คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
ลูกออกมาคงฉลาด มีอีคิวไอคิวที่ดี ขออวยพรล่วงหน้านะคะ
เครดิตข้อมูลจากวิกิพีเดีย
เรียกได้ว่าเก่งมากๆทั้งคู่ อย่างที่รู้กันว่าหมอเรียนยากมาก เกียรตินิยมอันดับ1ของหมอยิ่งยากมากๆๆ
นายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล (โอ๊ค) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2523
จบการศึกษาจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา
แล้วจึงเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 1
จากนั้นก็ศึกษาต่อปริญญาโท ทางด้านตจวิทยา(ผิวหนัง) ที่ศูนย์ผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ต่อด้วย American Board of anti-aging and Regenerative medicine Chicago, Illinois, USA
ปาณิสรา พิมพ์ปรุ หรือ โอปอล์ ชื่อเดิมคือ ศิริพร พิมพ์ปรุ
เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนราชินีบน และตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา(ต.อ.รุ่น 60) แผนอังกฤษ-ฝรั่งเศส
ระดับอุดมศึกษาจาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับสอง วิชาเอกการประชาสัมพันธ์ วิชาโทการโฆษณาและวาทวิทยา
เครดิตข้อมูลจากวิกิพีเดีย
เรียกได้ว่าเก่งมากๆทั้งคู่ อย่างที่รู้กันว่าหมอเรียนยากมาก เกียรตินิยมอันดับ1ของหมอยิ่งยากมากๆๆ
นายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล (โอ๊ค) เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2523
จบการศึกษาจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา
แล้วจึงเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 1
จากนั้นก็ศึกษาต่อปริญญาโท ทางด้านตจวิทยา(ผิวหนัง) ที่ศูนย์ผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ต่อด้วย American Board of anti-aging and Regenerative medicine Chicago, Illinois, USA
ปาณิสรา พิมพ์ปรุ หรือ โอปอล์ ชื่อเดิมคือ ศิริพร พิมพ์ปรุ
เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนราชินีบน และตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา(ต.อ.รุ่น 60) แผนอังกฤษ-ฝรั่งเศส
ระดับอุดมศึกษาจาก คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับสอง วิชาเอกการประชาสัมพันธ์ วิชาโทการโฆษณาและวาทวิทยา
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
อุแม่จ้าว เพิ่งรู้ประวัติการศึกษาโอปอลล์แล้วอึ้ง ไม่รู้มาก่อนว่าเรียนเก่งขนาดนี้ หมอโอ๊คโชคดีจริงๆ ยินดีกับทั้งคู่
พอดีดูรายการที่นี่หมอชิตแล้วอินโคดๆ มาอ่านกระทู้ในพันทิปด้วย ตอนแรกทราบแค่ว่าโอปอล์เป็นนักแสดงฮาๆ ผมเคยดูผลงานเค้าแค่เพื่อนสนิทมั้ง แล้วรู้ว่าเป็นพิธีกรประมาณนี้ แต่เพิ่งดูเค้าออกศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ภาษาอังกฤษก็ดีมากๆยังนึกในใจจบอะไรมา เคยไปนอกป่าวภาษาดีจัง
พอดูที่นี่หมอชิต จากนั้นชอบวุ้ย ชอบคู่นี้มากๆ เลยดูคลิปโอปอล์ต่อไปเจอออกรายการวีอาร์โซ โห ผู้หญิงอะไรฉลาดว่ะ ทำไมเจ๋ง ฉลาดจังทั้งแนวคิดด้านการศึกษาและเรื่องความรัก
เออ เลยไปอ่านประวัติ แล้วพี่ที่ทำงานเค้าบอกพี่สาวเค้าเรียนเตรียมอุดมสายเดียวกับโอปอล์เข้าปีเดียวกัน(นึกในใจ โห เรียนเตรียมเลยหรอ เพิ่งรู้ว่าเก่งขนาดนี้) เค้าบอกว่าโอปอลล์เรียนเตรียมห้องคิงสายภาษา แล้วยังทำงานเป็นประธานนักเรียนหรือประธานตึกสักอย่าง คือ กิจกรรมเยอะแต่เกรดเกือบ4.00ตลอด แถมมาเรียนจุฬาก็ทำกิจกรรมเยอะแต่ยังได้เกียรตินิยม เค้าบอกโอปอลตัวจริงเนิร์ดมาก คือเหมือนจะฮา แต่เวลาเรียนตั้งใจเรียนมาก แล้วเป็นคนจริงจัง เรียนจริงจัง ทำงานจริงจัง ซีเรียสมากๆตอนอยู่ม.ต้นที่ราชินีบนก็เป็นประธานนักเรียน
เออ ฟังแล้วเจ๋งหวะผู้หญิงคนนี้ มีของจริงๆ สมแล้วที่เป็นไอดอลหลายๆคน คือ ความคิดความอ่านใช่เลย พอมานึกอีกทีไม่แปลกใจว่าทำไมเรียนเก่งขนาดนี้เพราะคำพูดการกระทำเขามันบ่งบอกอะครับว่าคนนี้ฉลาด เรียนเก่ง
ไม่มีอะไรแค่อยากบอกว่าขอเป็นอีกคนที่ติดตาม และแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยครับสมกันจริงๆ
อ่านบทสัมภาษณ์เค้าแล้วชอบตรงนี้ครับ น่าจะเแ็นไอดอลด้านการเรียนให้หลายๆ คน
"ปอล์เคยคับแค้นตัวเองมากที่ไม่ได้ช่วยพ่อแม่ทำงานหาเงินเลย ถ้าเด็กๆ ปอล์เกิดมาสวย หน้าตาดี ปอล์ก็คงไปเป็นพริตตี้แล้ว ปอล์ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร ร้อง เล่น เต้นระบำ ปอล์ทำไม่เป็น สิ่งที่ปอล์ทำได้ตอนนั้นก็คือตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด ทำยังไงก็ได้เพื่อให้พ่อกับแม่มีน้ำหล่อเลี้ยงใจ เพราะปอล์รู้สึกว่ากำลังใจของพ่อแม่ก็คือลูก ถ้าเรามัวแต่จะสร้างปัญหา เราก็คือลูกทรพี แต่ดีที่ปอล์ไม่ได้เป็นแบบนั้น ทุกครั้งที่พ่อกับแม่ไปหาที่โรงเรียนก็มักจะได้รับคำชมจากครูบาอาจารย์กลับมา เพราะปอล์เป็นเด็กเรียนเก่ง เป็นประธานนักเรียน เป็นหัวหน้าห้องตั้งแต่เด็กจนโต เกรดเฉลี่ยปอล์ไม่เคยต่ำกว่า 3.70 ไม่เคยต้องเรียนพิเศษ เพราะเรารู้ว่าทุกอย่างเราหาเงินช่วยพ่อแม่ไม่ได้ เราก็ต้องแบ่งเบาภาระท่าน โดยการเป็นลูกที่ดี เป็นพี่ที่ดี และตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด”