กระทรวงอุตสาหกรรม ยันอีโคคาร์รุ่น 2 เกิด ช่วยยกระดับชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ภายในประเทศ คาดมีเม็ดเงินลงทุนพัฒนากว่า 1 หมื่นล้านบาท เสริมการเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ในภูมิภาค ส่วนบีโอไอ เตรียมชี้แจงค่ายรถยนต์ปลาย ต.ค.นี้ ตอบข้อข้องใจด้านภาษีสรรพสามิต เผยรายใหม่ มาสด้า และฟอร์ด แสดงความสนใจผลิตแล้ว
นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอได้ออกประกาศส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 หรืออีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2556 เป็นต้นมา เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ที่สนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนได้ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557 นั้น
ทั้งนี้ นอกจากจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคแล้ว ยังเป็นการช่วยยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของกระทรวงอุตสาหกรรมในการส่งเสริมเทคโนโลยีหรือการสร้างนวัตกรรม ให้เกิดขึ้น เพื่อรองรับกับสถานการณ์หรือเวทีการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
"
โดยเฉพาะการกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ผลิตรถยนต์อีโคคาร์รุ่นที่ 2 ต้องลงทุนผลิตแบบครบวงจรทั้งการประกอบรถยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 ที่มีมาตรฐานในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร จากเดิมที่อีโคคาร์รุ่นที่ 1 กำหนดเครื่องยนต์เพียงมาตรฐานยูโร 4 และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร เท่านั้น"
นอกจากนี้ด้านอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยของอีโคคาร์รุ่นที่ 2 กำหนดให้มีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสูงกว่าอีโคคาร์รุ่นที่ 1 มาก จะทำให้ผู้ประกอบการที่ผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ต่างๆสูงขึ้นตามไปด้วย หากประเมินเม็ดเงินที่ต้องใช้ในการลงทุนสำหรับการพัฒนาชิ้นส่วนและเครื่องยนต์สำหรับอีโคคาร์รุ่นที่ 2 คงใช้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท หากมีค่ายรถยนต์ 5-6 ราย สนใจผลิตรถยนต์อีโคคาร์รุ่นที่ 2 ขึ้นมา
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานบีโอไอ เปิดเผยว่า สำหรับค่ายรถยนต์รายใหม่ที่ยังไม่ได้เข้าโครงการผลิตรถยนต์อีโคคาร์ ซึ่งได้แสดงความสนใจจะผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 และได้เข้ามาหารือกับทางบีโอไอเพื่อขอทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว 2 ราย ได้แก่ ค่ายมาสด้า และฟอร์ด ขณะที่รายเก่าที่อยู่ระหว่างการผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 ได้เข้ามาหารือบ้างแล้วเช่นกัน ได้แก่ ค่ายนิสสัน และมิตซูบิชิ เนื่องจากกำลังการผลิตรถยนต์อีโคคาร์รุ่นที่ 1 ใกล้ถึงเป้าหมายที่ระดับ 1 แสนคัน ตามเงื่อนไขที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว
"ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมนี้ บีโอไอจะเชิญผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ทั้งหมดกว่า 10 ราย มารับฟังคำชี้แจงในรายละเอียดและเงื่อนไขการขอรับส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
ที่มา :
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=201805%3A2&catid=88%3A2009-02-08-11-23-46&Itemid=418
ยกอีโคคาร์รุ่น2ศูนย์กลางผลิตรถ
นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอได้ออกประกาศส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 หรืออีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2556 เป็นต้นมา เพื่อเชิญชวนให้ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ที่สนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนได้ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557 นั้น
ทั้งนี้ นอกจากจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคแล้ว ยังเป็นการช่วยยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของกระทรวงอุตสาหกรรมในการส่งเสริมเทคโนโลยีหรือการสร้างนวัตกรรม ให้เกิดขึ้น เพื่อรองรับกับสถานการณ์หรือเวทีการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
"โดยเฉพาะการกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ผลิตรถยนต์อีโคคาร์รุ่นที่ 2 ต้องลงทุนผลิตแบบครบวงจรทั้งการประกอบรถยนต์ การผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 ที่มีมาตรฐานในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร จากเดิมที่อีโคคาร์รุ่นที่ 1 กำหนดเครื่องยนต์เพียงมาตรฐานยูโร 4 และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร เท่านั้น"
นอกจากนี้ด้านอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยของอีโคคาร์รุ่นที่ 2 กำหนดให้มีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสูงกว่าอีโคคาร์รุ่นที่ 1 มาก จะทำให้ผู้ประกอบการที่ผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ต่างๆสูงขึ้นตามไปด้วย หากประเมินเม็ดเงินที่ต้องใช้ในการลงทุนสำหรับการพัฒนาชิ้นส่วนและเครื่องยนต์สำหรับอีโคคาร์รุ่นที่ 2 คงใช้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท หากมีค่ายรถยนต์ 5-6 ราย สนใจผลิตรถยนต์อีโคคาร์รุ่นที่ 2 ขึ้นมา
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานบีโอไอ เปิดเผยว่า สำหรับค่ายรถยนต์รายใหม่ที่ยังไม่ได้เข้าโครงการผลิตรถยนต์อีโคคาร์ ซึ่งได้แสดงความสนใจจะผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 และได้เข้ามาหารือกับทางบีโอไอเพื่อขอทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว 2 ราย ได้แก่ ค่ายมาสด้า และฟอร์ด ขณะที่รายเก่าที่อยู่ระหว่างการผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 ได้เข้ามาหารือบ้างแล้วเช่นกัน ได้แก่ ค่ายนิสสัน และมิตซูบิชิ เนื่องจากกำลังการผลิตรถยนต์อีโคคาร์รุ่นที่ 1 ใกล้ถึงเป้าหมายที่ระดับ 1 แสนคัน ตามเงื่อนไขที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว
"ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมนี้ บีโอไอจะเชิญผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ทั้งหมดกว่า 10 ราย มารับฟังคำชี้แจงในรายละเอียดและเงื่อนไขการขอรับส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
ที่มา : http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=201805%3A2&catid=88%3A2009-02-08-11-23-46&Itemid=418