วันที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยความคิดถึง (Sky Of my Memories)

เสียงเสียดสีของสายไวโอลิน
ถูกบรรเลงอย่างไพเราะพริ้วไหว คลอด้วยเสียงเปียโนกระทบดังเข้าจังหวะ ภายในห้องโถงทรงห้าเหลี่ยม ที่ขณะนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มละลานตา ดอกไม้สีสวยสดหลากหลายพันธุ์ถูกประดับตกแต่งให้เหมาะสมกับเป็นงานมงคล หญิงสาวและชายหนุ่มเจ้าของงานยืนโปรยรอยยิ้มแจกผู้คนที่มาร่วมแสดงความยินดีอยู่บนเวทีทรงห้าเหลี่ยมที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับลักษณะของตัวอาคาร เก้าอี้ไม้ทรงยาวที่ถูกจัดเรียงไว้สำหรับแขกผู้ร่วมงานบัดนี้ถูกจับจองจนเต็มหมดแล้ว งานแต่งงานของเขาและเธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผมเห็นแล้วก็อดตื่นเต้นแทนไม่ได้จริงๆ ชายหนุ่มแต่งชุดสูทดูสง่างามหยุดนิ่งคิดอยู่ที่หน้าประตูทางเข้างาน รอยยิ้มเล็กๆก่อตัวขึ้นที่มุมปากของเขา ''ผมไม่รู้ว่าผมควรจะดีใจหรือเปล่า แต่ถ้าตามความถูกต้อง ผมควรจะดีใจกับเธอ ก็เพื่อนที่ผมรักมากที่สุดตอนนี้ เธอกำลังจะแต่งงานกับชายที่เธอรักมากที่สุด
อยู่แล้วนี่นะ''
ช่อดอกไม้สีแดงสดถูกห่อด้วยกระดาษสีชมพูอ่อน ขณะนี้กำลังล่องลอยอยู่กลางอากาศ เนื่องจากถูกโยนโดยมือของหญิงสาวในชุดแต่งงานสีขาวครีม เธอ ยืนอย่างสง่างามอยู่บนเวที เธอเปรียบดั่งเจ้าหญิงในที่แห่งนี้ ผู้คนมากมายวิ่งกรูกันเข้าไปแย่งชิง กลีบสีแดงสดของมันแตกกระจายออกจากกันก่อนจะค่อยๆล่วงหล่นลงบนพื้นพรหมสีเขียวขี้มาที่ถูกปักลายสวยงามอย่างปราณีต เช่นเดียวกับความทรงจำของผมในขณะนี้มันกำลังแตกกระจายอีกครั้ง......
เด็กผู้หญิงถักเปียสองข้างหน้าตาน่ารัก สวมชุดนักเรียนดูเรียบร้อยขาวสะอาดตากำลังนั่งร้องไห้อยู่บริเวณชิงช้าของสนามเด็กเล่น
'เธอ เป็นอะไรเหรอ' เสียงจากเด็กผู้ชายหัวเกรียนฟันหลอ ส่วมใส่เสื้อผ้านักเรียนแลดูยับยุ่งเหยิงไร้ความเรียบร้อย เอ่ยถามเพื่อนร่วมโลกด้วยความเป็นห่วง เด็กหญิงไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยังคงร้องไห้อยู่ เช่นเคย เขาส่งผ้าเช็ดหน้าให้คนอ่อนแอตรงหน้าใช้เพื่อซับน้ำตา ไม่ไกลจากตัวของเธอมีกล่องดินสอหล่นแตกกระจัดกระจายอยู่ข้างๆตัว แค่นั้นก็พอจะเป็นคำตอบให้แก่คนถามได้แล้ว
'พวกนั้นแกล้งเธอใช่ไหม' แม้เขาจะเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ แต่ก็พอจะคาดเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ไกลมากนักจากบริเวณสนามเด็กเล่น มีกลุ่มเด็กนักเรียนชายรุ่นพี่ตัวอ้วนโตเกินอายุ กำลังระเบิดหัวเราะร่าราวกับผู้ชนะ ในมือของเด็กพวกนั้นกำลังแย่งชิงกันเล่นตุ๊กตารูปปูสีฟ้ากันอย่างสนุกสนาน 
'เอาตุ๊กตาคืนเจ้าของไปเดี๋ยวนี้เลยนะ เจ้าพวกนิสัยไม่ดี' เด็กชายตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ตะโกนประกาศสงครามกับพวกเด็กรุ่นพี่ ราวกับอัศวินกำลังจะสู้รบกับมังกรยักษ์
ไม่นานมากนักเหตุการณ์ทั้งหมดก็ยุติลง โลกของเด็กชายผู้กล้าหาญยังคงหมุนติ้ว เนื่องจากเป็นผลของการโดนกำปั้นรุ่นพี่จอมเกเร ต่อยเขาจนนับไม่ถ้วน
เด็กหญิงเจ้าของตุ๊กตารูปปู ได้มันหวนกลับคืนมาอีกครั้งด้วยความดีใจ 'เธอๆ เจ็บมากมั้ย' เสียงแหลมเล็กของเด็กหญิงเอ่ยถามเพื่อนใหม่ที่วันนี้เขามาช่วยเธอไว้จากการถูกรังแก 'ไม่หรอก' คำตอบที่ใครๆก็รู้ว่ามันคือคำโกหก ก่อนที่เขาจะเอาฝ่ามือค่อยๆจับปากที่แตกของตัวเอง โอยย !!
'ขอบใจมากนะ ว่าแต่เธอชื่ออะไรหรอ' 
'เราชื่อคีย์'
'เราชื่อท้องฟ้า ยินดีที่ได้รู้จักนะ' 
เสียงเอี๊ยดแอ๊ด ของโซ่ชิงช้าที่ขึ้นสนิมถูกแกว่งไปมาโดยเด็กสองคน มิตรภาพที่ดีฟุ้งกระจายไปรอบบริเวณสนามแห่งความฝันของเด็กๆ 
'เร็วๆสิฟ้า เดี๋ยวก็เข้าเรียนไม่ทันหรอก' เสียงตะโกนเป็นสัญญานเตือนดังมาจากหน้าบ้านไม้สองชั้นแห่งนี้ ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาเร่งรัดเพื่อนของตนว่าควรจะรีบกว่านี้
'เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว' เสียงตะโกนตอบกลับพร้อมเสียงวิ่งปึงปังลงมาจากชั้นสองของบ้าน ปรากฏร่างหญิงสาวหน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโตในชุดนักศึกษาดูเรียบร้อย
'แกหน่ะเร่งฉันจัง' หญิงสาวแกล้งทำหน้าบูดใส่เพื่อนของเขาก่อนจะรีบพากันเดินทางไปมหาวิทยาลัย 
'งานเยอะชะมัดเลยช่วงนี้' ท้องฟ้าบ่นอุบอิบก่อนจะหยิบกระดาษกองโตขึ้นมาเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันให้เพื่อนรักของเธอดู
'เอาเถอะน่า ค่อยๆทยอยทำเดี๋ยวก็เสร็จเองแหล่ะ เดี๋ยวเย็นนี้เราไปช่วยฟ้าทำก็ได้' ดวงตะวันกำลังลาลับขอบฟ้า ดวงจันทร์กำลังเริ่มทำหน้าที่ของตน ฝูงนกเริ่มทยอยบินกลับรัง คีย์ช่วยท้องฟ้าทำงานอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนของมหาวิทยาลัยจนเวลาล่วงเลยผ่านไปจนเย็น 
'เย้ ในที่สุดก็เสร็จสักที ขอบใจแกนะคีย์' หญิงสาวท่าทางทะเล้นพูดอย่างดีใจก่อนจะทำท่าบิดขี้เกียจ 
'กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวจะมืดค่ำ' คีย์เอ่ยชวนเพื่อนรักก่อนจะช่วยแบกหนังสือเรียนกองใหญ่กลับบ้าน ทั้งสองเดินหยอกล้อกันไปตลอดทาง ถนนเส้นแห่งควาททรงจำนี้ทอดยาวไปจนถึงบ้านของท้องฟ้า
'ขอบใจนะแกที่เดินมาส่ง กลับบ้านดีๆหล่ะ' หญิงสาวยิ้มให้แก่ชายหนุ่มก่อนจะโบกมือให้
และเดินเข้าบ้านไป ทุกๆรอยยิ้มของท้องฟ้ามันช่างน่ารักเสมอสำหรับชายหนุ่ม 'เธอคือท้องฟ้าที่สวยที่สุดสำหรับผม'
ยิ่งวันเวลาล่วงเลยผ่านไป มันยิ่งทำให้ความรู้สึกดีที่ผมมีต่อเธอมากขึ้นๆ จนหัวใจของผมเองไม่ซื่อสัตย์กับเธอแล้ว ผมคิดกับเธอเกินกว่าเพื่อน จากเพื่อนรักตอนนี้มันกลายเป็นรักเพื่อน ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่ผมต้องเก็บฝังมันไว้ในใจคนเดียวตลอดมา หรืออาจจะ 'ตลอดไป'
ปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายแล้ว
ที่ผมและเธอจะได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกันแบบนี้ เนื่องจากปีหน้าเราทั้งสองคนก็จะเรียนจบ ผมคิดว่าเธอกับผม คงจะห่างกันมากขึ้น และนี่ก็เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเอาซะเลย
กลิ่นฉุนของยาที่โรงพยาบาลทำให้คีย์รู้สึกเวียนหัวกับมัน ถ้าหากไม่มีเรื่องจำเป็นเขาไม่เคยคิดจะเหยียบเข้ามา เสียงเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้น หญิงสาวที่อยู่ในชุดคนไข้ของโรงพยาบาลหันมองทันทีตามสัญชาติยาน ภาพที่เธอเห็นทำให้เธอยิ้มออกมาได้
'นึกว่าแกจะไม่มาซะแล้ว' คนพูดทำสายตาค้อนใส่ คีย์ที่หอบหิ้วอาหารมามากมายรีบวางลงที่โต๊ะก่อนจะรีบตอบกลับเพื่อนสาวของตน
'แหม่ไม่มาได้ยังไงหล่ะ เพื่อนเข้าโรงบาลทั้งคน พอดีติดทำงานที่คณะเลยมาช้า ไม่โกรธเนอะ' ชายหนุ่มยิ้มแบบแหยๆ ฝ่ายหญิงที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ทำหน้าทะเล้นก่อนจะยักไหล่ใส่ผู้เป็นเพื่อน
'กินอะไรหรือยัง' ชายหนุ่มเอ่ยถามคนป่วย
'ยังเลย รอคุณแม่อยู่ ยังไม่เห็นมาเลย ไม่อยากกินอาหารของโรงบาล' เธอทำหน้าบูดๆเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าอาหารของโรงพยาบาลไม่อร่อย
'งั้นกินข้าวต้มสักหน่อยนะเราซื้อมาฝาก เจ้านี้อร่อยมากขอบอก' ชายหนุ่มรีบจัดเตรียมอาหารให้เพื่อนรักทันที เสียงวางช้อนกระทบขอบถ้วยดังแกร๊งเบาๆ เป็นเสียงบ่งบอกว่าข้าวต้มในถ้วยหมดลงแล้ว
'อิ่มมาก ขอบใจนะแก เจ้านี้อร่อยจริงๆ' คีย์ที่กำลังนั่งจิ้มโทรศัพท์มือถืออยู่ ละสายตาจากจอภาพก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบน้ำและยามาให้ท้องฟ้า
'กินซะ จะได้หายไวๆ' หลังจากอาหารและยาตกถึงท้องได้ไม่นาน ท้องฟ้าก็เผลอหลับไป คีย์มองดูใบหน้าของท้องฟ้าก่อนจะเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว 
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ท้องฟ้าจะอยู่โรงพยาบาล เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ หมอได้อนุญาตให้เธอกลับบ้านได้แล้ว วันนี้คุณแม่ของท้องฟ้าไม่ว่างมารับ จึงฝากให้เพื่อนสนิทที่ผู้เป็นแม่ไว้ใจมากที่สุด
อย่างคีย์มารับท้องฟ้ากลับบ้าน ผมมาหาเธอก่อนเวลานัดประมาณ
ครึ่งชั่วโมงได้ เนื่องจากเผื่อเวลามาไว้ช่วยเธอเตรียมเก็บของ"ติ๊ง" เสียงสัญญานบ่งบอกว่าขณะนี้ถึงชั้นที่ 6 ของโรงพยาบาลแล้ว สองเท้าของผมค่อยๆก้าวออกจากลิฟท์ เธอคงรอคอยผมอย่างใจจดใจจ่อแล้วมั้งป่านนี้ สองข้างทางเดิน เต็มไปด้วยห้องพักผู้ป่วย 
คีย์ที่กำลังจะเคาะประตูได้ยินเสียงเพื่อนรัก
คุยโทรศัพท์แว่วๆออกมา เขาจึงหยุดนิ่งก่อนจะค่อยๆเอาหูแนบฟัง ถึงแม้มันจะดูเป็นการเสียมารยาทก็ตาม
"ฮืออ...ฟ้าไม่ได้รักธามอีกแล้ว พอซักที"
เสียงบทสนทนากับเสียงสะอื้นของหญิงสาวยังดังแว่วมาทำเอาคนที่แอบฟังกำมือเข้าหากันแน่นก่อนที่จะตัดสินใจเคาะประตูและเปิดเข้าไป ภาพของท้องฟ้าที่น้ำตาไหลเต็มหน้า ดวงตากลมโตเปอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บปวด
"แกเป็นอะไรฟ้า"
"เปล่าไม่ได้เป็นอะไรหรอก คีย์อย่าพึ่งถามได้ไหม ฟ้าปวดหัว"
"ฟ้า....แกยังมีเรานะ" แขนยาวของชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กๆของผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดเอาไว้ ถึงแม้เธอจะไม่ต้องการเขาก็ตาม แต่เขาก็พร้อมจะยืนอยู่ตรงนี้ข้างๆเธอตลอดไป......
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่