พรีเมี่ยมรัช
หนังจากผู้กำกับ เดวิด โคเอป
นักเขียนบทมือทองจาก Angels & Demons/Indiana Jones ภาคล่าสุด/
Zathura/War of the Worlds/และสไปเดอร์แมนภาคแรก
ผลงานกำกับมีไม่มาก เรื่องดังๆที่ผมชอบคือ Secret Window
ที่แกเอาจอนนี่เดปมาเล่นเป็นคนปกติ(สมัยแจ็คสแปโร่วบูม)
พรีเมี่ยมรัชเป็นอีกหนึ่งผลงานม้ามืด มาจากไหนไม่รู้โฆษณาแปร๊บๆเข้าโรงและออกอย่างรวดเร็ว
เป็นหนังที่ดึงความสามารถของนักแสดงออกมาให้เห็นว่าตรูไม่ได้มีดีแค่หล่อนะเว้ย
....โจเซฟ กอร์ดอน เลวิต โชว์สกิลการปั่นฟิกเกียร์
และนางเอกดาเนีย รามิเรซ ที่ผันตัวจากตัวประกอบคาลิสโตใน x-men และอเมริกันพายรียูเนียน
...มาฝึกกีฬา extreme คู่พระนางกับโจเซฟ
ถือว่าทำได้ดีทั้งคู่ แม้จะไม่ถึงกับมือฉมังเท่าพวกเล่นจริงๆ...แต่การกำกับก็ทำให้พอเชื่อได้ว่า 2 คนนี้เจ๋งมากๆ
นอกจากพระนางแล้วยังมีท่านซอดจากดาวคริปตัน...เอ้ย...
ไมเคิล แชนนอน มารับบทตัวร้ายได้สะใจมาก (พี่แกตีบทตัวร้ายแตกได้น่ากระทืบสุดๆ)
ตัวพ๊อยหลักของเรื่องอีกตัวคือเจ๊ เจมี่ ชุง...(จากsucker Punch / hangover )...หน้าหมวยเอเชียน่ารักมาเลย
ดาราขนาดนี้ก็หนังเกรด A ดีๆนี่เอง
หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงสังคมอเมริกาที่มีปัญหารถติดคนไปไม่ทันเวลาเหมือนบ้านเรา
เลยมีช่องว่างธุรกิจให้ทำคือขับจักรยานขนส่งของ...นอกจากนั้นยังเอาพวกขาปั่นมาหารายได้
ซึ่งผมมองว่าเจ๋งมาก...ยังไงครับ
ต่างประเทศเขาให้ความสำคัญกับผลเมืองที่ขับจักรยาน
...มีเลนให้ขี่ด้วย (แม้ในหนังจะไม่ได้ใช้)
มีตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ...คนปั่นทุกคนให้ความสำคัญกับหมวกกันน็อค
และสำคัญที่สุดคือมีที่จอดพักจักรยานให้ล็อคล้ออยู่ตลอดทั้งเมือง...ปั่นไปไหนมาสบายใจเลยล่ะ
มุมของตำรวจเลวในต่างประเทศก็ไม่ต่างจากไทยเท่าไร...
ยังคงใช้อำนาจเหนือกฏหมายเอาเปรียบทุกช่องทาง
นั่นทำให้หนังดูมีมิติ...ย้อนแย้งกับพวกปั่นฟิกเกียร์ในเมืองแล้วสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
แม้การดำเนินเรื่องจะออกกึ่งๆอาชญากรรมเกินจริง
...แต่พอถึงบทสรุปของอีตาแชนนอนที่ถูกสอยกบาล...โอ้โฮ ลืมหมดเลย ตอนนั้นสะใจอย่างเดียว
ส่วนตัวละครที่แย่งซีนที่สุดในเรื่องคือ อีตาตำรวจคุมจักรยานที่ปั่นตาม
โดนกวนประสาทตลอดเรื่องนั่นแหละ...ฮาสัสๆ...สงสารพี่แก
หนังเรื่องนี้แสดงให้คนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องจักรยานดีนักพอเห็นภาพออก
ว่าฟิกเกียร์เป็นแบบไหน...เหมาะกับใคร...มันขับแบบไหน เบรกยังไง
แบบมีเกรียร์ปกติ...เหมาะกับเส้นทางแบบไหน การขับยังไง
ฉีกกระแสหนังช่วงนี้ที่มีแต่ไซไฟแฟนตาสีไปเยอะ...นานๆจะมีแนวกีฬามาบ้าง
สรุปเรื่องนี้สนุกครับ...ดูไปแล้วรู้สึกว่าผู้กำกับแกต้องอ่าน eyesheild 21 มาแน่ๆ (ถึงจะทำได้ไม่เท่าเซนะก็เถิด)
ให้ 7.5 /10 ดูเพลินๆได้หลายรอบ (ปั่นจักรยานโชว์ท่านิดหน่อยสนุกดี)
ดูจบรู้สึกอยากซื้อจักรยานมาปั่น (555)
ปล1.ผมชอบมากเรื่องแก๊งจักรยานพันธมิตร...กลุ่มเรามันเล็กการเกาะช่วยเหลือกันไว้ทำให้เราทำมาหากินได้
แก้ปัญหาร่วมกันได้...ไม่ใช่แค่แก๊งข้างถนน เพราะเราอยู่คนเดียวไม่ได้
ปล2.ผมชอบแนวคิดของพระเอกที่แกว่า...แกปั่นจักรยานแกไม่ใช้เบรคมือ
เบรค...คือการฆ่าตัวตาย
เมื่อเราเยรคเราจะควบคุมอะไรไม่ได้...นอกจากปล่อยไหลไปตามแรงเฉื่อยแล้วก็ถูกชน
เขาจึงเลือกที่จะไม่เบรค...แล้วใช้ตีนตัวเองคุมจักรยานดีกว่า
จึง...ค่อนข้างย้อนแย้งนิดนึง
ในชีวิตจริงการไม่เบรคคือการฆ่าตัวตาย...มันช่วยเซฟไม่ให้เราเดี้ยงระหว่างทางและทำคนอื่นเดือดร้อน
แต่หากมีสติเพียงพอ...เมื่อไม่มีเบรคจะทำให้เราไปไกลถึงจุดหมาย
...และประหยัดเวลาหลายเท่าตัวกว่าการวิ่งๆเบรคๆไปตลอดทาง
...ความคิดนี้จึงไม่สรุปอะไรเพราะหนังแสดงให้เราเห็นทั้ง 2 ด้าน
ก็เลือกใช้ตามสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์ในชชีวิตจริงกันนะครับ
[SR] รีวิว Premium Rush ความสนุกของการปั่นจักรยาน
หนังจากผู้กำกับ เดวิด โคเอป
นักเขียนบทมือทองจาก Angels & Demons/Indiana Jones ภาคล่าสุด/
Zathura/War of the Worlds/และสไปเดอร์แมนภาคแรก
ผลงานกำกับมีไม่มาก เรื่องดังๆที่ผมชอบคือ Secret Window
ที่แกเอาจอนนี่เดปมาเล่นเป็นคนปกติ(สมัยแจ็คสแปโร่วบูม)
พรีเมี่ยมรัชเป็นอีกหนึ่งผลงานม้ามืด มาจากไหนไม่รู้โฆษณาแปร๊บๆเข้าโรงและออกอย่างรวดเร็ว
เป็นหนังที่ดึงความสามารถของนักแสดงออกมาให้เห็นว่าตรูไม่ได้มีดีแค่หล่อนะเว้ย
....โจเซฟ กอร์ดอน เลวิต โชว์สกิลการปั่นฟิกเกียร์
และนางเอกดาเนีย รามิเรซ ที่ผันตัวจากตัวประกอบคาลิสโตใน x-men และอเมริกันพายรียูเนียน
...มาฝึกกีฬา extreme คู่พระนางกับโจเซฟ
ถือว่าทำได้ดีทั้งคู่ แม้จะไม่ถึงกับมือฉมังเท่าพวกเล่นจริงๆ...แต่การกำกับก็ทำให้พอเชื่อได้ว่า 2 คนนี้เจ๋งมากๆ
นอกจากพระนางแล้วยังมีท่านซอดจากดาวคริปตัน...เอ้ย...
ไมเคิล แชนนอน มารับบทตัวร้ายได้สะใจมาก (พี่แกตีบทตัวร้ายแตกได้น่ากระทืบสุดๆ)
ตัวพ๊อยหลักของเรื่องอีกตัวคือเจ๊ เจมี่ ชุง...(จากsucker Punch / hangover )...หน้าหมวยเอเชียน่ารักมาเลย
ดาราขนาดนี้ก็หนังเกรด A ดีๆนี่เอง
หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงสังคมอเมริกาที่มีปัญหารถติดคนไปไม่ทันเวลาเหมือนบ้านเรา
เลยมีช่องว่างธุรกิจให้ทำคือขับจักรยานขนส่งของ...นอกจากนั้นยังเอาพวกขาปั่นมาหารายได้
ซึ่งผมมองว่าเจ๋งมาก...ยังไงครับ
ต่างประเทศเขาให้ความสำคัญกับผลเมืองที่ขับจักรยาน
...มีเลนให้ขี่ด้วย (แม้ในหนังจะไม่ได้ใช้)
มีตำรวจที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ...คนปั่นทุกคนให้ความสำคัญกับหมวกกันน็อค
และสำคัญที่สุดคือมีที่จอดพักจักรยานให้ล็อคล้ออยู่ตลอดทั้งเมือง...ปั่นไปไหนมาสบายใจเลยล่ะ
มุมของตำรวจเลวในต่างประเทศก็ไม่ต่างจากไทยเท่าไร...
ยังคงใช้อำนาจเหนือกฏหมายเอาเปรียบทุกช่องทาง
นั่นทำให้หนังดูมีมิติ...ย้อนแย้งกับพวกปั่นฟิกเกียร์ในเมืองแล้วสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
แม้การดำเนินเรื่องจะออกกึ่งๆอาชญากรรมเกินจริง
...แต่พอถึงบทสรุปของอีตาแชนนอนที่ถูกสอยกบาล...โอ้โฮ ลืมหมดเลย ตอนนั้นสะใจอย่างเดียว
ส่วนตัวละครที่แย่งซีนที่สุดในเรื่องคือ อีตาตำรวจคุมจักรยานที่ปั่นตาม
โดนกวนประสาทตลอดเรื่องนั่นแหละ...ฮาสัสๆ...สงสารพี่แก
หนังเรื่องนี้แสดงให้คนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องจักรยานดีนักพอเห็นภาพออก
ว่าฟิกเกียร์เป็นแบบไหน...เหมาะกับใคร...มันขับแบบไหน เบรกยังไง
แบบมีเกรียร์ปกติ...เหมาะกับเส้นทางแบบไหน การขับยังไง
ฉีกกระแสหนังช่วงนี้ที่มีแต่ไซไฟแฟนตาสีไปเยอะ...นานๆจะมีแนวกีฬามาบ้าง
สรุปเรื่องนี้สนุกครับ...ดูไปแล้วรู้สึกว่าผู้กำกับแกต้องอ่าน eyesheild 21 มาแน่ๆ (ถึงจะทำได้ไม่เท่าเซนะก็เถิด)
ให้ 7.5 /10 ดูเพลินๆได้หลายรอบ (ปั่นจักรยานโชว์ท่านิดหน่อยสนุกดี)
ดูจบรู้สึกอยากซื้อจักรยานมาปั่น (555)
ปล1.ผมชอบมากเรื่องแก๊งจักรยานพันธมิตร...กลุ่มเรามันเล็กการเกาะช่วยเหลือกันไว้ทำให้เราทำมาหากินได้
แก้ปัญหาร่วมกันได้...ไม่ใช่แค่แก๊งข้างถนน เพราะเราอยู่คนเดียวไม่ได้
ปล2.ผมชอบแนวคิดของพระเอกที่แกว่า...แกปั่นจักรยานแกไม่ใช้เบรคมือ
เบรค...คือการฆ่าตัวตาย
เมื่อเราเยรคเราจะควบคุมอะไรไม่ได้...นอกจากปล่อยไหลไปตามแรงเฉื่อยแล้วก็ถูกชน
เขาจึงเลือกที่จะไม่เบรค...แล้วใช้ตีนตัวเองคุมจักรยานดีกว่า
จึง...ค่อนข้างย้อนแย้งนิดนึง
ในชีวิตจริงการไม่เบรคคือการฆ่าตัวตาย...มันช่วยเซฟไม่ให้เราเดี้ยงระหว่างทางและทำคนอื่นเดือดร้อน
แต่หากมีสติเพียงพอ...เมื่อไม่มีเบรคจะทำให้เราไปไกลถึงจุดหมาย
...และประหยัดเวลาหลายเท่าตัวกว่าการวิ่งๆเบรคๆไปตลอดทาง
...ความคิดนี้จึงไม่สรุปอะไรเพราะหนังแสดงให้เราเห็นทั้ง 2 ด้าน
ก็เลือกใช้ตามสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์ในชชีวิตจริงกันนะครับ