ประชาธิปัตย์นี่แปลกนะครับมักจะชอบทำโอกาสที่ได้ให้มันเสียไปอยู่เรื่อย
และบ่อยครั้งที่แปลงโอกาสที่ได้ให้เป็นวิกฤติซะงั้น
อย่างปรากกการณ์ม๊อบต่อต้านฯที่ดูจะออกตัวแรง ดูมีพลังมีคนกระโดดร่วมอย่างกว้างขวาง
แต่เลี้ยงกระแสไม่เป็นหรือไงไม่รู้ พอรัฐบาลตัดหัวเชื้อก็ฟ่อเลยดูจะไปไม่เป็นเอา กลายสภาพเป็นแค่ม๊อบอารมณ์ค้างไปซะดื้อๆ
ตามความเห็นส่วนตัวของผมนะ ความล้มเหลวมันน่าจะมาจากความดัดจริตแต่แรกนั่นแหละ
ไม่กลั่นกรองหัวหน้าม๊อบให้ดี จะมาเล่นงานเค้าเรื่องโกงก็ต้องหาคนนำม๊อบที่ไม่มีครหาในเรื่องนี้มานำสิ
เอาคนที่มีแผลเหมือนกันมาชี้นิ้วด่าคนอื่นมันก็ดัดจริตชัดๆ
ยิ่งไปเอาดาราหรือคนดังอะไรมาช่วยตะโกนต่อต้านมันก็เลยพากันดัดจริตไปใหญ่
เห็นออกตัวกันแรงๆไปตามอารมณ์หากหนีภาพดัดจริตกันไม่พ้นก็ฆ่าตัวตายปล่าวๆจริงมั๊ย?
เพราะพวกคุณอาจจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ มองไม่เห็น แต่คนที่เค้าเห็นด้วยกับอุดมการณ์และยืนดูอยู่น่ะ
เค้าเห็นนะ
ยิ่งเวลาอีกฝ่ายหนึ่ง เค้าตอกกลับมาว่าหัวหน้าม๊อบเอ็งก็โกง มันเถียงไม่ออก แถไปก็ดัดจริตกันไปใหญ่
จริงๆแล้วถ้าไม่เอาสุเทพกับอภิสิทธิมานำ
ก็ยังมีโกาสได้เสียงสนับสนุนจากคนเสื้อแดงบางส่วน ที่มีไม่น้อยเลยที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม
พอมีสองคนนี้มาแล้วมันทำให้เค้าทำใจกันลำบากร็อยู่แก่ใจว่ารัฐบาลนั้นอยู่ได้เพราะเสื้อแดง
ถ้าไปดึงมวลชนแบ่งมาไม่ได้ ภาพ"เสียงของประชาชนส่วนใหญ่"ยังไงมันก็ไม่สมบูรณ์
นี่คือความจริง
ดัดจริตที่สองก็คือ
ออกมาต่อต้านการนิรโทษกรรมแต่ดันเลือกต่อต้านแค่ฉบับเดียว คนกลางๆเค้าก็ต้องคิดล่ะว่านี่มันยังไงกัน
ตาบอดหูหนวกมองไม่เห็นกันหรืออย่างไรว่ามันมีฉบับอื่นอีกที่น่าเกลียด
หลักนิติธรรมมีสองมาตรฐาณได้ด้วยหรือ?
ดัดจริตที่สามก็คือ
ออกมาต้านกันแต่ไม่ค่อยสนที่มาที่ไปกันแม้แต่น้อย มากันด้วยความอคติเพียวๆ
ต้นสายปลายเหตุหลักที่มาของพรบ.ฉบับนี้ ข้ออ้างเขาคือ ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งเพื่อให้เกิดความปรองดอง
เมื่อคุณจะมาต่อต้านไม่ให้มันเกิดขึ้นก็ต้องมีคำตอบให้กับปัญหาที่มีสิ
ไม่เอานิรโทษกรรมแล้วพวกคุณมีความยุติธรรม ความถูกต้องอะไรมาเสนอกับ
คนที่เจ็บ ที่ตาย คนที่ติดคุก ต้องคดีทั้งหลายบ้าง
มีทางออกให้กับความขัดแย้งมั๊ย?
ไม่มีเลยนี่ครับ มาเย้วๆกันว่าไม่เอาๆกันอย่างเดียว ไม่มีการพูดถึงประชาชนที่เสียชีวิตจากความขัดแย้งทั้งสองฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
ทำให้รู้สึกเหมือนว่า พวกคุณไม่อยากรู้ความจริงอย่างนั้นแหละ
ดัดจริตที่สี่ก็คือ
การที่จะมาชุนุมทางการเมืองโดยมีพื้นฐาณตามหลักของประชาธิปไตยคุณก็ต้องมีใจยึดมั่นกับระบอบประชาธิปไตยกันอย่างจริงใจ
ไม่ใช่ตะโกนด่าว่าฝ่ายตรงข้ามเป็น"เผด็จการรัฐสภา"แต่กลับชูป้ายร้องหารัฐประหาร
ประกาศกันชัดๆไม่ได้หรือไงว่ายึดมั่นกับอุดมการณ์ประชาธิปไตย
หรือถ้าจริงๆแล้วไม่ได้นิยมประชาธิปไตยจริงๆ
ก็ประกาสไปเลยว่าพวกฉันไม่เอาประชาธิปไตย นะไม่ชอบ ไม่นิยม
ทีนี้จะร้องหาการปกครองแบบอื่นที่ตนชอบมันก็ไม่ดูดัดจริตอย่างที่เห็นว่ามั๊ย??
นักเรียน นักศึกษา ครูบาอาจารย์ จากสถาบันชั้นนำทั้งนั้น
ไม่มีซักคนเลยหรือที่จะออกมาชี้นำสังคมไปสู่ความถูกต้องยุติธรรม?
จะซื่อสัตย์กับตัวเองบอกความต้องการแท้จริงของตัวให้คนเเค้ารู้ไม่ได้หรือ?
ทำให้เห็นชัดว่าไม่มีศึกษากันมาให้ถ่องแท้ก่อนจะมาแสดงออกกัน
เลยกลายเป็นการ"กระแดะ"เกาะกระแสไปตามจริตและอารมณ์ตนอย่างที่เห็น
พลังขับเคลื่อนที่คาดหวังไว้มันหดหายหมดเลย
และดัดจริตที่สี่ก็คือ
อยากได้อะไรก็ไม่พูดตรงๆชัดๆ ในเมื่อลึกๆแล้วต้องการจะล้มรัฐบาล ก็บอกไปแต่แรกเลยว่าต้องการมาล้มรัฐบาลนะ
ล้มแล้วมีอะไรมานำเสนอทดแทนให้
ก็ชี้แจงให้ชัดเจน ถ้าดีจริงคนเค้าก็โดดเอาด้วยอยู่แล้วแน่ๆ
แต่นี่งึมๆงัมๆ อ้ำๆอึ้งๆ คนเค้ารู้แล้วล่ะว่าจะล้มรัฐบาล แต่เค้าอยากรู้ว่าล้มแล้วมันยังไงต่อ
ข้อเสนอมีแต่ต๊องๆเพี้ยนๆ แล้วดันมีจำอวดมาแทรกว่าจะให้ยะใสมาเป็นนายกฯงี้ มีการยึดอำนาจให้ทหารไปรายงานตัวงี้ มาอารยะขัดขืนให้คนขำอีกต่างหาก
มีแต่เลอะเทอะไร้สาระน่าสนใจ มันทำให้คนที่ติดตามรู้สึกว่า นี่ไม่มีการวางแผนกันมาเลยรึไง(วะ)
ไม่ได้คิดล่วงหน้ากันไว้เลยเรอะว่าถ้ารัฐบาลถอดชนวนทั้งหมดแล้ว
จะไปยังไงกันต่อ?
จะมายึดอำนาจการปกครองประเทศนะครับ ไม่ใช่นักเรียนยกพวกตีกัน ที่จะไปเสี่ยงกันเอาข้างหน้าว่าจะเจออะไร
คนที่พวกคุณต้องการให้เค้ากระโดดลงไปช่วยพวกคุณน่ะเค้ามองเห็น และก็ต้องคิดกันบ้างล่ะครับว่า
จะไปช่วยพวกนี้ล้มรัฐบาลแล้วให้ไปบริหารแทนนี่ คิดผิดรึปล่าวหว่า?
แค่เรื่องง่ายๆธรรมดาๆตรงไปตรงมา มันยังทำกันให้มันยากซะงั้น
ลูกมาเข้าทางซะขนาดนี้แล้วยังบริหารกันให้เป็นประโยชน์ไม่ได้ จะไปพึ่งให้มาบริหารประเทศได้ยังไงล่ะเนี่ย
สุดท้ายเผลอๆจะเข้าหรอบเดิมก็คือ ทำโอกาสนี้ให้เป็นวิกฤติเข้าตัวจนได้แหละ
เพราะคนทั่วไปเค้าก็มองเห็น"ดัดจริตที่ห้า"กันแล้ว
ที่ว่าไม่ต้องการนิรโทษกรรมนั่นแหละ ว่าไม่เอาๆพอเค้าไม่เอาจริงๆ
แล้วสว. พวกเดียวกันดันไปอิดออด แสดงท่าทีไม่อยากล้มซะนี่
ทีนี้เป็นไงล่ะ ประกาศลาออกจากสส.ไม่มีสิทธิคุ้มครอแล้วง นิรโทษกรรมก็ไม่มีไม่ได้เกิดแน่ๆ
ประกาศชัยชนะซักหน่อยดีมั๊ยพี่เทพ?ไหนๆก้อ
ม๊อบต่อต้านฯความดัดจริตกับโอกาสที่น่าเสียดาย
และบ่อยครั้งที่แปลงโอกาสที่ได้ให้เป็นวิกฤติซะงั้น
อย่างปรากกการณ์ม๊อบต่อต้านฯที่ดูจะออกตัวแรง ดูมีพลังมีคนกระโดดร่วมอย่างกว้างขวาง
แต่เลี้ยงกระแสไม่เป็นหรือไงไม่รู้ พอรัฐบาลตัดหัวเชื้อก็ฟ่อเลยดูจะไปไม่เป็นเอา กลายสภาพเป็นแค่ม๊อบอารมณ์ค้างไปซะดื้อๆ
ตามความเห็นส่วนตัวของผมนะ ความล้มเหลวมันน่าจะมาจากความดัดจริตแต่แรกนั่นแหละ
ไม่กลั่นกรองหัวหน้าม๊อบให้ดี จะมาเล่นงานเค้าเรื่องโกงก็ต้องหาคนนำม๊อบที่ไม่มีครหาในเรื่องนี้มานำสิ
เอาคนที่มีแผลเหมือนกันมาชี้นิ้วด่าคนอื่นมันก็ดัดจริตชัดๆ
ยิ่งไปเอาดาราหรือคนดังอะไรมาช่วยตะโกนต่อต้านมันก็เลยพากันดัดจริตไปใหญ่
เห็นออกตัวกันแรงๆไปตามอารมณ์หากหนีภาพดัดจริตกันไม่พ้นก็ฆ่าตัวตายปล่าวๆจริงมั๊ย?
เพราะพวกคุณอาจจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ มองไม่เห็น แต่คนที่เค้าเห็นด้วยกับอุดมการณ์และยืนดูอยู่น่ะ
เค้าเห็นนะ
ยิ่งเวลาอีกฝ่ายหนึ่ง เค้าตอกกลับมาว่าหัวหน้าม๊อบเอ็งก็โกง มันเถียงไม่ออก แถไปก็ดัดจริตกันไปใหญ่
จริงๆแล้วถ้าไม่เอาสุเทพกับอภิสิทธิมานำ
ก็ยังมีโกาสได้เสียงสนับสนุนจากคนเสื้อแดงบางส่วน ที่มีไม่น้อยเลยที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม
พอมีสองคนนี้มาแล้วมันทำให้เค้าทำใจกันลำบากร็อยู่แก่ใจว่ารัฐบาลนั้นอยู่ได้เพราะเสื้อแดง
ถ้าไปดึงมวลชนแบ่งมาไม่ได้ ภาพ"เสียงของประชาชนส่วนใหญ่"ยังไงมันก็ไม่สมบูรณ์
นี่คือความจริง
ดัดจริตที่สองก็คือ
ออกมาต่อต้านการนิรโทษกรรมแต่ดันเลือกต่อต้านแค่ฉบับเดียว คนกลางๆเค้าก็ต้องคิดล่ะว่านี่มันยังไงกัน
ตาบอดหูหนวกมองไม่เห็นกันหรืออย่างไรว่ามันมีฉบับอื่นอีกที่น่าเกลียด
หลักนิติธรรมมีสองมาตรฐาณได้ด้วยหรือ?
ดัดจริตที่สามก็คือ
ออกมาต้านกันแต่ไม่ค่อยสนที่มาที่ไปกันแม้แต่น้อย มากันด้วยความอคติเพียวๆ
ต้นสายปลายเหตุหลักที่มาของพรบ.ฉบับนี้ ข้ออ้างเขาคือ ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งเพื่อให้เกิดความปรองดอง
เมื่อคุณจะมาต่อต้านไม่ให้มันเกิดขึ้นก็ต้องมีคำตอบให้กับปัญหาที่มีสิ
ไม่เอานิรโทษกรรมแล้วพวกคุณมีความยุติธรรม ความถูกต้องอะไรมาเสนอกับ
คนที่เจ็บ ที่ตาย คนที่ติดคุก ต้องคดีทั้งหลายบ้าง
มีทางออกให้กับความขัดแย้งมั๊ย?
ไม่มีเลยนี่ครับ มาเย้วๆกันว่าไม่เอาๆกันอย่างเดียว ไม่มีการพูดถึงประชาชนที่เสียชีวิตจากความขัดแย้งทั้งสองฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
ทำให้รู้สึกเหมือนว่า พวกคุณไม่อยากรู้ความจริงอย่างนั้นแหละ
ดัดจริตที่สี่ก็คือ
การที่จะมาชุนุมทางการเมืองโดยมีพื้นฐาณตามหลักของประชาธิปไตยคุณก็ต้องมีใจยึดมั่นกับระบอบประชาธิปไตยกันอย่างจริงใจ
ไม่ใช่ตะโกนด่าว่าฝ่ายตรงข้ามเป็น"เผด็จการรัฐสภา"แต่กลับชูป้ายร้องหารัฐประหาร
ประกาศกันชัดๆไม่ได้หรือไงว่ายึดมั่นกับอุดมการณ์ประชาธิปไตย
หรือถ้าจริงๆแล้วไม่ได้นิยมประชาธิปไตยจริงๆ
ก็ประกาสไปเลยว่าพวกฉันไม่เอาประชาธิปไตย นะไม่ชอบ ไม่นิยม
ทีนี้จะร้องหาการปกครองแบบอื่นที่ตนชอบมันก็ไม่ดูดัดจริตอย่างที่เห็นว่ามั๊ย??
นักเรียน นักศึกษา ครูบาอาจารย์ จากสถาบันชั้นนำทั้งนั้น
ไม่มีซักคนเลยหรือที่จะออกมาชี้นำสังคมไปสู่ความถูกต้องยุติธรรม?
จะซื่อสัตย์กับตัวเองบอกความต้องการแท้จริงของตัวให้คนเเค้ารู้ไม่ได้หรือ?
ทำให้เห็นชัดว่าไม่มีศึกษากันมาให้ถ่องแท้ก่อนจะมาแสดงออกกัน
เลยกลายเป็นการ"กระแดะ"เกาะกระแสไปตามจริตและอารมณ์ตนอย่างที่เห็น
พลังขับเคลื่อนที่คาดหวังไว้มันหดหายหมดเลย
และดัดจริตที่สี่ก็คือ
อยากได้อะไรก็ไม่พูดตรงๆชัดๆ ในเมื่อลึกๆแล้วต้องการจะล้มรัฐบาล ก็บอกไปแต่แรกเลยว่าต้องการมาล้มรัฐบาลนะ
ล้มแล้วมีอะไรมานำเสนอทดแทนให้
ก็ชี้แจงให้ชัดเจน ถ้าดีจริงคนเค้าก็โดดเอาด้วยอยู่แล้วแน่ๆ
แต่นี่งึมๆงัมๆ อ้ำๆอึ้งๆ คนเค้ารู้แล้วล่ะว่าจะล้มรัฐบาล แต่เค้าอยากรู้ว่าล้มแล้วมันยังไงต่อ
ข้อเสนอมีแต่ต๊องๆเพี้ยนๆ แล้วดันมีจำอวดมาแทรกว่าจะให้ยะใสมาเป็นนายกฯงี้ มีการยึดอำนาจให้ทหารไปรายงานตัวงี้ มาอารยะขัดขืนให้คนขำอีกต่างหาก
มีแต่เลอะเทอะไร้สาระน่าสนใจ มันทำให้คนที่ติดตามรู้สึกว่า นี่ไม่มีการวางแผนกันมาเลยรึไง(วะ)
ไม่ได้คิดล่วงหน้ากันไว้เลยเรอะว่าถ้ารัฐบาลถอดชนวนทั้งหมดแล้ว
จะไปยังไงกันต่อ?
จะมายึดอำนาจการปกครองประเทศนะครับ ไม่ใช่นักเรียนยกพวกตีกัน ที่จะไปเสี่ยงกันเอาข้างหน้าว่าจะเจออะไร
คนที่พวกคุณต้องการให้เค้ากระโดดลงไปช่วยพวกคุณน่ะเค้ามองเห็น และก็ต้องคิดกันบ้างล่ะครับว่า
จะไปช่วยพวกนี้ล้มรัฐบาลแล้วให้ไปบริหารแทนนี่ คิดผิดรึปล่าวหว่า?
แค่เรื่องง่ายๆธรรมดาๆตรงไปตรงมา มันยังทำกันให้มันยากซะงั้น
ลูกมาเข้าทางซะขนาดนี้แล้วยังบริหารกันให้เป็นประโยชน์ไม่ได้ จะไปพึ่งให้มาบริหารประเทศได้ยังไงล่ะเนี่ย
สุดท้ายเผลอๆจะเข้าหรอบเดิมก็คือ ทำโอกาสนี้ให้เป็นวิกฤติเข้าตัวจนได้แหละ
เพราะคนทั่วไปเค้าก็มองเห็น"ดัดจริตที่ห้า"กันแล้ว
ที่ว่าไม่ต้องการนิรโทษกรรมนั่นแหละ ว่าไม่เอาๆพอเค้าไม่เอาจริงๆ
แล้วสว. พวกเดียวกันดันไปอิดออด แสดงท่าทีไม่อยากล้มซะนี่
ทีนี้เป็นไงล่ะ ประกาศลาออกจากสส.ไม่มีสิทธิคุ้มครอแล้วง นิรโทษกรรมก็ไม่มีไม่ได้เกิดแน่ๆ
ประกาศชัยชนะซักหน่อยดีมั๊ยพี่เทพ?ไหนๆก้อ