++++++++++ ..........นั่ น ไ ง......ว่ า แ ล้ ว เ ชี ย ว !!!!!!!!!!..........++++++++++

กระทู้สนทนา
ผมว่าแล้วเชียว
ว่าหลังศาลโลกมีคำวินิจฉัยออกมา
มันต้องมีการ "สะกดจิตหมู่" จนได้ครับ

เพราะโพสท์กันกระจายเลยในเฟสบุ๊ค
ว่า "ไทยเสียดินแดนให้เขมรแล้ว" จากการวินิจฉัยของศาลโลก

โพสท์กันจนผมสงสัยเลยว่าดูการถ่ายทอดสดกันหรือเปล่า ???
หรือ ดูกันแล้วได้ฟัง ได้ทำความเข้าใจกับการแปลของเขาหรือเปล่า ???
หรือ หากไม่เข้าใจภาษากฏหมายกัน แต่ได้ฟังที่ทูตวีระชัยพูดแบบ "ชัดเจน" หลังการวินิจฉัยของศาลหรือเปล่า ???

ใจคอคิดแต่จะใช้กำลังทหารเข้าลุย
คิดแต่จะถล่มเขมรเพื่อยึดไอ้เนินดินบ้าๆนั่นจริงๆเหรอครับ ???

ความขัดแย้ง หรือ ข้อพิพาทเรื่องเขตแดนนั้น
มันเกิดขึ้นได้กับทุกประเทศที่มีดินแดนคาบเกี่ยวกัน
เอาเข้าจริงๆแล้วดินแดน "อุษาคเนย์" แถบนี้มันเคยเป็นอาณาจักรเดียวกันด้วยซ้ำไป

ประเทศคู่ขัดแย้งส่วนใหญ่ในโลกนี้
เวลาเกิดข้อพิพาทแล้วเขา "เลือก" ที่จะใช้วิธีเจรจา
เพื่อหาข้อสรุปในการใช้พื้นที่เพื่อหาประโยชน์ร่วมกันทั้งนั้นครับ

การใช้กำลังทหารคือทางเลือกสุดท้าย (หากมันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ)

ตัวอย่างเช่น "หมู่เกาะสแปรทลี่ย์"
ที่แม้จะเป็นพื้นที่ทางทะเลที่ไม่ได้มีแหล่งพลังงานธรรมชาติมากมายนัก
แต่ดันมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ตรงที่เป็นจุดกำหนดดินแดนของหลายๆประเทศ

ก็อ้างสิทธิ์กันทั้ง จีน , ญี่ปุ่น ,
เวียดนาม , ฟิลิปปินส์ , มาเลเซีย , บรูไน
ในการที่จะมีสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้แห่งนี้

แต่ที่เป็นกรณีขัดแย้งแบบรุนแรง
เกิดขึ้นกับประเทศจีน และ  ญี่ปุ่นครับ

จีนเรียกหมู่เกาะสแปรทลี่ย์ว่า "เตียวหยู"
ส่วนญี่ปุ่นเรียกหมู่เกาะแห่งนี้ว่า "เซนคากุ"

วันดีคืนดีแอคทิวิสท์ชาวญี่ปุ่น
ดันทะลึ่งลอยเรือเข้าไปในแถบนั้น
และ ขึ้นไปปักธงชาติญี่ปุ่นลงบนเกาะดังกล่าว

ญี่ปุ่นอ้างว่าทำไปเพื่อระลึกถึงคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ

แต่การกระทำของแอคทิวิทส์แดนปลาดิบ
ได้สร้างความโกรธเคืองให้กับพญามังกรอย่างมาก
และนำไปสู่การประท้วงและเหตุรุนแรงในกว่า 12 เมืองในจีน

ทั้งจีนและญี่ปุ่นต่างก็ฮึ่มฮั่มใส่กัน
คนจีนก็ออกมาก่อม๊อบประท้วงญี่ปุ่น
ส่วนคนญี่ปุ่นก็ออกมาเดินขบวนประท้วงจีน

แต่ท้ายที่สุดผู้นำของทั้ง 2 ชาติก็หาทางเจรจากันเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กำลังครับ

เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น ก็มีกรณีพิพาทครับ
ทั้ง 2 ประเทศอ้างกรรมสิทธิ์ในหมู่เกาะย่านแปซิคฟิค
เกาหลีใต้เรียกเกาะนี้ว่า "ด็อคโด" ส่วนญี่ปุ่นเรียกเกาะนี้ว่า "ทาเคชิมา"

ความขัดแย้งของทั้ง 2 ชาติลามปามไปจนถึงเรื่องกีฬา
เพราะคณะกรรมการโอลิมปิกสากลไม่ยอมให้ "ปาร์ค จอง วู" นักบอลโสมใต้ขึ้นรับเหรียญทองแดง
จากแม็ทช์ที่เกาหลีใต้ชนะญี่ปุ่นไป 2-0  เพราะนักเตะโสมใต้ผู้นี้ดันทะลึ่งไปชูป้ายหลังจบเกมเป็นภาษาเกาหลีว่า "ด็อกโดคือแผ่นดินของเรา"

แต่ท้ายที่สุดทั้ง 2 ชาติก็เลือกที่จะใช้การเจรจาอยู่ดี

จีน กับ อินเดีย ก็มีปัญหากันในดินแดนแคชเมียร์ครับ
แม้จะเป็นประเทศยักษ์ใหญ่ทั้งคู่ แต่ทั้ง 2 ชาติก็ไม่อยากรบกัน
ผู้นำมังกร และ ผู้นำโรตี เลือกที่จะใช้วิธี "คุย" เพื่อลดการเผชิญหน้า

จะมีขาดช่วงก็ในตอนที่จีน "งอน" อินเดีย
เพราะอาบังดันอนุญาตให้ "ดาไล ลามะ" ผู้นำทางจิตวิญญานของทิเบตไปประกอบกิจทางศาสนาที่นิวเดลลี

แต่พอหายงอนแล้วก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิมจนได้ !!!!



นายกฯมานโมฮัน ซิงห์ และ นายกฯเหวิน เจีย เป่า
ต่างกอดคอกันยืนยันว่าร่วมกันหามาตรการอันยอมรับได้เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทที่เกิดขึ้น

นี่คือข้อดีของการประนีประนอม
โดยที่ไม่คิดจะห้ำหั่นกันด้วยจรวด และ รถถังครับ !!

คนที่อายุเกิน 40 ส่วนใหญ่
น่าจะเคยอยู่ในยุคทึ่ร่วมสมัย
กับกรณีพิพาทของอังกฤษ กับ อาร์เจนติน่า
ที่ลงเอยด้วยการใช้กำลังเพื่อที่จะครอบครองเกาะเล็กๆ
ที่ตามมาด้วยความสูญเสียที่ทั้ง 2 ฝ่าย "ตายเป็นเบือ" แน่ๆ

"หมู่เกาะฟอล์คแลนด์" คืออาณานิคมของอังกฤษครับ
แต่พวกอาร์เจนไตน์เคลมว่ามันคือหมู่เกาะที่ชื่อ "มัลบีนัส"
ที่โดนกองทัพอังกฤษยึดครองไปตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อน !!!!!!

คิดแบบนี้มันก็ต้อง "รบ" สถานเดียวครับ

บทสรุปเรื่องนี้จบลงด้วยชัยชนะของอักฤษ
ที่พวกบริเทนต้องแลกด้วยชีวิตทหารร่วมๆ 300 คน
ส่วนพวกอาร์เจนไตน์หากผมจำไม่ผิดพลีชีพไปน่าจะร่วมๆ 1,000 คน !!!!!

ไทย กับ เขมร อยากเอาแบบนี้หรือเปล่าครับ ????

แต่พวกอาร์เจนไตน์ก็ "เอาคืน" ได้ในฟุตบอลโลก
เพราะ "พี่เตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า ใช้หัตถ์พระเจ้าปัดบอลเข้าไปแบบกรรมการไม่เห็น



แถม "พี่เตี้ย" ยังตอกย้ำให้อังกฤษเจ็บปวด
ด้วยการกระชากเลี้ยงเดี่ยวจากแดนตัวเองหลบกองหลังอังกฤษ
แล้วส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายชนิดสุดคลาสสิคในแบบที่ "น้าชิน" ปีเตอร์ ชิลตัน หมดปัญญาเซฟ

คนที่เย้วๆอยู่ราชดำเนิน
และ เรียกร้องให้ใช้กำลังทหารรุกเขมร
น่าที่จะลองไปทำตัวเป็นชาวบ้านที่อาศัยตามตะเข็บชายแดนดูหน่อยนะครับ

เผื่อจะได้เข้าใจคนไทย และ คนเขมร ตามแนวชายแดนมากขึ้น

เสียดินแดนไปตั้งแต่ 2505 แล้ว
ดันจะมาปลุกกระแสว่าเราเสียดินแดนอีกครั้งในปี 2556

กรณีคำวินิจฉัยของศาลโลก
มันพิสูจน์ "วุฒิภาวะ" ของคนไทยบางกลุ่มได้จริงๆ
ว่านอกจากจะไม่หาความรู้แล้ว ยังคิดแต่จะใช้กำลังทะเลาะกับเพื่อนบ้าน และ ไล่รัฐบาลอย่างหน้ามืดตามัว

ไปศึกษาประวัติศาสตร์ (ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน) ของอังกฤษ กับ อาร์เจนติน่า ดูซักหน่อยก็ยังไม่สายนะครับ

ฟัง "จอห์น เลนนอน" กันดีกว่า
พี่จอห์นเค้าบอกว่า "War is over" ครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่