จาก(
http://www.pantip.com/topic/31128668)
ดูกรมารผู้มีบาป เพราะเหตุไรหนอ ความเห็นของท่านจึงหวนกลับมาว่า สัตว์ฯ
ในกองสังขารล้วนนี้ ย่อมไม่ได้นามว่า สัตว์ ฯ
เหมือนอย่างว่า เพราะคุมส่วนทั้งหลาย(ต่างๆ ให้)เข้า(กันเรียบร้อยแล้ว) เสียงว่ารถ ย่อมมีฉันใด ฯ
(แต่)เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่(ครบองค์ใดทั้ง ๕ เมื่อใดเมื่อนั้นจึงถึง)การสมมติว่าสัตว์(จึง)ย่อมมี(บังเกิดขึ้น) ฉันนั้น ฯ
ความจริงทุกข์เท่านั้นย่อมเกิด ทุกข์ย่อมตั้งอยู่ และเสื่อมสิ้นไป
นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับ ฯ
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคถวรรค วชิราสูตรที่ ๑๐
ปฏิจจสมุปบันธรรม ความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา และความเป็นไปแห่งธรรมดา
คือธรรมอันเป็นธรรมชาติซึ่งอาศัยซึ่งกันและกันแล้วเกิดขึ้น
ซึ่งเป็นอยู่ทุกแห่งหน ซึ่งธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว; คือความตั้งอยู่
แห่งธรรมดา อันเที่ยงแท้และคงทนไม่จำกัดกาล อันเป็น ตถตา คือความเป็นอย่างนั้น,
เป็น อวิตถตา คือความไม่ผิดไปจากความเป็นอย่างนั้น,
เป็น อนัญญถตา คือความไม่เป็นไปโดยประการอื่น, เป็น อิทัปปัจจยตา
คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
ในทุกแห่งหน ที่เกิดขึ้นแห่ง ปฏิจจสมุปบันธรรม คือเมื่อมีเหตุมาเป็นปัจจัยครบองค์ ตามกฎอิทัปปัจจยตา
และในทุกแห่งหน ซึ่งเป็นที่ดับไปแห่งปฏิจจสมุปบันธรรม คือการดับไปแห่งเหตุปัจจัย ตามกฎอิทัปปัจจยตา
ต่อ... สัตว์บังเกิดในที่ไหน สัตว์ดับไปในที่ไหน ฯ
ดูกรมารผู้มีบาป เพราะเหตุไรหนอ ความเห็นของท่านจึงหวนกลับมาว่า สัตว์ฯ
ในกองสังขารล้วนนี้ ย่อมไม่ได้นามว่า สัตว์ ฯ
เหมือนอย่างว่า เพราะคุมส่วนทั้งหลาย(ต่างๆ ให้)เข้า(กันเรียบร้อยแล้ว) เสียงว่ารถ ย่อมมีฉันใด ฯ
(แต่)เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่(ครบองค์ใดทั้ง ๕ เมื่อใดเมื่อนั้นจึงถึง)การสมมติว่าสัตว์(จึง)ย่อมมี(บังเกิดขึ้น) ฉันนั้น ฯ
ความจริงทุกข์เท่านั้นย่อมเกิด ทุกข์ย่อมตั้งอยู่ และเสื่อมสิ้นไป
นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับ ฯ
- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคถวรรค วชิราสูตรที่ ๑๐
ปฏิจจสมุปบันธรรม ความเป็นกฎตายตัวแห่งธรรมดา และความเป็นไปแห่งธรรมดา
คือธรรมอันเป็นธรรมชาติซึ่งอาศัยซึ่งกันและกันแล้วเกิดขึ้น
ซึ่งเป็นอยู่ทุกแห่งหน ซึ่งธรรมธาตุนั้น ย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว; คือความตั้งอยู่
แห่งธรรมดา อันเที่ยงแท้และคงทนไม่จำกัดกาล อันเป็น ตถตา คือความเป็นอย่างนั้น,
เป็น อวิตถตา คือความไม่ผิดไปจากความเป็นอย่างนั้น,
เป็น อนัญญถตา คือความไม่เป็นไปโดยประการอื่น, เป็น อิทัปปัจจยตา
คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
ในทุกแห่งหน ที่เกิดขึ้นแห่ง ปฏิจจสมุปบันธรรม คือเมื่อมีเหตุมาเป็นปัจจัยครบองค์ ตามกฎอิทัปปัจจยตา
และในทุกแห่งหน ซึ่งเป็นที่ดับไปแห่งปฏิจจสมุปบันธรรม คือการดับไปแห่งเหตุปัจจัย ตามกฎอิทัปปัจจยตา