เพราะเหตุนี้กระมัง?

กระทู้สนทนา
ท่านเห็นอย่างไร......กับบทความนี้

สังคมไทยจะพัฒนาให้ก้าวหน้าไปได้อย่างไร                  หากเมื่อคนไทยวิเคราะห์และคิดกันไม่เป็น
วันนี้คนไทยแบ่งข้างชัดเจนและทั้งสองข้างต่างก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาแปลกๆกันทั่วหน้า
ข้างหนึ่ง โดนข้อหา “ถูกซื้อ”                                      ข้างหนึ่ง โดนข้อหา “ถูกจูง”

มันเป็นเช่นนั้นจริงแล้วหรือ    ถ้าจริงเราคนไทยจะไปเทียบชั้นกับคนชาติอื่นได้อย่างไร
พลเมืองของประเทศไม่ว่าที่ไหนต้องพัฒนาได้ และพัฒนาไปในทิศทางที่ยกระดับคุณภาพตัวเองเพื่อสังคมที่ดีขึ้น  
แต่การณ์กลับเป็นดังข้อกล่าวหาว่าพลเมืองไทยมีแต่  “ถูกซื้อ กับ ถูกจูง” ซะเป็นส่วนใหญ่  
ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ สังคมไทยจะพัฒนาก้าวหน้าไปได้อย่างไร

จริงหรือไม่ว่า
จะไม่มีใครถูกซื้อและจูงจมูกได้เลย        หากรู้จักอ่าน เขียน เรียนรู้         เป็นวัตรปฏิบัติ
วันนี้เราอ่านหนังสือวันละกี่บรรทัด         ดูทีวีวันละกี่ช่อง                     ฟังความเรื่องเดียวกัน เรื่องละกี่ข้าง
รู้ตัว รู้ตน รู้เหตุ รู้กาล  รู้เรา รู้เขา รู้โลก   รู้แล้วคิดต่อวิเคราะห์ได้ หรือไม่ว่า เท็จ กับ จริง มันอย่างไร

วันนี้คนไทยกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของนักการเมือง
ไม่ว่านักการเมืองผู้นั้น จะทำผิด ชั่ว เลวแค่ไหน ก็ยังจะรัก
ไม่ว่านักการเมืองผู้นั้นจะตลบตะแลงปลิ้นปล้อนแค่ไหน ก็ยังจะหลง
ไม่ว่าบ้านเมืองจะมีหลักหรือไม่ ไม่ใส่ใจ


พฤติกรรมของคนไทย เช่นนี้แหละที่ไม่สร้างนักการเมือง “ทีดี”
นักการเมืองวันนี้ จึงไม่รักที่จะ “ทำดี”
หากแต่รักที่จะ “พูด”
พูดเพื่อให้คนเชื่อ    พูดให้คนรัก   พูดเพื่อให้ตัวเองดูดี   ให้คนเห็นว่าตนเองเป็นคนดี
ทั้งที่จริงแล้วเบื้องหลังล้วนเน่าเหม็นยิ่งกว่าซากอสุภใดๆ
และข้อเท็จจริงก็คือ  ยังคงมีคนรักและเชื่อมิเสื่อมคลาย


เพราะเหตุนี้กระมัง...............สังคมบ้านเรามันจึงเหลวเละลงไปทุกวันๆๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่