อยากทราบเมนู อาหาร สำหรับเด็ก 6 เดือนค่ะ

คือ ลูกสาว เพิ่งเริ่มทานอาหารเสริม อยากทราบว่ามีเมนูอะไรบ้าง พอดีไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ มีลูกคนแรกเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ รบกวนแม่ๆช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
-    เราให้ทานข้าวตุ๋นแล้วก็ใส่ผักบด ผสมรวมกับไข่แดง ผักที่ใช้ก็บล็อคโคลี่ แครอท ผักโขม โดยนำไปนึ่งก่อน แล้วก็ปั่น เสร็จก็ผสมกับข้าวตุ๋น สารอาหารเพียบ ลูกก็ช๊อบ...ชอบ

- เราเคยเข้าอบรมคุณแม่มือใหม่ที่สมิติเวชอะค่ะ อาจารย์ที่เป็นวิทยากรเค้าแนะนำว่านมแม่ให้กินได้ถึงเดือนที่ 6 และควรเริ่มให้อาหารเสริมตอนเดือนนี้ มื้อแรกก็คือข้าวบดละเอียดอะค่ะ แทนนมแม่ 1 มื้อ อาจารย์เค้าไม่แนะนำกล้วยเพราะว่ากล้วยน้ำว้าจะมีรสหวาน ถ้าให้กินกล้วยเด็กจะไม่ยอมกินข้าว..ส่วนในหนังสือที่อ่านเจอนี่เค้าบอกว่า เดือนที่ 5 ให้เด็กกินน้ำต้มผักวันละ 1 ช้อนชา เพื่อให้กระเพาะได้ย่อยอาหารอื่นนอกจากนมแม่ แล้วอาหารอื่นเริ่มเดือนที่ 6... อันนี้อยู่ในดุลยพินิจคุณแม่เองนะคะ ว่าจะเชื่อตำราไหน

- เริ่มข้าวตุ๋นได้แล้วค่ะ ต้มข้าว ใส่ผัก แล้วมาบดให้เค้ากิน วันละมื้อ แค่ช้อนโต๊ะเดียวก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มหมูบด เนื้อบดลงไปต้มบ้าง แต่ไม่เอาหมูหรือเนื้อให้กินนะคะ ให้กินน้ำต้มได้ค่ะ ค่อยๆเพิ่มทีละอย่างจะได้รู้ว่าไม่แพ้
ผักก็ฟักทอง แครอท ตำลึง ผักกาดขาว กวางตุ้ง ต้มแล้วบดผสมกับข้าวและน้ำซุป  หมอเราบอกว่าความเชื่อเก่าๆที่ว่าเอาหมู หรือเนื้อชิ้นโตๆมาเคี่ยวนานๆ คุณค่าทางสารอาหารจะสู้ เอาหมูบด หรือเนื้อบดมาต้มทำน้ำแกงให้เด็กไม่ได้ค่ะ

- ซุบเนื้อปลากับฟักทอง
เครื่องปรุง
ฟักทองสุกบดละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1/3 ถ้วยตวง
เนื้อปลาช่อนสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุง
1.ต้มน้ำพอเดือด ใส่เนื้อปลาลงไป คนให้กระจาย
2.ใส่ฟักทองบดละเอียดลงไป คนให้เข้ากันสักพัก ใส่ซอสถั่วเหลือง แล้วยกลง
ข้อน่ารู้
1.ใช้แครอตแทนฟักทอง หรือใช้ฟักทองและแครอตอย่างละครึ่งก็ได้
2.อาจใช้น้ำต้มเนื้อสัตว์ หรือน้ำแกงจืด และน้ำต้มผักแทนน้ำเปล่าก็ได้

ฟักทองบดกับนม
เครื่องปรุง
ฟักทองหั่นชิ้นเล็กๆ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำนมอุ่นๆ (ที่ลูกทานอยู่) 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุง
1.ต้มฟักทองที่หั่นชิ้นเล็กๆ จนนิ่มเละ แล้วนำมาบดด้วยหลังช้อนให้ละเอียด
2.อุ่นน้ำนมพอร้อน ใส่ฟักทองที่ครูดแล้วลงไปคนให้เข้ากันสักพัก จึงยกออกจากเตา
ข้อน่ารู้
1.จะใช้มันฝรั่งแทนฟักทองก็ได้ หรือจะใช้อย่างละครึ่งก็ได้ วิธีปรุงเช่นเดียวกัน
2.ถ้าไม่อุ่นน้ำนม อาจใช้น้ำร้อนผสมนมผงที่ลูกดื่มอยู่ประจำก็ได้

มันฝรั่งบดกับไข่แดง
เครื่องปรุง
มันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2 ช้อนโต๊ะ
แครอตหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ช้อนชา
เนยสด หรือน้ำมันพืช
ไข่แดงสด (เอาเยื่อหุ้มไข่แดงออก) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำนมอุ่นๆ (ที่ลูกทานอยู่) 2 ช้อนชา
วิธีปรุง
1.ต้มมันฝรั่งและแครอตด้วยกันคนจนสุกนิ่ม ครูดผ่านกระชอน หรือจะใช้ช้อนบดก็ได้
2.ละลายเนยลงในหม้อ ใช้ไฟอ่อน ใส่มันฝรั่ง และแครอตบดลงไป เติมน้ำนมอุ่นๆ และไข่แดง คนให้เข้ากัน จนไข่แดงสุก ยกออกจากเตา

ข้าวบดแครอตกับปลา
เครื่องปรุง
ปลายข้าวหรือข้าวสาร 1 ช้อนโต๊ะ
หรือข้าวสวย 2 ช้อนโต๊ะ
แครอตหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ
เนื้อปลาช่อนหรือปลาเนื้อขาวสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุง
1.ต้มข้าวสวย แครอต และเนื้อปลา ใช้ไฟปานกลางจนแครอตนิ่ม ข้าวและเนื้อปลาสุกนุ่ม อาจเติมน้ำมันและซอสถั่วเหลืองเล็กน้อย ยกออกจากเตา
2.นำมาบดด้วยหลังช้อนให้ละเอียด

ข้าวบดเนื้อไก่กับผักตำลึง
เครื่องปรุง
ข้าวสวย 2 ช้อนโต๊ะ
หรือปลายข้าว หรือข้าวสาร 1 ช้อนโต๊ะ
เนื้อไก่บดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ผักตำลึงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันเล็กน้อย

วิธีปรุง
1.ต้มข้าวสวย และผักตำลึงด้วยไฟปานกลาง จนข้าวและผักตำลึงสุกนิ่ม แล้วใส่เนื้อไก่ลงไปคนให้สม่ำเสมอ จนเนื้อไก่สุกดี ใส่น้ำมันคนให้เข้ากัน อาจเพิ่มรสชาติโดยเติมซอสถั่วเหลืองเล็กน้อยก็ได้
2.นำมาบดด้วยหลังช้อนให้ละเอียด
ข้อน่ารู้
ข้าวที่บดละเอียดแล้ว สามารถนำไปเก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็นได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนป้อนลูกนำมาอุ่นให้ร้อนในหม้อ หรือไมโครเวฟก็ได้

ข้าวบดกะหล่ำปลีม่วง
ส่วนผสม
-  กะหล่ำปลีม่วงต้มสุกสับละเอียด  1  ช้อนโต๊ะ
-  ไกสับ  2  ช้อนโต๊ะ
-  น้ำต้มกระดูกหมู  (หรือไก่)  1  ถ้วย
-  ข้าวสวยหุงนิ่ม ๆ  1 / 2  ถ้วย
วิธีทำ
-  นำไก่สับลวกจนสุกแล้วยีให้ละเอียด
-  นำข้าวสวย  กะหล่ำปลีม่วง  และไกสุกที่ยีแล้วผสมให้เข้ากัน
-  ใส่น้ำต้มกระดูกหมูเล็กน้อยพอสมเหลว
-  นำข้าวที่ผสมแล้วมาครูดผ่านกระชอนอีกครั้ง  ใส่ถ้วยรับประทานได้เลย
มื้อนี้ได้รับคุณค่าอาหาร  :  โปรตีน  คาร์โบไฮเดรต  วิตามินเอ  วิตามินบี  วิตามินซี  แคลเซียม  ฟอสฟอรัส  เหล็ก

ฟักทองนึ่งราดนมแม่
-- เอาฟักทองมานึ่งให้สุก แล้วเอานมแม่ที่อุ่นตามขั้นตอน มาผสม บดให้ละเอียด ถ้าใส่นมเยอะจะป็นซุป ถ้าใส่นิดนึงก็จะข้นๆๆค่ะ อร่อยดี หอมหวาน รสฟักกับ นมแม่

ข้าวตุ๋นนมแม่
--ใช้ปลายข้าวหอมมะลิตุ๋นกับนมแม่เลยก็ได้ หรือจะตุ๋นข้าวให้นิ่มก่อน ข้าวจะร้อนแล้ว เอานมแม่มาผสมคนให้เข้ากัน คล้ายๆๆโจ๊ก แต่ได้รับนมแม่ด้วย

ไอติมนมแม่
-- เอานมแม่ใส่ พิมพ์น้ำแข็ง ปอจะใช้พิมพ์ที่เป็น 2 ชิ้นประกบกัน น้ำแข็งที่ออกมาเป็น ทรงกลมเล็กๆๆค่ะ แต่ใช้ ครึ่งเดียว เอานมแม่ใส่ แล้วฟรีซตามปกติ พอแข็งแล้วแกะออกมา ใส่กระปุกแช่ฟรีซต่อ เอามาให้ลูกอมเล่นๆๆ เย็นๆๆ แก้คันเหงือกได้ด้วยจ้า

กล้วยสมูตี้
--กล้วยสุกๆๆครูดออกมา แล้วผสมนมแม่ ถ้ากลัวจะหยาบให้ผ่านกระชอนอีกที แล้วเอานมแม่ผสม ลูกอร่อย จะใช้นมที่เย็นๆๆเลยก็ได้( อย่าเย็นจัด) เป็นการฝึกทานของเย็นด้วย

ซุปข้นปลา
--ใช้ปลาเนื้อขาว จะนึ่งหรือต้มก่อนก็ได้ พอได้ออกมาแล้วผสมกับนมแม่แบบอุ่นๆๆ ปั่นๆๆๆให้ละเอียด กรองด้วยกระชอนอีกที ออกมาเป็นซุปข้น ได้โปรตีนจากเนื้อปลาด้วย

ตับบด
--ใช้ตับไก่ต้มพอสุกใส่ หอมหัวใหญ่ลงไปต้มด้วย จะได้ความหวานจากหอม อย่าให้แข็งนะคะ แล้วเอามาบดผ่านกระชอน แล้วผสมนมแม่ลงไป จะใส่มากใส่น้อย แล้วแต่จะชอบ ข้นหรือเหลวจ้า

ซุปบล๊อคโครี่
--บล๊อคโครี่ต้มสุก ต้มน้ำซุปกระดูก ใส่หอมหัวใหญ่ด้วย เพิ่มความหวาน เอาบล๊อคโครี่ ใส่น้ำซุปนิดนึง แล้วใส่นมแม่ ปั่นให้ละเอียด กรองออกมา ได้ซุปข้นอีกเมนูจ้า

แอปเปิ้ลซอส
--แอปเปิ้ล ปอกเปลือก หั่นชิ้นเล็กๆๆ แล้วเอาใส่หม้อ ใส่น้ำสะอาด พอดีกับแอปเปิ้ล ตั้งไฟอ่อนๆๆ จนสุกแอปเปิ้ลจะเป็นสีใส แล้วบดละเอียด ถ้าใช้ไม่หมด เก็บเข้าตู้เย็น กินเย็นๆๆก็อร่อยนะ เหมือนของเกอร์เบอร์เลย

ไข่ต้ม (น่าจะต้มเป็นนะคะ) ต้มให้สุกจริง ๆ เอาแต่ไข่แดงมาบี้ ๆ ผสมนม(แม่) รึน้ำก็ได้ แล้วป้อนลูกได้เลย จะให้เหลวซักแค่ไหนอันนี้ไม่แน่เพราะต้องขึ้นอยู่กับความชอบของน้องเจสน่ะ บางคนชอบเหลว ๆ แต่บางคนก็ไม่ยอมกินเหลว ๆ นะ (ลูกเราไม่ชอบเหลว ๆ เลย)

- ตับ ก็ซื้อตับ จะตับไก่รึตับหมูก็ได้ แต่เราชอบตับไก่ เราก็ให้ลูกกินตับไก่ เพราะเราจะได้กินด้วย เอามาล้าง หั่น แล้วก็ต้ม (ใส่น้ำนิดเดียวพอนะ จะได้ไม่เสียวิตามินไปกับน้ำ) แล้วก็ตักขึ้นมาบี้ ๆ ป้อนลูกได้เลยจ้า ถ้าลูกกลืนลำบากก็ใส่น้ำ (รึนม) ลงไปนิดหน่อยให้มันเหลวขึ้นนิดนึง (น้ำที่ต้มมันนั่นแหละ) รึว่าจะป้อนน้ำตามในคำถัดไปให้กลืนสะดวกก็ได้ค่ะ

- เนื้อหมู ไก่ ปลา ก็ซื้อมาล้างให้สะอาด เลือกเนื้อที่นิ่ม ก็คือตรงสันใน เอามาหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ ครึ่งเซน เอามาต้มทีละ 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่น้ำนิดเดียว) ทำเหมือนกะตับเลยค่ะ

- ปลาก็แร่เอาก้าง กะหนังปลาออก หั่นเป็นลูกเต๋าเหมือนกะหมูไก่เลยค่ะ ทำเหมือนกะตับเลยค่ะ

- ส้ม ก็ปอก แกะออกมาเป็นกลีบ ๆ หั่นแกนกลางออก (ไอ้ที่มันแข็ง ๆ น่ะ) แคะเม็ด แกะเยื่อด้านข้างออก ให้เหลือแต่ที่เป็นเซลน้ำนะคะ แล้วก็หั่นซัก 4 ส่วน ป้อนได้เลยค่ะ ไม่ต้องกลัวติดคอหรอกค่ะ เพราะแค่ลิ้นแตะ ๆ แต่ละเซลมันก็บี้แตกออกจากกันแล้ว แต่ถ้าเด็กกลืนไม่ได้ เค้าจะขย้อนออกมาเอง เป็นธรรมชาติ

- มะละกอ ปอก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ กว้างยาว 1 เซน หนา 2-3 มิล (ไม่ต้องบี้นะ มันจะเละจนตักไม่ได้) ป้อนได้เลยค่ะ เลือกมะละกอที่งอม ๆ ซักหน่อย, จะปรับเป็นมะม่วง รึผลไม้อะไรก็ได้ทีมีลักษณะเนื้อคล้าย ๆ กันน่ะค่ะ (ส่วนใหญ่เราจะซื้อผลไม้ที่มีอยู่เยอะในตลาดให้ลูกกิน)

- กล้วย (ยอดฮิต) ปอกเปลือกด้านบน เอามือจับที่เปลือกด้านล่าง แล้วเอาช้อนขูดที่ผิว ป้อนได้เลยค่ะ

- ผัก ตัวเองจะเริ่มจากผักหัว ๆ ก่อนก็ได้ เช่นฟักทอง แครอท ... หั่นชิ้นเล็ก ๆ หน่อย เอามาต้ม (ใส่น้ำนิดเดียว) ตักขึ้นมาบี้ ๆ ป้อนได้เลยค่ะ ถ้ากลืนลำบากก็ใส่น้ำลงไปนิดหน่อย รึว่าจะตักน้ำป้อนตามเมื่อรู้สึกว่าเค้ากลืนลำบากก็ได้ค่ะ

ควรจะซื้อหม้อใบเล็ก ๆ มานะคะ เวลาต้มจะได้ใส่น้ำนิดเดียว ต้มแป๊บเดียวสุก ไม่สูญเสียคุณค่าไปกับความร้อนและน้ำ
ไม่แนะนำให้ใส่น้ำลงไปเยอะ ๆ แล้วก็ปั่น

-    คือว่าที่เพื่อน ๆ แนะนำเยอะแยะน่ากินไปหมดเลยค่ะ
จริง ๆ แล้ว ขอยกเคสลูกตัวเองแล้วกันนะคะ เอาเท่าที่จำได้ว่า คุณหมอสั่งเล็คเชอร์มาว่า

ให้เริ่มอาหารเสริมมื้อแรก เป็นตอน เค้า 6 เดือนค่ะ
แต่น้อง 5 เดือนแล้วถ้าจะลองเล่น ๆ ไม่มีปัญหาอะไร
คุณหมอ บอกว่า ไม่อยากให้เริ่มเป็นพวกกล้วย เพราะว่ามันหวาน เค้าจะติดใจรสชาตินั้นไป กลายเป็นเด็กติดหวานค่ะ
เราเริ่มด้วยข้าวบดค่ะ เอามาตุ๋นกับผักเช่นฝักทอง หรือ แครอท
ครั้งแรก ๆ ค่อย ๆ ลองเริ่มที่ละอย่าง เพราะแค่ให้เค้าลองเทสดูว่าร่างกายต้องปรับตัวในการย่อย และ ซ้ำเมนูเดิมไปสัก 2-3 วันดูว่าแกไม่แพ้ ไม่ท้องอืด ก็แปลว่าแกรับอาหารนั้น ๆ ได้
ครั้งแรก ๆ เริ่มต้นแค่ 1-2 ช้อนโต๊ะแค่นั้นค่ะ ไม่ต้องเยอะ แล้วค่อย ๆ เพิ่มตามความต้องการของเค้า
ที่คุณหมอให้เริ่มด้วยผัก กับ ข้าวก่อน เพราะเด็กจะแพ้พวกนี้น้อยค่ะ
แล้วสักพัก ก็ลองเอาพวกกระดูกหมูมาตุ๋นทำน้ำซุป ใส่ผักด้วยก็ได้ค่ะ แล้ว กรองด้วยก่อนต้มให้เดือดอีกครั้งเพราะว่า เดี๋ยวเศษกระดูกจะติดคอค่ะ

ทำครั้งนึงแช่แข็งไว้ ใช้พรุ่งนี้ได้อีกนะคะ เอามาตุ๋นกับข้าวก่อนบดครูด ทำให้ข้าวต้มอร่อย รสธรรมชาติ เพราะอาหารเด็กก่อน 1 ขวบจะไม่มีการปรุงแต่งรสชาติใด ๆ นอกจาก จากธรรมชาติ เช่น ผัก กระดูกหมู
แล้ว ก้เริ่มให้กินเฉพาะไข่แดงได้ ตอน 6 เดือนแล้วค่ะ คอยดูอาการถ้าไม่แพ้ ก้ให้ต่อได้ เริ่มพวกโปรตีนอื่น ๆ ได้เช่นปลาค่ะ เพราะเนื้อนิ่ม

ลองทำดูแล้วกันนะคะ เมนูข้างบนเยอะเลยค่ะ

- กล้วยน้ำว้าครูด ตับบด ฟักทอง ข้าวบดครับ อร่อย!

- ทำไมไม่ทำอาหารให้น้องทานเองละคะ ได้คุณค่าและสดกว่ามากมาย
พวกผักต่างๆ จำพวกตำลึง ฟักทอง ผักกาดขาว ประมาณนี้อะ แล้วเอามานึ่งหรือต้มให้น้องกิน ก่อนกินก้อบดให้ละเอียดก่อน
-    - อายุ ครบ 3 เดือน
ข้าวบดใส่แกงจืด สลับกับกล้วยสุกครูดครั้งละ 1-3 ช้อนชาและให้ดูดนมตามจนอิ่ม

4-5 เดือน
ข้าวบดกับไข่แดงสุก หรือข้าวกับตับบด สลับกับข้าวกับถั่วต้มเปื่อยหรือเต้าหู้ขาว เริ่มให้มื้อละ 2-3 ช้อนชา ควรให้อาหารเสริมวันละมื้อ

เมื่อครบ 5 เดือน
เริ่มให้เนื้อปลาบดกับข้าวเติมฟักทองหรือผักใบเขียวบด เช่นผักตำลึง ผักบุ้ง

6-7 เดือน
เด็กอายุเกิน 6 เดือน ควรให้อาหารมื้อหลัก 1 มื้อเป็นข้าวบดใส่ไข่แดง ปลา ตับ ถั่วต้มเปื่อย เต้าหู้ขาวใส่ผักใบเขียวในปริมาณ 1 ถ้วย

เด็กอายุ 7 เดือน
เริ่มให้เนื้อสัตว์ต้มสุกซึ่งบดหรือสับละเอียดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับผักใบเขียว เริ่มให้ไข่ต้มสุกทั้งฟองและบดละเอียด นอกจากอาหารมื้อหลัก 1 มื้อแล้วควรให้กล้วยสุกครูด มะละกอสุก ฟักทองนึ่ง 2-4 ข้อนโต๊ะ

8-9 เดือน
อาหารหลัก 2 มื้อ มื้อละ 1 ถ้วย และผลไม้สุกอีก 1 ครั้ง

10-12 เดือน
อาหารหลัก 3 มื้อและขนมหวานหรือผลไม้สุก 1 ครั้ง

อีกอันจ้า...

+ + ไข่ตุ๋นแครอท + +  
ส่วนผสม
ไข่ไก่  น้ำซุป  แครอทสับละเอียด  นมที่ลูกกิน    ซีอิ๊วขาว
วิธีทำ
ผสมไข่ไก่ น้ำซุป แครอท ซีอิ๊วขาว นม ตีให้เข้ากัน ตั้งน้ำในลังถึงพอเดือด นำไข่ที่ผสมไว้นึ่งประมาณ 10-15 นาที หรือจนกระทั่งสุก
-    - + + ข้าวบดกับนม+ +
ส่วนผสม
นมที่ลูกทาน 2/3 ถ้วย  ข้าวสุกบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ  มาการีนหรือเนย 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
เทนมใส่หม้อตุ๋น ตั้งไฟพอร้อน ใส่ข้าวบด คนให้ทั่วด้วยพายไม้ ใส่มาการีน คนพอเข้ากัน ยกลง เติมนมอีก 1/4 ถ้วย คนให้ทั่ว

+ + ข้าวตุ๋นคุณหนู +  
ส่วนผสม
ข้าวสวย 1 ถ้วย  น้ำซุป  เต้าหู้อ่อนชนิดหลอดหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดเล็กๆ  เห็ดหอมสดสับละเอียด (ตัดเอาเฉพาะด้านบน)  ตำลึงสับละเอียด  หอมหัวใหญ่หั่นชิ้นเล็กๆ
วิธีทำ
ใส่น้ำซุปลงในหม้อต้มตั้งไฟ รอให้น้ำเดือด ใส่ข้าวสวยลงไป ทิ้งไว้สักครู่ พอเม็ดข้าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่