บทความสั้นๆ ของคนคนหนึ่ง ความคิดและความเข้าใจ (อาจผิดหรือถูก) หากแต่ต้องการเวลาทดสอบ โลกร้อนมาจากอะไร

นี้อาจเป็นบทความสั้นๆ ของคนคนหนึ่ง ความคิดและความเข้าใจ (อาจผิดหรือถูก) หากแต่ต้องการเวลาทดสอบ
โลกร้อนมาจากอะไร ทุกคนเชื่อว่าโลกเราร้อนมาจากชั้น โอโซนมีปัญหาที่ ฝรั่งบอกให้เชื่อว่ามาจากชั้นของโอโซนที่บางแล้วเกิดช่องว่างแต่จริงๆแล้ว ประกอบด้วยหลายส่วน
โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หรือเรียกอีกอย่างว่าการปรับตัวเพื่อให้เกิดความสมดุล การเกิดของชั้นโอโซนมาไอน้ำที่รวมตัวเป็นก้อนเมฆ มีประจุ ทั้ง +,-
ทำให้เกิดสันดาปแล้วเกิดฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ทำให้เกิดโอโซน แร่ธาตุต่างๆ และเกิดขึ้นทุกเวลาทั่วทั้งโลก โอโซนเป็นเพียงทำงานเหมือนผิวชั้นกลางของม่านบังแสง
สนามแม่เหล็กของโลกเป็นชั้นแรกที่ช่วยเป็นเกราะป้องกัน (กรองสิ่งที่จำเป็นและและผักสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของทุกสิ่ง ออก)
ชั้นที่สอง ชั้นบรรยากาศที่เราสามารถหายใจได้+โอโซน
ชั้นสามที่พื้นดินและน้ำ (ที่ๆมนุษย์อาศัยอยู่และทำลายมากที่สุด)
ชั้นสุดท้ายคือที่ๆ แกนโลกดูดซับความร้อนและรับเอาความเย็นไว้ที่ขั้วโลก  
เรามากเข้าเรื่องเลย
ชั้นแรกเราได้ส่งดาวเทียมออกไปเพื่อที่จะรับส่งข้อมูลต่างๆ เพราส่งไปโดยไม่รู้ว่า เราได้ส่งแท่งเข็มเพื่อแซกชั้นโอโซนของเรา เพราะคลื่นที่มีความถี่ต่างๆ ต้องมีประจุ +,- ถ้ามีขั้วใดมากไป ก็จะทำให้ เกิดผลตามมา คลื่นความถี่สามารถทำให้ ร้อนได้ เช่น ไมโครเวฟ
คลื่นความถี่สามารถทำให้ น้ำเย็นเป็นน้ำแข็งได้ เช่น การนำขวดน้ำที่ปิดฝาสนิทโดยมีอ็อกซิเจนบ้างส่วนแช่เย็นแล้วนำออกมา ติดตรงช่องว่างของออกซิเจน แล้วเปิดน้ำเย็นกลายเป็นวุ้นเลย (ยังบุคคลนี้ที่ทำประจำ จ๊อดเย็นเจียบ) และยังมีนักวิทยาศาตร์ประดิษฐ์ที่แยกคลื่นเสียงดังเท่าเครื่องบินเจ๊ด นำคลื่นเสียงที่ได้ แยกออก ทำให้น้ำร้อน และ เย็นได้
ชั้นที่สอง ระบบปรับตัวเองอยู่แล้ว เพราะ ทั่วโลกฟ้าผ่าเกิดทุกวันทุกนาทีและจำนวนมากด้วย แต่ต้องมีพืชที่ให้อ๊อกซิเจนจำนวนมากด้วย เพื่อการผลิตโอโซน แล้วท่านจะทำลายป่าไม้กันอีกหรือ
ชั้นที่สาม ที่ๆมนุษย์ทำลายมากที่สุด ถามว่าทำไมน้ำท่วม ทำไมแล้ง ป่าไม้เป็นแหล่งผลิตอ๊อกซิเจน และปัจจัย 4 และยังแหล่งให้และซับน้ำใว้ให้เรา แถมธรรมชาติยังช่วยระบายน้ำด้วยทางน้ำใต้ดิน ให้ แต่เราไปรับระบบถนน ต้องถมแล้วอัดถนนให้แน่น แล้วทางระบายน้ำใต้ดินเราจึงหายและเปลี่ยนที่ไป ทำไม ถึงไม่นึกถึงการทำโครงข่ายอุโมงน้ำใต้ดินที่เราเอาไว้เก็บน้ำจ่ายน้ำและยังพื้นที่แห้งแล้ง แล้วถ้าวิศวะกรรมแบบโบลานสามารถส่งน้ำไปยังที่สูงแล้วจัดทำระบบขนส่งทางน้ำในตัว แถมยังป้องกันน้ำท่วมและส่งน้ำไปยังที่แห้งแล้ง ยังช่วยระบบระบายความร้อนแกนโลกด้วยในชั้นสุดท้าย
ชั้นสุดท้าย น้ำจากเส้นศูนย์สูตร (น้ำร้อน) มีมากเกินไปทำให้น้ำเย็นที่ละลายมาเพื่อไม่ให้ใกล้ขั้วโลกมากไปเพราะ ถ้าละลายหมดน้ำจะไม่มีการหมุนเวียน ส่วนน้ำที่ร้อนและเย็นพบกันจะทำให้ระเหิดเป็นไอ กลายเป็นเมฆฝนและพายุ หากทุกประเทศป้องกันการไหลของน้ำลงสู่ทะเลในส่วนของเส้นศูนย์สูตรได้จะทำให้มีน้ำทะเลน้อยลงและป้องกันการรุกของน้ำทะเลได้
สุดท้าย การคัดสรรของธรรมชาติทำให้โลกอยู่มาถึงทุกวันนี้ หากแต่การเอาชนะธรรมชาติ ตัดป่าอาจ เป็นตัวเสริมให้โลกร้อนได้ การสร้างทางน้ำใต้ดินมีตัวกรองน้ำเลียนแบบธรรมชาติ ลงสู่ใต้ดินอาจเป็นวิธีที่เราอยู่แล้วอาศัยความเป็นธรรมชาติ ช่วยลดการตัดไม้ ช่วยน้ำแล้งและท่วม แถมยังสามารถช่วยวางระบบขนส่ง แล้วยังช่วยการรุกของน้ำทะเลอีกด้วย เราอาจไม่ต้องมองกำแพงกันน้ำจะพังลงมาเมื่อใด
และยังใช้ระบบกลไกลโบลานมาดึงน้ำออกจากทางน้ำใต้ดิน ไปยังที่ๆต้องการ ในยามที่มีฝนมาก
และ
ยังใช้ผลิตกระแสไฟได้อีก (แนวความคิด)
1.พลังน้ำหมุนเวียน โดยวิธีโบลาน นำมาประยุกต์ (ตะบันน้ำ+...)  นำน้ำมาผลิตไฟฟ้าได้ ตราบที่ยังมีน้ำ
2.พลังงานแสงอาทิตย์ ที่ให้ความร้อนในการปรุงอาหารหรือความอบอุ่น และผลิตไฟฟ้าได้กลางวันกลางคืน เลียบแบบธรรมชาติ
3.รถ ที่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์ (เหมือนมนุษย์ขับรถยนต์) โดยไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ยังผลิตไฟฟ้าได้อีก
4.เรือ ที่สามารถแล่นไปได้โดยหลักธรรมชาติ เรือสังกะสี ตอนเด็กๆ รวมกับองค์ความรู้ปัจจุบัน
....วิธีที่ การบินแบบใหม่ โดยเลียนแบบ ธรรมชาติสัตย์ปีก และการหลีกหนี้แรงโน้มถ่วง
ทุกอย่างมีโครงสร้างคราวๆ อาจเป็นจิตนาการหรือองค์ความรู้
จึงจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวที่สามารถประดิษฐ์และจัดวางรายละเอียดต่างๆ และเงินทุนในการพัฒนาแก้อยู่ ยังมีแนวคิด อื่นๆ อีก

สุดท้าย การที่ออกมากล่าวมิได้หวังสิ่งใด หากแต่ต้องการให้ทุกคนเข้าใจและเลือกที่ทำในสิ่งที่ดีที่สุด
การแก้สิ่งต่างๆ เป็นเรื่องยากเพราะไม่ใช้แค่เด็กเล่นกองทราย
นะครับ            3B TH
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่