สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ครอบครัวน้องฐานะธรรมดาเนี่ยแหละค่ะ
เอิ่มมม ส่วนเรื่องสองแสนหมดเนี่ย... น้องใช้แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวค่ะ
แต่เด็กอะหนอไม่เคยจับเงินหลักแสนมาก่อน ... ซื้อนู้นซื้อนี้ ใช้แปปเดียวก็หมด (ของที่ได้ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน)
หลังจากนั้นก็กินแกลบแบบที่น้องว่า เรียกว่าเข็ดกันไปอีกนาน จะถือว่าเป็นบทเรียนก็ได้ค่ะ
ขออนุญาติ ลงบทสัมภาษณ์ในแพรวให้อ่านนะคะ (ละเอียดกว่าใน รายการ 3แซบ)
ทำงานได้เงินมาก้อนแรกรู้สึกอย่างไร
ความที่ตอนเด็ก ๆ กว่าผมจะได้ของเล่นอะไรสักชิ้นยากมาก อย่างโทรศัพท์มือถือกว่าจะได้ขอพ่ออยู่ 2 ปี เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เลี้ยงลูกแบบตามใจ หรือให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นพอผมมาเล่นละครเรื่องนี้ ได้เงินค่าตัวมาประมาณสองแสนบาท เรียกว่าเป็นเงินก้อนแรกในชีวิต อารมณ์ตอนนั้นเหมือนคนถูกหวย ดีใจมาก ๆ อะไรที่ไม่เคยได้มาก่อน เราก็สามารถซื้อได้ทุกอย่าง อยากกินอะไรแพง ๆ ก็กิน อย่างอาหารญี่ปุ่น ผมกินมื้อละหมื่นติดกันอยู่หลายวัน เรียกว่ากินอยู่อย่างราชาเลยครับ อยากซื้ออะไรก็ซื้อ ใช้ชีวิตฟู่ฟ่ามาก เดินห้างสรรพสินค้า ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า โทรศัพท์มือถือ แทบเล็ต เชื่อไหม ผมใช้เงินหมดภายในสามอาทิตย์ พอกลับมานั่งคิด เราไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง
ที่เด็ดกว่านั้นคือ ตอนได้เงินมาผมบอกแม่ว่าจะใช้เงินตัวเองแล้วนะ จะเลิกขอเงินแม่เด็ดขาด สามอาทิตย์ผ่านไป เงินสองแสนหมดเกลี้ยง ยังดีที่ทางช่องมีค่าขนมให้นักแสดงคนละ 8,000 บาททุกเดือน ซึ่งหักภาษี แล้วเหลือ 7,600 บาท ผมก็นำเงินตรงนั้นมาใช้ หักค่าน้ำมันรถสำหรับไปมหาวิทยาลัย 4,000 บาท เหลือเงินอยู่ 3,600 บาทไว้กินข้าว กับขึ้นรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน จากนั้นต้องนั่งมอเตอร์ไซต์ต่อไปอีก เดินทางทีก็เกือบร้อยบาทแล้ว จำได้ว่าอาทิตย์สุดท้ายของเดือนผมเหลือเงินอยู่ 700 บาท และต้องใช้ทั้งอาทิตย์ แค่ค่าเดินทางไปกลับช่องก็หมดแล้ว ตอนนั้นชีวิตแย่ ต้องกินแต่บะหมี่สำเร็จรูป บางวันต้องยอมอดเพื่อต้องเก็บไว้เป็นค่ารถ แล้วเวลาไปเรียนผมต้องขับรถจากคอนโดแถวลาดพร้าวไปมหาวิทยาลัยรังสิต ระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร ถ้าวันไหนตื่นสายต้องขึ้นโทลล์เวย์เสียเงิน อีก 60 บาท ตอนนั้นเห็นคุณค่าของเงินขึ้นมาทันทีเลยครับ
นับเป็นบทเรียนชีวิตที่ดีมากสำหรับผม ผมได้เรียนรู้จักเงินสองแสนยังดีกว่าที่วันหนึ่งผมมีเงินสองล้านแล้วใช้หมดภายในสองอาทิตย์ คือเราได้สัมผัสช่วงตอนที่ไม่มีเงินแล้ว รู้เลยว่าแย่ขนาดไหน จึงทำผมเปลี่ยนความคิดมาเริ่มเก็บเงิน โชคดีช่วงนั้นมีงานเข้ามาพอดี จึงพอมีเงินเลี้ยงตัวเองมาได้เรื่อย ๆ จนตอนหลังทำงานอย่างเดียวจนแทบไม่ได้ใช้เงินเลยครับ ตอนนี้พ่อแม่ก็เริ่มมาอยู่ด้วย เพราะผมไม่อยากให้ท่านทำงานแล้ว อยากให้มาอยู่ใกล้ ๆ เอาเงินผมไปใช้ก็ได้ ผมอยากเลี้ยงท่านบ้างแล้ว เดี๋ยวนี้เวลาได้เงินมาจะรู้จักเก็บแล้วคิดว่า ควรจะแบ่งสันปันส่วนอย่างไร ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเดี๋ยวนี้มีของให้เล่นเยอะ มีสิ่งล่อตาล่อใจเยอะ ดังนั้นคนที่เริ่มทำงานแรก ๆ ต้องคิดเรื่องการใช้จ่ายให้ดี ๆ
เอิ่มมม ส่วนเรื่องสองแสนหมดเนี่ย... น้องใช้แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวค่ะ
แต่เด็กอะหนอไม่เคยจับเงินหลักแสนมาก่อน ... ซื้อนู้นซื้อนี้ ใช้แปปเดียวก็หมด (ของที่ได้ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน)
หลังจากนั้นก็กินแกลบแบบที่น้องว่า เรียกว่าเข็ดกันไปอีกนาน จะถือว่าเป็นบทเรียนก็ได้ค่ะ
ขออนุญาติ ลงบทสัมภาษณ์ในแพรวให้อ่านนะคะ (ละเอียดกว่าใน รายการ 3แซบ)
ทำงานได้เงินมาก้อนแรกรู้สึกอย่างไร
ความที่ตอนเด็ก ๆ กว่าผมจะได้ของเล่นอะไรสักชิ้นยากมาก อย่างโทรศัพท์มือถือกว่าจะได้ขอพ่ออยู่ 2 ปี เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เลี้ยงลูกแบบตามใจ หรือให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นพอผมมาเล่นละครเรื่องนี้ ได้เงินค่าตัวมาประมาณสองแสนบาท เรียกว่าเป็นเงินก้อนแรกในชีวิต อารมณ์ตอนนั้นเหมือนคนถูกหวย ดีใจมาก ๆ อะไรที่ไม่เคยได้มาก่อน เราก็สามารถซื้อได้ทุกอย่าง อยากกินอะไรแพง ๆ ก็กิน อย่างอาหารญี่ปุ่น ผมกินมื้อละหมื่นติดกันอยู่หลายวัน เรียกว่ากินอยู่อย่างราชาเลยครับ อยากซื้ออะไรก็ซื้อ ใช้ชีวิตฟู่ฟ่ามาก เดินห้างสรรพสินค้า ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า โทรศัพท์มือถือ แทบเล็ต เชื่อไหม ผมใช้เงินหมดภายในสามอาทิตย์ พอกลับมานั่งคิด เราไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง
ที่เด็ดกว่านั้นคือ ตอนได้เงินมาผมบอกแม่ว่าจะใช้เงินตัวเองแล้วนะ จะเลิกขอเงินแม่เด็ดขาด สามอาทิตย์ผ่านไป เงินสองแสนหมดเกลี้ยง ยังดีที่ทางช่องมีค่าขนมให้นักแสดงคนละ 8,000 บาททุกเดือน ซึ่งหักภาษี แล้วเหลือ 7,600 บาท ผมก็นำเงินตรงนั้นมาใช้ หักค่าน้ำมันรถสำหรับไปมหาวิทยาลัย 4,000 บาท เหลือเงินอยู่ 3,600 บาทไว้กินข้าว กับขึ้นรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดิน จากนั้นต้องนั่งมอเตอร์ไซต์ต่อไปอีก เดินทางทีก็เกือบร้อยบาทแล้ว จำได้ว่าอาทิตย์สุดท้ายของเดือนผมเหลือเงินอยู่ 700 บาท และต้องใช้ทั้งอาทิตย์ แค่ค่าเดินทางไปกลับช่องก็หมดแล้ว ตอนนั้นชีวิตแย่ ต้องกินแต่บะหมี่สำเร็จรูป บางวันต้องยอมอดเพื่อต้องเก็บไว้เป็นค่ารถ แล้วเวลาไปเรียนผมต้องขับรถจากคอนโดแถวลาดพร้าวไปมหาวิทยาลัยรังสิต ระยะทางเกือบ 30 กิโลเมตร ถ้าวันไหนตื่นสายต้องขึ้นโทลล์เวย์เสียเงิน อีก 60 บาท ตอนนั้นเห็นคุณค่าของเงินขึ้นมาทันทีเลยครับ
นับเป็นบทเรียนชีวิตที่ดีมากสำหรับผม ผมได้เรียนรู้จักเงินสองแสนยังดีกว่าที่วันหนึ่งผมมีเงินสองล้านแล้วใช้หมดภายในสองอาทิตย์ คือเราได้สัมผัสช่วงตอนที่ไม่มีเงินแล้ว รู้เลยว่าแย่ขนาดไหน จึงทำผมเปลี่ยนความคิดมาเริ่มเก็บเงิน โชคดีช่วงนั้นมีงานเข้ามาพอดี จึงพอมีเงินเลี้ยงตัวเองมาได้เรื่อย ๆ จนตอนหลังทำงานอย่างเดียวจนแทบไม่ได้ใช้เงินเลยครับ ตอนนี้พ่อแม่ก็เริ่มมาอยู่ด้วย เพราะผมไม่อยากให้ท่านทำงานแล้ว อยากให้มาอยู่ใกล้ ๆ เอาเงินผมไปใช้ก็ได้ ผมอยากเลี้ยงท่านบ้างแล้ว เดี๋ยวนี้เวลาได้เงินมาจะรู้จักเก็บแล้วคิดว่า ควรจะแบ่งสันปันส่วนอย่างไร ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเดี๋ยวนี้มีของให้เล่นเยอะ มีสิ่งล่อตาล่อใจเยอะ ดังนั้นคนที่เริ่มทำงานแรก ๆ ต้องคิดเรื่องการใช้จ่ายให้ดี ๆ
madis ถูกใจ, sunray-sunrise ถูกใจ, Maomaomao ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1015674 ถูกใจ, ฮิเดโกะหลงทาง ถูกใจ, AmPingo ถูกใจ, ร้อนใจ ถูกใจ, Junie cook ถูกใจ, waytowin ถูกใจ, gokou ถูกใจรวมถึงอีก 29 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ถามแฟนคลับ เจมส์ จิ - จากในรายการ 3 แซบ !!!!!!????
ดูน้องเจมส์เป็นคนที่ใช้เงินเก่งมากมีเงิน 200000 สามารถใช้หมดได้ภายในไม่กี่วัน
มาคิดๆดูถ้าน้องไม่ฮอตข้ามคืนน้องล่มจมแน่เลย
น้องบอกไม่ขอเงินครอบครัวแล้วหาเงินได้เอง
แต่จริงๆควรแบ่งให้คุณแม่เก็บให้บ้างก็ดี กลัวต่อไปน้องจะลำบาก
น้องหาเงินได้เยอะจริงตอนนี้ แต่ในอนาคตมันก็ไม่แน่นอน
ไม่รู้น้องเจมส์ยังบริหารเงินแบบนี้อยู่หรือเปล่า
แฟนคลับใกล้ชิดน้อง ควรเตือนน้องเรื่องนี้ด้วยนะคะ
เงินหลายล้านก็จริง แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็สามารถหมดได้ง่ายๆ
น้องเจมส์ควรฝากเงินไว้ที่คุณแม่ แล้วค่อยเบิกไปใช้ถ้าจะดี
แบบดูในรายการ โอ้โห ถ้าต้นทุนเขาไม่ใช่คนรวยอยู่แล้ว
ทำงานได้ครั้งแรกๆมา 200000 แต่ใช้หมดเร็วขนาด
ถ้าไม่ดังก็แย่นะสิ เคยเห็นดาราฮอตๆหลายคนบริหารเงินไม่เป็นก็มี
ผ่านช่วงฮอตมาไม่มีเงินเก็บ แถมมีหนีพนัน ไปติดยา ฆ่าตัวตายก็มี