เตือนภัย เรื่องจริง มิจฉาชีพในคราบคนใกล้ตัว ฉบับลวงโลกระดับมหากาพย์!!!

เตือนภัย เรื่องจริง มิจฉาชีพในคราบคนใกล้ตัว ฉบับลวงโลกระดับมหากาพย์!!!

คุณจะทำยังไง? ถ้าคนที่คุณคิดว่าคุณรู้จักเค้าดีที่สุด สุดท้ายเวลาผ่านไปเป็นปี คุณกลับพบว่าคุณไม่ได้รู้จักตัวตนของเค้าเลยสักนิดเดียว ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าในนิยายหรือบทละคร เรื่องของเรายาวหน่อยนะ เพราะโดนมันหลอกเราหลายเรื่องมากมายอยู่เกือบสามปี ไม่ใช่แค่เราที่โดนมันหลอก ทุกคนที่อยู่ใกล้ตัวมันที่เรารู้จักเป็นเหยื่อมันกันมาหมดแล้ว เราขอยืนยันว่าไม่ต้องการจะแฉใคร แค่อยากให้เรื่องของเราเป็นอุทาหรณ์และเตือนภัยให้ระวังภัยกัน เราไม่ใช่นักเขียนอาชีพแต่ก็จะพยายามเล่าให้สั้นและเข้าใจง่ายที่สุด
เราเคยเป็นเหยื่อของคนชื่อP(นามสมมุติ) เค้าเป็นคนตรังแต่โตและอาศัยอยู่ที่กระบี่ ตอนนี้อายุ33ปี(ปี2556) ลักษณะอ้วน ลงพุง ผมบาง สูงประมาณ164ซม ตาส่อนๆตี่ๆ ผิวคล้ำแดด เรารู้จักกะมันผ่านเพื่อนมหาลัยของเรา ซึ่งเคยเรียนมัธยมปลายที่เดียวกะมัน เพื่อนเราบอกบ้านมันมีฐานะ นามสกุลดีและดังในจังหวัด นิสัยดี เป็นเจ้าของบริษัททัวร์(อาชีพที่มันแอบอ้างตอนนั้น) มาแนะนำ เราไว้ใจเพื่อนและ ลักษณะมันดูเป็นคนไม่มีพิษภัยเลยสักนิด ดูเป็นคนดีสุดๆด้วยซ้ำ ชอบชวนเราทำบุญ ไหว้พระ บริจาคเลือดตลอด Pเป็นคนปากหวาน คารมดี ตลกและภาพลักษณ์ดูเป็นมิตรและเป็นคนซื่อๆ คุยทางfacebook  นัดเจอตัวจริง และตกลงคบหากันเป็นแฟน หรือเป็นเหยื่อมันมาสองปีกว่า เราทำงานอยู่ตปท เลยไม่ค่อยกลับไทย ความผิดปกติหรือใครจะมาเตือนสติเลยเห็นได้ยากกว่าคนที่อยู่ด้วยกันใกล้ชิดหรือทุกวัน ช่วงที่คบหากันช่วงแรกP โรแมนติก ใส่ใจและดูแลเราราวกะเจ้าหญิงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าช่วงนั้นอินเลิฟมาก
ตอนเราไปกระบี่ครั้งแรก Pอ้างว่าขายหุ้นบริษัททัวร์ให้เพื่อนแล้ว ตอนนี้ทำแต่ธุรกิจสวนปาล์มอย่างเดียว ซึ่งอ้างว่ามีเป็นร้อยไร่โดยมีหัวหน้าคนงานดูแลให้อยู่ PลงทุนเหมาSpeed Boatพาเราเที่ยวเกาะ ดำน้ำ ดูปะการังสามวันเต็ม แน่นอน เรารู้ว่าค่าใช้จ่ายเยอะเราเลยเสนอออกค่าอาหารแทนเพราะเกรงใจ ช่วงที่เที่ยวด้วยกัน มันรับปากมันจ่ายให้ทุกอย่าง โดยขับรถตู้ที่อ้างว่าของมันมารับ มาดูแลช่วงที่เราอยู่ที่โน่น แต่ช่วงนั้นมีเรื่องแปลก มันอ้างว่าคนงานสวนมันมาขอเบิกเงินจะกลับบ้านสงกรานต์ ขอยืมเงินเราหมื่นนึง มันอ้างว่าไม่มีเงินสดเพราะจ่ายค่าเรือกะค่าโรงแรมไปหมดแล้ว แต่ตอนนั้นเรามีแค่สี่พัน เลยให้ไปแค่นั้น( มาคิดเองทีหลังว่ามันน่าเอาไปจ่ายค่าโรงแรมที่พาเราไปนอน) บางวันก็พาไปนอนบ้านมันในเมืองแต่ปิดไฟเงียบ ก็ยังแอบงงว่าทำไมมันแปลกๆ มารู้ทีหลังว่าคนมาทวงหนี้มันเยอะ มันหนีหนี้ คือทุกอย่างที่มารู้ทีหลังนี่มารู้ตอนเลิกไปแล้วนะ คือก่อนหน้านี้สิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นเราก็มองโลกในแง่ดี คิดว่าเค้าเป็นคนดี ไม่มีอะไร เป็นคนที่เนียนมากๆ พอมันยืมเงินเรา เราเริ่มทวงมันก็อ้างและสร้างเรื่องดราม่าสารพัด เรียกว่าระดับมหากาพย์มาก(ในด้านความลวงโลก)
ดราม่าเรืองที่หนึ่ง มันเป็นลูกคนกลาง เราเคยถามว่าทำไมความเป็นอยู่มันแย่มาก ทั้งๆที่บ้านก็มีฐานะ พี่ชายขับรถดี ที่บ้านพ่อก็มีเบนซ์ขับหลายคัน มันอ้างว่าแม่จริงของมันโดนแม่เลี้ยงที่อยู่กะพ่อมันทุกวันนี้ยิงตายตอนมันคลอด คือพูดง่ายๆมันอ้างว่ามันเป็นลูกชู้ พ่อมันไม่สนใจ รักแต่พี่ชายกะน้องสาวที่เกิดจากแม่เลี้ยง มันชอบพูดว่าพี่มันเป็นมังกร น้องสาวเป็นหงส์ ส่วนมันเป็นไส้เดือน เค้าเลยไมให้อะไรมันแม้แต่แดงเดียวบอกว่าอยากได้ให้หาเอง มันบอกที่บ้านคุณตาเลี้ยงมันมาแต่เกิด คุณตามีพระคุณกะมันมาก เคยอ้างว่าพาตาไปเที่ยวที่โน่นนี่ ดูแล พาไปหาหมอต่างๆนาๆ ดูเป็นคนกตัญญูน่ารัก  คนดีสุดๆ เคยขอยืมเงินเราซื้อทองบาทนึงด้วย อ้างว่าตาให้ซื้อให้ แต่มันหาเงินไม่ทันช่วงนั้น และไม่อยากขัดใจคนแก่ เราเลยให้ยืม เคยขอยืมเงินอ้างว่าจะเซ้งร้านเนตเพื่อนด้วย จะได้มีรายได้เพิ่มดูแลเรา เพราะรายได้จากสวนมันอ้างว่าต้องเอามาผ่อนบ้านในเมือง สุดท้ายก็ไม่ได้คืนตามระเบียบ มันชอบผัดผ่อน อ้างเรื่องคดี ต้องใช้เงินขึ้นศาล ค่าทนาย และอีกมากมาย
มันเคยพาเราไปบ้านมันที่อ่าวลึก เราเจอลูกมันสองคนด้วย คือตอนคบกันมันบอกอยู่ว่ามีลูกแล้วสองคน แต่ไม่ได้จดทะเบียนกะเมียเก่า คือสมัยนั้นมันพลาดทำแฟนเก่าท้อง เลยรับผิดชอบเอาลูกมาเลี้ยง แต่เท่าที่เห็นมันไม่ได้เลี้ยง พ่อแม่มันเลี้ยงแทนชัดๆ มันอ้างว่าพ่อแม่มันกลัวมันเลี้ยงดูแลลูกไม่ดีเพราะเป็นผู้ชาย เลยขอไปเลี้ยงเอง พอเข้าบ้านเจอตา น้า เลยนั่งยังไม่ทันคุยอะไร แม่มันก็ทะเลาะกะมันเสียงดังที่ชั้นสอง เราฟังภาษาใต้ไม่ออก มันเลยไล่ตะเพิดให้เรากลับเดี๋ยวนั้น แม่มันไม่ได้ไล่เรานะ มันอ้างกะเราว่าแม่เลี้ยงมันถามว่ามาทำไม เลยทะเลาะกัน มารู้ทีหลังตอนเลิกกันแล้ว น้องสาวมันมาเล่าให้ฟังว่าแม่มันทวงค่าเรือSpeed Boatที่เหมาไปเที่ยวกะเราตอนไปกระบี่ครั้งแรก มันอ้างบอกคนขับเรือจะเดินไปกดเงิน เค้านั่งรอนานมาก แล้วมันไม่กลับไปจ่าย เค้าเลยมาทวงที่แม่มัน
ดราม่าเรื่องที่สอง ระหว่างที่คบกันมันอ้างว่ามีคดี คือพี่ชายและแม่เลี้ยงมันไม่พอใจที่ตาจะยกที่ๆเกาะพีพีให้ อ้างว่าตามันมีสมบัติ พี่ชายและแม่เลยยัดคดียาเสพติดให้มันที่บ้านมันในเมือง เราเคยซื้อทีวีจอแบนให้มันเป็นของขวัญมันก็อ้างขโมยขึ้นบ้าน ฝีมือพี่ชายมัน มารู้หลังเลิกว่ามันเอาไปขายแม่มันที่บ้านอ่าวลึก ระหว่างที่คบกันต้องขึ้นศาล ต้องยืมเงิน เสียค่าทนายมากมาย เราเคยถามว่าทำไมไม่เอาเงินสวนที่มันธุรกิจมาจ่าย มันอ้างว่ามันต้องเอามาผ่อนบ้านมันในตัวเมือง ซึ่งมาได้ข่าวจากน้องสาวมันที่หลังจากเลิกแล้วว่าบ้านนั้นแม่มันซื้อ สวนปาล์มที่มันอ้างว่าเป็นของมัน จริงๆเป็นของที่บ้าน แต่ต้องให้มันถือ50ไร่ในนาม เพราะที่สปก. ถือครองได้คนละไม่เกิน50ไร่(เราไม่มีความรู้ ถ้าข้อมูลผิดพลาด ขออภัยนะคะ) สรุปคือมันไม่มีอาชีพค่ะ
ดราม่าเรื่องที่สาม เราอยากไปเที่ยวบาหลี เคยให้มันไปจองทัวร์ เงินหายเข้ากลีบเมฆ มันอ้างว่าจองทัวร์แล้วแต่ไปไม่ได้เพราะติดคดี(อ้างพี่มันและแม่เลี้ยงยัดข้อหาฆ่าคนให้) เลยเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ เดี๋ยวตำรวจจะรวบตัวที่สนามบิน ส่วนเงินที่ให้มันไป มันอ้างว่าต้องไปเคลียร์กะบริษัททัวร์ ซึ่งพอถึงเวลาก็อ้างติดธุระเรื่องคดี มีเรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นมาเบี่ยงเบนประเด็นตลอด บางทีก็ทำเป็นป่วย
ดราม่าเรื่องที่สี่ มันเคยอ้างว่าเป็นนิ่ว ต้องเข้ารพด่วน ผ่าตัดนิ่วด่วนใช้เงินสามหมื่น เราเคยถือเงินมาให้มัน อยู่ไทยแค่สิบเอ็ดชม แล้วนั่งเครื่องกลับไปทำงานต่อ เครื่องลงตอนเช้า เย็นเราก็กลับ แต่ตอนที่เจอมันก็ดูมันซูบๆผอมๆอยู่นะ แต่มาดูทีหลัง ไม่น่าจะป่วยจริงหรอก ลองอ่านดราม่าท้ายๆแล้วจะรู้ว่าผอมเพราะอะไร
ดราม่าเรืองที่ห้า ไอ้ที่เห็นๆรูปที่มันไปเมืองนอกในเฟสบุ้คมันอ่ะเงินเราทั้งนั้น แถวตะวันออกกลาง จะดูไบก็ดี อาบูดาบี้ที่ถ่ายรุปกะมัสยิดสีขาว ฮ่องกง เขมรอะไรเอย ตอนไปดูไบ อาบูดาบี้ มันอ้างพี่มันตามฆ่า จะเก็บมัน เลยต้องหาที่ซ่อน แล้วเราก็งง ไหนว่ามีคดี ออกนอกประเทศไม่ได้ มันอ้างว่าต้องวางเงินประกัน ซึ่งเงินเราอีกแหล่ะ ประมาณหมื่นนึง สุดท้ายมันก็ได้มา ส่วนเสื้อผ้าดีๆที่มันใส่เราก็ซื้อให้ทั้งนั้น รูปมันใส่สูทก็เป็นรูปมันไปงานแต่งเพื่อนเราเอง เราซื้อให้ทั้งชุด ตอนที่ไปฮ่องกงมันบอกจะพาเราไปซื้อชุดแต่งงานโดยจะซื้อให้ แต่พอไปถึงอ้างว่าน้ามันโกงเงินๆที่ตาให้ ยังไม่ได้ สรุปมันหลอกให้เราจ่ายเงินให้มันเที่ยวฟรีโดยอ้างว่ายืม
ดราม่าเรืองที่หก เมื่อต้นปี55 เราวางแผนกันจะแต่งงานช่วงปลายปี มันเข้าไปขอเรากะพ่อกะแม่ที่บ้าน โดยเสนอจะให้สินสอดที่พ่อแม่เราและตัวเราเองไม่ได้เรียกเลย เป็นเรือนหอ โดยให้งบประมาณที่หกล้าน แหวนเพชรอีกสองกะรัต Rolexอีกหนึ่งเรือน อ้างว่าตามันให้งบมา และจะใช้หนี้เราที่ยืมเงินเรามาทั้งหมดรวมค่ากินอยู่เป็นเงินสดหนึ่งล้านบาทอีกต่างหาก ช่วงนั้นเข้าออกดูบ้านเยอะมากหลายโครงการ แต่พอถึงเวลาจะคุยกะเซลล์มันก็จะบ่ายเบี่ยง มันบอกให้เซลล์โทรหามัน แต่พอถึงเวลาปิดเครื่องหนี เปลี่ยนเบอร์บ่อยมาก เบอร์แปลกไม่รับ ส่วนค่าจองโรงแรม เราไปดูโรงแรมที่ปราณบุรีกันไว้ เค้าขอมัดจำครึ่งนึงเงินสองแสน เราไม่ให้ เพราะถึงเราจะจ่ายเงินซื้อโน่นนี่ให้มันแค่ไหน เรื่องแต่งงานเราถือมาก มันไม่ควรเป็นเงินเราเองสักแดงเดียว เราคาดว่ามันคงกะให้เราโอนเงินไปมัดจำค่างานแต่งแล้วมันจะเอาเงินไว้ใช้เองนะ แต่มันก็คงผิดคาด เพราะเราไม่ให้ เราบอกเรารอได้ ขอให้มันจัดการเอง ไม่งั้นเราก็ไม่แต่ง มันเคยอ้างว่าตายกที่แถวพระรามสองให้มัน เคยโทรขอยืมเงินพี่ชายเราด้วยอ้างว่าเป็นค่าโอนที่ มันพาเราขับรถไปดูด้วยนะ มันบอกที่ทั้งหมดสิบไร่ แต่พอเราดูมันไม่น่าถึง มันบอกว่ามีหลายที่ ราคาไร่ละล้าน พอเรื่องแดง เราถามถึงเรื่องที่ว่าตกลงคืออะไรที่มันพาไปดูมันที่ใคร มันบอกง่ายๆเลยว่ามันชี้มั่ว เลวจริงๆ..........(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่