นักแสดงหญิงยุค 2000 ที่ทำให้เชื่อว่าเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ (คหสต)

1.อลิน จากละคร สูตรเสน่หา รับบทโดย แอน ทองประสม
สูตรเสน่หา : อลิน นิยามใหม่ของนางเอกที่ตัวละครไหน ๆ ก็สู้ไม่ได้ !!
สิ่งไหนที่นางเอกทำ เธอไม่ทำ - สิ่งไหนที่นางเอกว่าดี เธอไม่เอา - สิ่งไหนที่นางเอกว่าเหมาะสม เธอไม่ชอบ...ตั้งแต่ ดูละครต้นจนจะจบแล้ว ไม่เห็นมีใครเอาชนะอลินได้ซะทีเลย (สุดท้ายครูกุ๊กยังแพ้ใจเลย อิอิ) เป็นนางเอกที่ไม่มีคู่ปรับ แต่มีคู่กัด เป็นนางเอกที่ไม่เคยยอมใครทั้งนั้น อลิน แหกกฏทุกข้อของนางเอกที่ดี การกระทำฉีกกฏแหวกแนวของอลินหรือนิสัยที่ไม่ค่อยจะพบเจอในนางเอกละครเรื่องอื่นๆ เช่น จับผู้ชาย, หลงตัวเองไม่มีใครเกิน (ฉันรวย สวย เพอร์เฟค!), ขี้วีนอย่างโหดร้าย, อาฆาต จองเวร, ปากจัด, ทำกับ "เบ๊ประจำตัว" อย่างโหดร้ายและน่าสงสารที่สุด, สะตอเบอแหล ได้ดียิ่งกว่านางร้าย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://hilight.kapook.com/view/44741) ซึ่งนับจากปี 2552 จนถึงปัจจุบันและอนาคต ก็เชื่อได้ว่า ไม่มีตัวละครไหนจะมาล้มเธอได้ สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะบทนี้ตกเป็นของ Princess of Maya อย่าง "แอน ทองประสม" เธอคนเดียวเท่านั้นที่จะสวมหน้ากากยัยจิ้งจอกพันหน้าอย่างคุณนายอลินได้อย่างสมบูรณ์แบบและเว่อร์วังที่สุด...


2.ดาวนิล จากละคร แม่อายสะอื้น รับบทโดย วรนุช วงษ์สวรรค์
คำว่า "ดาวนิล" คือชื่อที่ผู้ประพันธ์ตั้งขึ้น มีความหมายถึง ดาวดวงหนึ่งที่คำปันเห็นเป็นสีดำสนิทในคืนที่ ลูกสาวคนโตเกิด และดาวสีดำที่ทำให้พ่อตาย แม่อายสะอื้นไม่มีบทประพันธ์เป็นเล่มนวนิยาย บทละครโทรทัศน์จึงเกิดจากเรื่องย่อ 3 แผ่น ของภาพยนตร์ความยาว 2 ชั่วโมงกว่า และคำจำกัดความที่ผู้กำกับมีให้คนเขียนบทคือ เราจะทำละครน้ำเน่าเท่ห์ๆ (ข้อมูลจาก http://www.paujinjong.com/pau/content/13--เรื่องที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับแม่อายสะอื้น)  ซึ่งว่ากันว่า ก่อนคนดูจะสะอื้น นุ่น วรนุชเคยร้องไห้ตลอดการถ่ายทำ 1 วัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม จึงทำให้แม่อายสะอื้นเป็นละครที่พีคที่สุดของนุ่นจนทำให้เธอคว้ารางวัลมาเกือบทุกสถาบันในปีนั้น อาธิเช่น Top Awards 2004, Hamburger Awards, Star Entertainment Awards 2004 ,  โทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 19 ประจำปี 2547, เมขลา ครั้งที่ 23 โดยสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิง หรือแม้แต่ เฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ 2 ก็ยังมอบรางวัลให้กับเธอ


3.เจ้าสีเกด จากละคร สาปภูษา รับบทโดย ธัญญาเรศ เองตระกูล
"...ทุกฝีเข็ม  ทุกเส้นไหม  ทุกลมหายใจ...ข้าขอสาปแช่ง มันผู้ใดที่ได้ห่มผ้าผืนนี้ ขอจงพบกับความวิบัติวินาศไปจนชั่วลูกชั่วหลาน อย่าได้พบกับความสุขใดอีกเลย..."
เสียงสาปแช่งของ เจ้าสีเกด ดังก้องกังวานควบคู่ไปกับเสียงปักไหมในสะดึงขึ้นลงอย่างรวดเร็ว  เพื่อแข่งกับแสงอาทิตย์ที่กำลังทอแสงขึ้นและยามนั้นชีวิตของเธอจะต้องลาจากไป  แต่ความแค้นความพยาบาทยังคงฝังอยู่ในผืนผ้าที่สวยงาม  พร้อมกับคำสาปแช่งที่ส่งไปชั่วลูกชั่วหลานของผู้ที่ทำให้เธอต้องเจ็บปวด…เรื่องนี้บทเด่นคงจะต้องยกให้กับนางเอกเจ้าบทบาท "ธัญญ่า" ที่รับบท "เจ้าสีเกด" หญิงสาวผู้มีความแค้น และทนทุกข์ทรมานจากความรักจนตัวตาย ซึ่งเจ้าตัวแสดงได้อย่างสุดประทับใจจริงๆ เวลาที่เป็น เจ้าสีเกด หญิงสาวผู้อ่อนหวานก็ดูชะมดชะม้อยน่ามอง แต่ในคราบผีร้ายที่สิงมากับผ้าตาดทอง  ธัญญ่าก็แสดงได้อย่างเกรี้ยวกราดจนขนลุก ตรงนี้นอกจากฝีมือระดับขึ้นแท่นไปแล้วของธัญญ่า ก็ต้องขอชมทีมงานที่แต่งหน้า แต่งตา และทีมสเปเชี่ยลเอฟเฟ็คท์ด้วย ที่สร้างบรรยากาศให้สาวสวยๆอย่างธัญญ่ามีภาพชวนสยองเหลือเกิน


4.อีแพง จากละคร บ่วง รับบทโดย ศิรพันธ์ วัฒนจนดา
ณ ต้นกำเนิดของชีวิต อาจบรรจบกับจุดสุดท้ายของอวสาน เป็นวัฏฏะที่เหล่ามนุษย์ต้องเวียนว่าย และเป็น "บ่วง" คล้องผูกพันกับกิเลสตัณหา ไม่ว่า บ่วงบุญหรือ บ่วงกรรม ต่างก็คล้องชีวิตให้ต้องวนเวียนเกิดขึ้นและจบลง หน่วงให้ต้องทุกข์ทนในวังวนแห่งโลกและชีวิตอย่างมิรู้จบสิ้น จากตัวละครของ "อีแพง" ถูกพลิกคาแรกเตอร์มารับบทร้าย ทำเอาสาว นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ถึงกับถูกใจเป็นที่สุด สมกับที่รอคอยบทแรงๆ หลากหลายอารมณ์แบบนี้มานาน คราวนี้ได้โอกาสแสดงความสามารถกับอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทาย เพราะไม่ได้เล่นแค่เป็นคนธรรมดาอย่างเดียว แต่ต้องเล่นเป็นผีร้ายที่มีความเคียดแค้นได้อย่างสมบทบาทเลยเกิดกระแสคาถามหาเสน่ห์ที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง
"โอม ให้ช้างลืมโขลง ให้โขลงลืมไพร โอมให้มันร้อนเร่า โอมให้มันรักใคร โอมให้มันอยู่ไม่ได้"


5.เรยา จากละคร ดอกส้มสีทอง รับบทโดย อารยา เอ ฮาร์เก็ต
แรงตั้งแต่เมื่อออกฉายเพราะกระแสของละครเรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง โดยมีผู้ต้องการให้เปลี่ยนเนื้อหา โดยเรียกร้องผ่านไปยังกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องจากมองว่าตัวละครเอก คือ "เรยา" มีพฤติกรรมชอบแย่งสามีคนอื่นและมีฉากเพศสัมพันธ์มากเกินไป ไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน ความร้อนแรงของวิวาทะที่เห็นต่างต่อละครโทรทัศน์ ดอกส้มสีทอง โดยเฉพาะพฤติกรรมก้าวร้าวต่อบุพการี และการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายมากหน้าของตัวละคร ในท้องเรื่อง ได้กลายมาเป็นประเด็นที่พูดคุยกันอย่างไม่สิ้นสุดในสังคมไทยจนละครอวสาน ยิ่งมีดีกรีความร้ายกาจของ เรยา ที่ใครจะไปคิดว่า  ชมพู่ อารยา จะพลิกโฉมเป็นนางร้ายในแบบฉบับ เรยา ได้เด็ดสะระตี่สุดจิต งานนี้หลายคนยกเครดิตให้ ชมพู่ อารยา ที่สามารถตีบทบาทได้แตกกระเจิง จนเกิดกระแส เรยา ฟีเวอร์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่