3.ฝันแสนหวาน
ในพระราชวังของฮามเมอร์ลิน มีชายหนุ่มกำลังโต้แย้งเสียงแข็งกับพระบิดาอยู่ ในหัวข้อเดิมๆ บอกถึงสิ่งที่ควรจะต้องถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด เพราะคนในตระกูลก็ดำรงสืบทอดกันมาหลายช่วงคนแล้ว การเกี่ยวดองกับลูกหลานประธานาธิบดีเป็นเรื่องเชื่อมโยงทางการเมือง เมื่ออำนาจการปกครองและระบอบการปกครองร่วมมือกัน ทุกอย่างก็ดูจะราบรื่น ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยมีความผาสุก อยู่ดีกินดีและดำเนินธุรกิจค้าขายประกอบอาชีพด้วยความสุจริตชน
ข้อกล่าวอ้างทั้งหมดทั้งมวล ก็คือ เขาต้องยินยอมเป็นฝ่ายต้องจัดการสืบทอดเจตนารมย์ของคนในตระกูล โดยไม่ฟังคำคัดค้าน
“ในเมื่อพี่ชายยังอยู่และยังโสด ทำไมท่านพ่อถึงไม่โยนสิทธิ์นั้นให้พี่เขาบ้างล่ะครับ”
“ไม่ได้ ในเมื่อพี่ชายของแกตัดสินใจจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่นแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เจ้าเท่านั้น” เสียงเครียดรับสั่งออกมาอย่างแค่นเคร่ง
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น แล้วถ้าหากลูกเองก็มีหญิงที่รู้ใจและพร้อมจะทดถอนยศทางราชบัลลังก์ล่ะครับ” ทางเลือกที่เจ็บแปลบเข้าหัวใจของฮามเมอร์ลินจนร่างทรุด ลูกชายคนที่สองปรี่เข้าไปช่วยประคอง เรียกแพทย์ประจำพระราชวังได้เข้ามาทำการรักษา
ทุกคำของพระราชบิดายังคงตอกย้ำ ดังก้องอยู่ภายในใจของหนุ่มวัยคึกคะนอง สิทธิ์ในการเลือกคู่ครองถูกกำหนดมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ของบรรพบุรุษ ตระกูลสูงก็เหมือนยืนอยู่ปากเหวที่พร้อมจมดิ่งลงสู่เบื้องล่าง หากเพียงขาดสติในดำเนินชีวิตอันมีศักดินาพ่วงท้ายมาอยู่แบบนี้ ไม่มีทางที่จะคิดอะไรนอกกรอบหรือดำเนินไปตามครรลองอันชอบใจ
สีหน้าของเขาว้าวุ่น พลางทางเดินโล่งที่อยู่เบื้องหน้า ปรากฎร่างบางสะโอดสะองนางหนึ่งในชุดหวานพริ้งนวยนาดเข้ามาคลี่ยิ้มให้กับเขา ความไม่แน่ใจว่ารอยยิ้มนั้นใช่ของเขาหรือเปล่า ก็เหลียวหันไปรอบตัว ซึ่งนั่นก็มีเพียงเขาเพียงคนเดียว สรุปว่ารอยยิ้มของหญิงสาวที่โปรยมาเป็นของเขา
ความงดงามราวภาพวาดบนผนังโบสถ์ถูกยกมาวางต่อหน้าเขา หากแต่มีดวงหน้าของสาวไทยคนที่เขาเพิ่งตัดสินใจยกเลิกการคลุมถุงชนอย่างคุกคามจากพระราชบิดาเข้ามาทับซ้อนดวงหน้าของหญิงสาวที่ยืนกระจายยิ้มให้กับเขา
“คุณ...”
“คะ”
เสียงตอบกลับช่างอ่อนหวานประดุจเสียงพิณของนางเงือกที่ร่ายมนต์เรียกให้ชายหนุ่มไปติดกับดักที่วางเอาไว้ นัยน์ตาของชายหนุ่มเหม่อลอย นิสัยเจ้าชู้กรุ้มกริ่มที่แก้ไม่หายสงสัยจะกระจายทั่วสายเลือดเป็นแน่ อกข้างซ้ายเต้นถี่จนเสียงดัง
“พอดีคุณพ่อท่านมีธุระที่พระราชวังนะคะ ก็เลยติดสอยห้อยตามท่านมาด้วย เพื่อเป็นการเรียนรู้งานไปในตัว” เธออ้างพร้อมนัยน์ตาระยิบระยับแพรวพราวหลอกล่อให้ชายหนุ่มตายใจ หยิบยื่นความอ่อนโยนให้
“เอ่อ พอจะบอกได้ไหมครับว่า...ธุระเรื่องอันใด”
หญิงสาวไม่ตอบเพียงแค่ส่ายหน้า ตัดบทเข้าเรื่องพร้อมแสร้งทำนัยน์ตาเศร้าเดินเข้ามาใกล้กายแกร่งอย่างตั้งใจ อ้อล้อสายตาเว้าวอนอย่างอ่อนหวาน
ชายหนุ่มที่กำลังโหยหาอิสระก็หวั่นไหวเมื่อเนื้อนางมายืนพริ้มพรายอยู่เบื้องหน้า ความแน่นอัดถูกบีบให้รัดจนแทบจะหายใจไม่ออก เขาเพียงแค่ชายตาก็รับรู้ถึงความอบอุ่นหากเพียงสัมผัสเพียงแผ่วเบา ทุกอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ภายในถ้าได้ลิ้มชิมรสชาติก็คงจะดีไม่น้อย
หัวข้อสนทนาดูคล้ายคลึงเรื่องของเขาเสียเหลือเกิน จึงไม่ยากที่เขาจะเข้าใจบทบาทของความลำบากใจ ในเมื่อไม่ชอบ มันก่อให้เกิดการวางตัวลำบากและมันจะหยักข้อเพราะเป็นข้อตกลงระหว่างพันธะสัญญาต่างๆ
“เรื่องนี้ ผมเข้าใจดีครับ มันกำลังเกิดขึ้นกับผมเองเช่นกัน”
“งั้นเราก็หัวอกเดียวกันสินะคะ” เธอระบายลมหายใจอ่อนๆ อย่างเหนื่อยใจ พลางเงยหน้าขึ้นมาสบตาแวววาวของชายหนุ่มที่คลี่ยิ้มอ่อนๆ ให้กับเธอ
“ครับ” ทั้งสีหน้าและดวงตาที่รู้สึกดี
หญิงสาวออกเดินนำพร้อมรอยยิ้มที่กอบกุมชัยชนะเอาไว้ในมือ กลั้วหัวเราะเบาๆ เพียงลำพัง เหลือบมองดูคนที่กำลังสาวเท้าเดินตามมา
“พระราชวังของท่านฮามเมอร์ลินงดงามเหลือเกินนะคะ” เธอพูดราวกับล่วงรู้ว่าเขาเป็นใคร หรือว่าจะออกสื่อบ่อยเกินไป จึงทำให้ดวงหน้าอันหล่อเหลาของเขาไปกระทบใจหญิงสาวทั้งเมืองราบัตต้าแห่งนี้
“ไม่ต้องสงสัยหรอก เพราะพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างตั้งแต่กษัตริย์องค์ก่อนๆ แล้ว สถาปัตยกรรมชั้นนำถูกนำมารวมความงดงามเอาไว้ที่นี้จนหมดสิ้น” เขาสาธยายถึงคุณค่าความงามที่ประกาศก้องต่อหน้าของหญิงสาวที่ชม้อยตามองสำรวจความงดงามใกล้ชิดแบบนี้
“แล้วส่วนไหนบางคะที่ค่อนข้าง...ลับตา ยังไม่เป็นที่เปิดเผยแก่ผู้ใด” น้ำเสียงเว้าวอนร้องขออยากจะเห็น
“สถานที่นั้นก็มีอยู่จริง แต่ยากสำหรับบุคคลทั่วไปที่จะเข้าไปได้” เขาทิ้งน้ำเสียงกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาว
“อยากเห็นจังเลยนะคะ ขนาดภายนอกพระราชวังยังงดงามได้เพียงนี้ แล้วสถานที่ลับตา ยังไม่เป็นที่เปิดเผยแก่สายตาสาธารณะชนจะงดงามเพียงไร” เป็นอีกครั้งที่เธอหันมามองชายหนุ่ม
“เธออยากเห็นจริงๆ เหรอ”
หญิงสาวเบื้องหน้าพยักรับลงความเห็นอยากกระตือรือร้น ในเมื่อต้องการจะแต่งเข้ามาเป็นเจ้าหญิงคนรองก็ต้องใช้ความพยายามด้วยเล่ห์มายาทั้งหลายที่หญิงสาวจะนำมาใช้กับชายหนุ่มผู้หิวกระหายตามวัยกระสัน เธอเลือกจะเป็นฝ่ายเดินตามเขาบ้าง แสร้งเหลียวมองสิ่งรอบข้างอย่างระแวดระวังราวกับกลัวว่าใครจะเห็นเข้า
“พระราชวังชั้นใน ล้วนมีของหายากจากทั่วทุกมุมโลก แต่ก็ไม่ได้โชว์ให้กับใครได้เห็นง่ายๆ นอกจากเชื้อพระวงศ์และแขกคนพิเศษเท่านั้น”
สิ่งที่เขาพูดนั่นหมายถึงหญิงสาวที่เดินตามเข้ามา
“แขกพิเศษงั้นเหรอคะ แสดงว่า...นารีนมะคนนี้ก็ใช่ ใช่ไหมคะ” เธอย้อนถาม
“ครับ แขกคนพิเศษของผม”
มือหนาส่งมารอมือนุ่มของอีกคน เดินไปยังส่วนที่เป็นส่วนตัวในพระราชวังชั้นในที่แยกออกเป็นสัดส่วน แสดงความเป็นส่วนตัวที่อยู่ปีกซ้ายของพระราชวังเล็กกว่าปีกขวาตามฐานันดรศักดิ์ แต่ก็ยิ่งใหญ่อลังการเกือบเท่าสนามฟุตบอล
หญิงสาวร้องทักเมื่อเห็นความอลังการงดงามของพระราชวังส่วนพระองค์ของเจ้าชายคนรอง มิน่าล่ะ ท่านพ่อถึงกำชับนักหนาว่าอย่างไรก็ตามต้องเป็นสะใภ้ของฮามเมอร์ลินให้ได้
มงกุฎซาตาน 3.ฝันแสนหวาน
ในพระราชวังของฮามเมอร์ลิน มีชายหนุ่มกำลังโต้แย้งเสียงแข็งกับพระบิดาอยู่ ในหัวข้อเดิมๆ บอกถึงสิ่งที่ควรจะต้องถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด เพราะคนในตระกูลก็ดำรงสืบทอดกันมาหลายช่วงคนแล้ว การเกี่ยวดองกับลูกหลานประธานาธิบดีเป็นเรื่องเชื่อมโยงทางการเมือง เมื่ออำนาจการปกครองและระบอบการปกครองร่วมมือกัน ทุกอย่างก็ดูจะราบรื่น ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยมีความผาสุก อยู่ดีกินดีและดำเนินธุรกิจค้าขายประกอบอาชีพด้วยความสุจริตชน
ข้อกล่าวอ้างทั้งหมดทั้งมวล ก็คือ เขาต้องยินยอมเป็นฝ่ายต้องจัดการสืบทอดเจตนารมย์ของคนในตระกูล โดยไม่ฟังคำคัดค้าน
“ในเมื่อพี่ชายยังอยู่และยังโสด ทำไมท่านพ่อถึงไม่โยนสิทธิ์นั้นให้พี่เขาบ้างล่ะครับ”
“ไม่ได้ ในเมื่อพี่ชายของแกตัดสินใจจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่นแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เจ้าเท่านั้น” เสียงเครียดรับสั่งออกมาอย่างแค่นเคร่ง
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น แล้วถ้าหากลูกเองก็มีหญิงที่รู้ใจและพร้อมจะทดถอนยศทางราชบัลลังก์ล่ะครับ” ทางเลือกที่เจ็บแปลบเข้าหัวใจของฮามเมอร์ลินจนร่างทรุด ลูกชายคนที่สองปรี่เข้าไปช่วยประคอง เรียกแพทย์ประจำพระราชวังได้เข้ามาทำการรักษา
ทุกคำของพระราชบิดายังคงตอกย้ำ ดังก้องอยู่ภายในใจของหนุ่มวัยคึกคะนอง สิทธิ์ในการเลือกคู่ครองถูกกำหนดมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ของบรรพบุรุษ ตระกูลสูงก็เหมือนยืนอยู่ปากเหวที่พร้อมจมดิ่งลงสู่เบื้องล่าง หากเพียงขาดสติในดำเนินชีวิตอันมีศักดินาพ่วงท้ายมาอยู่แบบนี้ ไม่มีทางที่จะคิดอะไรนอกกรอบหรือดำเนินไปตามครรลองอันชอบใจ
สีหน้าของเขาว้าวุ่น พลางทางเดินโล่งที่อยู่เบื้องหน้า ปรากฎร่างบางสะโอดสะองนางหนึ่งในชุดหวานพริ้งนวยนาดเข้ามาคลี่ยิ้มให้กับเขา ความไม่แน่ใจว่ารอยยิ้มนั้นใช่ของเขาหรือเปล่า ก็เหลียวหันไปรอบตัว ซึ่งนั่นก็มีเพียงเขาเพียงคนเดียว สรุปว่ารอยยิ้มของหญิงสาวที่โปรยมาเป็นของเขา
ความงดงามราวภาพวาดบนผนังโบสถ์ถูกยกมาวางต่อหน้าเขา หากแต่มีดวงหน้าของสาวไทยคนที่เขาเพิ่งตัดสินใจยกเลิกการคลุมถุงชนอย่างคุกคามจากพระราชบิดาเข้ามาทับซ้อนดวงหน้าของหญิงสาวที่ยืนกระจายยิ้มให้กับเขา
“คุณ...”
“คะ”
เสียงตอบกลับช่างอ่อนหวานประดุจเสียงพิณของนางเงือกที่ร่ายมนต์เรียกให้ชายหนุ่มไปติดกับดักที่วางเอาไว้ นัยน์ตาของชายหนุ่มเหม่อลอย นิสัยเจ้าชู้กรุ้มกริ่มที่แก้ไม่หายสงสัยจะกระจายทั่วสายเลือดเป็นแน่ อกข้างซ้ายเต้นถี่จนเสียงดัง
“พอดีคุณพ่อท่านมีธุระที่พระราชวังนะคะ ก็เลยติดสอยห้อยตามท่านมาด้วย เพื่อเป็นการเรียนรู้งานไปในตัว” เธออ้างพร้อมนัยน์ตาระยิบระยับแพรวพราวหลอกล่อให้ชายหนุ่มตายใจ หยิบยื่นความอ่อนโยนให้
“เอ่อ พอจะบอกได้ไหมครับว่า...ธุระเรื่องอันใด”
หญิงสาวไม่ตอบเพียงแค่ส่ายหน้า ตัดบทเข้าเรื่องพร้อมแสร้งทำนัยน์ตาเศร้าเดินเข้ามาใกล้กายแกร่งอย่างตั้งใจ อ้อล้อสายตาเว้าวอนอย่างอ่อนหวาน
ชายหนุ่มที่กำลังโหยหาอิสระก็หวั่นไหวเมื่อเนื้อนางมายืนพริ้มพรายอยู่เบื้องหน้า ความแน่นอัดถูกบีบให้รัดจนแทบจะหายใจไม่ออก เขาเพียงแค่ชายตาก็รับรู้ถึงความอบอุ่นหากเพียงสัมผัสเพียงแผ่วเบา ทุกอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ภายในถ้าได้ลิ้มชิมรสชาติก็คงจะดีไม่น้อย
หัวข้อสนทนาดูคล้ายคลึงเรื่องของเขาเสียเหลือเกิน จึงไม่ยากที่เขาจะเข้าใจบทบาทของความลำบากใจ ในเมื่อไม่ชอบ มันก่อให้เกิดการวางตัวลำบากและมันจะหยักข้อเพราะเป็นข้อตกลงระหว่างพันธะสัญญาต่างๆ
“เรื่องนี้ ผมเข้าใจดีครับ มันกำลังเกิดขึ้นกับผมเองเช่นกัน”
“งั้นเราก็หัวอกเดียวกันสินะคะ” เธอระบายลมหายใจอ่อนๆ อย่างเหนื่อยใจ พลางเงยหน้าขึ้นมาสบตาแวววาวของชายหนุ่มที่คลี่ยิ้มอ่อนๆ ให้กับเธอ
“ครับ” ทั้งสีหน้าและดวงตาที่รู้สึกดี
หญิงสาวออกเดินนำพร้อมรอยยิ้มที่กอบกุมชัยชนะเอาไว้ในมือ กลั้วหัวเราะเบาๆ เพียงลำพัง เหลือบมองดูคนที่กำลังสาวเท้าเดินตามมา
“พระราชวังของท่านฮามเมอร์ลินงดงามเหลือเกินนะคะ” เธอพูดราวกับล่วงรู้ว่าเขาเป็นใคร หรือว่าจะออกสื่อบ่อยเกินไป จึงทำให้ดวงหน้าอันหล่อเหลาของเขาไปกระทบใจหญิงสาวทั้งเมืองราบัตต้าแห่งนี้
“ไม่ต้องสงสัยหรอก เพราะพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างตั้งแต่กษัตริย์องค์ก่อนๆ แล้ว สถาปัตยกรรมชั้นนำถูกนำมารวมความงดงามเอาไว้ที่นี้จนหมดสิ้น” เขาสาธยายถึงคุณค่าความงามที่ประกาศก้องต่อหน้าของหญิงสาวที่ชม้อยตามองสำรวจความงดงามใกล้ชิดแบบนี้
“แล้วส่วนไหนบางคะที่ค่อนข้าง...ลับตา ยังไม่เป็นที่เปิดเผยแก่ผู้ใด” น้ำเสียงเว้าวอนร้องขออยากจะเห็น
“สถานที่นั้นก็มีอยู่จริง แต่ยากสำหรับบุคคลทั่วไปที่จะเข้าไปได้” เขาทิ้งน้ำเสียงกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาว
“อยากเห็นจังเลยนะคะ ขนาดภายนอกพระราชวังยังงดงามได้เพียงนี้ แล้วสถานที่ลับตา ยังไม่เป็นที่เปิดเผยแก่สายตาสาธารณะชนจะงดงามเพียงไร” เป็นอีกครั้งที่เธอหันมามองชายหนุ่ม
“เธออยากเห็นจริงๆ เหรอ”
หญิงสาวเบื้องหน้าพยักรับลงความเห็นอยากกระตือรือร้น ในเมื่อต้องการจะแต่งเข้ามาเป็นเจ้าหญิงคนรองก็ต้องใช้ความพยายามด้วยเล่ห์มายาทั้งหลายที่หญิงสาวจะนำมาใช้กับชายหนุ่มผู้หิวกระหายตามวัยกระสัน เธอเลือกจะเป็นฝ่ายเดินตามเขาบ้าง แสร้งเหลียวมองสิ่งรอบข้างอย่างระแวดระวังราวกับกลัวว่าใครจะเห็นเข้า
“พระราชวังชั้นใน ล้วนมีของหายากจากทั่วทุกมุมโลก แต่ก็ไม่ได้โชว์ให้กับใครได้เห็นง่ายๆ นอกจากเชื้อพระวงศ์และแขกคนพิเศษเท่านั้น”
สิ่งที่เขาพูดนั่นหมายถึงหญิงสาวที่เดินตามเข้ามา
“แขกพิเศษงั้นเหรอคะ แสดงว่า...นารีนมะคนนี้ก็ใช่ ใช่ไหมคะ” เธอย้อนถาม
“ครับ แขกคนพิเศษของผม”
มือหนาส่งมารอมือนุ่มของอีกคน เดินไปยังส่วนที่เป็นส่วนตัวในพระราชวังชั้นในที่แยกออกเป็นสัดส่วน แสดงความเป็นส่วนตัวที่อยู่ปีกซ้ายของพระราชวังเล็กกว่าปีกขวาตามฐานันดรศักดิ์ แต่ก็ยิ่งใหญ่อลังการเกือบเท่าสนามฟุตบอล
หญิงสาวร้องทักเมื่อเห็นความอลังการงดงามของพระราชวังส่วนพระองค์ของเจ้าชายคนรอง มิน่าล่ะ ท่านพ่อถึงกำชับนักหนาว่าอย่างไรก็ตามต้องเป็นสะใภ้ของฮามเมอร์ลินให้ได้