ไม่ไหวจะสู้กับเพื่อนบ้านสมัยนี้จริงๆครับ

กระทู้คำถาม
ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้น้อยๆของผมครับอาจจะเป็นการระบายครับ

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมได้ซื้อบ้านในระดับที่ดีประมาณหนึ่ง เพราะเนื่องจากทำเลที่ดีมากๆ สะดวกกับการไปทำงานของผม และคิดว่าสังคมที่อยู่ที่ผมอยากให้กับครอบครัวนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

เรามีความสุขมากครับกับการย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังนี้

หลังจากที่ผมย้ายเข้าได้ไม่นานประมาณ 4 เดือน ผมได้มีเพื่อนบ้านครับ เป็นคู่สามีต่างชาติชาวเยอรมัน และ ภรรยาเป็นคนไทย ย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน วันที่ทั้งสองย้ายเข้ามาเป็นเรื่องเป็นราว ภรรยาผมได้นำผลไม้ไปให้เพื่อเป็นการต้อนรับ ทางสามีน่ารักมากครับ อัธยาศัยดีมากๆ

แต่ภรรยาของเค้าก็เฉยๆไม่ขอบคุณหรือมีปฏิกิริยาเลย แต่ไม่เป็นไรครับผมไม่ถือเรื่องนี้เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้

ส่วนมากเป็นเหตุการณ์ที่ภรรยาผมเจอนะครับเนื่องจากผมเดินทางบ่อยแต่ผมก็ได้ประสบเหตุการณ์บางอย่างด้วยตัวผมเองด้วยครับ

1. ทุกครั้งที่ภรรยาผมกลับมาบ้านเธอจะสังเกตุเห็นว่ามีคนแอบมอง แบบว่าบ้านข้างๆปิดไฟมืด แต่เห็นเงาจากแสงสะท้อนว่าแอบยืนอยู่ ทางภรรยาผมก็ปิดม่านเอาครับ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไป หรือแม้แต่เธอเดินอยู่ในสวนของบ้าน ก็เห็นว่ามีคนยืนชะโงกเข้ามา พอเธอหันไปเพื่อนบ้านท่านนั้นก็ทำเป็นหันหน้าหนีไป  ทุกท่านอาจคิดว่า ภรรยาผมจับผิดมากไปหรือเปล่า แต่ไม่นะครับ บางครั้งเธออยู่ในบ้านก็เห็นว่า ภรรยาของคนข้างบ้านพยายามมองเข้ามาในบ้าน

2. ภรรยาผมเป็น working women ครับ เธอทำงานกลับดึก ไม่มีเวลาแม้แต่จะคุยกับเพื่อนบ้าน โดยธรรมชาติของครอบครัวผมเป็น คนชอบเที่ยว ต่างจังหวัด เกือนทุกอาทิตย์ ฉะนั้น จันทร์ ถึง ศุกร์ ทำงานตลอด เสาร์ และ อาทิตย์ เที่ยวออกรอบ หรือ เที่ยวต่างจังหวัดตลอดครับ
แต่ก็ยังมีคนมากล่าวหาว่าผมและครอบครัว ว่า ได้ไปตำหนิเรื่องของเพื่อนบ้าน เช่น ใบไม้หล่นปลิว มาบ้าง เหม็นกลิ่นอาหารเวลาเพื่อนบ้านทำบ้าง หรือเพื่อนบ้านก่อสร้างต่อเติมอะไรก็รำคาญและบ่นเพื่อนบ้าน ซึ่งผมงงมากครับ เราแทบจะไม่อยู่บ้านกันเลย แต่ไม่วายยังมีคนเล่นตลกกับครอบครัวเรา

3. ภรรยาของผมเ็ป็นคนเพื่อนเยอะครับ ทุกอาทิตย์ถ้าเราไม่ได้ไปออกทริปที่ไหน เพื่อนๆจะมาเยี่ยมเยี่ยนที่บ้านครับ เรานั่งดื่มกันแต่ไม่ได้สร้างความรำคาญอะไร เพราะไม่ได้เสียงดัง โวยวายอะไร ส่วนมากจะเป็นการเล่าเรื่องขำๆตลกๆ สัปเพเหระต่างๆ ทางเพื่อนบ้านข้างๆผมครับโทรแจ้งทางนิติบุคคลให้มาตักเตือน เนื่องจากเสียงดัง เวลานั้นเป็นเวลา หนึ่งทุ่ม ครับ พวกผมเพิ่งจะเริ่มทานข้าวกัน ทุกคนเลยงงว่า ดังตรงไหน และได้สอบถามกลับไปที่นิติบุคคลว่า บ้านไหนเป็นผู้แจ้ง พอทราบว่าเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆ ผม และภรรยาก็เดินไปทีบ้านเค้า เพื่อขอโทษ และ ได้ชักชวนมารัปทานอาหารกันที่บ้าน (เพื่อเป็นการผูกมิตรที่ดี) แต่กลับโดนต่อว่ากลับมาว่า พวกเค้าไม่ใช่คนเห็นแก่กิน ทางผมก็แจ้งกลับไปว่าทางผมก็ไม่ได้เสียงดังอะไรเลย ทำไมพี่ถึงแจ้งทางนิติ  เพื่อนบ้านก็บอกว่า ก็ฉันรำคาญ ?? อ้าวแล้วจะให้ผมไปกินที่ไหนละครับ ไปกินในป่าหรือไงครับ

4. ทางผมได้มีการการต่อเติมบ้านและทำสวนใหม่ครับ ทุกครั้งที่มีการต่อเติมก่อสร้างจะต้องขออนุญาติดำเนินการและได้รับการยินยอมจากเพื่อนบ้านโดยรอบโดยที่มีการลงชื่อยินยอมให้ก่อสร้างจากเพื่อนบ้าน ซึ่งภรรยาผมก็ได้ขอให้เพื่อนบ้านลงยอมยินยอมครับ  ติดอยู่แค่บ้านเดียว ไม่ต้องถามเลยนะครับว่าบ้านไหนไม่อนุญาติ  ใช่ครับ บ้านเดียวกันกับที่บอกว่ารำคาญนั้นแหละครับ  เค้าบอกว่าเสียงดัง ไม่สะดวกให้ก่อสร้าง ทางผมก็เข้าไปชี้แจงและยืนแบบให้ดูว่าทำตามที่กฏหมายกำหนดทุกอย่าง รวมทั้งระยะเวลาการดำเนินการว่ากี่วัน ทางภรรยาเค้าไม่ยอมเลยครับ สุดท้ายต้องให้ทางนิติเข้ามาคุยเพื่อร้องขอให้ดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากผมและภรรยา เตรียมต่อเติมบ้านไว้เพื่อจะมีลูกครับ

สุดท้ายเพื่อนบ้านก็ยอม แต่ทุกครั้งที่ภรรยาและผมกลับมาบ้านก็จะเพื่อนบ้านท่านนั้นเดินมาบ่นทุกวันว่า วันนี้เสียงดังเกินไป ฝุ่นเยอะไป คนงานเปิดเพลงระหว่างการทำงานดังไป  ผมก็แก้ปัญหาโดยการเอาตาข่ายมาขึงกั้นบริเวณข้างบ้านเค้า เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นที่เกิดขึ้น และได้ตักเตือนหัวหน้าคนงานให้ควบคุมคนงานให้ไม่สร้างความเดือนร้อนแก้เพื่อนบ้านผมอีก

แต่สุดท้ายเพื่อนบ้านท่านนี้ก็มาบ่นผมจนได้ ว่า ตาข่ายที่ขึงอยู่นะ มันดักลมไปหมด บ้านฉันร้อน ให้รื้อออกเดี๋ยวนี้ !!!!!!!! คราวนี้ผมเห็นว่า เพื่อนบ้านท่านนี้ เรื่องเยอะมากขึ้นเรื่อยๆครับ ผมจึงบอกกลับไปว่า  ผมให้พี่เลือกระหว่างฝุ่น กับ ลม พี่จะเลือกอะไรรับ ผมตามใจพี่ไม่ถูกแล้ว วันนั้นผมโกรธมากครับเพราะพี่ข้างบ้านเค้าเริ่มเยอะและดูไม่ค่อยมีเหตผลเท่าที่ควร แต่เค้าก็ตะโกนด่าท่อผมว่า มีเพื่อนบ้าน เ_ี้ยๆ แบบนี้ก้ไม่ไหวนะ
ผมจึงตอบกลับไปว่าผมดำเนินการอย่างถูกต้องและไม่ต้องการมีปัญหากับพี่เค้า แต่พี่ไม่จำเป็นต้องพูดแบบนี้นะครับ และผมก็เดินเข้าบ้านไป เนื่องจากภรรยาผมเรียกให้เข้าไปเพราะไม่อยากให้ทะเลาะกันให้มากกว่านี้ สมควรแล้วหรอครับที่พี่เค้าใช้คำๆนั้น ผม เ_ี้ย ตรงไหน ??

การต่อเติมบ้านผมจึงดำเนินไปด้วยความยากลำบากผมเร่งให้บ้านที่ต่อเติมเสร็จให้ไวที่สุด ระยะเวลาที่ผมแจ้งไว้คือ 3 เดือนครับ แต่สามารถทำเสร็จได้ภายใน 2 เืดือน ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่วางไว้

คิดว่าเรื่องจะจบหรือครับ?????

จากนั้นผมกับภรรยาจึงปรึกษากันว่า เราคิดว่าต่างคนต่างอยู่กับเพื่อนบ้านดีกว่า เนื่องจากดูแล้ว ไม่น่าจะทำให้สุขภาพจิตของครอบครัวผมดีขึ้น ผมจึงดำเนินชีวิตไปตามปรกติ

จนวันหนึ่งผมเห็นแมวของพี่ข้างบ้านมานอนที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ผมก็ไล่ออกไปเนื่องจาก แมวตัวนั้นได้เข้ามาขับถ่ายไว้ ผมเห็นทีไรก็ไล่ไปทุกที จนเย็นวันหนึ่งผมกลับมาจากบ้านเห็นแมวตัวเดิมนอนอยู่บนฝากระโปรงรถ ผมจึงถ่ายรูปเป็นหลักฐานและไล่แมวตัวนั้นออกไป ในจังหวะเดียวกัน เพื่อนบ้านท่านนั้นเห็นว่าผมไล่แมวเค้า เค้าก็เดินมาเลยครับ มาด่าผมว่า ยิ้มทำได้กระทั่งแมว เอออออ !!!! ผมงงครับ ผมแค่ไล่โดยการปรบมือพร้อมทั้งบอกว่า ไปๆๆ ไม่ได้เอาไม้ไล่กวด หรือ ทำร้ายอะไรแมวเค้าเลย ผมก็บอกว่า พี่ครับ แมวพี่มานอนบนฝากระโปรงรถผม ผมถ่ายรูปไว้ ผมก็ให้พี่เค้าดู เค้าไม่ขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย แค่บอกอืมรูปสวยดีแล้วเดินออกไป

แค่นี้ผมก็รู้แล้วครับว่าเพื่อนบ้านท่านนี้ไม่ปรกติแน่ สามัญสำนึกในการอยู่ร่วมกันไม่มีเลยแม้แต่น้อย คือคนอื่นทำอะไรก็เหวี่ยงอย่างเดียว แต่ตัวเองทำกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร

ผมก็แก้ปัญหาดยการที่เวลาอยู่บ้านผมจะคลุมรถให้เรียบร้อย และ ปล่อยหมาออกมาเดินบริเวณหน้าบ้านก็แก้ปัญหาไปได้หน่อย แต่ในความเป็นจริงผู้เลี้ยวต้องดูแลใช่ไหมครับ

และเมื่อเร็วนี้ เพื่อนบ้านของผมได้มีการต่อเติมบ้านโดยที่ไม่มีการมาให้ผมลงนามยินยอมการก่อสร้างหรือรับรู้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งระเบียบการปฏิบัติในหมู่บ้านก็ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่าต้องได้รับการยินยอมจากเพื่อนบ้านก่อน ผมจึงสอบถามไปที่นิติบุคคลหมู่บ้านและได้แจ้งกลับมาว่า ผมเซนต์ยินยอมแล้ว แต่ไม่ได้ประทับตราบ้านเลขที่ สรุปคือ เพื่อนบ้านเซนต์ว่าเป็นผมครับ ดีไหมครับเพื่อนบ้านแบบนี้

5. เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องที่กระทบกับภรรยาผมครับ ภรรยาผมได้พาลูกออกไปเดินเล่นในหมู่บ้าน อ้อลืมบอกไปครับเราเพิ่งจะมีลูกได้ 5 เดือนแล้ว ภรรยาผมบอกผมว่าเค้าก็เดินปรกติแต่เห็นเพื่อนบ้านที่ออกมาเดินเล่นมองเค้าแปลก วันแรกๆก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่พอตอนที่เค้านั่งอยู่แถวสนามเด็กเล่น แล้วก็ทักทายเพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านปรกติ แต่พวกเค้าไม่ทักแถมยังทำหน้าแปลกๆใส่ ภรรยาผมก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น จนแม่บ้านของหมู่บ้านเข้ามาทักภรรยาผมว่า คุณใช่ไหมที่เป็นเอดส์ ภรรยาผมตกใจมากครับ แต่ก็บอกไปว่าไม่ใช่ และพยายามเค้นถามจากแม่บ้านคนนั้นว่าใครพูดเรื่องนี้ สุดท้ายก็ไม่ยอมพูด ภรรยาผมเดินกลับมาบ้านพร้อมน้ำตาผมก็ถามและได้รู้เรื่องนี้ ผมจึงเดินไปหาแม่บ้านคนนั้นและให้เงินเค้าไป 1 พันบาท เพื่อให้บอกว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวไม่จริงนี้ สุดท้ายก็พบว่า เพื่อนบ้างข้างๆบ้านผมเองที่ปล่อยข่าวอันนี้

เรื่องนี้ไม่ตลกสำหรับครอบครัวผมแล้วครับ ผมดำเนินการให้ภรรยาผมไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเลือดยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่จริง พร้อมทั้ง แจ้งทางนิติหมู่บ้านในเรื่องนี้ และขอให้เรียกเพื่อนบ้านมาสอบสวน ประมาณ 20 หลัง ว่าได้ยินเรื่องนี้หรือไม่ 15 ครอบครัว จาก 20 พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเพื่อนบ้านข้างๆผมเป็นคนมาบอกเรื่องนี้  วันนั้นผมหมดความอดทนแล้วครับ ทางนิติก็ช่วยเหลือผมโดยการจะเรียกเพื่อนบ้านท่านนั้นมาสอบถาม แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ และ แจ้งกลับมาที่นิติฯว่า เค้าไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวนี้ และไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้น จากนั้นก็เก็บตัวเงียบแต่ในบ้านไม่ออกมาเจอใครอีกเลยประมาณ 2 อาทิตย์

ผมพยายามกดกริ่งที่บ้านเค้าเพื่อขอคุยว่า มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ผมไม่ทนแล้วครับผมตะโกนเรียกให้ออกมาก็ไม่ออก แต่สามีเค้าออกมาครับ เค้าบอกว่าตัวเค้าเพิ่งกลับมาและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็เล่าเรื่องให้เค้าฟัง ดูเค้าก็รับฟังและขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น และสญญาว่าจะดูแลคนของเค้าให้ดีกว่านี้ และ เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก และคนในหมู่บ้านก็เข้าใจสถานการณ์นี้แล้วว่าไม่จริง

ผมไม่อยากอยู่ที่นี้แล้วครับสงสารภรรยาและลูก การที่ผมซื้อบ้านที่คิดว่าเป็นชุมชนที่น่าอยู่ แต่คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนต่างกันมากครับ ทำไมทุกวันนี้ คนแบบนี้ถึงมีเพิ่มขึ้นเื่รื่อยๆจนน่ากลัว

ขอบคุณที่อ่านกันมายืดยาวทุกอย่างที่ผมเล่ามาเพื่อเป็นสิ่งที่สามารถบอกได้ว่า เพื่อนบ้านผมนี่นรกส่งมาเกิดจริงๆครับ ขอให้เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นกับใคร ขอให้ทุกท่านมีเพื่อนบ้านที่ดี และเป็นปรกตินะครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 41
ปลอมลายเซ็น ===>> คดีอาญา

ปล่อยข่าวว่าเป็นเอดส์ ===>> หมิ่นประมาท


จัดการเถอะครับเพื่อลูกและครอบครัว
ความคิดเห็นที่ 99
สวัสดีค่าทุกท่าน ดิฉันเป็นภรรยาของ จกท นี้นะค่ะ ดิฉันชื่อเพ็ญนะค่ะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อเสนอแนะ คำแนะนำ ต่างๆ

เรื่องทั้งหมดเป็นความจริงที่ไม่อยากให้เป็นเลย จริงๆบอกคุณสามีว่าไม่ต้องเข้ามาบ่นหรือระบายหรอกเพราะเดี๋ยวจะว่าจะกินมาม่ากันซะเปล่าๆ แต่ที่คุณสามีเข้ามาระบายแค่อยากให้โลกรับรู้ว่ามีคนแบบนี้จริงๆ มันเป็นตลกร้ายและมันทำร้ายจิตใจครอบครัวของเรามากค่ะ

ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็เก็บเงินซื้อบ้านได้ในราคา 7 ล้านซึ่งเราคิดกันแล้วว่าน่าจะเป็นบ้านหลังเดียวและหลังสุดท้ายที่จะมีปัญญาซื้อได้ ไม่ได้อวยร่ำอวยรวยอะไรนะค่าแค่บอกว่าในราคาบ้านแบบนี้สังคมที่เราอยากให้ครอบครัวอยู่มันน่าจะดีกว่าอยู่ตึกแถวเหมือนเมื่อก่อน

เรื่องราวต่างๆที่เจอก็แก้ปัญหาไป อย่างเช่นเรื่องการปลอมลายเซนต์ก็ในการขอก่อสร้าง ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่นิติฯ ด้วยเพราะไม่ตรวจสอบให้แน่ชัดและไม่เกิดข้อสงสัยว่ามีแต่ลงชื่อแต่ไม่มีการประทับตราบ้านเลขที่ อันนี้เราก็คุยกับทางนิติและเพื่อนบ้านแล้ว ฝ่ายสามีเค้าแทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย สรุปทางภรรยาเค้าเป็นคนจัดการ ตอนนั้นเราก็แสดงความเห็นไปเลยว่าเราไม่พอใจและคิดว่าไม่ถูกต้อง ทางเพื่อนบ้านก็บอกว่าเป็นเพราะเราไม่อยู่บ้านไม่รู้ว่าจะให้เซนต์ตอนไหน ทางสามีเราก็เลยไม่อยากมีปัญหาและได้แจ้งไปแล้วว่าไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก เพ็ญเองก็ไม่อยากมีปัญหาก็เลยปล่อยไป

ในส่วนของข่าวลือเรื่องโรคเอดส์นั้น อันนี้จริงจังมากๆในการเข้าไปคุยกับทางภรรยาฝรั่งแต่ไม่ได้รับการตอบสนองอะไร เราเองก็โกรธ สามีก็โกรธ ลูกก็ยังเล็กมากค่ะไม่อยากให้อารมณ์ของเราไปกระทบทั้งนั้น ก็กลับมาตั้งหลักพร้อมทั้งปรึกษากับนิติฯ ว่าต้องให้ช่วยจัดการเบื้องต้นโดยการเชิญมาคุยกัน เนื่องจากทางฝ่ายเราเป็นผู้เสียหาย  แต่ทางเพื่อนบ้านไม่ตอบกลับอะไรทั้งนั้น นี่คือสาเหตุว่าทำไมคุณสามี ถึงได้ไปตะโกนเรียกแล้วได้เจอสามีเพื่อนบ้าน

อยากบอกอย่าใจจริงว่าเพื่อนบ้านแบบนี้มีอยู่จริงๆและครอบครัวเราไม่ใช่ประเภทโลกสวยแต่เราไม่อยากใช้อารมณ์โกรธมาแก้ปัญหา ณ ตอนนั้น และนิสัยส่วนตัวของสามีเป็นคนใจเย็นมากๆๆ บางทีก็แอบอยากให้คุณสามีชนกับเค้าสักตั้ง แต่เราคิดกันว่าเค้าคงมีอะไรที่ไม่ปรกติแน่ๆ

ตอนนี้คนในหมู่บ้านรู้เรื่องนี้กันเกือบหมดแล้ว และปฏิกิริยาที่คนให้กับบ้านหลังนี้มันก็เหมือนเค้าตายทั้งเป็นแล้วค่า เพ็ญว่าเวรกรรมคงกำลังทำงานของมันอยู่

เพ็ญกับสามีต้องขอขอบคุณทุกๆท่านจริงๆนะค่ะ อย่างน้อยพวกคุณก็ทำให้เรารู้ว่าคนดีๆที่ให้กำลังใจก็ยังมีอยู่
ความคิดเห็นที่ 11
ใจเย็นมากครับ  เป็นผมคงไม่จบง่ายละ   ด่าแม่ยังพอคบ  ด่าเมียที่เคารพ คบไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 4
แจ้งข้อหาหมิ่นประมาทได้ไหม  พยานมีเพียบเลย

เอาให้เข็ดครับ แบบนี้ มันต้องเป็นฝ่ายอับอาย ไม่ใช่เรา
ความคิดเห็นที่ 9
คุณยังเป็นคนดีมีมารยาทนะ เป็นผมแจ้งตำรวจไปแล้วเรื่องโรคเอดส์  พยานมีอยู่แล้ว!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่