เพื่อน forward มาให้อ่าน ไม่ว่าเราจะเป็นเสื้อสีอะไรก็ตาม อ่านแล้วน่าเศร้าในฐานะเราเป็นคนไทยที่ต้องเสีนภาษีจากเงินที่หามาอย่างสุจริต
คำอธิบายจากคุณกรณ์ค่ะ จากเฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij เมื่อวันที่ 19 ต.ค.
คำว่า 'สุดซอย' ก็คือการช่วยคุณทักษิณให้พ้นผิดในทุกกรณี ทั้งๆ ที่ความผิดของเขาไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นความผิดที่มาจากการทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งสิ้น
ผมขอยืมคำพูดของคุณอภิสิทธิ์ที่เรียกร่างสุดท้ายของกฎหมายนี้ว่าไม่ได้เพียงไปสุดซอย แต่ทะลุซอยออกถนนใหญ่เลยครับ สาเหตุเพราะกฎหมายเขียนว่า ทุกคดีที่ คตส.ชี้ว่าผิด ให้ถือว่าพ้นผิดทันที ซึ่งหมายรวมถึงอีกหลากหลายคดีนอกเหนือจากการโกงที่ดินถนนรัชดาฯ ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาจำคุกคุณทักษิณไปแล้ว และทุกคดีล้วนแล้วแต่เป็นคดี 'โกงระดับชาติ' ทั้งสิ้น อย่างเช่น
1. คดีร่ำรวยผิดปกติ ทำให้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่องศาลฎีกา ว่า พ.ต.ท.ทักษิณแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ เนื่องจากไม่ได้แจ้งการถือครองหุ้นบริษัทชินคอร์ปฯไว้ ถึง 6 ครั้ง ซึ่งศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
2. คดีทุจริตปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือเอ็กซิมแบงก์ ให้กับรัฐบาลพม่า มูลค่า 4,000 ล้านบาท ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำเลยเพียงคนเดียว ซึ่งศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
3. คดีทุจริตออกพระราชกำหนดแปลงค่าภาษีสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตเพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปฯ ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำเลยเพียงคนเดียว และศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
4. คดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่มีนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา (ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมคุณวัฒนาจึงมีบทบาทอย่างมากในความพยายาม 'ปรองดอง')
5. คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้บริษัทกฤษดามหานคร ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณกับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา
และจะมีผลแม้แต่ในคดีที่เพิ่งมีคำพิพากษาไปคือเรื่องการโกงกรณีรถดับเพลิงกทม. 6,800 ล้านบาท เพราะเป็นคดีที่ คตส.ได้เป็นผู้ชี้ผิดแต่แรกด้วย
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้ามองว่าคตส. ลำเอียง ก็อย่างน้อยควรให้มีการพิจารณาคดีใหม่ แต่ไม่ครับ ให้ถือว่า 'พ้นผิด' ในทุกกรณีไปเลย
และที่ทะลุซอยก็คือ ร่างกฎหมายฉบับนี้เขียนว่าในกรณีคดีของเสื้อแดงที่มาชุมนุมนั้น 'การนิรโทษกรรมไม่ก่อให้เกิดสิทธิ' ซึ่งหมายความว่าจะไปฟ้องร้องทวงสิทธิจากการถูกจำคุก ฯลฯ ไม่ได้ แต่กฎหมายกลับเขียนให้การนิรโทษกรรมในกรณีทุจริตจะมีสิทธิที่ทวงได้
ตรงนี้สะท้อนความโลภของทักษิณจริงๆ เพราะไม่ใช่เพียงต้องการให้พ้นผิด แต่ต้องการเงิน 46,000 ล้านที่ถูกยึดจากการทุจริตแผ่นดินคืนอีกต่างหากและสะท้อนความเห็นแก่ตัวที่ไม่ให้สิทธิชาวเสื้อแดงที่ออกมาเสี่ยงตายเพื่อตน แต่กลับสงวนสิทธิไว้ให้กับตัวเอง
แต่ที่จะมีผลกับพวกเราโดยตรงทุกคนคือ 46,000 ล้านที่ต้องคืนนั้น เป็นการคืนด้วยเงินพวกเรานะครับ วิธีคือการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเอาเงินภาษีเราคืนให้แก่คนที่ศาลพิพากษาไปแล้วว่าโกงแผ่นดิน
และที่แย่กว่านั้นก็คือต้องบวกดอกเบี้ยให้เขาด้วย ในอัตราศาลแพ่งที่ 7.5% ซึ่งสูงกว่าอัตราปกติที่ประชาชนธรรมดาได้ในการฝากเงิน รวมแล้วค่าดอกเบี้ยถ้านับจากวันที่ถูกยึดก็ประมาณ 14,000 ล้าน
รวมแล้วเตรียมจ่ายภาษีให้กับคุณทักษิณได้เลยครับ รวม 60,000,000,000 บาท ก็คือคนไทยทุกคนเฉลี่ยประมาณคนละ 1,000 บาท ไม่ว่าคุณจะเป็นเสื้อแดง เหลือง ฟ้า ยากจนหรือร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม
และจารึกไว้ว่า เราจะเป็นประเทศแรกในโลกประชาธิปไตยที่มีการออกกฎหมายยกผิดในคดีทุจริต เพียงเพราะคนโกงมีเสียงข้างมากในสภาฯ
ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเราคิด 'เลยตามเลย' กับเรื่องนี้ ก็จะสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอสุดขีดของสังคมไทย เราจะรอพึ่งศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความว่ากฎหมายนี้ขัดต่อหลักนิติธรรมหรือไม่ก็ได้ แต่เราต้องแสดงออกในฐานะเจ้าของประเทศว่าเรายอมรับไม่ได้ ที่จะมีคนทำตัวเหนือกฎหมายอย่างนี้ ถ้าทุกคนเงียบ ลูกหลานเราจะต้องอยู่ในประเทศแบบไหน คิดให้ดีครับ ถ้าเรื่องนี้ปล่อยให้เขาทำได้ ผมว่าก็เท่ากับเราพร้อมยอมเขาในทุกเรื่อง
ถามผู้รู้หน่อยว่าทั้งหมดนี้จริงหรือไม่
คำอธิบายจากคุณกรณ์ค่ะ จากเฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij เมื่อวันที่ 19 ต.ค.
คำว่า 'สุดซอย' ก็คือการช่วยคุณทักษิณให้พ้นผิดในทุกกรณี ทั้งๆ ที่ความผิดของเขาไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นความผิดที่มาจากการทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งสิ้น
ผมขอยืมคำพูดของคุณอภิสิทธิ์ที่เรียกร่างสุดท้ายของกฎหมายนี้ว่าไม่ได้เพียงไปสุดซอย แต่ทะลุซอยออกถนนใหญ่เลยครับ สาเหตุเพราะกฎหมายเขียนว่า ทุกคดีที่ คตส.ชี้ว่าผิด ให้ถือว่าพ้นผิดทันที ซึ่งหมายรวมถึงอีกหลากหลายคดีนอกเหนือจากการโกงที่ดินถนนรัชดาฯ ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาจำคุกคุณทักษิณไปแล้ว และทุกคดีล้วนแล้วแต่เป็นคดี 'โกงระดับชาติ' ทั้งสิ้น อย่างเช่น
1. คดีร่ำรวยผิดปกติ ทำให้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่องศาลฎีกา ว่า พ.ต.ท.ทักษิณแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ เนื่องจากไม่ได้แจ้งการถือครองหุ้นบริษัทชินคอร์ปฯไว้ ถึง 6 ครั้ง ซึ่งศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
2. คดีทุจริตปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือเอ็กซิมแบงก์ ให้กับรัฐบาลพม่า มูลค่า 4,000 ล้านบาท ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำเลยเพียงคนเดียว ซึ่งศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
3. คดีทุจริตออกพระราชกำหนดแปลงค่าภาษีสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตเพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปฯ ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจำเลยเพียงคนเดียว และศาลฎีกาได้ออกหมายจับไว้
4. คดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่มีนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา (ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมคุณวัฒนาจึงมีบทบาทอย่างมากในความพยายาม 'ปรองดอง')
5. คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้บริษัทกฤษดามหานคร ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณกับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา
และจะมีผลแม้แต่ในคดีที่เพิ่งมีคำพิพากษาไปคือเรื่องการโกงกรณีรถดับเพลิงกทม. 6,800 ล้านบาท เพราะเป็นคดีที่ คตส.ได้เป็นผู้ชี้ผิดแต่แรกด้วย
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้ามองว่าคตส. ลำเอียง ก็อย่างน้อยควรให้มีการพิจารณาคดีใหม่ แต่ไม่ครับ ให้ถือว่า 'พ้นผิด' ในทุกกรณีไปเลย
และที่ทะลุซอยก็คือ ร่างกฎหมายฉบับนี้เขียนว่าในกรณีคดีของเสื้อแดงที่มาชุมนุมนั้น 'การนิรโทษกรรมไม่ก่อให้เกิดสิทธิ' ซึ่งหมายความว่าจะไปฟ้องร้องทวงสิทธิจากการถูกจำคุก ฯลฯ ไม่ได้ แต่กฎหมายกลับเขียนให้การนิรโทษกรรมในกรณีทุจริตจะมีสิทธิที่ทวงได้
ตรงนี้สะท้อนความโลภของทักษิณจริงๆ เพราะไม่ใช่เพียงต้องการให้พ้นผิด แต่ต้องการเงิน 46,000 ล้านที่ถูกยึดจากการทุจริตแผ่นดินคืนอีกต่างหากและสะท้อนความเห็นแก่ตัวที่ไม่ให้สิทธิชาวเสื้อแดงที่ออกมาเสี่ยงตายเพื่อตน แต่กลับสงวนสิทธิไว้ให้กับตัวเอง
แต่ที่จะมีผลกับพวกเราโดยตรงทุกคนคือ 46,000 ล้านที่ต้องคืนนั้น เป็นการคืนด้วยเงินพวกเรานะครับ วิธีคือการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเอาเงินภาษีเราคืนให้แก่คนที่ศาลพิพากษาไปแล้วว่าโกงแผ่นดิน
และที่แย่กว่านั้นก็คือต้องบวกดอกเบี้ยให้เขาด้วย ในอัตราศาลแพ่งที่ 7.5% ซึ่งสูงกว่าอัตราปกติที่ประชาชนธรรมดาได้ในการฝากเงิน รวมแล้วค่าดอกเบี้ยถ้านับจากวันที่ถูกยึดก็ประมาณ 14,000 ล้าน
รวมแล้วเตรียมจ่ายภาษีให้กับคุณทักษิณได้เลยครับ รวม 60,000,000,000 บาท ก็คือคนไทยทุกคนเฉลี่ยประมาณคนละ 1,000 บาท ไม่ว่าคุณจะเป็นเสื้อแดง เหลือง ฟ้า ยากจนหรือร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม
และจารึกไว้ว่า เราจะเป็นประเทศแรกในโลกประชาธิปไตยที่มีการออกกฎหมายยกผิดในคดีทุจริต เพียงเพราะคนโกงมีเสียงข้างมากในสภาฯ
ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเราคิด 'เลยตามเลย' กับเรื่องนี้ ก็จะสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอสุดขีดของสังคมไทย เราจะรอพึ่งศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความว่ากฎหมายนี้ขัดต่อหลักนิติธรรมหรือไม่ก็ได้ แต่เราต้องแสดงออกในฐานะเจ้าของประเทศว่าเรายอมรับไม่ได้ ที่จะมีคนทำตัวเหนือกฎหมายอย่างนี้ ถ้าทุกคนเงียบ ลูกหลานเราจะต้องอยู่ในประเทศแบบไหน คิดให้ดีครับ ถ้าเรื่องนี้ปล่อยให้เขาทำได้ ผมว่าก็เท่ากับเราพร้อมยอมเขาในทุกเรื่อง