จากใจ "คนขับรถยนต์ชนมอเตอร์ไซต์" เหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด : ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

เป็นแม่ลูกอ่อนทำงานประจำค่ะ ไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ห้องนี้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะอยู่ห้องชานเรือนมากกว่า  
แต่เนื่องจากประมาณ หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เราเกิดอุบัติเหตุขับรถชนกับมอเตอร์ไซต์ เลยอยากมาแชร์เรื่องราวเพื่อเป็นอุทาหรณ์
และอยากจะขอกำลังใจและคำแนะนำจากสมาชิกทุกคนด้วยค่ะ

เรื่องของเรื่องคือเราขับรถไปทำงานเหมือนปกติ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จากชานเมืองไปในตัวเมืองค่ะ ทางช่วงที่เกิดเหตุ จะมีเป็นช่วงทางตรงที่ใช้ความเร็วได้ และช่วง U-turn ซึ่งจะมีให้ชิดขวาเป็นระยะ ๆ ให้ต้องระวังค่ะ เกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ เราเห็นตลอด ก็พยายามระวังแต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับเรา

ช่วงเกิดเหตุประมาณเกือบ 8 โมงเช้า รถหนาแน่นพอสมควร ถนนสองเลนส์ เราอยู่เลนส์ขวา วิ่งทางตรงค่ะ ชะลอความเร็วลง เพราะกำลังจะเข้าช่วงที่มียูเทิร์น เรามองเห็นคุณลุงคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซต์อยู่ในเลนส์ทางซ้าย เยื้องหน้ารถเราไปนิดหน่อย เปิดไฟขอเลี้ยวขวาค่ะ เป็นระยะที่ใกล้มาก เราเลยขับตรงเลยคุณลุงไปในเลนส์เราตามปกติ แต่จังหวะที่เรากำลังเข้าใกล้คุณลุงเค้าก็เบียดเลนส์แล้วเลี้ยวตรงแน่วเข้ามาในเลนส์เราเลยค่ะ จังหวะนั้นร้อง เฮ้ย แบบงงค่ะว่า ออกมาได้ไง เพราะคุณลุงออกมาเหมือนไม่มีรถเราอยู่ใกล้ ๆ เลย เราเหยียบเบรกสุดตัวแล้วก็พยายามหักหลบค่ะ

ตอนนั้นหน้าลูกลอยแว้บขึ้นมาเลย นึกถึงที่หลาย ๆ คนคุยกันเลยว่า ถ้าเจอเหตุแบบนี้ จะหักหลบหรือจะชน ???
ตอนนั้นเห็นแค่ว่ามีรถอยู่ข้าง ๆ เต็มไปหมด  ยังไม่รู้จะทำยังไง มันก้อมาถึงมอไซต์แล้วค่ะ ชนเข้าไปด้านซ้ายของรถเรา รู้สึกถึงแรงกระแทก ไม่แรงมาก แต่เห็นคุณลุงกระเด็นออกไป

เรานิ่งไปเลยค่ะ ได้ยินเสียงเบรกตามหลังมาดังมาก เราเอามือเกาะพวงมาลัย เตรียมรับแรงเผื่อมีใครชน แต่ปรากฎว่าทุกคนเบรกกันทัน อาจจจะเป็นเพราะรถชะลอตัวอยู่ค่ะ จากนั้นก็ทำไรไม่ถูกไปหลายวิ มีคนโบกไม้โบกมือ เราเลยเอารถเข้าข้างทางแล้วรีบวิ่งลงมาดูลุงคนเจ็บ
(อันนี้มีคนบอกทีหลังว่าไม่ควรย้ายรถนะ แต่ตอนนั้นมันมึนไปหมดเลยค่ะ)

จากเลนส์ขวา คุณลุงกระเด็นมาตกอยู่อีกเลนส์ซ้ายเลยค่ะ ไกลพอสมควร นิ่งไป เลือดออกเยอะมาก น่าจะหัวกระแทก เพราะไม่มีหมวกกันน็อค (เห็นคุณลุงสวมแบบครึ่งหัวนะคะ แต่คงไม่ได้รัดคาง เลยช่วยอะไรไม่ได้เลย) เราอึ้งเพราะจากแรงกระแทกรถเราไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่คิดว่าจะแรงขนาดนี้ด้วย (รถเรา 7 ที่นั่งค่ะ)

เรากลัวมาก แต่ก็ห่วงลุง เข้าไปกดตัวลุงไว้ บอกอย่าเพิ่งขยับนะคะ ตอนนั้นเหมือนลุงจะรู้สึกตัวอยู่ค่ะ มีคนช่วยอยู่ข้าง ๆ 2 - 3 คน เราโทรหา 191 แจ้งเหตุ ช่วยหากระเป๋าตังค์ลุง ช่วยโทรหาญาต มือสั่นไปหมด กดผิดกดถูก สักพักปอเต็กตึ้งมาเราถึงออกห่างจากลุง แล้วถึงไปโทรหาประกันหลังสุดเลย

หลังจากนั้นก้อมีตำรวจมา ประกันมา รถลากมา แล้วก็ต้องตามไปสน. ถึงค่อยไปดูคนเจ็บค่ะ
ตรงนี้ขอแชร์ว่า ถ้าเกิดเหตุแล้วมีคนเจ็บแบบไม่รู้สึกตัวนี่ ตำรวจจะยังไม่สอบปากคำนะคะ ต้องรอคนฟื้นก่อนค่ะ
เราตามไปสน.เลยยังไม่มีอะไร ร้อยเวรบอกว่าให้กลับไปก่อน เพราะงานเยอะ เค้าจะตามเราทีหลังค่ะ

จากนั้นก็เป็นส่วนของเรากับญาตของคนเจ็บ
หลังจากเกิดเหตุเราตามไปที่รพ. ลุงเค้าเจ็บหนักกว่าที่คิดมากค่ะ มีเลือดออกในสมอง และช้ำในต้องเจาะเลือดออก
มีกระดูกคอเคลื่อน แต่ที่เหลือไม่มีอะไรหักค่ะ  
ลูกสาวเค้าก็ดีค่ะ บอกว่าไม่เป็นไร มันเป็นอุบัติเหตุ ขอแค่เค้าหายแล้วกลับมาเป็นปกติก็พอ
หลังจากนั้นเราก็โทรหาเค้าเป็นระยะ ๆ เพื่อเชคว่าคุณลุงเป็นยังไงบ้าง แต่ลุงก็ยังไม่ฟื้น
และบอกเค้าว่า ถ้าเค้าฟื้นหรือมีอะไรก็ขอให้บอกด้วย เราจะมาเยี่ยมค่ะ เพราะใจเราเองก็อยากให้เค้าไม่เป็นอะไรมากจริง ๆ  

แต่จากนั้นไม่นานก็เหมือนหนังคนละม้วนเลยค่ะ

รถเราชนวันศุกร์ เราโทรหาเค้า เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ (โทรแต่ไมรับ) วันศุกร์ เราเลยโทรไปเผื่อว่าจะเยี่ยมได้บ้าง
เค้าบอกเราว่าให้มาดูอาการเอาเอง ... เราเริ่มงงหน่อย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น...  

เรากับสามีอุ้มลูกไปเยี่ยมเค้าที่รพ. ลูกเขยลุงเค้าเลยพาเราไปเยี่ยมค่ะ ตอนนั้นมีญาตเค้ามาเยี่ยมด้วย 2 - 3 คน  
ห้องผู้ป่วยหนัก ไม่ให้อุ้มเด็กเล็กเข้าไป เราเลยสลับกันกับสามี สามีเข้าไปก่อน เราเข้าไปทีหลัง
ภาพที่เห็นคือ คุณลุงอาการหนักขึ้น ต้องผ่าสมองเอาเลือดคั่งออก กระโหลกร้าว กระดูกคอเคลื่อน ต้องเจาะคอเพื่อช่วยเรื่องหายใจ
มีไข้  และไม่รู้สึกตัว ตอนที่เราไปเยี่ยมแทบพูดอะไรไม่ออกเลย น้ำตามันไหลออกมาเอง คิดแต่ว่า เหตุการณ์มันไม่น่าเกิดขึ้นเลย  

พอออกมา ลูกเขยเค้าก็พูดกับเราว่า อย่าทิ้งลุง อยากให้เราช่วย เพราะถ้าฟื้นมา ลุงอาจมีโอกาสเป็นอัมพาต ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแล
และถ้าตำรวจชี้ว่าอุบัติเหตุนี้ประมาทร่วม เค้าจะไม่ได้อะไรเลย อยากขอให้คุยกับประกัน ขอให้ช่วยเค้า เราก็รับปาก แล้วมาคุยกับสามี
สามีมาบอกทีหลังว่า โชคดีที่เราเข้าไปทีหลัง เพราะช่วงที่เค้าเข้าไปตอนแรก เจอญาตคนอื่น ๆ ต่อว่าว่าเราไม่มาดูแลเค้าเลย เค้าขู่จะฟ้องให้ถึงที่สุด และต่อว่าว่าเราผิด เหมือนตั้งใจจะชนเค้า สามีเราก็เลยตอบกลับไปหลายคำเหมือนกัน

ตรงนี้เราอยากให้คนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ หรือเป็นฝ่ายคนเจ็บลองนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายและลองคิดดูสักนิดนะคะ

เราเชื่อว่าการขับรถเกิดอุบัติเหตุ หรือชนกับใครสักคนนึงแล้วเจ็บหนักถึงขนาดนี้ ไม่มีทางที่เค้าจะไม่รู้สึกอะไรแน่ ๆ ค่ะ  อย่างเราเอง หลังเกิดเหตุเรากินก็ไม่ได้ นอนก็ไม่ได้ เห็นแต่ภาพเหตุการณ์ซ้ำไปซ้ำมา รู้สึกผิด รู้สึกบาป รู้สึกว่าเป็นตัวเราเองที่ทำให้เค้าเจ็บ เราไม่กล้าขับรถ ขับรถไปทำงานเองไม่ได้ กลัวการอยู่คนเดียว แต่ชีวิตเราก็ต้องเดินต่อค่ะ เรามีหน้าที่แม่ที่ต้องเลี้ยงลูก เราต้องทำงาน ต้องประคองชีวิตต่อไปให้ได้ วันนี้ที่ต้องมาเกิดเหตุ ไม่ว่าใครจะผิดจะถูก เราอาจไม่บาดเจ็บอะไรภายนอก แต่ข้างใน เราทั้งเครียด ไม่สบายใจ คิดมาก และกลัวไปหมด ก็เหมือนเป็นกรรมที่เราได้รับมาแล้ว ... บอกได้เลยว่า มันก็ทรมานไม่น้อยเลยค่ะ ...

เราเข้าใจค่ะว่านี่คือคนในครอบครัวเค้า เค้าคงทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ และเป็นห่วงคุณลุง แถมคุณลุงเป็นคนแข็งแรง อายุ 74 แล้วแต่ยังขับรถได้ ไปไหนมาไหนได้ คงเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่วันนึงต้องมาเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นญาตเราเราก็คงโกรธและเสียใจมากเหมือนกัน แต่เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิด ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุมันก็ต้องมีกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนทั้ง 2 คนในเหตุการณ์ หลักฐานแวดล้อมก็มี ในที่สุดแล้วคงต้องว่ากันไปตามกฎหมาย แต่อยากให้ดูที่เจตนาของอีกฝ่ายค่ะ ถ้ายิ่งโกรธยิ่งกลียด ยิ่งอาฆาต ก็ยิ่งจะทำให้ร้อนในใจกันไปใหญ่ อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วค่อย ๆ คุยกัน น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่า อยากให้อีกฝ่ายรับผิดชอบ แต่พอเค้ามาเยี่ยมก็ต่อว่าเค้าทุกครั้งไป แบบนี้มันทำให้รู้สึกแย่กันไปใหญ่ค่ะ



แต่ถึงยังไง หลังจากนั้นวันต่อมาเราก็โทรไปหาประกันเพื่อขอความช่วยเหลือค่ะ
เราถามเค้าว่ามีอะไรที่ช่วยได้ไหม เพราะเรารู้สึกว่ามันอยู่ในส่วนของประกัน น่าจะมีอะไรที่ช่วยได้บ้าง อย่างน้อยก็ค่ารักษาพยาบาล พนักงานตอบเป็นแพทเทิร์นเดียวกันมาก ว่าต้องรอคดีสิ้นสุด เราก็โมโห เลยโทรไปหาหัวหน้าแผนกเค้าเลย ก็พูดเหมือนเดิมว่าไม่ได้ ต้องรอคดีสิ้นสุด แถมบอกตอนท้ายด้วยว่าจากรูปการณ์ เราไม่ใช่ฝ่ายผิดเลย และประกันเหมือนตั้งป้อมจะไม่จ่ายเต็มที่เลยค่ะ แล้วบอกว่า ถ้าเรามีมนุษยธรรมก็ช่วยเหลือเค้าไปสิ (หมายความว่าประกันไม่มี ???)

เราเลยกลับมาเครียดหนักอีกรอบ เพราะใจก็อยากช่วย แต่เงินเราก็ไม่มี ถ้ารอเรื่องจบ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่  ถ้าเราไปเยี่ยมลุงอีก แต่ไม่มีเงินให้ ก็ไม่รู้จะโดนอะไรกลับมาบ้าง แต่ถ้าเราไม่ไป เค้าก็จะหาว่าเราไม่ไปดูแล และเราเองก็ไม่สบายใจเหมือนกัน เราไม่อยากทิ้งเค้า

สุดท้ายแล้วขอคำแนะนำจากสมาชิกซัก 2 เรื่องนะคะ ตอนนี้เราห่วงเรื่องเดียวคือการดูแลคุณลุง
(เพราะบอกตรง ๆ เงินเราไม่มีค่ะ เพิ่งสร้างบ้านเสร็จเงินเก็บเงินก้อนไม่มีเหลือเลย)
1. เรื่องคดี สมมติว่าเราผิด หรือเราไม่ผิด จะออกมาเป็นรูปแบบไหน และคุณลุงจะได้อะไรบ้าง
2. ก่อนที่คดีจะสิ้นสุดมีวิธีไหนเอาเงินจากประกันมาช่วยคุณลุงได้บ้างไหมคะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่