คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
จากประสบการณ์ของคนเคยตรวจรับบ้านนะครับ
ตามหลักแล้ว เค้าต้องต่อน้ำ ต่อไฟ ให้เราก่อน จะเป็นน้ำไฟของโครงการก็ได้ เพราะเราจะต้องตรวจว่าระบบน้ำ ไฟ โอเค หรือไม่ด้วย ถ้ายังไม่ต่อ ให้ต่อซะก่อน แล้วค่อยนัดเข้ามาตรวจ และควรต้องมีเซลล์ พร้อมกับ วิศวกร หรือ ผรม.โครงการ เข้ามาตรวจร่วมด้วย เพราะเราจะสามารถให้เค้าเห็นปัญหาไปพร้อมกับเราเลย ของผม ผมนัดตรวจบ่าย แล้วตอนเช้าผมเข้ามาตรวจเองก่อน ให้เวลาตรวจประมาณ 3 ชม.ครับ (เอาแบบละเอียดเหมือนในหนังสือ) ควรมีคนมาช่วยตรวจด้วย อย่างน้อยก็ช่วยถ่ายรูป และจดบันทึกข้อมูล ขอให้รู้ไว้เลยว่าปัญหาที่มีทั้งเล็กทั้งใหญ่ อย่างน้อยก็ 20 จุดล่ะครับ ถ้าไม่จดไว้ล่ะก็ลืมแน่ๆ (ของผมประมาณ 24-25 จุดครับ) เวลาบันทึก ควรบันทึกรายละเอียดให้ชัดเจน ทั้งตำแหน่ง ลักษณะที่เป็นปัญหา (เอาแบบให้หลับตาฟัง ก็นึกภาพออกเลย) และควรจดชื่อไฟล์รูปคู่กับรายละเอียดปัญหานั้นๆด้วย เวลาเปิดรูปดูในคอมจะได้ดูประกอบกันได้ไม่งง
การเข้าตรวจพร้อมกับเซลล์ และ ผรม. ควรให้เค้าจดบันทึกร่วมกันไปด้วย จะได้เป็นหลักฐานในการตรวจรับรอบต่อไป การตรวจรับควรทำอย่างน้อย 2 รอบนะครับ รอบแรก จะเป็นการเก็บปัญหาส่วนใหญ่ แต่เชื่อเถอะครับว่า ถ้ามาเดินเองซ้ำจะพบปัญหาเพิ่มอีก จึงควรมีรอบที่ 2 เพื่อตรวจรับปัญหาของรอบแรกที่เค้าแก้ให้เราว่าเรียบร้อยมั้ย และ แจ้งปัญหาที่เราตรวจพบเพิ่มเติมด้วย หากมีแจ้งปัญหาในรอบที่ 2 ก็ต้องมีนัดตรวจรับรอบที่ 3 ด้วยครับ
ตรวจรับให้เรียบร้อยจนพอใจ แล้วค่อยเซ็นรับโอน ห้ามเซ็นรับโอนก่อน แล้วค่อยมาซ่อมแซม หรือ ต่อเติม เพราะโอกาสที่จะทำตามที่คุยกันก่อนเซ็นนั้น ยากครับ อำนาจในการต่อรองของเราจะหมดไปเมื่อเราเซ็นชื่อครับ
ควรจะให้ทางโครงการอธิบายขอบเขตการรับประกันบ้าน ทั้งระยะเวลา และรายละเอียดการประกัน ส่งมอบกุญแจ ตรวจสอบว่าใช้งานได้ทุกดอก
ตามหลักแล้ว เค้าต้องต่อน้ำ ต่อไฟ ให้เราก่อน จะเป็นน้ำไฟของโครงการก็ได้ เพราะเราจะต้องตรวจว่าระบบน้ำ ไฟ โอเค หรือไม่ด้วย ถ้ายังไม่ต่อ ให้ต่อซะก่อน แล้วค่อยนัดเข้ามาตรวจ และควรต้องมีเซลล์ พร้อมกับ วิศวกร หรือ ผรม.โครงการ เข้ามาตรวจร่วมด้วย เพราะเราจะสามารถให้เค้าเห็นปัญหาไปพร้อมกับเราเลย ของผม ผมนัดตรวจบ่าย แล้วตอนเช้าผมเข้ามาตรวจเองก่อน ให้เวลาตรวจประมาณ 3 ชม.ครับ (เอาแบบละเอียดเหมือนในหนังสือ) ควรมีคนมาช่วยตรวจด้วย อย่างน้อยก็ช่วยถ่ายรูป และจดบันทึกข้อมูล ขอให้รู้ไว้เลยว่าปัญหาที่มีทั้งเล็กทั้งใหญ่ อย่างน้อยก็ 20 จุดล่ะครับ ถ้าไม่จดไว้ล่ะก็ลืมแน่ๆ (ของผมประมาณ 24-25 จุดครับ) เวลาบันทึก ควรบันทึกรายละเอียดให้ชัดเจน ทั้งตำแหน่ง ลักษณะที่เป็นปัญหา (เอาแบบให้หลับตาฟัง ก็นึกภาพออกเลย) และควรจดชื่อไฟล์รูปคู่กับรายละเอียดปัญหานั้นๆด้วย เวลาเปิดรูปดูในคอมจะได้ดูประกอบกันได้ไม่งง
การเข้าตรวจพร้อมกับเซลล์ และ ผรม. ควรให้เค้าจดบันทึกร่วมกันไปด้วย จะได้เป็นหลักฐานในการตรวจรับรอบต่อไป การตรวจรับควรทำอย่างน้อย 2 รอบนะครับ รอบแรก จะเป็นการเก็บปัญหาส่วนใหญ่ แต่เชื่อเถอะครับว่า ถ้ามาเดินเองซ้ำจะพบปัญหาเพิ่มอีก จึงควรมีรอบที่ 2 เพื่อตรวจรับปัญหาของรอบแรกที่เค้าแก้ให้เราว่าเรียบร้อยมั้ย และ แจ้งปัญหาที่เราตรวจพบเพิ่มเติมด้วย หากมีแจ้งปัญหาในรอบที่ 2 ก็ต้องมีนัดตรวจรับรอบที่ 3 ด้วยครับ
ตรวจรับให้เรียบร้อยจนพอใจ แล้วค่อยเซ็นรับโอน ห้ามเซ็นรับโอนก่อน แล้วค่อยมาซ่อมแซม หรือ ต่อเติม เพราะโอกาสที่จะทำตามที่คุยกันก่อนเซ็นนั้น ยากครับ อำนาจในการต่อรองของเราจะหมดไปเมื่อเราเซ็นชื่อครับ
ควรจะให้ทางโครงการอธิบายขอบเขตการรับประกันบ้าน ทั้งระยะเวลา และรายละเอียดการประกัน ส่งมอบกุญแจ ตรวจสอบว่าใช้งานได้ทุกดอก
แสดงความคิดเห็น
ก่อนโอนบ้านต้องตรวจอะไรบ้าง
ในห้องชายคา ได้รับคำตอบมากมาย จนมาถึงตอนนี้
อยู่ในขั้นตอนการโอนแล้วค่ะ กำหนดโอนวันที่ 18 นี้
เมื่อวานเพิ่งไปตรวจสภาพบ้าน เซลล์ ไม่มาดูด้วย
แต่ให้เราจดรายการที่จะแก้ไขไปให้ และ แจ้งว่าจะเข้า
มาแก้ไขให้ วันเสาที่ 16 ให้เข้าไปดูอีกรอบ
แต่น้ำและไฟยังไม่เข้า เราเลยไม่ได้ตรวจสภาพห้องน้ำ
และการไหลของน้ำ รวมทั้งไฟ ว่ามีดวงไหนติดไม่ติด
ทางเซลล์แจ้งว่า ยื่นเอกสารวันจันที่ 11 อีกประมาณอาทิตย์
กว่าๆ มิตเตอร์น้ำ ไฟ จึงมาติดให้
เราเลยถามเขาว่า โอนแล้วยังไม่พร้อมอยู่เหรอ เขาเลยแจ้ง
ว่ามี น้ำ ไฟ สำรองไว้ให้ใช้ และของแถม แอร์ ปั้มน้ำ แทงค์
น้ำ ติดให้หลังจากวันโอน
เป็นแบบนี้เราควร โอนไปตามกำหนด หรือว่ายังไงดีค่ะ
เซลล์แจ้งว่า ถึงโอนแล้วก็เข้ามาแก้ให้มีประกัน 1 ปี
รบกวรสอบถามผู้รู้ด้วยค่ะ แล้วการโอน ต้องตรวจอะไรเป็นพิเศษบ้าง ในเอกสาร ขอบคุณค่ะ