จากมติชนออนไลน์
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ชาวมุสลิมจากทั่วทุกมุมโลกและภายในประเทศซาอุดีอาระเบียเองรวมแล้วราว 2 ล้านคน เริ่มประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปีอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ตุลาคม ขณะที่นาย อับดุลเลาะห์ อัล ราเบีย รัฐมนตรีสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย แถลงยังไม่พบผู้แสวงบุญล้มป่วยด้วยโรคคล้ายซาร์ส หรือ เมิร์ส แต่อย่างใด

การจาริกแสวงบุญ จะเป็นการเริ่มต้นการออกเดินทางจากนครเมกกะ เพื่อไปยังนครมีนา ที่อยู่ใกล้เคียง ด้วยวิธีการต่างๆ ตั้งแต่การเดินเท้า นั่งรถยนต์ รวมถึงการโดยสารรถไฟฟ้า ซึ่งเพิ่งแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้ไม่นาน และคาดว่าจะมีผู้เลือกใช้รถไฟฟ้าดังกล่าวนี้ในการเดินทางไม่น้อยกว่า 400,000 คน บุรุษจะสวมชุดขาว 2 ชิ้นซึ่งต้องตัดเย็บจากผ้าชิ้นเดียวไม่มีรอยต่อ ตามประเพณี ส่วนสตรี ต้องอยู่ในชุดปกปิดร่างกายมิดชิด ยกเว้นใบหน้าและสองมือเท่านั้น
เมื่อถึงมีนา ผู้แสวงบุญจะพักผ่อน สวดพระคัมภีร์อัลกุรอาน ชำระร่างกายและจิตใจ ก่อนเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาอาราฟัต เพื่อประกอบพิธีที่ถือว่าเป็นพิธีสูงสุดของการจาริกแสวงบุญในแต่ละปี ซึ่งถือว่าเป็นการชุมนุมผู้คนประจำปีที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก
ทางการซาอุดีอาระเบียจัดเตรียมกำลังทหารเข้ามารักษาความปลอดภัยให้กับพิธีนี้มากกว่า 100,000 นาย ในขณะที่มีทีมแพทย์เคลื่อนที่และเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนอีกจำนวนหนึ่งเพื่ออำนวยการเคลื่อนขบวนของผู้แสวงบุญให้เป็นไปอย่างเป็นระเบียบ
ทั้งนี้ แม้จะไม่มีการตรวจพบผู้แสวงบุญล้มป่วยด้วยไวรัสเมิร์สในขณะนี้ แต่จากการที่เมิร์สคร่าชีวิตคนไปแล้วอย่างน้อย 60 คนและ 51 คนที่เสียชีวิตนั้นเป็นผู้ป่วยในซาอุดีอาระเบีย ทำให้ทางการต้องป้องกันไว้ล่วงหน้าด้วยการลดจำนวนผู้จาริกแสวงบุญที่เป็นชาวซาอุดีอาระเบียลงครึ่งหนึ่งจากเมื่อปีที่แล้ว และลดสัดส่วนที่จัดสรรให้มุสลิมจากต่างประเทศลง 20 เปอร์เซ็นต์ทุกประเทศ ทำให้ผู้แสวงบุญมุสลิมจากทั่วโลกในปีนี้ลดลงเหลือเพียง 1.4 ล้านคนจากปีที่แล้วที่มีมากถึง 1.75 ล้านคน
มุสลิม 2 ล้านเริ่มพิธีฮัจญ์ เผย "เมิร์ส" เป็นเหตุให้ให้ต้องลดนักแสวงบุญสู่ซาอุดีอาระเบียลง
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ชาวมุสลิมจากทั่วทุกมุมโลกและภายในประเทศซาอุดีอาระเบียเองรวมแล้วราว 2 ล้านคน เริ่มประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปีอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ตุลาคม ขณะที่นาย อับดุลเลาะห์ อัล ราเบีย รัฐมนตรีสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย แถลงยังไม่พบผู้แสวงบุญล้มป่วยด้วยโรคคล้ายซาร์ส หรือ เมิร์ส แต่อย่างใด
การจาริกแสวงบุญ จะเป็นการเริ่มต้นการออกเดินทางจากนครเมกกะ เพื่อไปยังนครมีนา ที่อยู่ใกล้เคียง ด้วยวิธีการต่างๆ ตั้งแต่การเดินเท้า นั่งรถยนต์ รวมถึงการโดยสารรถไฟฟ้า ซึ่งเพิ่งแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้ไม่นาน และคาดว่าจะมีผู้เลือกใช้รถไฟฟ้าดังกล่าวนี้ในการเดินทางไม่น้อยกว่า 400,000 คน บุรุษจะสวมชุดขาว 2 ชิ้นซึ่งต้องตัดเย็บจากผ้าชิ้นเดียวไม่มีรอยต่อ ตามประเพณี ส่วนสตรี ต้องอยู่ในชุดปกปิดร่างกายมิดชิด ยกเว้นใบหน้าและสองมือเท่านั้น
เมื่อถึงมีนา ผู้แสวงบุญจะพักผ่อน สวดพระคัมภีร์อัลกุรอาน ชำระร่างกายและจิตใจ ก่อนเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาอาราฟัต เพื่อประกอบพิธีที่ถือว่าเป็นพิธีสูงสุดของการจาริกแสวงบุญในแต่ละปี ซึ่งถือว่าเป็นการชุมนุมผู้คนประจำปีที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก
ทางการซาอุดีอาระเบียจัดเตรียมกำลังทหารเข้ามารักษาความปลอดภัยให้กับพิธีนี้มากกว่า 100,000 นาย ในขณะที่มีทีมแพทย์เคลื่อนที่และเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนอีกจำนวนหนึ่งเพื่ออำนวยการเคลื่อนขบวนของผู้แสวงบุญให้เป็นไปอย่างเป็นระเบียบ
ทั้งนี้ แม้จะไม่มีการตรวจพบผู้แสวงบุญล้มป่วยด้วยไวรัสเมิร์สในขณะนี้ แต่จากการที่เมิร์สคร่าชีวิตคนไปแล้วอย่างน้อย 60 คนและ 51 คนที่เสียชีวิตนั้นเป็นผู้ป่วยในซาอุดีอาระเบีย ทำให้ทางการต้องป้องกันไว้ล่วงหน้าด้วยการลดจำนวนผู้จาริกแสวงบุญที่เป็นชาวซาอุดีอาระเบียลงครึ่งหนึ่งจากเมื่อปีที่แล้ว และลดสัดส่วนที่จัดสรรให้มุสลิมจากต่างประเทศลง 20 เปอร์เซ็นต์ทุกประเทศ ทำให้ผู้แสวงบุญมุสลิมจากทั่วโลกในปีนี้ลดลงเหลือเพียง 1.4 ล้านคนจากปีที่แล้วที่มีมากถึง 1.75 ล้านคน