[CR] [CR] The Pod : โรงแรมแคปซูลที่สิงคโปร์



วันก่อนผมได้มีโอกาสไปเที่ยวสิงค์โปร์ครั้งที่สอง
ซึ่งที่ไปครั้งแรกก็นับได้ว่าเที่ยวไปเยอะอยู่เหมือนกัน
ไปครั้งนี้เลยอยากหาอะไรใหม่ๆทำบ้าง แล้วก็ได้ทำอะไรใหม่ๆเยอะมากกกก
วันนี้จะเล่าเรื่องหนึ่งแล้วกันครับ

ผมเชื่อว่าสิ่งแรกที่ทุกคนจะคิดถึงในแผนการเที่ยวนั้นคือ "ที่พัก"

ทริปครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมกับเพื่อนก็หาข้อมูลเรื่องที่พักกันอยู่พักใหญ่ จนไปเจอกับ



โรงแรมแคปซูล the Pod





ไปดูรูปในโฮมเพจโรงแรมแล้วชอบมากกก > <


รูปจากโฮมเพจโรงแรม http://www.thepod.sg


แต่ถึง the Pod จะเป็นโรงแรมแคปซูลก็จริง แต่ราคาของมันหาได้ถูกไม่ ราคาประมาณ ~57 SGD หรือ ~1400 บาทเลยทีเดียว จะนอนทั้งทริปก็คงจะไม่ไหว เลยตัดสินใจจองกันแค่คืนเดียวแล้วกัน พอให้รู้บรรยากาศ แล้วได้เอาเงินไปเที่ยวดีกว่า!

pod (พนักงานเรียกแทน room) ใน the Pod มี 4 แบบ คือ


1. Front entry single pod หรือ พอดแบบเข้าด้านหน้า (ปลายเท้า)
2. Side entry single pod หรือ พอดแบบเข้าด้านข้าง
3. Female-only pod หรือ พอดของผู้หญิง
4. The Queen pod หรือ พอดเตียงคู่ (เข้าด้านหน้า)



เนื่องจากเราไม่ใช่ผู้หญิง จึงไม่สามารถเลือก Female-only pod ได้
และเนื่องจากเราเป็นแค่เพื่อนกันจะเลือก Queen pod ก็จะสยองไปหน่อย ^^"
เลยเลือก Side entry ไป 2 pods

ก่อนวันไปสองสามวัน ทางโรงแรมก็จะส่ง mail มาเตือนเราว่าเราเข้าพักวันนี้ถึงวันนี้

การเดินทางไปนั้นไม่ยากครับ ลงจากสนามบินต่อ MRT ไปสถานนี Bugis แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาทีก็ถึง
หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือหน้าโรงแรมมีป้ายรถเมลล์ opp Plaza parkroyal อยู่ เดินทางสะดวกเหมือนกัน


แต่สำหรับครั้งแรกอาจจะซับซ้อนกับเส้นทางสักนิด แนะนำให้ซื้อซิมหรือไปร้านอาหารที่แจก wifi ฟรี เพื่อเปิด  Google map  หรือคุณจะใช้ Apple map ก็ได้นะ แค่มันหาไม่เจอเท่านั้นเอง 555


ทางโรงแรมบอกให้เราเข้า check in หลังบ่าย 3 ซึ่งเครื่องเราลงสนามบินตอนบ่ายโมง ก็เลยตัดสินใจกินข้าวกันที่ Bugis Junction แถวสถานนี Bugis เพื่อใช้ wifi (ฟรี) หาอยู่ที่อยู่โรงแรม จนใกล้ถึงบ่าย 3 เราก็เดินหาโรงแรมกัน

เดินมาตาม Google map เรื่อยๆ ไอ้เราก็วาดฝันว่าหน้าโรงแรมก็ต้องเป็น lobby ให้เห็นเด่นชัดหาไม่ยากอะไรหรอก แต่สิ่งที่เราพบก็คือ... (ดูตามคลิปได้เลยครับ)


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


บอกเลยว่าเซอร์ไพรส์มาก 555

คือมันต้องมี Key-card หรือไม่ก็ต้องโทรไปบอกทางโรงแรมให้เปิดประตูให้

แต่ประเด็นคือ ไม่มีทั้งคู่ 555


ไม่รู้ทำไงได้แต่นั่งหัวเราะกันอยู่หน้าโรงแรม (จะเรียกหน้าโรงแรมได้ไหมว่ะ) จนมีลุงคนหนึ่งจะเข้าพอดี เราเลยอาศัยเข้าไปด้วย

ลอบบี้โรงแรมอยู่ชั้นสาม จะติดต่อเข้าก็ไม่อยากบอกว่ามา check-in แล้วก็ให้ Passport เขาไป
พนักงานตรวจสอบความถูกต้องอยู่พักใหญ่ ก็ให้เราจ่ายเงินค่าห้องราคาคืนละ 57 เหรียญ + ค่ามัดจำ 20 เหรียญ จากนั้นพนักงานก็จะให้ key-card สำหรับเข้าโรงแรม เข้าห้อง และใช้เปิดตู้ใส่ของ
และก็ให้น้ำมาคนละขวดเล็กๆ ซึ่งถือว่าเป็นของมีค่าอย่างยิ่งเทียบเท่าทองได้ เพราะประเทศนี้นำ้แพงมากครับ



การตกแต่งใน the Pod จะเป็นแนวเรียบหรู ส่วนใหญ่ใช้เป็นสีดำ ตัดกับแสงไฟสีเหลือง






แล้วพนักงานก็พาเราไปดูสภาพห้องที่ชั้น 4 ความรู้สึกแรกคือ น่านอนมากกก > <
คือมันเล็กก็จริง แต่มันก็ออกแบบมาดีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าอยากนอนอยู่ทุกวันเลย แต่ด้วยราคาบอกตรงไม่สู้








สิ่งที่เราจะได้ในพอด 1 พอดคือ

1. ปลั๊กไฟ 1 ปลั๊ก
2. แท่นวาง สำหรับทำงาน
3. ตู้เก็บของใต้เตียง (กว้างและลึกมาก)
4. ไม้แขวนเสื้อ
5. ผ้าเช็ดตัว

ปล. ที่โรงแรมตัวแปลงปลั๊กไฟจากสามขาเป็นสองขา แต่มีอันเดียวเท่านั้น เพราะงั้นทางที่ดีเตรียมไปดีกว่า และตัวแปลงแบบ Universal จะใหญ่จนปิดสวิทเปิดปลั๊กทำให้ใช้ยากมาก กว่าจะหามุมได้นาน เลือกแบบเล็กดีกว่า

ปล. 2 ตู้เก็บของบางทีก็ไม่แน่น มันจะเปิดได้ถ้าดึงแรงๆ ควรตรวจสอบแล้วแจ้งพนักงานเพื่อขอเปลี่ยนครับ

สำหรับ Queen pod นั้นจะอยู่หน้าประตูพอดีเลย ผมว่ามันน่ารำคาญอยู่ ไม่ควรเลือก แล้ว



มาดูห้องนำ้กันบ้าง


ที่อ่างล้างมือจะมีให้ไดร์เป่าผมอยู่ ไม่ต้องเอาไปเอง


ห้องน้ำที่สามารถอาบน้ำได้มีอยู่ 3 ห้อง และอีกสองห้องเป็นห้องนำ้อย่างเดียว


หน้าห้องแต่ละห้องจะมีเก้าอี้อยู่ ไม่รู้เอาไว้ทำไมเหมือนกัน หรือเอาไว้ให้ปีนไปแอบดูคนอาบน้ำ ?


ภายในก็มีเครื่องใช้ครบ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้า โถส้วม กระจก ที่สำคัญมีที่ฉีดก้นด้วย ! อยากร้องไห้ตรงนี้ T^T


ระหว่างอาบน้ำก็ต้องเปิดเพลงเพื่อความสุนทรีย์ ^ ^~


ที่นี่มีห้องทำงานอยู่ที่ลอบบี้ จะเป็นห้องเล็กๆสำหรับทำงานคนเดียว มีคอมให้มีเน็ตให้ หรือใครที่ไม่อยากลงไปที่ลอบบี้ ทางโรงแรมก็มี wifi free ปล่อยมาให้อยู่แล้วครับ

แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า wifi free ที่นี่แรงมากกกกกกกกกกกก !!!

ใครที่เป็นโรคหัวใจ มาเจอความเร็วของเน็ต ฟรี ที่โรงแรมนี้อาจจะตกใจหัวใจวายตายได้ 555

แรงขนาดไหน ?

ก็วันที่ผมไปพัก Apple ประกาศอัพเดต OS X ฟรี เนื้อที่ประมาณ 5 Gb
ผมใช้เวลาโหลดประมาณ 20 นาทีเท่านั้น !!

เอาเป็นว่าผมอัพทั้ง OS X, iOS และอื่นๆจนคุ้มค่าที่พักแล้วกัน

นี่ก็ว่าจะโหลดบิทด้วย แต่เกรงใจเลยไม่โหลด 555



อาหารเช้ามีประมาณ 7 - 10 โมง เป็นแบบบุ๊ปเฟ่ง่ายๆ แต่พอดีไปสายเลยเหลือแค่กาแฟ เอแคลร์ กับซีเรียล ในตู้เย็นมีนมถั่วเหลืองอยู่หยิบกินได้ตามสบายครับ






สรุปว่า การเลือกพักที่นี่ได้ประสบการณ์ใหม่ พนักงานค่อนข้างเป็นมิตรและใจดี ถามทางได้ ขอร้องอะไรก็ได้ เช่น ปรับอุณหภูมิแอร์ เป็นต้น

แต่ก็มีส่วนที่ไม่ชอบใน the Pod ผมว่ามันไม่ส่วนตัวไปหน่อย จะขยับจัดของให้เข้าที่ก็กลัวเสียงดังรบกวนข้างๆ จะเอาอะไรมากินก็เกรงใจ จะไปเข้าห้องน้ำก็ต้องรีบกลับมากลัวของหาย แม้จะมีม่านปิดในแต่ละพอด แต่ผมก็ว่ายังลำบากอยู่ดี เพราะถ้าเปิดไฟข้างนอกก็จะเห็นว่าเราทำอะไรอยู่ ค่อนข้างอึดอัดครับ

แนะนำให้ลองอยู่สักคืนครับ ถ้าติดใจก็อยู่ต่อ ถ้าไม่ก็ถือว่ามาเอาบรรยากาศแปลกๆ ใหม่ๆ แล้วกัน

แล้ววันหลังจะมาเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวสิงคโปร์ใหม่นะครับ บายๆ ^^






ฝากบล็อกด้วยนะครับบบบ
http://mkunpot.blogspot.com/2013/10/review-pod.html
ชื่อสินค้า:   The Pod Singapore : Boutique capsule hotel
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่