชายเดี่ยวอายุเกิน 70 ปีด้วย
ปรากฏว่าประเภทชายเดี่ยวอายุเกิน 70 ปี คุณเสรี จินตนเสรี ของเราได้เหรียญทองเป็นแชมป์โลก โดยเอาชนะคู่แข่งขันถึง 5 ครั้ง และเอาชนะแชมป์เก่าได้ 4 คน เอาชนะเยอรมัน 2 คน เป็นแชมป์เก่า 1 คน แชมป์ฟินแลนด์ 1 คน แชมป์อังกฤษ 1 คน และคนสุดท้ายคือ นายโกจิ ทานากะ แชมป์จากประเทศญี่ปุ่น การแข่งขันประเภทชายเดี่ยวคนมีอายุแล้วไม่แนะนำให้เล่นเพราะมันหนักเกินไป แต่คุณเสรีก็ไม่ยอมจะต้องลงแข่งให้ได้
สำหรับชายคู่อายุเกิน 65 ปีนั้นสบาย สามารถคว้าเหรียญทองรักษาแชมป์ให้ประเทศไทยอีกครั้ง ตกลงในการแข่งขันชิงแชมป์โลกซึ่งจัดโดย สหพันธ์แบดมินตันโลกหรือ Badminton world Federation BWF นักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองมาได้ 4 เหรียญ เป็นของคุณเสรี 2 เหรียญ
สำหรับคุณเสรีนั้น ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่สมัครเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกแบดมินตัน แต่เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2550 ก็เป็นแชมป์โลกแบดมินตันชายคู่รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่เมืองไทเป ไต้หวัน และหลังจากนั้นก็เข้าแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลกมาเรื่อยๆ ทุก 2 ปี ก็ชนะเป็นแชมป์โลก นำเหรียญทองมาฝากคนไทยเสมอมา
เคยถามว่าทำไมถึงกลับมาเล่นแบดมินตันอีกในยามสูงอายุ แม้จะเคยเล่นแต่ก็นานมาแล้วตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมอยู่ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม้จะเคยติดทีมชาติแต่ก็ติดหางแถวเป็นตัวสำรองเสียมากกว่าตัวจริง หลังจากจบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สอบเนติบัณฑิตไทยได้แล้วก็ไปเรียนต่อที่อังกฤษ จนได้เนติบัณฑิตอังกฤษจาก Lincoln′s Inn กลับมาทำงานพิพากษาเฉยๆ ก็เห็นเล่นแต่เทนนิสกับเล่นกอล์ฟ
คุณเสรีเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนอายุ 62 ไปตรวจสุขภาพ ผลการตรวจเลือดทุกอย่างเกินเกณฑ์ที่หมอเขากำหนดหมด ไม่ว่าจะเป็นไขมันในเส้นเลือด กรดยูริก น้ำตาล และอื่นๆ หมอจะจับกินยา คุณเสรีเห็นว่าวิธีรับประทานยาไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ไม่ใช่การแก้ไขที่ต้นเหตุ ก็เลยเลือกวิธีธรรมชาติ คือควบคุมอาหาร ลดแป้ง ลดไขมัน ลดเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะมื้อเย็น จะรับประทานแต่ผักสดหรือผักต้มกับผลไม้เท่านั้น
อีกอย่างก็คือการออกกำลังกายทุกเย็น เมื่อจะต้องออกกำลังกายก็เลือกจะเล่นกีฬาดีกว่า เพราะสนุกกว่าการออกกำลังกายอยู่แต่ผู้เดียว
กีฬาที่เคยเล่นก็มีแบดมินตัน เทนนิส และกอล์ฟ สำหรับกอล์ฟใช้เวลามากแล้วก็ไม่ใช่การออกกำลังที่ดีนัก แม้จะเป็นกีฬาก็ตาม สำหรับเทนนิสก็หนักไปหน่อยถ้าจะเอาถึงแชมป์โลก จึงตกลงใจเลือกแบดมินตัน จึงกลับมาเล่นแบดมินตันใหม่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว คือปี 2546
เมื่อจะแข่งชิงแชมป์โลกตอนอายุ 65 เมื่อปี 2550 แข่งชิงแชมป์ประเภทชายคู่อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็เท่ากับต่ออายุให้คู่ต่อสู้ 5 ปี เพราะคู่ต่อสู้ อายุครบ 60 ปี มาใหม่ๆ ทั้งนั้น
สำหรับการเป็นแชมป์โลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 2552 ขณะนั้นอายุ 67 ปีก็เท่ากับต่ออายุให้คู่ต่อสู้ถึง 7 ปี
การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งที่ 3 คราวนี้อายุ 69 ปี ต่ออายุให้คู่แข่งขัน 9 ปี ก็ยังชนะได้แชมป์เหรียญทองประเภทชายคู่อีก คราวนี้ไปแข่งถึงประเทศแคนาดา อากาศค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง ครั้งล่าสุดจึงได้ใจเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกที่สเปนอีก
แล้วก็มาได้แชมป์โลกครั้งที่ 4 ทั้งประเภทชายเดี่ยวและประเภทชายคู่ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จัดโดยสมาพันธ์แบดมินตันโลก หรือ Badminton World Federation อย่างที่ว่ามาแล้วตั้งแต่ตอนต้น
คุณเสรีนั้นเป็นคนที่ชอบเล่นและชอบดูกีฬาเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ถ้ามีโอกาสจะขอเข้าไปดูแข่งขันกับเขาเสมอ ไม่เคยลดละ
เมื่อตอนที่ถูกขอให้ไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็มีข้าราชการหนุ่มๆ ที่กระทรวงการคลังคนหนึ่งนับว่าเก่งในทางเทนนิส มาขอท้าแข่ง คุณเสรีอิดออดอยู่นานไม่ยินยอมรับคำท้า แต่ข้าราชการหนุ่มคนนั้นก็คะยั้นคะยอ ในที่สุดการแข่งขันก็เกิดขึ้น ปรากฏว่าข้าราชการหนุ่มคนนั้นแพ้ยับเยิน ไม่พูดถึงเรื่องเทนนิสอีกเลยจนบัดนี้
ที่สำคัญนอกจากจะเป็นคนชอบเล่นกีฬาแล้วก็ยังเป็นคนชอบดูกีฬาด้วย รวมทั้งเป็นผู้ติดตามข่าวกีฬาทั้งระดับภายในประเทศและระดับโลกอย่างใกล้ชิดเสมอมา
เมื่อจะมีการแข่งขันชิงแชมป์โลกของสโมสรกีฬาต่างๆ คุณเสรีมักจะไม่ค่อยพลาดเดินทางไปดู ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล เทนนิส กอล์ฟ และแบดมินตันอยู่เสมอ บางครั้งมีกิจธุระสำคัญก็หาตัวไม่พบเพราะกำลังอยู่บนอัฒจันทร์ ดูการแข่งขันกีฬาชิงแชมป์โลกอยู่ที่ประเทศนั้นประเทศนี้
การที่คุณเสรีได้เหรียญทองแชมป์โลกแบดมินตันติดต่อกันถึง 4 สมัยซ้อนอย่างนี้ เป็นเรื่องที่ยังไม่เคยมีนักกีฬาแบดมินตันทั้งที่อายุน้อยและสูงอายุเคยทำมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นนักแบดมินตันชายหรือแบดมินตันหญิง ทั้งที่อายุสูงกว่า 60 ปี และต่ำกว่า 60 ปี ส่วนมากเมื่อได้แชมป์โลกแล้วในการแข่งขันคราวต่อไปก็จะเสียตำแหน่งให้กับผู้อื่น เพราะจะมีคนรุ่นใหม่หรือคนหน้าใหม่เข้ามาแข่งขันด้วยเสมอ เรื่องนี้ต้องถือว่าเป็นเรื่องพิเศษจริงๆ เพราะต่ออายุให้ตั้งแต่ 5 ปีก็ชนะ 7 ปีก็ชนะ 9 ปีก็ยังชนะอีก ยังไม่เคยเห็นมีที่ไหน
เมืองไทยนั้นดูท่าจะเป็นเมืองของคนหนุ่มสาว ถ้าหากแชมป์โลกเป็นคนหนุ่มสาว ผู้คนรวมทั้งสื่อมวลชนจะให้ความสนใจมากกว่าคนสูงอายุ ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย
แต่ต่อไปนี้สัดส่วนของผู้สูงอายุในเมืองไทยจะมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องของผู้สูงอายุโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีสุขภาพแข็งแรง สามารถเป็นนักกีฬาขนาดเป็นแชมป์โลกได้ สมควรจะได้รับความสนใจจากสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างการทำลายสถิติโลกของนักกีฬาแบดมินตันเที่ยวนี้ สมควรจะถูกบันทึกไว้ใน Guinness Book ได้แล้ว
ถ้าไม่มีใครเสนอก็ขอเสนอในมติชนนี้เลย
ที่มา : มติชนออนไลน์ 25 ต.ค.2556