ไม่แปลกใจ ..... แม่ลูกจันทร์ ..... ไทยรัฐออนไลน์

กระทู้สนทนา
ทองแท้ไม่กลัวไฟลน คนไม่ผิดไม่กลัวพิสูจน์ความจริง

กรณีอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-สุเทพ เทือกสุบรรณ” ข้อหาร่วมกันก่อ
ให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย หรือพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาอันเป็นผลจากการสลายการชุมนุม
กลุ่ม  นปช. เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิต 98 ศพ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ


“แม่ลูกจันทร์” ไม่แปลกใจ เพราะปฏิบัติการสลายการชุมนุมมีการใช้กระสุนจริง ยิงจริง
ตายจริง เจ็บจริง เห็นกันทั่วบ้านทั่วเมือง

เห็นกันทั่วโลกด้วยซ้ำไป

ข้อสำคัญ ศาลอาญาได้มีคำสั่งว่าผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจากการสลายการ
ชุมนุม 15 ราย จาก 52 ราย ตายเพราะกระสุนปืนฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการโดย
คำสั่งของ ศอฉ.จริง

เมื่อศาลชี้เช่นนี้แล้ว ถ้าอัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องจะหาเหตุผลมาตอบคำถามสังคมได้อย่างไร??

“แม่ลูกจันทร์”  ย้ำว่าเมื่อ  อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ประกาศปาวๆว่า พร้อมขึ้นศาล
สู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง

เมื่ออัยการสูงสุดสั่งฟ้องให้ตามความประสงค์ของท่านแล้ว “อภิสิทธิ์” ควรจะดีใจ
ที่จะได้ขึ้นศาลพิสูจน์ความจริงว่าตัวเองไม่ได้กระทำผิดแม้แต่นิดเดียว


ฉะนั้น แทนที่ “อภิสิทธิ์” จะฟ้องกลับอัยการสูงสุด ควรต้องขอบคุณอัยการสูงสุด
ที่ให้โอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์โดยเร็ว


เป็นโอกาสดียิ่งที่จะได้พิสูจน์  “กรณีชายชุดดำ” ที่ “อภิสิทธิ์” ระบุว่าเป็น
กองกำลังติดอาวุธแอบแฝงในกลุ่มผู้ชุมนุม และชายชุดดำคือผู้ทำร้าย
เจ้าหน้าที่ และสังหารคนเสื้อแดงกันเอง

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่ากรณีชายชุดดำติดอาวุธเป็นประเด็นสำคัญที่ “อภิสิทธิ์-สุเทพ”
อ้างเป็นเหตุจำเป็นที่ ศอฉ.ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธป้องกันตัว

ประเด็นนี้มีเหตุผล มีน้ำหนักที่ศาลต้องรับฟัง

แต่ข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่า ผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตทุกรายไม่มีอาวุธติดตัว

ผู้บาดเจ็บอีกสองพันรายก็ไม่มีใครเป็นชายชุดดำแม้แต่คนเดียว

ประชาชนมือเปล่าๆทั้งนั้นเลย

แม้แต่ช่างภาพชาวต่างชาติ อาสาสมัครพยาบาล ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม
ยังไม่แคล้วเป็นเหยื่อกระสุนปืน

ประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปคือ การปฏิบัติขอคืนพื้นที่ตามคำสั่ง
ศอฉ.เป็นไปตามหลักสากลหรือไม่??

เริ่มจากเบาไปหาหนักจริงหรือไม่??

การสั่งใช้กระสุนจริงเข้าข่ายเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่??

ถ้าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ใครจะรับผิดชอบทุกชีวิตที่บาดเจ็บล้มตาย??

หรือไม่มีใครต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเลย

การพิสูจน์ความจริงในศาลเท่านั้นที่เป็นโอกาสให้ทุกฝ่าย
ได้พิสูจน์ความจริงอย่างเท่าเทียม

บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลใช้กำลังทหาร ใช้อาวุธสงครามกระชับพื้นที่
ล้อมปราบประชาชนเมื่อ พ.ศ.2553 จะได้ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ตามขบวนการยุติธรรม

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า

วันนี้ แกนนำเสื้อแดง ก็ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องดำเนินคดี
ข้อหาก่อการร้ายไปแล้ว 24 ราย

คนเสื้อแดงต้องติดคุกติดตะรางกันไปแล้วหลายร้อยคน

การที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องฝ่ายผู้สั่งใช้กำลังปฏิบัติการ  ซึ่งเป็นเหตุให้คนตาย 98 ศพ
บาดเจ็บอีกกว่าสองพันคน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ

เพราะการสั่งฟ้องคดีก็ไม่ได้หมายความผู้ถูกกล่าวหาจะต้องกระทำผิดจริง

ด้วยเหตุนี้ “แม่ลูกจันทร์” จึงไม่เห็นด้วยที่จะนิรโทษเหมาเข่งสุดซอยซึ่งจะ
ทำให้ขบวนการพิสูจน์ความจริง เหตุการสังหารหมู่กลางเมืองต้องล้มเลิกกลางคัน

ทองแท้ไม่กลัวไฟลน คนไม่ผิดไม่กลัวพิสูจน์ความจริง

คดีนี้จึงต้องพิสูจน์ให้สุดซอย.


แม่ลูกจันทร์

http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/379707


การคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง  แปลว่า คุณอภิสิทธิ์มั่นใจ
ว่า ทุกอย่างทำไปด้วยความชอบธรรม  แล้วจะไปฟ้งศาลรธน.ทำไม
เรื่องอสส.สั่งฟ้อง  จริงอย่างที่ แม่ลูกจันทร์ว่า ....
พ.ร.บ.เหมาเข่ง ตัดโอกาสการพิสูจน์ความจริง  วันนี้ พ.รบ.ผ่านวาระ 3 แล้ว
ปชป.เป่านกหวีดแล้ว   จะไล่รัฐบาลต่อ  ด้วยเหตุผลอันใด   ก็ได้แค่ยุบสภา...
เลือกตั้งใหม่  หรือจะไปกดดันองค์กรอิสระ  ...  ทำให้พ.ร.บ.นี้ไม่ผ่าน หัวเราะ


สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่