วันนี้เราซื้อไก่ย่างให้คนข้างถนน หนึ่งไม้
ให้โค๊กกับคนที่กำลังกินอาหารจากขยะ หนึ่งแก้ว
ให้เงินขอทานเป็นเหรียญ ไม่ได้ันับ
เอากับข้าวใ้ห้กับลุง และยายข้างบ้าน(เราเรียกท่านว่าย่า,ท่านเคยเป็นอาจารย์โรงเรียนสวนกุหลาบ แต่ทุกวันนี้เหมือนท่านถูกทิ้ง ลูกศิษย์มาหาบ้างประปราย คนละชั่วโมง สองชั่วโมง มาเยี่ยม มาขอพรแล้วก็กลับ ไม่ได้รับรู้ความลำบากอะไร ย่าท่านก็ไม่ได้เล่าอะไร ใครมาท่านก็ยิ้มต้อนรับ ) และจัดที่นอน + นำที่นอนของลุงไปซัก (ลุงกับยายเป็นแม่ลูกกัน ต่างฝ่ายต่างเดินไปไหนไม่ไหว ต้องนั่งอยู่กับที่ ถ้าล้มคือคลานอย่างเดียวเท่านั้น) นำหมอนไปตากแดดให้ (หมอนคุณลุงกลิ่นเหม็นหืน ไม่มีใครทำก็จะเหม็นอย่างนั้นและมากขึ้นๆ) ล้า่งจานให้ทั้งสองท่าน (น้ำจิ้มในถ้วยเหม็นเปรี้ยวแล้วยังไม่มีคนเก็บให้)
นำปลาจากตลาดที่กำลังจะโดนฆ่าไปปล่อย สามตัว (เราไม่ซื้อปลาหน้าวัดไปปล่อยค่ะ ไม่มีประโยชน์)
ถวายเงินชำระหนี้สงฆ์ และช่วยถวายซื้อที่ดินปฏิบัติธรรมของวัดอรุณอัมรินทร์
ทั้งหมดนี้ แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หากสิ่งที่ทำ จะเป็นบุญกุศล หรือทำให้จิตใจใครเบิกบ้านขึ้นมาบ้าง ก็ขอฝากเรื่องราวเล็ก ๆ นี้ให้เพื่อน ๆ นะคะ
และหากเชื่อในเรื่องของบุญกุศล ก็ขอแบ่งบุญกุศลทั้งหมดในวันนี้ให้ทุกท่านทั่วกันค่ะ อนุโมทนาแล้ว ปรารถนาสิ่งใด อธิษฐานได้เลยค่ะ วันนี้ทำบุญทั้งกับคน กับสัตว์ กับพระ กับวัดค่ะ
และขอเพิ่มกำลังใจ ในการทำสิ่งดี ๆ ให้กับทุกท่าน ด้วยคาถาธรรมบท สามบทนี้ค่ะ ให้บุญที่เกิดจากธรรมทานนี้กับทุกท่านเช่นกันค่ะ
อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ กตปุญฺโญ อุภยตฺถ นนฺทติ
ปุญฺญํ เม กตนฺติ นนฺทติ ภิยฺโย นนฺทติ สุคตึ คโต.
ผู้มีบุญอันทำไว้แล้ว ย่อมเพลิดเพลินในโลกนี้,
ละไปแล้ว ย่อมเพลิดเพลิน
เขาย่อมเพลิดเพลินในโลกทั้งสอง
เขาย่อมเพลิดเพลินว่า ‘เราทำบุญไว้แล้ว’
ไปสู่สุคติ ย่อมเพลิดเพลินยิ่งขึ้น
แก้อรรถ
บทว่า อุภยตฺถ
ความว่า ย่อมเพลิดเพลินในโลกนี้ ด้วยคิดว่า “กุศลเราทำไว้แล้ว, บาปเราไม่ได้ทำ”.
เมื่อเสวยวิบาก (ผลบุญ) ชื่อว่าย่อมเพลิดเพลินในโลกหน้า.
บทว่า ภิยฺโย เป็นต้น ความว่า ก็เขาไปสู่สุคติแล้ว เมื่อเสวยทิพยสมบัติ ตลอด ๕๗ โกฏิปีบ้าง ๖๐ แสนปีบ้าง ย่อมชื่อว่าเพลิดเพลินอย่างยิ่งในดุสิตบุรี ด้วยความเพลิดเพลินเพราะวิบาก.
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑
๑๓. เรื่องนางสุมนาเทวี [๑๓]
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=11&p=13
*********************************
ปุญฺญญฺเจ ปุริโส กยิรา กยิราเถนํ ปุนปฺปุนํ
ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย.
หากใครจะทำบุญ, ก็ควรทำให้บ่อย
ให้เต็มใจที่จะทำ,
เพราะว่าความสั่งสมบุญ นำพาความสุขมาให้.
แก้อรรถ
เนื้อความแห่งพระคาถานั้นว่า :-
"ถ้าบุรุษพึงทำบุญไซร้, ไม่พึงงดเว้นเสียด้วยเข้าใจว่า ‘เราทำบุญครั้งเดียวแล้ว, พอละ ด้วยบุญเพียงเท่านี้’ พึงทำบ่อยๆ แม้ในขณะทำบุญนั้น พึงทำความพอใจ คือความชอบใจ ได้แก่ความอุตสาหะในบุญนั่นแหละ."
ถามว่า "เพราะเหตุไร ?"
วิสัชนาว่า เพราะว่า
ความสั่งสมบุญให้เกิดสุข
อธิบายว่า เพราะว่า ความสั่งสมคือความพอกพูนบุญ ชื่อว่าให้เกิดสุข เพราะเป็นเหตุนำความสุขมาให้ในโลกนี้และโลกหน้า.
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙
๓. เรื่องนางลาชเทวธิดา [๙๗]
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=19&p=3
************************************
มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ
อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ
อาปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ.
บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญว่า ‘บุญเล็ก ๆ น้อย ๆ จะไม่มาถึง’
แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมา (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด,
ธีรชน (ชนผู้มีปัญญา) สั่งสมบุญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบุญได้ฉันนั้น.
รถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙
๖. เรื่องเศรษฐีชื่อพิฬาลปทกะ [๑๐๐]
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=19&p=6
นำความดีที่ทำวันนี้มาฝากค่ัะ
ให้โค๊กกับคนที่กำลังกินอาหารจากขยะ หนึ่งแก้ว
ให้เงินขอทานเป็นเหรียญ ไม่ได้ันับ
เอากับข้าวใ้ห้กับลุง และยายข้างบ้าน(เราเรียกท่านว่าย่า,ท่านเคยเป็นอาจารย์โรงเรียนสวนกุหลาบ แต่ทุกวันนี้เหมือนท่านถูกทิ้ง ลูกศิษย์มาหาบ้างประปราย คนละชั่วโมง สองชั่วโมง มาเยี่ยม มาขอพรแล้วก็กลับ ไม่ได้รับรู้ความลำบากอะไร ย่าท่านก็ไม่ได้เล่าอะไร ใครมาท่านก็ยิ้มต้อนรับ ) และจัดที่นอน + นำที่นอนของลุงไปซัก (ลุงกับยายเป็นแม่ลูกกัน ต่างฝ่ายต่างเดินไปไหนไม่ไหว ต้องนั่งอยู่กับที่ ถ้าล้มคือคลานอย่างเดียวเท่านั้น) นำหมอนไปตากแดดให้ (หมอนคุณลุงกลิ่นเหม็นหืน ไม่มีใครทำก็จะเหม็นอย่างนั้นและมากขึ้นๆ) ล้า่งจานให้ทั้งสองท่าน (น้ำจิ้มในถ้วยเหม็นเปรี้ยวแล้วยังไม่มีคนเก็บให้)
นำปลาจากตลาดที่กำลังจะโดนฆ่าไปปล่อย สามตัว (เราไม่ซื้อปลาหน้าวัดไปปล่อยค่ะ ไม่มีประโยชน์)
ถวายเงินชำระหนี้สงฆ์ และช่วยถวายซื้อที่ดินปฏิบัติธรรมของวัดอรุณอัมรินทร์
ทั้งหมดนี้ แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หากสิ่งที่ทำ จะเป็นบุญกุศล หรือทำให้จิตใจใครเบิกบ้านขึ้นมาบ้าง ก็ขอฝากเรื่องราวเล็ก ๆ นี้ให้เพื่อน ๆ นะคะ
และหากเชื่อในเรื่องของบุญกุศล ก็ขอแบ่งบุญกุศลทั้งหมดในวันนี้ให้ทุกท่านทั่วกันค่ะ อนุโมทนาแล้ว ปรารถนาสิ่งใด อธิษฐานได้เลยค่ะ วันนี้ทำบุญทั้งกับคน กับสัตว์ กับพระ กับวัดค่ะ
และขอเพิ่มกำลังใจ ในการทำสิ่งดี ๆ ให้กับทุกท่าน ด้วยคาถาธรรมบท สามบทนี้ค่ะ ให้บุญที่เกิดจากธรรมทานนี้กับทุกท่านเช่นกันค่ะ
อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ กตปุญฺโญ อุภยตฺถ นนฺทติ
ปุญฺญํ เม กตนฺติ นนฺทติ ภิยฺโย นนฺทติ สุคตึ คโต.
ผู้มีบุญอันทำไว้แล้ว ย่อมเพลิดเพลินในโลกนี้,
ละไปแล้ว ย่อมเพลิดเพลิน
เขาย่อมเพลิดเพลินในโลกทั้งสอง
เขาย่อมเพลิดเพลินว่า ‘เราทำบุญไว้แล้ว’
ไปสู่สุคติ ย่อมเพลิดเพลินยิ่งขึ้น
แก้อรรถ
บทว่า อุภยตฺถ ความว่า ย่อมเพลิดเพลินในโลกนี้ ด้วยคิดว่า “กุศลเราทำไว้แล้ว, บาปเราไม่ได้ทำ”. เมื่อเสวยวิบาก (ผลบุญ) ชื่อว่าย่อมเพลิดเพลินในโลกหน้า.
บทว่า ภิยฺโย เป็นต้น ความว่า ก็เขาไปสู่สุคติแล้ว เมื่อเสวยทิพยสมบัติ ตลอด ๕๗ โกฏิปีบ้าง ๖๐ แสนปีบ้าง ย่อมชื่อว่าเพลิดเพลินอย่างยิ่งในดุสิตบุรี ด้วยความเพลิดเพลินเพราะวิบาก.
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ยมกวรรคที่ ๑
๑๓. เรื่องนางสุมนาเทวี [๑๓]
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=11&p=13
*********************************
ปุญฺญญฺเจ ปุริโส กยิรา กยิราเถนํ ปุนปฺปุนํ
ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย.
หากใครจะทำบุญ, ก็ควรทำให้บ่อย
ให้เต็มใจที่จะทำ,
เพราะว่าความสั่งสมบุญ นำพาความสุขมาให้.
แก้อรรถ
เนื้อความแห่งพระคาถานั้นว่า :-
"ถ้าบุรุษพึงทำบุญไซร้, ไม่พึงงดเว้นเสียด้วยเข้าใจว่า ‘เราทำบุญครั้งเดียวแล้ว, พอละ ด้วยบุญเพียงเท่านี้’ พึงทำบ่อยๆ แม้ในขณะทำบุญนั้น พึงทำความพอใจ คือความชอบใจ ได้แก่ความอุตสาหะในบุญนั่นแหละ."
ถามว่า "เพราะเหตุไร ?"
วิสัชนาว่า เพราะว่า ความสั่งสมบุญให้เกิดสุข
อธิบายว่า เพราะว่า ความสั่งสมคือความพอกพูนบุญ ชื่อว่าให้เกิดสุข เพราะเป็นเหตุนำความสุขมาให้ในโลกนี้และโลกหน้า.
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙
๓. เรื่องนางลาชเทวธิดา [๙๗]
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=19&p=3
************************************
มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส น มตฺตํ อาคมิสฺสติ
อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ
อาปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ.
บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญว่า ‘บุญเล็ก ๆ น้อย ๆ จะไม่มาถึง’
แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมา (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด,
ธีรชน (ชนผู้มีปัญญา) สั่งสมบุญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบุญได้ฉันนั้น.
รถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปาปวรรคที่ ๙
๖. เรื่องเศรษฐีชื่อพิฬาลปทกะ [๑๐๐]
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=19&p=6