มีรุ่นพี่ที่รู้จักกันคนนึง ก็ไม่ได้สนิทมากมายอะไร แต่ก็คุยกันอยู่บ่อยๆ เจอกันบ้างตามสะดวก แต่เขาก็เป็นพี่ที่เราเคารพนับถือมากคนนึงเลย ปกติจะคุยกันเรื่องงานของเขา งานของเรา หรือไม่ก็เรื่องที่สนใจตรงกันอย่างรองเท้า กระเป๋า นาฬิกา เพราะก็รวมตัวกับคนอื่นๆพรีออเดอร์ของพวกนี้ด้วยกันอยู่เนืองๆ แลกเกมกันเล่นก็มี หรือบางทีเราอารมณ์ดีๆก็ทำขนมไปแบ่งเขาด้วย จนตอนนี้พุงเริ่มจะมาละ ฮ่าๆ เคยมีพวกปากเปราะพูดว่าเรากับเขากิ๊กกัน แต่พวกเราก็ไม่ได้สนใจ เพราะอิตาคนนี้เป็นคนที่รู้กันทั่วไปว่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อย หาสาระอะไรไม่ได้ ก็เลยไม่มีใครให้ราคาคำพูดมัน ที่สำคัญเขาก็รู้จักกับแฟนเราด้วย เจอกันก็คุยกันดี เรื่องราวมันปกติดีมาตลอดจนกระทั่งมีเหตุการณ์นึงเกิดขึ้นแล้วทำให้เรารู้สึกตะหงิดใจแปลกๆขึ้นมาทันที
คือมีอยู่วันนึงรุ่นน้องที่รู้จักกันในกลุ่มพรีออเดอร์ของเนี่ยละชวนออกไปดื่ม ก็ดึกแล้วละ แต่แฟนเราไม่ว่างต้องเคลียร์งาน เลยส่งเราไปแทน น้องมันไม่ได้ชวนพี่เขาไปนะ แต่บังเอิญไปเจอกันที่นั่นพอดีแบบไม่ได้นัดหมาย ก็เลยย้ายมานั่งด้วยกัน ไอ่น้องนี่เริ่มเมามาจากที่อื่นก่อนแล้ว เลยขับรถกลับไม่ได้ ทั้งหมดสามคนอยู่ในสภาพที่ถ้าขับรถแล้วเจอด่านไม่น่ารอด แต่น้องนี่ไม่ไหวสุดเพราะอาการมันชัดมาก ส่วนเราเองตาสั้น แต่ไม่ได้ใส่แว่นประจำ กลางคืนเลยขับรถไม่ได้ พี่เขาเองก็สายตาแบบเราละแต่เพราะมีแว่นเลยอาสาขับกลับ แต่ก็ไม่กล้าไปไกลกันมากเพราะกลัวด่าน จากที่ๆเราไปดื่มกันมันใกล้บ้านพี่เขาที่สุด เลยตัดสินใจขับไปรวมตัวที่นั่นก่อน สร่างแล้วค่อยว่ากัน พอถึงบ้านพี่เขา พวกเราก็เข้าไปนั่งกันตรงห้องรับแขก ไอ่น้องอีกคนนั่งเล่นกับหมา ส่วนเรากับพี่เขานั่งคุยเล่นกันตรงโซฟา คุยๆกันไปมีตอนนึงที่เราจะเปิดเนทให้เขาดูอะไรหน่อย เราก็เอามือถือขึ้นมาจะต่อไวไฟ เพราะโปรฯหมด เราก็ถามรหัสจากเขา พยายามต่อแล้วก็ต่อไม่ได้ เป็นอยู่ 2 ที เราเลยบอกเขาให้มาดูให้หน่อย เรื่องมันก็เริ่มจากจุดนี้ละ

อันนี้เป็นรูปตัวอย่างผังที่นั่งนะ โซฟาชุดนั้นจะจัดวางคล้ายในภาพนี่เลย มีโต๊ะวางตรงกลางด้วย จากตอนแรกสุดพี่เขานั่งตรงเบอร์ 1 เหยียดเท้าพาดขอบโต๊ะไว้ ส่วนเราก็นั่งตรงที่เขียนไว้ว่าคือเราน่ะละ พอเราบอกให้เขามาดูให้ใช่ปะ เขาก็เถิบมานั่งตรงเบอร์ 2 เลยอะ เราก็ตกใจนิดๆ ก็ไม่ได้อะไรนะ แค่แบบ แหม่ มาซะใกล้เชียว แต่ยังไม่ทันที่เราจะอะไร เขาก็เขยิบเข้ามาอีกจนติดเลย เรียกว่าสีข้างติดกันเลยอะ แล้วแขนขวาเขาก็วางพาดไว้ที่ขอบเก้าอี้หลังเราเลย ชิดเรามากจนเราเริ่มรู้สึกว่ามันผิดปกติแล้วอะ มันเหมือนเป็นสัญชาตญาณเรื่อง space ระหว่างหญิงชายที่ผู้หญิงจะมีกันอะมั้ง แล้วเขาก็ยื่นหน้ามาดูมือถือให้เรา หยิบไปจากมือเรา ทำทุกอย่างแบบใกล้เรามากอะ ตอนนั้นเราแบบ that awkward moment มากเลยอะ ไอ่ที่เราจะให้เขาดูเราก็เปิดๆไปตามปกติ แต่เหมือนสมาธิเราไม่มีเลย มันอึ้งๆยังไงบอกไม่ถูก พอดูจบแล้ว ก็เงียบๆกันไปนิดหน่อย แล้วอยู่ๆเขาก็พูดขึ้นแบบนี้ ...
เขา: มินนี่มาเป็นน้องสาวพี่นะ พี่ไม่มีน้องสาว พี่เป็นพี่ชายคนโต อยากมีน้องสาวมานานแล้ว
เรา: (ทำไมกรูถึงรู้สึกเหมือนโดนรุกยังงี้วะ ไรเนี่ย) เอ่ออ คือออ
เขา: พี่ชอบที่มินนี่มีอะไรน่าทึ่งหลายอย่าง อยากได้น้องสาวที่นิสัยแนวๆนี้ อยากมีอะ เป็นน้องสาวพี่ได้มั้ย
เรา: ก็นี่ก็เป็นอยู่ไม่ใช่เหรอคะ พี่แก่กว่าหนู ก็ต้องเป็นพี่ แล้วหนูก็ต้องเป็นน้องอยู่แล้ว
เขา: ไม่ใช่แบบนั้นดิ หมายถึงเป็นน้องสาวเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆเลยน่ะ ไม่ใช่แบบรุ่นพี่รุ่นน้อง
เรา: (อะไรว่ะ คือจะให้พ่อแม่พี่จดทะเบียนรับหนูเป็นลูกบุญธรรมหรืออะไรเนี่ย งงอะ) อ๋ออออ
เขา: ว่าไงละ ได้มั้ย
เรา: ได้จ้า หนูเองจริงๆก็อยากมีพี่ชายมานานแล้วเหมือนกัน
ที่คุยกันก็ประมาณนี้อะ เราแปลกๆตั้งแต่พี่เขาเถิบเข้ามาซะติดแล้ว คือเราเองอย่างที่หลายคนในนี้น่าจะรู้กันคือเป็นคนหัวสมัยใหม่มากอะนะ แต่เราว่าระหว่างหญิงชายที่ถ้าไม่ใช่แฟน ไม่ใช่กิ๊ก ไม่ใช่คนที่อะไรๆกัน ยังไงมันก็ต้องมี space ระหว่างกันอยู่ดีอะ เท่าที่รู้จักพี่เขามา ดูเขาก็เป็นคนที่ไม่ค่อยถืออะไรเรื่องเล่นกันถึงเนื้อถึงตัวชายหญิง แต่เรื่องความเป็นสุภาพบุรุษเราว่าเขาก็ไม่บกพร่องนะ พูดเท่าที่เคยเห็นอะนะ ที่ไม่เคยเห็นก็สุดจะรู้ ที่เขามานั่งซะใกล้แบบนั้นมันเลยทำให้อดคิดไม่ได้อะว่ามีเจตนาอะไรหรือเปล่า คือมันเหมือนมีภาษากายหรือรังสีอะไรสักอย่างที่มันส่งออกมาแบบไม่ปกติเท่าไหร่เลย เราก็ไม่รู้เราคิดมากไปหรือเปล่า
แล้วพอถึงตอนจะนอน เขาก็ให้เรากับน้องอีกคนไปนอนในห้องเขา ส่วนเขาจะย้ายออกมานอนโซฟาเอง ตอนแรกเขาถามเราว่าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อมั้ย เขากุลีกุจอหาเสื้อหาผ้าหาผ้าเช็ดตัวอะไรมาให้ แต่เราเกรงใจ เลยบอกแค่ว่าล้างหน้าบ้วนปากเอาก็พอแล้ว เราไม่อะไรมาก เขาก็บอกว่าให้เปลี่ยนกางเกงซะหน่อย เพราะเราใส่ยีน ถ้านอนมันจะอึดอัด แล้วเขาก็เอากางเกงขาสั้นมาให้ หาแปรงสีฟันให้ ที่เด็ดคือเขาไม่ได้ให้น้องอีกคนอะ ไม่มีถามไถ่อะไรเลย ปล่อยน้องมันตามยถากรรมมาก มีแต่ถามเราเอานั่นมั้ยเอานี่มั้ย กางเกงใหญ่ไปมั้ย แปรงสีฟันแข็งไปรึเปล่า โฟมล้างหน้าใช้ได้หรือเปล่า ซึ่งไอ่น้องอีกคนมันก็ไม่ได้มีท่าทางไม่พอใจหรือน้อยใจอะไรนะ มันก็เบลอๆเมาๆของมันไป อาจจะเพราะเป็นทอมด้วยมั้ง ถอดยีนออกเหลือแต่บ็อกซ์แล้วกระโดดขึ้นเตียงผลุงหลับเลย เหอะๆ
พอตื่นมาตอนสายๆ เขาก็เข้าครัวทำอาหารรอให้พวกเรา แต่เขาไม่กล้าเข้ามาปลุก เขาบอกว่าแง้มประตูดูเห็นเรายังนอนสบาย เลยปล่อยให้นอนไปก่อน เราเองรู้ว่าเขาจะต้องทำงานหลายอย่างวันนี้ก็เกรงใจ เลยรีบๆกินแล้วรีบเผ่นออกมา เขาจะได้อาบน้ำอาบท่าเตรียมไปทำงาน ตอนที่ออกมาน้องอีกคนที่ว่าก็ขับรถมาส่งเรา แต่เราไม่ได้พูดถามอะไรน้องมันเลย ไม่รู้มันจะสังเกตเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องรับแขกหรือเปล่า เพราะมันก็ไม่ได้นั่งอยู่ใกล้และอยู่ตลอดด้วย มันมัวแต่เล่นกับหมาและเข้าๆออกๆครัว อาจจะไม่ได้สังเกตอะไร เรานั่งคิดคนเดียวมาทั้งวันละเรื่องนี้ มันอึดอัดบอกไม่ถูกเลย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับพี่เขาด้วย เห็นเขายุ่งๆด้วยเลยสบโอกาสที่ยังจะไม่ต้องคุยตอนนี้ ไม่รู้จะวางตัวยังไงเลย ถ้าเขาไม่เถิบมาซะใกล้ขนาดนั้น แค่ขอให้เป็นน้องสาว เราก็คงไม่คิดอะไรนะ แต่นี่มันแปลกๆอะ ช่วยแนะนำด้วยนะว่าจะทำยังไงต่อดี
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้คืออัพเดทนะเคอะ ตอนนี้เขาทักมาละ ไม่รู้จะยังไงดี เขาถามว่าทำไมวันนี้ไม่คุยกันเลย เงียบทั้งวัน ไม่คิดถึงกันมั่งรึไง เหอะๆ ไม่รู้จะตอบว่ายังไงเลยเค่อะ เลยเฉไฉคุยเรื่องดินฟ้าอากาศไปตามเรื่อง
*** แบบนี้เข้าข่าย "พี่สนิท ... คิดไม่ซื่อ" หรือเปล่า ***
คือมีอยู่วันนึงรุ่นน้องที่รู้จักกันในกลุ่มพรีออเดอร์ของเนี่ยละชวนออกไปดื่ม ก็ดึกแล้วละ แต่แฟนเราไม่ว่างต้องเคลียร์งาน เลยส่งเราไปแทน น้องมันไม่ได้ชวนพี่เขาไปนะ แต่บังเอิญไปเจอกันที่นั่นพอดีแบบไม่ได้นัดหมาย ก็เลยย้ายมานั่งด้วยกัน ไอ่น้องนี่เริ่มเมามาจากที่อื่นก่อนแล้ว เลยขับรถกลับไม่ได้ ทั้งหมดสามคนอยู่ในสภาพที่ถ้าขับรถแล้วเจอด่านไม่น่ารอด แต่น้องนี่ไม่ไหวสุดเพราะอาการมันชัดมาก ส่วนเราเองตาสั้น แต่ไม่ได้ใส่แว่นประจำ กลางคืนเลยขับรถไม่ได้ พี่เขาเองก็สายตาแบบเราละแต่เพราะมีแว่นเลยอาสาขับกลับ แต่ก็ไม่กล้าไปไกลกันมากเพราะกลัวด่าน จากที่ๆเราไปดื่มกันมันใกล้บ้านพี่เขาที่สุด เลยตัดสินใจขับไปรวมตัวที่นั่นก่อน สร่างแล้วค่อยว่ากัน พอถึงบ้านพี่เขา พวกเราก็เข้าไปนั่งกันตรงห้องรับแขก ไอ่น้องอีกคนนั่งเล่นกับหมา ส่วนเรากับพี่เขานั่งคุยเล่นกันตรงโซฟา คุยๆกันไปมีตอนนึงที่เราจะเปิดเนทให้เขาดูอะไรหน่อย เราก็เอามือถือขึ้นมาจะต่อไวไฟ เพราะโปรฯหมด เราก็ถามรหัสจากเขา พยายามต่อแล้วก็ต่อไม่ได้ เป็นอยู่ 2 ที เราเลยบอกเขาให้มาดูให้หน่อย เรื่องมันก็เริ่มจากจุดนี้ละ
อันนี้เป็นรูปตัวอย่างผังที่นั่งนะ โซฟาชุดนั้นจะจัดวางคล้ายในภาพนี่เลย มีโต๊ะวางตรงกลางด้วย จากตอนแรกสุดพี่เขานั่งตรงเบอร์ 1 เหยียดเท้าพาดขอบโต๊ะไว้ ส่วนเราก็นั่งตรงที่เขียนไว้ว่าคือเราน่ะละ พอเราบอกให้เขามาดูให้ใช่ปะ เขาก็เถิบมานั่งตรงเบอร์ 2 เลยอะ เราก็ตกใจนิดๆ ก็ไม่ได้อะไรนะ แค่แบบ แหม่ มาซะใกล้เชียว แต่ยังไม่ทันที่เราจะอะไร เขาก็เขยิบเข้ามาอีกจนติดเลย เรียกว่าสีข้างติดกันเลยอะ แล้วแขนขวาเขาก็วางพาดไว้ที่ขอบเก้าอี้หลังเราเลย ชิดเรามากจนเราเริ่มรู้สึกว่ามันผิดปกติแล้วอะ มันเหมือนเป็นสัญชาตญาณเรื่อง space ระหว่างหญิงชายที่ผู้หญิงจะมีกันอะมั้ง แล้วเขาก็ยื่นหน้ามาดูมือถือให้เรา หยิบไปจากมือเรา ทำทุกอย่างแบบใกล้เรามากอะ ตอนนั้นเราแบบ that awkward moment มากเลยอะ ไอ่ที่เราจะให้เขาดูเราก็เปิดๆไปตามปกติ แต่เหมือนสมาธิเราไม่มีเลย มันอึ้งๆยังไงบอกไม่ถูก พอดูจบแล้ว ก็เงียบๆกันไปนิดหน่อย แล้วอยู่ๆเขาก็พูดขึ้นแบบนี้ ...
เขา: มินนี่มาเป็นน้องสาวพี่นะ พี่ไม่มีน้องสาว พี่เป็นพี่ชายคนโต อยากมีน้องสาวมานานแล้ว
เรา: (ทำไมกรูถึงรู้สึกเหมือนโดนรุกยังงี้วะ ไรเนี่ย) เอ่ออ คือออ
เขา: พี่ชอบที่มินนี่มีอะไรน่าทึ่งหลายอย่าง อยากได้น้องสาวที่นิสัยแนวๆนี้ อยากมีอะ เป็นน้องสาวพี่ได้มั้ย
เรา: ก็นี่ก็เป็นอยู่ไม่ใช่เหรอคะ พี่แก่กว่าหนู ก็ต้องเป็นพี่ แล้วหนูก็ต้องเป็นน้องอยู่แล้ว
เขา: ไม่ใช่แบบนั้นดิ หมายถึงเป็นน้องสาวเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆเลยน่ะ ไม่ใช่แบบรุ่นพี่รุ่นน้อง
เรา: (อะไรว่ะ คือจะให้พ่อแม่พี่จดทะเบียนรับหนูเป็นลูกบุญธรรมหรืออะไรเนี่ย งงอะ) อ๋ออออ
เขา: ว่าไงละ ได้มั้ย
เรา: ได้จ้า หนูเองจริงๆก็อยากมีพี่ชายมานานแล้วเหมือนกัน
ที่คุยกันก็ประมาณนี้อะ เราแปลกๆตั้งแต่พี่เขาเถิบเข้ามาซะติดแล้ว คือเราเองอย่างที่หลายคนในนี้น่าจะรู้กันคือเป็นคนหัวสมัยใหม่มากอะนะ แต่เราว่าระหว่างหญิงชายที่ถ้าไม่ใช่แฟน ไม่ใช่กิ๊ก ไม่ใช่คนที่อะไรๆกัน ยังไงมันก็ต้องมี space ระหว่างกันอยู่ดีอะ เท่าที่รู้จักพี่เขามา ดูเขาก็เป็นคนที่ไม่ค่อยถืออะไรเรื่องเล่นกันถึงเนื้อถึงตัวชายหญิง แต่เรื่องความเป็นสุภาพบุรุษเราว่าเขาก็ไม่บกพร่องนะ พูดเท่าที่เคยเห็นอะนะ ที่ไม่เคยเห็นก็สุดจะรู้ ที่เขามานั่งซะใกล้แบบนั้นมันเลยทำให้อดคิดไม่ได้อะว่ามีเจตนาอะไรหรือเปล่า คือมันเหมือนมีภาษากายหรือรังสีอะไรสักอย่างที่มันส่งออกมาแบบไม่ปกติเท่าไหร่เลย เราก็ไม่รู้เราคิดมากไปหรือเปล่า
แล้วพอถึงตอนจะนอน เขาก็ให้เรากับน้องอีกคนไปนอนในห้องเขา ส่วนเขาจะย้ายออกมานอนโซฟาเอง ตอนแรกเขาถามเราว่าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อมั้ย เขากุลีกุจอหาเสื้อหาผ้าหาผ้าเช็ดตัวอะไรมาให้ แต่เราเกรงใจ เลยบอกแค่ว่าล้างหน้าบ้วนปากเอาก็พอแล้ว เราไม่อะไรมาก เขาก็บอกว่าให้เปลี่ยนกางเกงซะหน่อย เพราะเราใส่ยีน ถ้านอนมันจะอึดอัด แล้วเขาก็เอากางเกงขาสั้นมาให้ หาแปรงสีฟันให้ ที่เด็ดคือเขาไม่ได้ให้น้องอีกคนอะ ไม่มีถามไถ่อะไรเลย ปล่อยน้องมันตามยถากรรมมาก มีแต่ถามเราเอานั่นมั้ยเอานี่มั้ย กางเกงใหญ่ไปมั้ย แปรงสีฟันแข็งไปรึเปล่า โฟมล้างหน้าใช้ได้หรือเปล่า ซึ่งไอ่น้องอีกคนมันก็ไม่ได้มีท่าทางไม่พอใจหรือน้อยใจอะไรนะ มันก็เบลอๆเมาๆของมันไป อาจจะเพราะเป็นทอมด้วยมั้ง ถอดยีนออกเหลือแต่บ็อกซ์แล้วกระโดดขึ้นเตียงผลุงหลับเลย เหอะๆ
พอตื่นมาตอนสายๆ เขาก็เข้าครัวทำอาหารรอให้พวกเรา แต่เขาไม่กล้าเข้ามาปลุก เขาบอกว่าแง้มประตูดูเห็นเรายังนอนสบาย เลยปล่อยให้นอนไปก่อน เราเองรู้ว่าเขาจะต้องทำงานหลายอย่างวันนี้ก็เกรงใจ เลยรีบๆกินแล้วรีบเผ่นออกมา เขาจะได้อาบน้ำอาบท่าเตรียมไปทำงาน ตอนที่ออกมาน้องอีกคนที่ว่าก็ขับรถมาส่งเรา แต่เราไม่ได้พูดถามอะไรน้องมันเลย ไม่รู้มันจะสังเกตเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องรับแขกหรือเปล่า เพราะมันก็ไม่ได้นั่งอยู่ใกล้และอยู่ตลอดด้วย มันมัวแต่เล่นกับหมาและเข้าๆออกๆครัว อาจจะไม่ได้สังเกตอะไร เรานั่งคิดคนเดียวมาทั้งวันละเรื่องนี้ มันอึดอัดบอกไม่ถูกเลย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับพี่เขาด้วย เห็นเขายุ่งๆด้วยเลยสบโอกาสที่ยังจะไม่ต้องคุยตอนนี้ ไม่รู้จะวางตัวยังไงเลย ถ้าเขาไม่เถิบมาซะใกล้ขนาดนั้น แค่ขอให้เป็นน้องสาว เราก็คงไม่คิดอะไรนะ แต่นี่มันแปลกๆอะ ช่วยแนะนำด้วยนะว่าจะทำยังไงต่อดี
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้คืออัพเดทนะเคอะ ตอนนี้เขาทักมาละ ไม่รู้จะยังไงดี เขาถามว่าทำไมวันนี้ไม่คุยกันเลย เงียบทั้งวัน ไม่คิดถึงกันมั่งรึไง เหอะๆ ไม่รู้จะตอบว่ายังไงเลยเค่อะ เลยเฉไฉคุยเรื่องดินฟ้าอากาศไปตามเรื่อง