โจรมอมยาในโรงพยาบาลโดนจับได้แล้วครับ

กระทู้ข่าว
โจรมอมยาในร.พ. จนมุมตร.หลังหลบหนีไปอยู่ตราด สารภาพเลือกพระเพราะถวายอะไรให้ก็ต้องฉัน

แฉชุดคลี่คลายคดีตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ตะครุบตัวเอาไว้ได้ในที่สุด สอบพบคดีเก่าอื้อก่อเหตุซ้ำซาก ตร.ภาค 1 แถลงจับสองแม่ลูกมอมยาหนุ่มยุ่นรูดทรัพย์ ที่อ่างทอง จับสองคนร้ายมอมยาเสี่ยโต๊ะสนุ้กชิงรถ ก่อนจนมุมในภายหลัง

จากกรณีโจรแสบก่อเหตุมอมยาพระภิกษุสงฆ์ นำเครื่องดื่มผสมยานอนหลับมาถวายให้ฉัน แล้วพาขึ้นรถแท็กซี่ไปทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งหมอชิต ก่อนจะลักเอาทรัพย์สินหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเดือนมี.ค.56 ที่ผ่านมา ท้องที่ สน.บางซื่อ นอกจากนี้ ยังก่อเหตุกับผู้ป่วยที่มารอรับการรักษาจากโรงพยาบาลรามาธิบดี หลอกให้ดื่มน้ำผสมสารไซลาซีนจนหมดสติแล้วปลดทรัพย์หลบหนี เหตุเกิดเมื่อช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ท้องที่ สน.พญาไท โดยพนักงานสอบสวนขออนุมัติออกหมายจับกุมคนร้ายตามภาพในกล้องวงจรปิด ตามที่เสนอไปนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 18 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. สั่งการให้พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาธร ผกก.ฝอ.บก.สส.บช.น. รรท.ผกก.สส.บก.1 ฝ่ายสืบสวนสน.พญาไท และฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ นำหมายจับที่ 2033/2556 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 56 ข้อหาชิงทรัพย์ เข้าจับกุมนายสมเกียรติ เพ็ชรงาม หรือ ไก่Ž อายุ 43 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 37/1 ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว จับกุมได้ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ในร่องสวนอ.เขาสมิง จ.ตราด

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายตามหมายจับจริง ลงมือก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง หลังก่อเหตุหลบหนีไปอยู่ที่จ.ตราด จนกระทั่งถูกจับ ที่เลือกเหยื่อเป็นพระสงฆ์ก็เพราะหลอกง่าย เป็นพระถวายอะไรให้ก็ต้องฉัน เห็นว่าลงมือง่ายหาเงินใช้คล่องจึงทำหลายครั้ง

จากการตรวจสอบประวัตินายสมเกียรติ พบว่าเคยถูกจับในคดีเกี่ยวกับทรัพย์ที่ อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา และก่อเหตุลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ มาแล้วหลายครั้ง ทั้งในเขตพื้นที่นครบาลและต่างจังหวัด เมื่อพ้นโทษก็กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำก่อนจะนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวที่บช.น.อีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้ง จากการสอบสวนในทางลึกพบว่านายสมเกียรติ เป็นนักต้มตุ๋นมืออาชีพ พฤติการณ์มักก่อเหตุแบบนี้ตามที่สาธารณะต่างๆ เช่น สถานีขนส่งหมอชิต และสถานีรถไฟหัวลำโพง โดยมักจะเลือกลงมือกับเหยื่อซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มารอรถไฟหรือรถบขส. ทำทีเข้าไปถวายน้ำ-อาหารผสมยานอนหลับ พอพระฉันก็จะหมดสติ จากนั้นนายไก่จึงลงมือรูดทรัยพ์แล้วหลบหนี      

สำหรับแนวทางสืบสวนที่นำไปสู่การคลี่คลายคดีนั้น ชุดสืบสวนภายใต้การนำของพ.ต.อ.นพศิลป์และพ.ต.อ.อุทัย ฝ่ายสืบสวนบก.สส.บช.น. สืบสวนบก.น.1 สืบสวนสน.พญาไท และสืบสวนสน.บางซื่อ นำข้อมูลแผนประทุษกรรมของคนร้ายมาวิเคราะห์และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุทั้งหมด ทำให้พบภาพชายรูปร่างสูง ผิวสีดำแดง รูปหน้าทรงกลม ทรงผมลักษณะเสย สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า และพบภาพคนร้ายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดของร.พ.รามาธิบดีและร.พ.สงฆ์มีลักษณะคล้ายกัน ฝ่ายสืบสวนจึงคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกัน

จนกระทั่งมีภาพวงจรปิดอีกชุดที่จับภาพคนร้ายได้ ในขณะขึ้นรถจยย.รับจ้างหลบหนี และนำบัตรเอทีเอ็มเหยื่อไปกดเงินที่ตู้ด้านหน้าองค์การเภสัชกรรม ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี เพื่อไปซื้อของใช้ อาทิ หม้อหุงข้าว หมอน และพัดลม ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง รวมถึงมีภาพขณะที่คนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง ไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มภายในสถานีขนส่งหมอชิต โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ว่าคนร้ายคือนายสมเกียรติ จึงได้เข้าจับกุมไว้

วันเดียวกัน ที่ กก.สส.ภาค 1 พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และพ.ต.อ.ธวัชชัย ยิ่งเจริญสุข รรท.ผบก.สส.ภ.1 แถลงผลการจับกุมนางณัฐนันท์ แก่นไม้ อายุ 50 ปี และนายกริช ลิ้มรถอนันต์ อายุ 27 ปี บุตรชาย หลังร่วมกับน.ส.อารมย์ แก้วเรือง หรือนิด อายุ 25 ปี ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ร่วมกันมอมยาชิงทรัพย์นายเคอิชิ ยามาโมโต นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนายเคอิชิเข้าไปดื่มกินที่ร้านอาหารภายในซอยถนนข้าวสาร โดยระหว่างที่อยู่ในร้าน นางณัฐนนท์กับน.ส.อารมย์ ได้เข้ามาตีสนิท ก่อนร่วมดื่มกินอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งตอนตี 2 นางณัฐนันท์และน.ส.อารมย์ พานายเคอิชิขึ้นรถแท็กซี่จากถนนข้าวสารมาปล่อยทิ้งไว้ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารริมทางหลวง ถนนศูนย์ศิลปาชีพ-ปทุมธานี ต.บ้านกระแซง อ.เมืองปทุมธานี ท้องที่ สภ.สวนพริกไทย แล้วมีคนไปพบนายเคอิชิ นอนหมดสติอยู่ในสภาพคล้ายคนถูกมอมยา จึงนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจร่างกายของแพทย์ พบสารโซฟีเดนต์ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์คล้ายยานอนหลับในร่างกาย ส่วนทรัพย์สินของนายเคอิชิที่หายไป มีเงินสด 20,000 บาท โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป และบัตรเอกสารต่างๆ

ต่อมาชุดสืบสวนภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.สวนพริกไทย ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดธนาคารแห่งหนึ่ง พบภาพนายกริชนำบัตรเครดิตของนายเคอิชิ ไปตระเวนกดเงินจำนวนหลายครั้ง จึงออกติดตามจับกุมนางณัฐนันท์ และนายกริช ไว้ได้ที่บริเวณชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเดินทางข้ามไปเล่นการพนันประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนน.ส.อารมย์ ยังหลบหนีไปได้

สอบสวนนางนัฐนันท์ อ้างว่า วันเกิดเหตุนั่งอยู่ในร้านอาหาร ถนนข้าวสารกับน.ส.อารมย์ เพื่อหาเยื่อหลอกพาไปเล่นการพนัน ก่อนพบนายเคอิชิเดินเข้ามาตีสนิทกับน.ส.อารมย์ โดยระหว่างที่ดื่มกินกันอยู่ในร้าน พวกตนได้ให้นายเคอิชิ ดูดบารากู่ร่วมกับการดื่มสุรา จนนายเคอิชิมีอาการมึนเมา แล้วพาขึ้นรถแท็กซี่มาที่จ.ปทุมธานี เพื่อพาข้ามไปเล่นการพนันที่ประเทศกัมพูชา แต่ระหว่างทางนายเคอิชิมีอาการมึนเมามาก จึงทิ้งไว้ที่ศาลาพักผู้โดยสาร โดยไม่ได้มอมยานายเคอิชิแต่อย่างใด เพราะพวกตนไม่ใช่แก๊งมอมยา แค่หลอกเหยื่อชาวต่างชาติไปเล่นการพนันเท่านั้น ทำมาหลายครั้งแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่จ.อ่างทอง นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าฯ อ่างทอง พร้อมพ.ต.อ.สมศักดิ์ โอภาสเจริญกิจ รักษาการ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายอำนาจ หมูถึง อายุ 37 ปี และนายอรรถวิทย์ บรรดาศักดิ์ อายุ 33 ปี ก่อเหตุวางยานอนหลับเหยื่อเพื่อชิงทรัพย์รถแล้วหลบหนีไป

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 ต.ค ตำรวจสภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งจากนายมงคล ไตรรัตนประเสริฐ อายุ 59 ปี เจ้าของโต๊ะสนุ้กเกอร์ในอ.เมืองอ่างทอง แจ้งว่าโดนคนร้ายมอมยาแล้วชิงทรัพย์รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ญท-7366 กทม.หายไป กระทั่งตำรวจสืบสวนทราบว่าคนร้าย คือ นายอำนาจและนายอรรถวิทย์ จึงขออนุมัติออกหมายจับกุมเอาไว้ได้ จนมุมพร้อมของกลางผู้เสียหาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่