ก่อนอื่น อยากจะขอเตือนภัยสาวๆทุกท่าน คุณผู้ชายด้วยนะคะ สังคมไทยอยู่ยาก(มาก)
คือเราเดินทางไปทำธุระต่างจังหวัดกับเพื่อนๆมาค่ะ ขากลับช่วงบ่ายก็ขึ้นรถเมล์กลับมหาวิทยาลัยตามปกติ ทำใจกับรถเมล์ที่ขึ้นแล้วอาจจะเวียนหัวกับการแว๊น ด่าในใจก็บ่อย แต่ทำใจแล้วค่ะ พอขึ้นรถเมล์มาก็มีคนอยู่ไม่กี่คน เราก็นั่งคุยกับเพื่อน สักพักก็มีคนขึ้นมา เราก็ไม่ได้สนใจอะไรนั่งคุยกับเพื่อนเฮฮาไป แต่มันไม่ปกติตรงที่มีผู้ชายคนนึง ขึ้นมานั่งข้างหน้าเรากับเพื่อน แต่เขานั่งแล้วหันหน้าเข้าหาเรา คือตัวเขานั่งติดกระจก แล้วเอาขาพาดที่เก้าอี้อีกตัวข้างๆ แล้วหันมาข้างหลัง คือจ้องเรากับเพื่อนที่กำลังคุยกัน เรากับเพื่อนก็มองหน้ากันงงๆ แต่เขาก็ยังมองค่ะ กลิ่นตัวเขานี่เหม็นสุดยอด(ไม่ใช่กลิ่นเหล้า) เขาก็ยังมองหน้าเรากับเพื่อนเราสลับกันอยู่อย่างนั้น ในใจคิด"หน้าเรากวนตริงหรอ หรือเราทำอะไรผิด" เรากลัว มองหน้าเพื่อนสายตาเดียวกัน "กลัว" กระเป๋ารถเมลล์ก็งงๆ ไม่เก็บเงินเขาค่ะ เพราะว่าเขานั่งมองเรา ไม่สนใจพี่กระเป๋ารถเมล์เลย เราเลยกระซิบกับเพื่อน "เปลี่ยนที่นั่งเหอะ" เพื่อนพยักหน้า เราเลยรีบลุกย้ายที่นั่งไปอีกฝั่ง ที่ด้านหน้าและด้านหลังมีคนนั่งอยู่ แต่!! เขาก็ยังมองอยู่อย่างนั้น เรากับเพื่อนก็คุยกันว่าจะเอาไงดี ถ้าเราลง เราต้องผ่านเขานะ คือไม่รู้จะบรรยายยังไงถึงคำว่ากลัวค่ะ คุณเข้าใจฉันใช่ไหม
แต่แล้วฮีโร่ก็ปรากฏตัวขึ้น ด้วยเสียงที่ว่า "เห้ยน้อง เสื้อฟ้าอ่ะ ลงไหน" พี่คนขับรถเมล์ ที่เป็นสามีของพี่กระเป๋า(เขามีลูกนอนอยู่บนรถด้วย) พี่แกก็ถามแบบโหดมาก แต่ในใจเราบอกคำเดียวว่า "พี่คะ ช่วยหนูด้วยนะ" คนๆนั้น ก็ยังมองมาที่เรากับเพื่อนอยู่ค่ะ เขาเหมือนไม่สนใจที่พี่คนขับรถเมล์ถาม หันไปมองที่พี่คนขับ แล้วก็มามองหน้าเรา พี่คนขับรถเมล์ ตะโกนอีกครั้ง "เห้ย จ่ายเงินหรือยัง 12 บาทอ่ะ" พี่คนขับถาม คนเสื้อฟ้าคนนั้น หันไปมองแล้วตอบว่ายัง แล้วมันก็หันมามองหน้าเราต่อ สายตาเราจ้องแต่พื้น กับคำเดิมๆว่า "กลัว" พอรถติดอยู่ตรงสี่แยกไปแดง พี่คนขับรถเมล์หยิบกระเป๋าตั๋ว แล้วเดินเข้ามาหาคนๆนั้น ท่าทางโหดมาก ในใจเราคิดอย่างเดียว "อย่าไฝว้กันต่อหน้าหนูนะ ถึงหนูจะไม่โดนลูกหลง หนูก็ช็อคได้ค่ะ" พี่คนขับเดินมา รู้เลยว่าเขาหงุดหงิด เพราะตัวภรรยาเขาเองก็ไม่กล้าเก็บเงินผู้ชายคนนั้น พี่คนขับรถเมล์ย้ำอีก "12บาท!!" คนนั้นเขาก็ควักเงินให้ พี่คนขับรถเมล์แกก็ถาม ว่าจะลงที่ไหน รถคันนี้สุดสายที่...นะ คนเสื้อฟ้าก็บอกว่าจะลงซอยไหน พอเขาพูดออกมารู้ได้เลยว่าเป็นชาวต่างชาติ(พม่า) แต่!! ป้ายที่เขาจะลง นั่นมันตรงที่ฉันจะลงนี่ มองหน้ากับเพื่อนอีกที พี่คนขับรถแกก็คงหงุดหงิด แกเลยขับรถแบบว่ารถเมล์ฟอร์มูล่า แต่ครั้งนี้รู้สึกดีค่ะ ขอบคุณพี่มากๆ ที่ขับรถเร็ว เราใช้เวลาเร็วมากๆกับการมาถึงหน้ามหาวิทยาลัย พอลงรถได้ รีบเดินเข้ามหาวิทยาลัยไม่มองหลังเลยค่ะ
เราอาจจะขี้กลัวมากเกินไป ผู้ที่อ่านบางท่านอาจจะรำคานว่า จะกลัวอะไรกันนักหนา แค่ทำตัวตามปกติไป แต่ถ้าคุณเจอแบบเรา คุณอาจจะทำอะไรไม่ถูกเหมือนเราก็ได้ค่ะ ถึงจะกลางวันแสกๆ นักศึกษาโดนกระชากกระเป๋า หน้ามหาวิทยาลัย โดนจี้ เป็นเรื่องปกติค่ะ ถึงทางจะไม่เปลี่ยว แต่โดนได้สบายมากค่ะ เราค่อนข้างกลัวมากๆ เพราะว่าเหตุการณ์แบบนี้ เกิดกับคนใกล้ตัวเรา(บ่อยมากๆ) มันไม่ชินหรอกค่ะ มันน่ากลัว
ถ้าใครมีวิธีดีๆ หรือใครเคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้ ก็ร่วมแชร์ต่อๆเพื่อให้เป็นความรู้กับเราด้วยนะคะ
แท็กห้องเครื่องแป้งด้วยเน๊าะ สาวๆเยอะ^^
ขอบคุณที่อดทนอ่านค่ะ^^
ขอขอบคุณคนขับรถเมล์นักเลง
คือเราเดินทางไปทำธุระต่างจังหวัดกับเพื่อนๆมาค่ะ ขากลับช่วงบ่ายก็ขึ้นรถเมล์กลับมหาวิทยาลัยตามปกติ ทำใจกับรถเมล์ที่ขึ้นแล้วอาจจะเวียนหัวกับการแว๊น ด่าในใจก็บ่อย แต่ทำใจแล้วค่ะ พอขึ้นรถเมล์มาก็มีคนอยู่ไม่กี่คน เราก็นั่งคุยกับเพื่อน สักพักก็มีคนขึ้นมา เราก็ไม่ได้สนใจอะไรนั่งคุยกับเพื่อนเฮฮาไป แต่มันไม่ปกติตรงที่มีผู้ชายคนนึง ขึ้นมานั่งข้างหน้าเรากับเพื่อน แต่เขานั่งแล้วหันหน้าเข้าหาเรา คือตัวเขานั่งติดกระจก แล้วเอาขาพาดที่เก้าอี้อีกตัวข้างๆ แล้วหันมาข้างหลัง คือจ้องเรากับเพื่อนที่กำลังคุยกัน เรากับเพื่อนก็มองหน้ากันงงๆ แต่เขาก็ยังมองค่ะ กลิ่นตัวเขานี่เหม็นสุดยอด(ไม่ใช่กลิ่นเหล้า) เขาก็ยังมองหน้าเรากับเพื่อนเราสลับกันอยู่อย่างนั้น ในใจคิด"หน้าเรากวนตริงหรอ หรือเราทำอะไรผิด" เรากลัว มองหน้าเพื่อนสายตาเดียวกัน "กลัว" กระเป๋ารถเมลล์ก็งงๆ ไม่เก็บเงินเขาค่ะ เพราะว่าเขานั่งมองเรา ไม่สนใจพี่กระเป๋ารถเมล์เลย เราเลยกระซิบกับเพื่อน "เปลี่ยนที่นั่งเหอะ" เพื่อนพยักหน้า เราเลยรีบลุกย้ายที่นั่งไปอีกฝั่ง ที่ด้านหน้าและด้านหลังมีคนนั่งอยู่ แต่!! เขาก็ยังมองอยู่อย่างนั้น เรากับเพื่อนก็คุยกันว่าจะเอาไงดี ถ้าเราลง เราต้องผ่านเขานะ คือไม่รู้จะบรรยายยังไงถึงคำว่ากลัวค่ะ คุณเข้าใจฉันใช่ไหม
แต่แล้วฮีโร่ก็ปรากฏตัวขึ้น ด้วยเสียงที่ว่า "เห้ยน้อง เสื้อฟ้าอ่ะ ลงไหน" พี่คนขับรถเมล์ ที่เป็นสามีของพี่กระเป๋า(เขามีลูกนอนอยู่บนรถด้วย) พี่แกก็ถามแบบโหดมาก แต่ในใจเราบอกคำเดียวว่า "พี่คะ ช่วยหนูด้วยนะ" คนๆนั้น ก็ยังมองมาที่เรากับเพื่อนอยู่ค่ะ เขาเหมือนไม่สนใจที่พี่คนขับรถเมล์ถาม หันไปมองที่พี่คนขับ แล้วก็มามองหน้าเรา พี่คนขับรถเมล์ ตะโกนอีกครั้ง "เห้ย จ่ายเงินหรือยัง 12 บาทอ่ะ" พี่คนขับถาม คนเสื้อฟ้าคนนั้น หันไปมองแล้วตอบว่ายัง แล้วมันก็หันมามองหน้าเราต่อ สายตาเราจ้องแต่พื้น กับคำเดิมๆว่า "กลัว" พอรถติดอยู่ตรงสี่แยกไปแดง พี่คนขับรถเมล์หยิบกระเป๋าตั๋ว แล้วเดินเข้ามาหาคนๆนั้น ท่าทางโหดมาก ในใจเราคิดอย่างเดียว "อย่าไฝว้กันต่อหน้าหนูนะ ถึงหนูจะไม่โดนลูกหลง หนูก็ช็อคได้ค่ะ" พี่คนขับเดินมา รู้เลยว่าเขาหงุดหงิด เพราะตัวภรรยาเขาเองก็ไม่กล้าเก็บเงินผู้ชายคนนั้น พี่คนขับรถเมล์ย้ำอีก "12บาท!!" คนนั้นเขาก็ควักเงินให้ พี่คนขับรถเมล์แกก็ถาม ว่าจะลงที่ไหน รถคันนี้สุดสายที่...นะ คนเสื้อฟ้าก็บอกว่าจะลงซอยไหน พอเขาพูดออกมารู้ได้เลยว่าเป็นชาวต่างชาติ(พม่า) แต่!! ป้ายที่เขาจะลง นั่นมันตรงที่ฉันจะลงนี่ มองหน้ากับเพื่อนอีกที พี่คนขับรถแกก็คงหงุดหงิด แกเลยขับรถแบบว่ารถเมล์ฟอร์มูล่า แต่ครั้งนี้รู้สึกดีค่ะ ขอบคุณพี่มากๆ ที่ขับรถเร็ว เราใช้เวลาเร็วมากๆกับการมาถึงหน้ามหาวิทยาลัย พอลงรถได้ รีบเดินเข้ามหาวิทยาลัยไม่มองหลังเลยค่ะ
เราอาจจะขี้กลัวมากเกินไป ผู้ที่อ่านบางท่านอาจจะรำคานว่า จะกลัวอะไรกันนักหนา แค่ทำตัวตามปกติไป แต่ถ้าคุณเจอแบบเรา คุณอาจจะทำอะไรไม่ถูกเหมือนเราก็ได้ค่ะ ถึงจะกลางวันแสกๆ นักศึกษาโดนกระชากกระเป๋า หน้ามหาวิทยาลัย โดนจี้ เป็นเรื่องปกติค่ะ ถึงทางจะไม่เปลี่ยว แต่โดนได้สบายมากค่ะ เราค่อนข้างกลัวมากๆ เพราะว่าเหตุการณ์แบบนี้ เกิดกับคนใกล้ตัวเรา(บ่อยมากๆ) มันไม่ชินหรอกค่ะ มันน่ากลัว
ถ้าใครมีวิธีดีๆ หรือใครเคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้ ก็ร่วมแชร์ต่อๆเพื่อให้เป็นความรู้กับเราด้วยนะคะ
แท็กห้องเครื่องแป้งด้วยเน๊าะ สาวๆเยอะ^^
ขอบคุณที่อดทนอ่านค่ะ^^