ใครที่อยู่แฟลตเคยเจอปัญหากับข้างห้องนิสัยแย่ๆ ไหม

กระทู้สนทนา
แล้วจัดการยังไงคะ เราไม่เคยคิดว่าจะมาเจอปัญหาแบบนี้เลยค่ะ แต่ก็เกิดขึ้นจนได้คือเราได้ย้ายมาอยู่แฟลตแถวหัวหมากได้ประมาณเดือนนึง อยู่กับลูกสองคนเท่านั้น ลูกอายุแค่ 9 เดือนค่ะ ตอนมาอยู่ก็เห็นคนเลี้ยงหมากะแมวอยู่เยอะนะคะ ก็ไม่ได้คิดอะไรไม่เคยคิดจะเลี้ยงแมวเลย แต่มีอยู่วันหนึ่งเราไปเห็นแม่แมวท้องแก่ตัวหนึ่งมันบาดเจ็บอยู่ข้างถนนคงโดนทำร้ายมาเราเลยเอามันไปรักษาแล้วก็เอามาดูแลก่อนที่ห้องค่ะ ทั้งที่เราก็มีลูกอายุเก้าเดือนนะแต่ทำไม่ลงที่จะทิ้งแมวท้องแก่ก็เลยเอามาเลี้ยง

ทีนี้คนข้างห้องไม่ชอบแมว รังเกียจแมวอย่างแรงและแสดงอาการไม่ชอบเรามาตั้งแต่ต้นเพราะเรามีเด็กมาอยู่ ลูกเราร้องงอแงบ่อยมากเพราะเค้าไม่แข็งแรงขี้โรค ข้างห้องซึ่งเป็นผู้ชายกับผู้หญิงที่เป็นแฟนกันก็พูดจาลอยๆ ด่ามากระทบบ่อยๆ บางทีพาเพื่อนมานั่งกินเหล้าเสียงดังมาก ตอนกินเหล้าเค้าจะเปิดห้องแล้วก็คุยกันดังมาก ส่วนห้องอื่นถัดไปนั้นเงียบกันหมด ตอนพวกนี้คุยกันก็พูดจาหยาบคายลามกกัน เปิดปิดประตูเสียงดังมาก ทุกครั้งลูกเราจะตกใจตื่นขึ้นมาร้องไห้ คนใจดำพวกนี้ก็จะพูดจาแบบอารมณ์เสียไม่พอใจว่ากระแทก-ดันมาทางห้องเรา เราแอบเดินไปดูตรงหน้าต่างบานเกล็ดก็เห็นพามาหลายคน บางวันไม่ซ้ำหน้า เป็นคนใต้ทั้งนั้น (คนใต้ไม่ใช่ไม่ดีทุกคนนะ เราก็มีเพื่อนที่รักมากเป็นคนใต้เป็นผู้หญิง กับครอบครัวเค้าก็เป็นคนดีกันทุกคน) ตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ไม่เคยนอนหลับสบายใจเลยซักวัน เป็นห่วงลูก พอตอนกลางคืนคนพวกนี้จะเดินผ่านไปผ่านมาหน้าห้องเราซึ่งเป็นระเบียงยาวแล้วก็ด่าผ่านด้วยคำพูดหยาบคายมาก เราคิดว่าพวกเค้ากล้าทำแบบนี้เพราะเคยมีปัญหาหญิงชายคู่นี้มาเคาะประตูห้องแล้วเรียกเราออกไปคุยเรื่องแมวเขาบอกแฟนซึ่งเป็นผู้หญิงไม่ชอบแมวเกลียดแมวฝังใจกับแมวมากแล้วก็บอกว่าเค้าอยู่มาสิบปีแล้วไม่เคยมีแบบนี้เลยแต่เราเพิ่งมาอยู่แล้วเค้าก็ไล่เราว่าออกไป ทั้งที่เค้าไม่มีสิทธิ์ไล่นะ เพราะห้องที่เราเช่ามันมีเจ้าของซื้อไว้น่ะค่ะ แล้วคนผู้ชายก็ตรงจะเข้ามาทำร้ายเราแต่มีคนห้ามไว้

คนผู้หญิงเขาบอกว่ามีพี่ชาย(ของแฟนเค้า)เป็นทนายความ แล้วก็เรียกพี่ชายมา เราก็รอ พี่ชายมาคุยก็ขอโทษเรา แล้วพาน้องชายเข้าไปคุยในห้องบอกว่าต่างคนต่างอยู่ไปไม่อยากให้มีเรื่อง แล้วก็ปิดประตู เราได้ยินเหมือนเสียงพี่ชายกับคนผู้ชายทะเลาะกัน มีตีกันด้วย โครมครามเลย เรารู้สึกแย่เลย ไม่ปลอดภัยเลย แล้วจะย้ายไปอยูล่ะทีนี้เพราะค่าขนย้ายก็หมดไปกับการขนของมาเช่าห้องใม่นี้แล้ว หลังจากนั้นมาเงียบไปซักพักก็เอาอีกแล้วเริ่มทำเหมือนเดิม หนักกว่าเก่าอีกค่ะ มีเราออกไปซื้อของหน้าห้องกระแทกประตูใส่หน้า ห้องเรียงกันมีระเบียงด้านหน้าค่ะ แล้วห้องที่เราเช่าอยู่มันติดกับห้องนี้พอดี พอจะไปซื้อของก็ต้องผ่านหน้าห้องนี้เพราะทางลงบันไดอยู่ทางด้านนี้น่ะค่ะ เราเครียดและกดดันมาก บางทีมันก็มาเดินแล้วทำเสียงขากยิ้มหน้าระเบียงใกล้ห้องเรา ถ่มน้ำลายรดลงพื้นเลยค่ะ ไม่รู้จะพูดยังไง ถ่อย ยิ้ม มากๆ ไม่เคยพบเคยเจอ ทั้งที่เรามีลูกอ่อนก็ยังมาทำแบบนี้ได้ เสียใจนะเราไม่เคยทำต่ำๆ แบบนี้กับใครมาก่อนเลย เสียใจจริงๆ ที่คนไม่รู้จักกันมาทำกันได้ขนาดนี้ค่ะ

พอเราพูดออกไปด้วยโมโหมั่ง มันก็เดินมาหน้าห้องเรียกให้ออกไปคุยเลยค่ะ คือ มันด่าเราได้ ทำกับเราได้ แต่อย่าไปทำมันค่ะ เรื่องใหญ่ นี่ถ้าเราไม่มีลูกอ่อนเราคงไม่เครียดขนาดนี้เราก็ไปไหนต่อไหนแล้ว วันก่อนจุดธูปบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครอง มันด่าเลยว่าเหม็นกลิ่นธูปมาก เราเลยแอบแช่งในใจเลยว่าขอให้สิ่งไม่ดีที่มันทำกับเราและลูกขอให้ย้อนกลับไปหามัน

นี่วันนี้ก็เครียดค่ะเราจะออกไปหลังห้องน้ำซักผ้า ล้างจาน ล้างพื้นข้างหลัง ทุกครั้งที่ออกไป มันก็จะออกไปด้วย (ห้องติดกัน ระเบียงห้องน้ำด้านหลังติดกัน แต่ว่ามีผนังกั้น) แล้วเดินกลับปิดประตูมุ้งลวดดังสนั่นเท่ากับจำนวนครั้งที่เราออกไปเลย คือ เราออกไปที มันก็ออกไปที เรากลับเข้าห้อง มันก็กลับเข้าห้องปิดประตูมุ้งลวดดังปัง คนที่ทำคือคนผู้ชายนะคะ เรานั่งคิดเลยว่านี่ถ้าเกิดเค้ามีลูกกับแฟนเค้าแล้วมีคนมาทำแบบนี้เค้าจะยังยิ้มออกอยู่หรือเปล่า เครียดค่ะ ความปลอดภัยรอบด้านไม่มีเลย เราผิดเองที่ดันไปเลือกห้องเช่าถูกๆ ที่มีเจ้าถิ่น มีคนอยู่ เล่นพรรคเล่นพวกกัน ตอนนี้ก็กินยาระงับประสาทแล้วล่ะ ใครเจอแบบนี้ช่วยแนะนำหน่อยว่าเราควรจะทำยังไงดี

บางวันเราต้องเปิดประตูระบายอากาศบ้างเพราะข้างในค่อนข้างร้อน อับ มีแมวด้วย อยากให้ลูกกับแมวมันได้อากาศปลอดโปร่งมั่ง อยากรับลมมั่ง แต่ก็จะได้ยินเสียงดังเป็นทวีคูณเลย และยิ่งเค้ารู้ว่าเราเปิดห้องก็ยิ่งทำใส่เลยค่ะ ไม่รู้ทำไมชีวิตเราหลังจากมีลูกมันถึงหนีไม่พ้นเสียงดัง หาที่สงบๆ ไม่ได้ ลูกเราก็นอนตกใจตื่นทุกครั้งที่คนพวกนั้นเปิดปิดประตูกระแทก เราอยากหาที่สงบที่ราคาไม่แพงอยู่จริงๆ ที่ๆ ดูแลสัตว์ได้ เป็นคอนโดที่ปลอดภัยไม่ต้องมาใครมายุ่งจะหาได้ที่ไหนนะ อยากไปมากๆ เลย อยากไปเต็มทีแล้ว หาเงินได้พอค่าย้ายเมื่อไหร่ก็จะไปเลยค่ะ แต่ตอนนี้น่ะสิเราจะทำยังไงดีนะ

พอเข้าใจว่าเราไม่มีผู้ชายมาคุ้มครองดูแลแล้วมันก็ง่ายต่อการที่คนร้ายกาจบางคนที่อาจไม่ชอบหน้าเราหรือเป็นโดยสันดานของเขาเองที่ชอบรังแกเหยียบย่ำคนที่อ่อนแอกว่า (มีห่วงด้วยคือลูก) เข้ามาระรานได้ แต่เราก็ไม่รู้จะจัดการยังไงดีค่ะ เป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกอย่างเดียวนะคะ

ตอนเครียดจัดๆ เคยคิดเหมือนกันว่าจะไปกราบเท้าขออยู่ที่นี่เลยจะดีมั้ย เกิดมาก็เคยแต่กราบเท้าพ่อแม่เท่านั้น กราบเท้าคนอื่นซักครั้งคงไม่เป็นไรอ่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่