เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินโดยสารแบบเอทีอาร์ 72 สายการบินลาว แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ คิววี 301 ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารประมาณ 40 คน ที่ออกเดินทางจากสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อเวลา 14.45 น. มุ่งหน้าสู่สนามบินเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ทางใต้ของประเทศ โดยรายงานข่าวแจ้งว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้เกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะตกลงกลางลำน้ำโขง เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 39 คน รวมทั้งกัปตัน และแอร์โฮสเตส ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีคนไทยรวมอยู่ด้วย 2 คน ทราบว่า เป็นพนักงานของบริษัท ปตท.(มหาชน) นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้โดยสารของเที่ยวบินนี้ มีรองเจ้าแขวงเซกอง ของ สปป.ลาว รวมอยู่ด้วย
ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ โดยเท่าที่ทราบในเบื้องต้นพบว่ามีผู้อยู่บนเครื่องทั้งหมด 44 คน เป็นผู้โดยสาร 39 ในจำนวนนี้มีคนไทยจำนวน 5 คน ทราบชื่อนายยรรยง อาภานันท์ นายวีกิจ บุศราวุธานุสรณ์ นายภัครวัต อธิรัตนชัย นายนิพล เม่งสี หรือ ชัยชนะกุลดี และนายคะนึง ชาติเกษมชัย ซึ่งจะมีการประสานงานเพื่อนำศพมาไว้ที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อรอญาติมารับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ว่า เดิมเที่ยวบินดังกล่าวมีกำหนดต้องออกเดินทางตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) แต่จำเป็นต้องเลื่อนเพราะสภาพอากาศแปรปวน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุตกบริเวณเกาะกลางลำน้ำโขง บ้านดอนขอ เขตติดต่อระหว่างเมืองชนะสมบูรณ์-ปากเซ เครื่องบินที่ตกกำลังจะลงจอด อยู่ห่างสนามบินปากเซ ประมาณ 8 กิโลเมตร
ด้านนายสรัญ รังคศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือพนักงานที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่ทุกราย เนื่องจากถือว่าเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ โดยเบื้องต้นทราบว่ามี 3 ราย เป็นวิศวกรประจำบริษัทและพนักงานจ้างซึ่งเป็นคนไทย ส่วนอีกรายเป็นวิศวกรที่เป็นชาวลาว ซึ่งทั้งหมดไปปฏิบัติภารกิจเรื่องการขยายปั๊มในพื้นที่
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ของสายการบินลาวแอร์ไลน์ส ชี้แจงว่าบนเครื่องมีผู้อยู่ทั้งหมด 49 คน แยกเป็นผู้โดยสาร 44 คน กัปตัน 2 คน และลูกเรืออีก 3 คน สำหรับผู้โดยสารเป็นชาวลาว 17 คน ฝรั่งเศส 7 คน ไทย 5 คน ออสเตเลีย 5 คน เกาหลีใต้ 3 คน เวียดนาม 2 คน และ จีน สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ไต้หวัน มาเลเซีย อีกชาติละ 1 คน
ด่วน!เครืองบินลาวแอร์ไลน์ระเบิดร่วงน้ำโขงตายยกลำ
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินโดยสารแบบเอทีอาร์ 72 สายการบินลาว แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ คิววี 301 ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารประมาณ 40 คน ที่ออกเดินทางจากสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อเวลา 14.45 น. มุ่งหน้าสู่สนามบินเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ทางใต้ของประเทศ โดยรายงานข่าวแจ้งว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้เกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะตกลงกลางลำน้ำโขง เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 39 คน รวมทั้งกัปตัน และแอร์โฮสเตส ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีคนไทยรวมอยู่ด้วย 2 คน ทราบว่า เป็นพนักงานของบริษัท ปตท.(มหาชน) นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้โดยสารของเที่ยวบินนี้ มีรองเจ้าแขวงเซกอง ของ สปป.ลาว รวมอยู่ด้วย
ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ โดยเท่าที่ทราบในเบื้องต้นพบว่ามีผู้อยู่บนเครื่องทั้งหมด 44 คน เป็นผู้โดยสาร 39 ในจำนวนนี้มีคนไทยจำนวน 5 คน ทราบชื่อนายยรรยง อาภานันท์ นายวีกิจ บุศราวุธานุสรณ์ นายภัครวัต อธิรัตนชัย นายนิพล เม่งสี หรือ ชัยชนะกุลดี และนายคะนึง ชาติเกษมชัย ซึ่งจะมีการประสานงานเพื่อนำศพมาไว้ที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อรอญาติมารับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ว่า เดิมเที่ยวบินดังกล่าวมีกำหนดต้องออกเดินทางตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) แต่จำเป็นต้องเลื่อนเพราะสภาพอากาศแปรปวน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุตกบริเวณเกาะกลางลำน้ำโขง บ้านดอนขอ เขตติดต่อระหว่างเมืองชนะสมบูรณ์-ปากเซ เครื่องบินที่ตกกำลังจะลงจอด อยู่ห่างสนามบินปากเซ ประมาณ 8 กิโลเมตร
ด้านนายสรัญ รังคศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือพนักงานที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่ทุกราย เนื่องจากถือว่าเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ โดยเบื้องต้นทราบว่ามี 3 ราย เป็นวิศวกรประจำบริษัทและพนักงานจ้างซึ่งเป็นคนไทย ส่วนอีกรายเป็นวิศวกรที่เป็นชาวลาว ซึ่งทั้งหมดไปปฏิบัติภารกิจเรื่องการขยายปั๊มในพื้นที่
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ของสายการบินลาวแอร์ไลน์ส ชี้แจงว่าบนเครื่องมีผู้อยู่ทั้งหมด 49 คน แยกเป็นผู้โดยสาร 44 คน กัปตัน 2 คน และลูกเรืออีก 3 คน สำหรับผู้โดยสารเป็นชาวลาว 17 คน ฝรั่งเศส 7 คน ไทย 5 คน ออสเตเลีย 5 คน เกาหลีใต้ 3 คน เวียดนาม 2 คน และ จีน สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ไต้หวัน มาเลเซีย อีกชาติละ 1 คน