รถตู้คันหนึ่งถูกเรียกให้จอดซึ่งในนั้นมีหญิงวัยกลางคนนั่งมาด้วย หล่อนรู้สึกหัวเสียอยู่เอาการที่มีตำรวจชั้นผู้น้อยมาบังอาจหมิ่นศักดิ์ศรีของหล่อนโดยการเรียกให้จอดรถเพื่อจะขอตรวจค้น หล่อนจึงหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกวีดีโอ หวังจะนำไปประจานให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรมในการใช้อำนาจบาตรใหญ่
ซึ่งจะว่าไปแล้วในชั่วชีวิตของหล่อนเองก็ดูเหมือนว่าจะพบเจอเรื่องทำนองนี้อยู่บ่อยครั้ง ถึงขนาดประกาศตนเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับตำรวจทุกคน
"ดูซิ!มันจะทำไร ดู๊!ดู!มัน เสียเวลาจริงๆ ชั้นหล่ะเกลียดตำรวจพวกนี้จริงๆ ดูมันจะพูดว่าไง คอยดู! เดี๋ยวมันต้องเจอกับคนอย่างชั้นนี้..! มา!
มาเจอกันหน่อย”
หล่อนพูดด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด หวังจะทำให้ตำรวจผู้นั้นอับอายและเสียหน้าไปโดยการเล่นลิ้นลมปาก
"ขออนุญาตตรวจค้นด้วยครับ"
"ข้อหาอะไรคะ นี่มันรถนักข่าวนะคะ จะมาตรวจค้นอะไรกัน นี่เพื่อนเดี้ยนก็เป็นครูเสียด้วย แม่พิมพ์ของชาติค่ะ"
"ผมทำตามหน้าที่ครับ ขอความร่วมมือช่วยลงจากรถเพื่อขอตรวจค้นด้วยครับผม" (เหงื่อตก)
"เรื่องไรอะไรที่เดี้ยนจะต้องลงด้วยคะ หมิ่นประมาทกันเกินไปแล้วมั้ง นี่มันรถนักข่าว นี่ป้ายค่ะ (เขียนว่าPRESS) อ่านออกรึเปล่า" หล่อนยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกล้มความคิดที่จะทำให้ตำรวจนายนั้นเสียหน้า
ตำรวจหนุ่มผู้หนึ่งยศร้อยตำรวจตรี เห็นท่าไม่ได้ความจึงเดินเขาไปเพื่อไกล่เกลี่ย จะว่าเป็นแล้วเขายังหนุ่มมาก อายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปีเท่านั้น ท่าทางเขาผึ่งผายบวกกับหน้าตาที่คมเข้มและรูปร่างกำยำเหมือนดาราหนังไทยในยุค80sจึงทำให้เขามีความมั่นใจเต็มพิกัด
"โอเคครับ ฟังผมนะ ผมไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ผมทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา คือมีรายงานมาว่า คนร้ายบางคนผู้ซึ่งไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองและลูกหลานของเราๆท่านๆทุกคน จะขนยาเสพติดผ่านมาที่เส้นทางนี้ด้วยรถตู้ เพราะฉะนั้น ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ผมจึงจะต้องขอให้ท่านช่วยลงจากรถเพื่อทำการตรวจค้นด้วย จริงๆผมก็ไม่ได้อยากทำให้พวกท่านต้องเสียเวลา ผมอยากจะนอนกินลมชมดอกไม้อยู่ที่บ้าน กับภรรยาที่สุดแสนจะน่ารักของผม (เขาเน้นคำว่าสุดแสนจะน่ารักดังเป็นพิเศษ) อ่านบทกวีดีๆสักบท และผมอยากจะบอกว่าการตรวจค้นรถแบบนี้มันอันตรายมาก พวกคุณอาจจะมีปืน ซึ่งผมต้องเสี่ยงกับการที่พวกคุณหรือใครก็ตามควักปืนออกมายิง ให้ตายสิ! เงินเดือนผมไม่ถึงหมื่นห้าด้วยซ้ำ คิดเหรอว่าผมอยากจะทำงานที่เสี่ยงแบบนี้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้เกิดความสะดวกกับทั้งสองฝ่าย ขอความร่วมมือช่วยลงจากรถด้วย เห็นแก่บ้านเมืองและอนาคตของชาติล่ะ โอเค้!( เขาขึ้นเสียงสูง) "
ทุกคนในรถเงียบกริบ และปฏิบัติตามแทบจะทันที ไม่อาจบอกได้แจ่มแจ้งนักว่ามันเป็นเพราะคำพูดของตำรวจหนุ่มผู้นั้น หรือเพราะความหล่อของเขากันแน่ ที่ทำให้หญิงวัยกลางคนทั้งสองตั้งใจฟังเขาพูดและก็ให้ความรวมมืออย่างดีเช่นนั้น
***ด่าน***
ซึ่งจะว่าไปแล้วในชั่วชีวิตของหล่อนเองก็ดูเหมือนว่าจะพบเจอเรื่องทำนองนี้อยู่บ่อยครั้ง ถึงขนาดประกาศตนเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับตำรวจทุกคน
"ดูซิ!มันจะทำไร ดู๊!ดู!มัน เสียเวลาจริงๆ ชั้นหล่ะเกลียดตำรวจพวกนี้จริงๆ ดูมันจะพูดว่าไง คอยดู! เดี๋ยวมันต้องเจอกับคนอย่างชั้นนี้..! มา!
มาเจอกันหน่อย”
หล่อนพูดด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด หวังจะทำให้ตำรวจผู้นั้นอับอายและเสียหน้าไปโดยการเล่นลิ้นลมปาก
"ขออนุญาตตรวจค้นด้วยครับ"
"ข้อหาอะไรคะ นี่มันรถนักข่าวนะคะ จะมาตรวจค้นอะไรกัน นี่เพื่อนเดี้ยนก็เป็นครูเสียด้วย แม่พิมพ์ของชาติค่ะ"
"ผมทำตามหน้าที่ครับ ขอความร่วมมือช่วยลงจากรถเพื่อขอตรวจค้นด้วยครับผม" (เหงื่อตก)
"เรื่องไรอะไรที่เดี้ยนจะต้องลงด้วยคะ หมิ่นประมาทกันเกินไปแล้วมั้ง นี่มันรถนักข่าว นี่ป้ายค่ะ (เขียนว่าPRESS) อ่านออกรึเปล่า" หล่อนยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกล้มความคิดที่จะทำให้ตำรวจนายนั้นเสียหน้า
ตำรวจหนุ่มผู้หนึ่งยศร้อยตำรวจตรี เห็นท่าไม่ได้ความจึงเดินเขาไปเพื่อไกล่เกลี่ย จะว่าเป็นแล้วเขายังหนุ่มมาก อายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปีเท่านั้น ท่าทางเขาผึ่งผายบวกกับหน้าตาที่คมเข้มและรูปร่างกำยำเหมือนดาราหนังไทยในยุค80sจึงทำให้เขามีความมั่นใจเต็มพิกัด
"โอเคครับ ฟังผมนะ ผมไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ผมทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา คือมีรายงานมาว่า คนร้ายบางคนผู้ซึ่งไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองและลูกหลานของเราๆท่านๆทุกคน จะขนยาเสพติดผ่านมาที่เส้นทางนี้ด้วยรถตู้ เพราะฉะนั้น ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ผมจึงจะต้องขอให้ท่านช่วยลงจากรถเพื่อทำการตรวจค้นด้วย จริงๆผมก็ไม่ได้อยากทำให้พวกท่านต้องเสียเวลา ผมอยากจะนอนกินลมชมดอกไม้อยู่ที่บ้าน กับภรรยาที่สุดแสนจะน่ารักของผม (เขาเน้นคำว่าสุดแสนจะน่ารักดังเป็นพิเศษ) อ่านบทกวีดีๆสักบท และผมอยากจะบอกว่าการตรวจค้นรถแบบนี้มันอันตรายมาก พวกคุณอาจจะมีปืน ซึ่งผมต้องเสี่ยงกับการที่พวกคุณหรือใครก็ตามควักปืนออกมายิง ให้ตายสิ! เงินเดือนผมไม่ถึงหมื่นห้าด้วยซ้ำ คิดเหรอว่าผมอยากจะทำงานที่เสี่ยงแบบนี้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้เกิดความสะดวกกับทั้งสองฝ่าย ขอความร่วมมือช่วยลงจากรถด้วย เห็นแก่บ้านเมืองและอนาคตของชาติล่ะ โอเค้!( เขาขึ้นเสียงสูง) "
ทุกคนในรถเงียบกริบ และปฏิบัติตามแทบจะทันที ไม่อาจบอกได้แจ่มแจ้งนักว่ามันเป็นเพราะคำพูดของตำรวจหนุ่มผู้นั้น หรือเพราะความหล่อของเขากันแน่ ที่ทำให้หญิงวัยกลางคนทั้งสองตั้งใจฟังเขาพูดและก็ให้ความรวมมืออย่างดีเช่นนั้น