สวัสดีชาวพันทิพทุกท่านครับ ผมนายต้นสนริมน้ำนะครับเป็นนักายภาพบำบัดครับวันนี้มีบทความเกี่ยวกับโรคอัมพฤกษ์อัมพาตมานำเสนอเผื่อจะมีประโยชน์กับใครหลายคนครับ ^ ^ ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=524697877613316&set=pb.519510621465375.-2207520000.1381310170.&type=3&theater
เช้าวันพฤหัสบดีที่สดใส ^ ^ เสียงนกร้องเพลง แสงแดดอบอุ่น ข้าวร้อนๆในจาน ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ทุกวันก็คงจะดี
แต่คุณผู้อ่านเชื่อไหมว่ายังมีอีกหลายคนบนโลกนี้ที่ต้องทุกข์ทรมานจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพฤกษ์ อัมพาตจนไม่สามารถลุกขึ้นชมธรรมชาติที่สวยงามนี้ได้ ซึ่งโรคนี้ก็มีหลายประเภทพูดทั้งวันคงไม่จบ ผู้เขียนเลยขอนำเสนอประเภทที่อ่อนแรงจากการสั่งงานของสมองผิดปกติ โดยความผิดปกตินั้นมาจากหลอดเลือดสมองบริเวณที่สั่งการร่างกายนั้น แตก ตีบ ตัน ซึ่งมักจะทำให้ร่างกายอ่อนแรงครึ่งซีก ไม่ซ้ายก็ขวา
ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งหลอดเลือดในสมองเริ่มเปราะแล้ว ตีบได้ง่าย มีไขมันมาอุดก็ตันได้ง่าย พอเจอแรงดันเลือดสูงๆก็แตกได้ง่ายกว่าคนหนุ่มสาว เนื้อสมองส่วนที่ขาดเลือดหรือถูกก้อนเลือดกดทับนั้นก็เสียหาย ทำให้การสั่งงานมายังแขน ขา ลำตัว สูญเสียไป บางคนก็พูดไม่ชัด แปรผลคำพูดไมได้ด้วย หรือมีความผิดปกติด้านการรู้สึกตัว หลับตื่น
ลองจินตนาการว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน และต้องอาศัยเวลาในการฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง ใช้แรงกาย แรงใจของครอบครัวในการดูแลผู้ป่วย ปฎิเสธไม่ได้ใช่ใหมครับว่าภาวะอัมพาตครึ่งซีกนี้เป็น"มหันตภัยเงียบ"ที่น่ากลัวสำหรับชีวิตคนคนหนึ่งจริงๆ
แต่การป้องกันนั้นสามารถทำได้ง่ายๆครับ โดยต้องระวังสามเรื่องคือ ความดันสูง เบาหวาน และพันธุกรรม
- ภาวะความดันสูง ภาวะนี้ก็จัดเป็นสาเหตุอันดับต้นๆในการทำให้หลอดเลือดสมองแตก ผู้ป่วยบางคนมีความดันสูงจากไขมันไปพอกตามหลอดเลือด หนึ่งคือพอกจนตีบทำให้สมองขาดเลือด สองคือพอกแล้วมีรูเล็กๆให้เลือดผ่านอยู่ก็ทำให้พื้นที่หน้าตัดหลอดเลือดแคบลง เลือดพุ่งแรงขึ้น(นึกถึงเวลาเราบีบสายยาง น้ำมันก็พุ่งแรงขึ้น) เลือดที่แตกออกมาก็จับตัวเป็นก้อนไปกดเบียดเนื้อสมอง
- ในส่วนของเบาหวานจะทำให้หลอดเลือดมีความปกติได้ง่าย และเกิดโรคแทรกซ้อนที่ไต ตา เท้าซึ่งถ้าเกิดขึ้นในผู้ป่วยอัมพาต แน่นอนว่าคงต้องรักษากันหลายทาง
ซึ่งสองสาเหตุข้างต้นนี้สามารถป้องกันได้โดยการ"เลือกรับ เลือกออก"ครับ เลือกรับประทาน งดของหวานจัด เค็มจัด ขนมทอดที่มีแต่แป้ง น้ำมันและเกลืออยู่เยอะ(ผงชูรสด้วย) ของหวานราคาถูกหาซื้อได้ง่าย แต่มีไขมันแปรรูปซึ่งเป็นไขมันชั้นเลว และเลือกออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวเอง
- พันธุกรรม ถ้าพ่อแม่พี่น้องเราเป็นอัมพาต ก็มีโอกาสสูงที่เราจะเป็นด้วยเพราะด้วยสาเหตุจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนับจากรุ่นปู่ย่าตายายลงมา
แต่ผู้เขียนว่าส่วนนึงคงเป็นเรื่อง"พฤติกรรมการรับประทาน"ภายในครอบครัวด้วย ตอนเด็กๆพ่อแม่เราทานอะไรท่านก็จัดให้เราแบบนั้น กลายเป็นความเคยชิน
คำถามที่เกิดขึ้นคือ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตัวคุณและคนที่คุณรักมีความเสี่ยงแค่ใหน ต้องออกกำลังกายยังไง ความถี่ในการออก ระยะเวลา ยิ่งถ้าเป็นผู้สูงอายุด้วยจะมีข้อควรระวังยังไงบ้าง จริงๆผู้เขียนอยากจะเขียนลงซะวันนี้เลยครับแต่ด้วยเนื้อที่จำกัด เลยจะขอยกยอดไปเขียนเป็นเรื่องการ"ประเมินและการออกกำลังกาย"ให้ในวันต่อๆไปละกัน รวมถึงบทความเรื่องการบำบัดรักษา ถ้าสมมุติว่าในครอบครัวคุณมีคนที่เป็นโรคอัมพาต เบาหวาน ความดันสูงอยู่แล้วด้วย
ปรึกษาเกี่ยวกับกายภาพบำบัด หรือติดตามผลงานของผู้เขียนเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/MaekhriPT
การเตรียมพร้อมที่ดี ย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี ขอบคุณครับ/แอดมินต้น ^ ^
[บทความ] สาเหตุของการเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=524697877613316&set=pb.519510621465375.-2207520000.1381310170.&type=3&theater
เช้าวันพฤหัสบดีที่สดใส ^ ^ เสียงนกร้องเพลง แสงแดดอบอุ่น ข้าวร้อนๆในจาน ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ทุกวันก็คงจะดี
แต่คุณผู้อ่านเชื่อไหมว่ายังมีอีกหลายคนบนโลกนี้ที่ต้องทุกข์ทรมานจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพฤกษ์ อัมพาตจนไม่สามารถลุกขึ้นชมธรรมชาติที่สวยงามนี้ได้ ซึ่งโรคนี้ก็มีหลายประเภทพูดทั้งวันคงไม่จบ ผู้เขียนเลยขอนำเสนอประเภทที่อ่อนแรงจากการสั่งงานของสมองผิดปกติ โดยความผิดปกตินั้นมาจากหลอดเลือดสมองบริเวณที่สั่งการร่างกายนั้น แตก ตีบ ตัน ซึ่งมักจะทำให้ร่างกายอ่อนแรงครึ่งซีก ไม่ซ้ายก็ขวา
ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งหลอดเลือดในสมองเริ่มเปราะแล้ว ตีบได้ง่าย มีไขมันมาอุดก็ตันได้ง่าย พอเจอแรงดันเลือดสูงๆก็แตกได้ง่ายกว่าคนหนุ่มสาว เนื้อสมองส่วนที่ขาดเลือดหรือถูกก้อนเลือดกดทับนั้นก็เสียหาย ทำให้การสั่งงานมายังแขน ขา ลำตัว สูญเสียไป บางคนก็พูดไม่ชัด แปรผลคำพูดไมได้ด้วย หรือมีความผิดปกติด้านการรู้สึกตัว หลับตื่น
ลองจินตนาการว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน และต้องอาศัยเวลาในการฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง ใช้แรงกาย แรงใจของครอบครัวในการดูแลผู้ป่วย ปฎิเสธไม่ได้ใช่ใหมครับว่าภาวะอัมพาตครึ่งซีกนี้เป็น"มหันตภัยเงียบ"ที่น่ากลัวสำหรับชีวิตคนคนหนึ่งจริงๆ
แต่การป้องกันนั้นสามารถทำได้ง่ายๆครับ โดยต้องระวังสามเรื่องคือ ความดันสูง เบาหวาน และพันธุกรรม
- ภาวะความดันสูง ภาวะนี้ก็จัดเป็นสาเหตุอันดับต้นๆในการทำให้หลอดเลือดสมองแตก ผู้ป่วยบางคนมีความดันสูงจากไขมันไปพอกตามหลอดเลือด หนึ่งคือพอกจนตีบทำให้สมองขาดเลือด สองคือพอกแล้วมีรูเล็กๆให้เลือดผ่านอยู่ก็ทำให้พื้นที่หน้าตัดหลอดเลือดแคบลง เลือดพุ่งแรงขึ้น(นึกถึงเวลาเราบีบสายยาง น้ำมันก็พุ่งแรงขึ้น) เลือดที่แตกออกมาก็จับตัวเป็นก้อนไปกดเบียดเนื้อสมอง
- ในส่วนของเบาหวานจะทำให้หลอดเลือดมีความปกติได้ง่าย และเกิดโรคแทรกซ้อนที่ไต ตา เท้าซึ่งถ้าเกิดขึ้นในผู้ป่วยอัมพาต แน่นอนว่าคงต้องรักษากันหลายทาง
ซึ่งสองสาเหตุข้างต้นนี้สามารถป้องกันได้โดยการ"เลือกรับ เลือกออก"ครับ เลือกรับประทาน งดของหวานจัด เค็มจัด ขนมทอดที่มีแต่แป้ง น้ำมันและเกลืออยู่เยอะ(ผงชูรสด้วย) ของหวานราคาถูกหาซื้อได้ง่าย แต่มีไขมันแปรรูปซึ่งเป็นไขมันชั้นเลว และเลือกออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวเอง
- พันธุกรรม ถ้าพ่อแม่พี่น้องเราเป็นอัมพาต ก็มีโอกาสสูงที่เราจะเป็นด้วยเพราะด้วยสาเหตุจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนับจากรุ่นปู่ย่าตายายลงมา
แต่ผู้เขียนว่าส่วนนึงคงเป็นเรื่อง"พฤติกรรมการรับประทาน"ภายในครอบครัวด้วย ตอนเด็กๆพ่อแม่เราทานอะไรท่านก็จัดให้เราแบบนั้น กลายเป็นความเคยชิน
คำถามที่เกิดขึ้นคือ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตัวคุณและคนที่คุณรักมีความเสี่ยงแค่ใหน ต้องออกกำลังกายยังไง ความถี่ในการออก ระยะเวลา ยิ่งถ้าเป็นผู้สูงอายุด้วยจะมีข้อควรระวังยังไงบ้าง จริงๆผู้เขียนอยากจะเขียนลงซะวันนี้เลยครับแต่ด้วยเนื้อที่จำกัด เลยจะขอยกยอดไปเขียนเป็นเรื่องการ"ประเมินและการออกกำลังกาย"ให้ในวันต่อๆไปละกัน รวมถึงบทความเรื่องการบำบัดรักษา ถ้าสมมุติว่าในครอบครัวคุณมีคนที่เป็นโรคอัมพาต เบาหวาน ความดันสูงอยู่แล้วด้วย
ปรึกษาเกี่ยวกับกายภาพบำบัด หรือติดตามผลงานของผู้เขียนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/MaekhriPT
การเตรียมพร้อมที่ดี ย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี ขอบคุณครับ/แอดมินต้น ^ ^