ซาลามัตดาตัง..........
กลับมาะบกันใหม่เด้อ.........วันนี้มาช้าอีกเหมือนเคย.....แต่ไม่ช้าจนเกินไป......สาเหตุก็เพราะน้าหยอยต้องนั่งวาดรูปประกอบระบบเบรค เพื่อให้น้องๆหลานๆ ได้เข้าใจในระบบเบรคอย่างลึกซึ้ง-เสียเวลานั่งงมโข่งอยู่เป็นชั่วโมงเลย........ยกโทษให้ผมก็แล้วกัน......หากไม่ยกโทษก็จะได้นั่งกินเหล้าต่อเด้อ.......
เมื่อกี้ผมเข้าไปดูคำตอบของทุกคนแล้วนะครับ......แต่ละคนต่างก็มีเหตุผลมาเสริมให้รู้ว่า-คนที่เข้ามาตอบ-ล้วนแล้วเก่งจนได้ระดับทั้งนั้นเลย.....
สรุปแล้ว....ในคำตอบเหล่านั้น......โดยเฉพาะคุณ Gboy......ฟังคนอื่นอธิบายให้ฟังว่า ดรัมเบรคให้สมรรถนะในการเบรคสูงกว่ารถแบบดิสค์เบรค...เพราะหน้าสัมผัสของดรัมเบรคมีมากกว่าแบบดิสค์.....นี่แหละครับ คือสาเหตุที่ผมไ่ม่กล้าเข้าไปเสริมในคำตอบจขกท.รายอื่นๆที่มีคนช่วยชี้นำไปแล้ว......เพราะมันจะกลายเป็นมาม่าไปแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะแต่ละคนต่างก็มีอัตตาในตัวเองจนไม่ยอมรับความคิดของคนอื่น
สรุปแล้ว.ต่างคนต่างก็ถูกต้องครับ(...แต่มันจะตรงและสมเหตุสมผลหรือไม่นั่นก็เป็นวิจารณญานของแต่ละท่านเป็นสำคัญ.....ใครมีเหตุผลดีกว่า-และพิศูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม....คำตอบนั้นก็น่าจะเป็นที่ยอมรับในแบบวิทยาศาสตร์ได้.....
ผมขออธิบายให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้เสียเลยว่า.....ดรัมเบรคนั้น......ผ้าเบรคมันจับกับจานเบรคเพียงนิดเดียวเองแหละครับ....สาเหตุก็เพราะ...ลูกเบี้ยวก้ามปูเบรคมันมีอยู่ข้างเดียวไง.......ข้างที่ถ่างคือส่วนที่เสียดสีกับดุมเบรค....ส่วนอีกด้านหนึ่ง-มันยึดติดอยู่กับแกนหมุน.....เราจะต้องใช้เบรคให่สึกไปประมาณ4,000-5000กม..เพื่อให้หน้าสัมผัสด้านก้ามปูของมันสึกออกไปเกือบครึ่ง.....แล้วหน้าสัมผัสของมันจึงจะลามลึกเข้าไปเรื่อยๆ......ดูรูปประกอบนะครับ
ส่วนดิสเบรค......หน้าสัมผัสของมันจะถูกดันออกมาจากแม่ปั้ม......สัมผัสกับจานดิสค์แบบเต็มหน้าตั้งแต่กิโลแรกจนยันกิโลสุดท้ายที่ผ้าเบรคหมด.......ดูรูปประกอบใกล้ๆกันในหน้านี้เลยเด้อ
อยากให้กระทู้มีสาระ(ทำความเข้าใจกับเบรค)
กลับมาะบกันใหม่เด้อ.........วันนี้มาช้าอีกเหมือนเคย.....แต่ไม่ช้าจนเกินไป......สาเหตุก็เพราะน้าหยอยต้องนั่งวาดรูปประกอบระบบเบรค เพื่อให้น้องๆหลานๆ ได้เข้าใจในระบบเบรคอย่างลึกซึ้ง-เสียเวลานั่งงมโข่งอยู่เป็นชั่วโมงเลย........ยกโทษให้ผมก็แล้วกัน......หากไม่ยกโทษก็จะได้นั่งกินเหล้าต่อเด้อ.......
เมื่อกี้ผมเข้าไปดูคำตอบของทุกคนแล้วนะครับ......แต่ละคนต่างก็มีเหตุผลมาเสริมให้รู้ว่า-คนที่เข้ามาตอบ-ล้วนแล้วเก่งจนได้ระดับทั้งนั้นเลย.....
สรุปแล้ว....ในคำตอบเหล่านั้น......โดยเฉพาะคุณ Gboy......ฟังคนอื่นอธิบายให้ฟังว่า ดรัมเบรคให้สมรรถนะในการเบรคสูงกว่ารถแบบดิสค์เบรค...เพราะหน้าสัมผัสของดรัมเบรคมีมากกว่าแบบดิสค์.....นี่แหละครับ คือสาเหตุที่ผมไ่ม่กล้าเข้าไปเสริมในคำตอบจขกท.รายอื่นๆที่มีคนช่วยชี้นำไปแล้ว......เพราะมันจะกลายเป็นมาม่าไปแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะแต่ละคนต่างก็มีอัตตาในตัวเองจนไม่ยอมรับความคิดของคนอื่น
สรุปแล้ว.ต่างคนต่างก็ถูกต้องครับ(...แต่มันจะตรงและสมเหตุสมผลหรือไม่นั่นก็เป็นวิจารณญานของแต่ละท่านเป็นสำคัญ.....ใครมีเหตุผลดีกว่า-และพิศูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม....คำตอบนั้นก็น่าจะเป็นที่ยอมรับในแบบวิทยาศาสตร์ได้.....
ผมขออธิบายให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้เสียเลยว่า.....ดรัมเบรคนั้น......ผ้าเบรคมันจับกับจานเบรคเพียงนิดเดียวเองแหละครับ....สาเหตุก็เพราะ...ลูกเบี้ยวก้ามปูเบรคมันมีอยู่ข้างเดียวไง.......ข้างที่ถ่างคือส่วนที่เสียดสีกับดุมเบรค....ส่วนอีกด้านหนึ่ง-มันยึดติดอยู่กับแกนหมุน.....เราจะต้องใช้เบรคให่สึกไปประมาณ4,000-5000กม..เพื่อให้หน้าสัมผัสด้านก้ามปูของมันสึกออกไปเกือบครึ่ง.....แล้วหน้าสัมผัสของมันจึงจะลามลึกเข้าไปเรื่อยๆ......ดูรูปประกอบนะครับ
ส่วนดิสเบรค......หน้าสัมผัสของมันจะถูกดันออกมาจากแม่ปั้ม......สัมผัสกับจานดิสค์แบบเต็มหน้าตั้งแต่กิโลแรกจนยันกิโลสุดท้ายที่ผ้าเบรคหมด.......ดูรูปประกอบใกล้ๆกันในหน้านี้เลยเด้อ