ขอบอกเลยนะค่ะ ว่าดิฉันพึ่งมารีวิวเป็นครั้งแรก ฮ่าๆๆๆๆ เริ่มก่อนเลยนะคะ ดิฉันและเพื่อนมาฝึกงานที่เลย ทำให้เย็นวันศุกร์เลิกงานเสร็จ 4 โมงครึ่งคุยกันว่าไปเชียงคานกันไหม ไปนอน คิดปุ๊บ จัดกระเป็าปั๊บเลยคะ เป็นทริปเร่งด่วนมาก ฮ่าาาาาาา เรา 2 คน เลยรีบจัดกระเป๋าและไปขนส่งเลยค่ะมาถึงขนส่งที่เลยประมาณ 5 โมงนิดๆๆ รีบไปจองตั๋วที่บริษัท นครชัยคะ แนะนำนะคะ ใครอยากนั่งสบาย รถแอร์ นั่งของนครชัย คะ 38 บาท หรือใครอยากนั่งกิน ลม ชมวิว จะมีรถ 6 ล้อ คะ คงนึกออกนะคะ เส้นทางเลย -เชียงคาน ราคาอาจจะถูกกว่า พอได้ตั๋วรถ เราได้รอบ 6โมงเยนพอดีคะ รถก็มาตรงเวลาพอดีนะคะ
ปล. ทุกภาพถ่ายด้วยกล้องมือถือนะคะ HTC ONE อาจจะไม่สวยนิดนึง 5555
เรามาถึงที่จอดรถประมาณ 19.00 น. รถจอด จะอยู่ตรงข้ามขนส่งของบริษัทนครชัย ตอน 19.00 น. จากนั้น เราเดินไปที่ถนนคนเดิน เพื่อหาที่พัก ซึ่งเราไม่ได้จองล่วงหน้าไวเลย กิกิ แนะนำนะคะ สำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบ หรือคนที่ชอบเดิน เดินไปก็ได้คะ ไม่ไกลมาก ดิฉันกับเพื่อนเดินไปกันคะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีคะ พอเรามาถึงถนนคนเดิน อย่างแรกคือรีบเดินหาห้องพักเลยคะ ครั้งแรกเราตั้งไว้ว่าคงเอาประมาณ 500 บาท แต่เดินไปเรื่อยคิดว่าคงยาก เพราะอยากเอาที่ติดริมน้ำ และอีกอย่างที่พักบางแห่งก็เต็มกันแล้ว จนเรามาเจอที่ ไดเฮง บูติค โฮเต็ล (dai heng boutique hotel) ครั้งแรก เมื่อดิฉันปสอบถามราคา เค้าบอกว่า ราคา 1,500 บาท เป็นห้องที่ติดริมน้ำเลยคะ และพึ่งถูกยกเลิกไป ก็เลยอยู่ห้องหนึ่ง ซึ่งทางโรงแรมจะลดเหลือให้เรา 1,200 บาท แต่ดิฉันกับเพื่อนก็ไฟว์ต่อว่ามีงบจำกัด เป็นนักศึกษา ทางโรงแรมบอกว่างั้นเหบือ 1,000 บาท พวกเราจึงตกลงเลยคะ โรงแรมนะคะอยู่ติดริมฝั่งโขงคะ อยู่ตรงกลางๆของถนนตนเดินเลยคะ ดูสวยงาม น่าพักมากคะ
ปล. โรงแรมเค้ามีสองที่นะคะ อยู่ๆใกล้ๆกันเลยคะ พวกเราพักที่ไดเฮง 2 คะ
ประตูห้องพักเราคะ อันนี้ถ่ายเช้าอีกวันนะคะ
เข้ามาห้องพักก็เป็นห้องขนาดนี้นะ ทีวีจอใหญ่อยู่นะคะ ถ่ายตอนเช้าเช่นกันคะ
เตียงนอนคะ นุ่มมาก หลับสบาย
อีกมุมหนึ่งคะ ด้านหลังผ้าม่านเป็นหน้าต่างคะ เปิดแล้วจะโล่งมากคะ แต่ตรงนี้จะเป็นด้านข้างของโรงแรมค่ะ เห็นแม่น้ำโขงอยู่คะ
ถ่ายจากเตียงนอนคะ เป็นระเบียงข้างนอก เตียงนอนจะหันหน้าเข้าสู่แม่น้ำโขง บรรยากาศดีมากคะ บรรยากาศช่วงเช้าเหมือนกัน ผนังมีที่ตินิดนึงค่ะ แต่ถือว่ายังโอเคคะ
เป็นระเบียงข้างนอกนะคะ
ได้บรรยากาศเงียบสงบดีคะ ตอนกลางคืน
ต่อไปเป็นห้องน้ำคะ สะอาดคะ ห้องไม่เล็ก ไม่ใหญ่มาก
ก็ใกล้ สองทุ่มแล้วนะคะ พวกเราก็เลยออกมาเดินเล่นหาไรทานค่ะ คือแบบว่าหิวมาก
เราเดินมาเจอหมูสะเต๊ะคะ อร่อยมาก ตั้งอยู่หน้าร้าน เฮือนหลวงพระบาง
เราก็เดินมาเรื่อยๆ เจอร้านเส้นเปียก จำชื่อร้านไม่ได้ T T ลองชิมดูกันคะ อร่อยคะ เส้นเหนียวนุ่ม
หลังจากอิ่มท้องกันเสร็จ พวกเราก็เดินซื้อของ ช๊อบปิ้งกันอย่างเดียวเลยคะ เหอะๆๆๆๆๆๆ น่าซื้อทั้งนั้นเลยคะ คนก็แอบเยอะอยู่นะคะ ขนาดเป็นวันศุกร์ ถ้าวันหยุด หรือวันเสาร์ คิดว่าคนคงแน่นกว่านี้
ประมาณ สามทุ่มครึ่ง คนเริ่มจางๆแล้วคะ ร้านค้าบางร้านเริ่มเก็บของกันก็มี แต่ก็ยังซื้อของกันได้อยุ่คะ พวกเราจึงไปหาร้านนมนั่งสบายๆๆ กินก่อนกลับที่พัก ที่ร้าน ลำรำเพย แต่งร้านได้น่ารักมาก เป็นร้านนม ร้านขายพวกกระจุกกระจิก และยังโชว์ art gallery เล็กๆ น่ารักมากคะ
บรรยากาศในช่วงเช้าคะ ประมาณเกือบ 6 โมงเช้า ถ่ายจากระเบียงหน้าห้องนะคะ หมอกเต็มเลยคะ อากาศเย็นๆอยู่ ไม่ถึงหนาวมากมาย
และเราก็ลงมาตักบาตรข้าวเหนียวคะ ซึ่งได้สั่งจองชุดตักบาตรร้านเสริมสวยที่อยู่ตรงข้าม ชื่อว่า ร้านพิม บิวตี้คะ ก็มีชุดเล็ก 60 บาท ชุดใหญ่ 80 บาท พอตอนเช้าเราลงมาทางร้านก็เตรียมที่นั่งพร้อมชุดตักบาตรให้เลยคะ

ชุดเล็กคะ 60 บาท
เรามาทานอาหารเช้ากันต่อคะ เป็นไข่กระทะ โจ๊ก โอวัลตินคะ ราคาก็โอเคค่ะ ทั่วๆไป อยู่ใกล้ๆโรงแรมที่เราพักเลยคะ
จน 7 โมง เราได้คุยกัน ไม่ได้วางแผนล่วงหน้าเลยนะคะ ทริปนี้ เราเช่าจักรยาน ที่ร้านพิม บิวตี้ ความจริงทางร้านคิด 50 บาท ได้ทั้งวัน แต่เนื่องจากเราบอกว่า จะขับไปแก่งคุดคู้ ไม่เกินเที่ยงก็เอามาคืน เลยต่อรอง เหลือ 30 บาท ขับเล่นไปตามริมโขงคะ บรรยากาศดีมากคะ และก็ไปตามเส้นทางเพื่อไปแก่งคุดคู้ ระยะทางก็ประมาณ 5 กิโล ก็ใช้เวลาขับประมาณครึ่ง ชม ได้คะ แบบไม่แวะพักไหนนะคะ อาจจะแวะถ่ายรูปริมโขงนิดหน่อยคะ
เราก็มาถึงแก่งคุดคู้คะ ช่วงนี้น้ำขึ้นนะคะ แม่ค้าแถวนั้นบอกว่าต้องมาช่วงเมษายคะ น้ำลดจะเห็นได้ชัดคะ แต่มาช่วงนี้ก็ได้อีกบรรยากาศนะคะ
อ้อ ของฝากที่นี่นะคะจะเป็น มะพร้าวแก้วที่ขึ้นชื่อ ซื่งตามทางที่ไปแก่งคุดคู้มีร้านขายของฝากเยอะมากคะ ใครสนใจซื้อทานได้นะคะ
ระหว่างทางที่พวกเราปั่นกลับ เราได้แวะวัดท่าแขกคะ ไปไหว้หลวงปู่ชอบ อยู่บริเวณทางที่เลี้ยงไปยังแก่งคุดคู้คะ
พอมาถึงที่พักพวกเราก็เตรียมตัวเก็บของกลับกันคะ และระหว่างกลับพวกเราเริ่มหิวอีกแล้วคะ เลยตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆๆๆ ตามทางที่จะกลับไปยังขนส่ง เจอร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่อยู่หัวมุม ตรงซอย 9 คะ ทางลง ถนนคนเดิน อร่อยคะ มาทานได้
ใช้โอ่งในการต้มนะคะ
อิ่มกันทั้งสองคน พวกเราก็เดินย้อนไปทางลงถนนคนเดินอีกครั้งคะ ไปทาน Macarons คะ ชื่อร้านว่า See i 249 เป็นร้านเล็กๆ น่ารักๆ ตกแต่งได้สวยงามคะ Macarons ที่นี่ เค้าทำเองนะ ใช้วัตถุดิบจากเมืองนอกทั้งหมดเลยคะ มีหลากหลายรสให้ชิม อร่อยมากคะ ไม่หวานจนเกินไปเหมือนที่อื่น ชิ้นละ 40 บาท และยังมีชาต่างๆนะคะ จากต่างประเทศเยอะแยะมากมายค่ะ ใครมาแล้วรับรองว่าติดใจ
บรรยากาศเคาเตอร์หน้าร้านคะ กับเจ้าของร้าน พี่เค้าเป็นกันเองคะ
หลังจากเสร็จสิ้นในการทาน และอิ่มมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พวกเราก็ต้องถึงเวลากลับแล้วคะ บอกตามตรงว่ายังสนุกอยู่เลยค่ะ เป็นทริบที่ไม่ได้เตรียมกันก่อน คิดปุ๊บมาปั๊บบ เป็นเวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ที่ประทับใจมากมายคะ ผู้คนก็น่ารักคะ กิกิ และได้ของฝากเพียบ
และเราก็เดินมายังขนส่งของบริษัทนครชัย ระยะทางก็เท่าๆกับที่เราเดินขามาคะ เพียงแค่อยู่คนละฝั่งกัน เราได้รอบรถไปเมืองเลย เวลา 12.30 น. รถก็ตรงเวลานะคะ
[CR] bagpacker 2 สาว เที่ยวเชียงคาน แบบคิดปุ๊บไปปํ๊บบบบ !!
ปล. ทุกภาพถ่ายด้วยกล้องมือถือนะคะ HTC ONE อาจจะไม่สวยนิดนึง 5555
เรามาถึงที่จอดรถประมาณ 19.00 น. รถจอด จะอยู่ตรงข้ามขนส่งของบริษัทนครชัย ตอน 19.00 น. จากนั้น เราเดินไปที่ถนนคนเดิน เพื่อหาที่พัก ซึ่งเราไม่ได้จองล่วงหน้าไวเลย กิกิ แนะนำนะคะ สำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบ หรือคนที่ชอบเดิน เดินไปก็ได้คะ ไม่ไกลมาก ดิฉันกับเพื่อนเดินไปกันคะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีคะ พอเรามาถึงถนนคนเดิน อย่างแรกคือรีบเดินหาห้องพักเลยคะ ครั้งแรกเราตั้งไว้ว่าคงเอาประมาณ 500 บาท แต่เดินไปเรื่อยคิดว่าคงยาก เพราะอยากเอาที่ติดริมน้ำ และอีกอย่างที่พักบางแห่งก็เต็มกันแล้ว จนเรามาเจอที่ ไดเฮง บูติค โฮเต็ล (dai heng boutique hotel) ครั้งแรก เมื่อดิฉันปสอบถามราคา เค้าบอกว่า ราคา 1,500 บาท เป็นห้องที่ติดริมน้ำเลยคะ และพึ่งถูกยกเลิกไป ก็เลยอยู่ห้องหนึ่ง ซึ่งทางโรงแรมจะลดเหลือให้เรา 1,200 บาท แต่ดิฉันกับเพื่อนก็ไฟว์ต่อว่ามีงบจำกัด เป็นนักศึกษา ทางโรงแรมบอกว่างั้นเหบือ 1,000 บาท พวกเราจึงตกลงเลยคะ โรงแรมนะคะอยู่ติดริมฝั่งโขงคะ อยู่ตรงกลางๆของถนนตนเดินเลยคะ ดูสวยงาม น่าพักมากคะ
ปล. โรงแรมเค้ามีสองที่นะคะ อยู่ๆใกล้ๆกันเลยคะ พวกเราพักที่ไดเฮง 2 คะ
ประตูห้องพักเราคะ อันนี้ถ่ายเช้าอีกวันนะคะ
เข้ามาห้องพักก็เป็นห้องขนาดนี้นะ ทีวีจอใหญ่อยู่นะคะ ถ่ายตอนเช้าเช่นกันคะ
เตียงนอนคะ นุ่มมาก หลับสบาย
อีกมุมหนึ่งคะ ด้านหลังผ้าม่านเป็นหน้าต่างคะ เปิดแล้วจะโล่งมากคะ แต่ตรงนี้จะเป็นด้านข้างของโรงแรมค่ะ เห็นแม่น้ำโขงอยู่คะ
ถ่ายจากเตียงนอนคะ เป็นระเบียงข้างนอก เตียงนอนจะหันหน้าเข้าสู่แม่น้ำโขง บรรยากาศดีมากคะ บรรยากาศช่วงเช้าเหมือนกัน ผนังมีที่ตินิดนึงค่ะ แต่ถือว่ายังโอเคคะ
เป็นระเบียงข้างนอกนะคะ
ได้บรรยากาศเงียบสงบดีคะ ตอนกลางคืน
ต่อไปเป็นห้องน้ำคะ สะอาดคะ ห้องไม่เล็ก ไม่ใหญ่มาก
ก็ใกล้ สองทุ่มแล้วนะคะ พวกเราก็เลยออกมาเดินเล่นหาไรทานค่ะ คือแบบว่าหิวมาก
เราเดินมาเจอหมูสะเต๊ะคะ อร่อยมาก ตั้งอยู่หน้าร้าน เฮือนหลวงพระบาง
เราก็เดินมาเรื่อยๆ เจอร้านเส้นเปียก จำชื่อร้านไม่ได้ T T ลองชิมดูกันคะ อร่อยคะ เส้นเหนียวนุ่ม
หลังจากอิ่มท้องกันเสร็จ พวกเราก็เดินซื้อของ ช๊อบปิ้งกันอย่างเดียวเลยคะ เหอะๆๆๆๆๆๆ น่าซื้อทั้งนั้นเลยคะ คนก็แอบเยอะอยู่นะคะ ขนาดเป็นวันศุกร์ ถ้าวันหยุด หรือวันเสาร์ คิดว่าคนคงแน่นกว่านี้
ประมาณ สามทุ่มครึ่ง คนเริ่มจางๆแล้วคะ ร้านค้าบางร้านเริ่มเก็บของกันก็มี แต่ก็ยังซื้อของกันได้อยุ่คะ พวกเราจึงไปหาร้านนมนั่งสบายๆๆ กินก่อนกลับที่พัก ที่ร้าน ลำรำเพย แต่งร้านได้น่ารักมาก เป็นร้านนม ร้านขายพวกกระจุกกระจิก และยังโชว์ art gallery เล็กๆ น่ารักมากคะ
บรรยากาศในช่วงเช้าคะ ประมาณเกือบ 6 โมงเช้า ถ่ายจากระเบียงหน้าห้องนะคะ หมอกเต็มเลยคะ อากาศเย็นๆอยู่ ไม่ถึงหนาวมากมาย
และเราก็ลงมาตักบาตรข้าวเหนียวคะ ซึ่งได้สั่งจองชุดตักบาตรร้านเสริมสวยที่อยู่ตรงข้าม ชื่อว่า ร้านพิม บิวตี้คะ ก็มีชุดเล็ก 60 บาท ชุดใหญ่ 80 บาท พอตอนเช้าเราลงมาทางร้านก็เตรียมที่นั่งพร้อมชุดตักบาตรให้เลยคะ
ชุดเล็กคะ 60 บาท
เรามาทานอาหารเช้ากันต่อคะ เป็นไข่กระทะ โจ๊ก โอวัลตินคะ ราคาก็โอเคค่ะ ทั่วๆไป อยู่ใกล้ๆโรงแรมที่เราพักเลยคะ
จน 7 โมง เราได้คุยกัน ไม่ได้วางแผนล่วงหน้าเลยนะคะ ทริปนี้ เราเช่าจักรยาน ที่ร้านพิม บิวตี้ ความจริงทางร้านคิด 50 บาท ได้ทั้งวัน แต่เนื่องจากเราบอกว่า จะขับไปแก่งคุดคู้ ไม่เกินเที่ยงก็เอามาคืน เลยต่อรอง เหลือ 30 บาท ขับเล่นไปตามริมโขงคะ บรรยากาศดีมากคะ และก็ไปตามเส้นทางเพื่อไปแก่งคุดคู้ ระยะทางก็ประมาณ 5 กิโล ก็ใช้เวลาขับประมาณครึ่ง ชม ได้คะ แบบไม่แวะพักไหนนะคะ อาจจะแวะถ่ายรูปริมโขงนิดหน่อยคะ
เราก็มาถึงแก่งคุดคู้คะ ช่วงนี้น้ำขึ้นนะคะ แม่ค้าแถวนั้นบอกว่าต้องมาช่วงเมษายคะ น้ำลดจะเห็นได้ชัดคะ แต่มาช่วงนี้ก็ได้อีกบรรยากาศนะคะ
อ้อ ของฝากที่นี่นะคะจะเป็น มะพร้าวแก้วที่ขึ้นชื่อ ซื่งตามทางที่ไปแก่งคุดคู้มีร้านขายของฝากเยอะมากคะ ใครสนใจซื้อทานได้นะคะ
ระหว่างทางที่พวกเราปั่นกลับ เราได้แวะวัดท่าแขกคะ ไปไหว้หลวงปู่ชอบ อยู่บริเวณทางที่เลี้ยงไปยังแก่งคุดคู้คะ
พอมาถึงที่พักพวกเราก็เตรียมตัวเก็บของกลับกันคะ และระหว่างกลับพวกเราเริ่มหิวอีกแล้วคะ เลยตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆๆๆ ตามทางที่จะกลับไปยังขนส่ง เจอร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่อยู่หัวมุม ตรงซอย 9 คะ ทางลง ถนนคนเดิน อร่อยคะ มาทานได้
ใช้โอ่งในการต้มนะคะ
อิ่มกันทั้งสองคน พวกเราก็เดินย้อนไปทางลงถนนคนเดินอีกครั้งคะ ไปทาน Macarons คะ ชื่อร้านว่า See i 249 เป็นร้านเล็กๆ น่ารักๆ ตกแต่งได้สวยงามคะ Macarons ที่นี่ เค้าทำเองนะ ใช้วัตถุดิบจากเมืองนอกทั้งหมดเลยคะ มีหลากหลายรสให้ชิม อร่อยมากคะ ไม่หวานจนเกินไปเหมือนที่อื่น ชิ้นละ 40 บาท และยังมีชาต่างๆนะคะ จากต่างประเทศเยอะแยะมากมายค่ะ ใครมาแล้วรับรองว่าติดใจ
บรรยากาศเคาเตอร์หน้าร้านคะ กับเจ้าของร้าน พี่เค้าเป็นกันเองคะ
หลังจากเสร็จสิ้นในการทาน และอิ่มมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พวกเราก็ต้องถึงเวลากลับแล้วคะ บอกตามตรงว่ายังสนุกอยู่เลยค่ะ เป็นทริบที่ไม่ได้เตรียมกันก่อน คิดปุ๊บมาปั๊บบ เป็นเวลาสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ที่ประทับใจมากมายคะ ผู้คนก็น่ารักคะ กิกิ และได้ของฝากเพียบ
และเราก็เดินมายังขนส่งของบริษัทนครชัย ระยะทางก็เท่าๆกับที่เราเดินขามาคะ เพียงแค่อยู่คนละฝั่งกัน เราได้รอบรถไปเมืองเลย เวลา 12.30 น. รถก็ตรงเวลานะคะ