หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจ "อนาคต"ของผมกับครอบครัวของเราเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา และแล้วผมก็ตั้งคำมั่นสัญญากับตัวเอง ว่าต่อไปนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าลูกสาวของผมแล้ว...ก่อนอื่นก็จะขอแชร์ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงต้องเกิดเรื่องแบบนี้ ครอบครัวของผม มี ผม ภรรยาและลูกสาววัย 6 ขวบ (กำลังน่ารัก ช่างพูด) เมื่อก่อนประมาณ 4 ปีก่อน ภรรยาผมได้ทำงานเป็นพนักงานร้านทองแห่งหนึ่ง และมีเพื่อนภรรยาคนหนึ่งซึ่งเคยทำงานด้วยกันก่อนที่ภรรยาผมจะมาทำงานที่ร้านทอง ได้ชวนออกไปเปิดร้านขายเสื้อผ้า (ซึ่งก็เป็นความฝันของภรรยาผมอยู่แล้ว) ภรรยาผมก็ตอบรับทันทีโดยไม่ฟังคำทัดทานก่อน เพราะภรรยาผมและเพื่อนไม่มีประสบการณ์ในฐานะที่เป็นเจ้าของกิจการเองเลย แถมยังไม่พอใจที่ผมไปห้ามความฝันของเค้าจนเกือบทะเลาะกัน ซึ่งผมไม่อยากให้มีปัญหาก็เลยยอมเค้าไป แต่ก็ช่วยแนะนำเรื่อยๆ เริ่มมาได้ 2-3เดือน ร้านก็เงียบ เนื่องจากทำเลไม่ค่อยดี จึงทำการเช่าร้านใหม่โดยที่เงินมัดจำจากร้านเก่าก็ไม่ได้คืน พอมาได้ร้านใหม่ กิจการก็เริ่มดีขึ้นมาทีละนิดเพราะภรรยาผมเป็นคนพูดเก่ง ขายของเก่ง ลูกอ้อนเยอะมาก จนมีลูกค้าชอบพอสมควร รายได้ดีขี้น ภรรยาผมและเพื่อนก็ได้ออกรถใหม่มาคันหนึ่งซึ่งผมเห็นว่ามันหนักเกินไปเพราะเพิ่งเริ่มเปิดร้าน และผมก็กำลังผ่อนรถอยู่คันหนึ่ง น่าจะเอารถผมไปใช้ก่อน แต่พวกเค้า (ภรรยาและเพื่อน)บอกว่าอยากมีรถเป็นของตัวเอง เวลาไปไหนสะดวกกว่า รวมทั้งซื้อของอื่นที่ผมเห็นว่าสิ้นเปลืองเช่น กระเป๋า,IPAD, smartphone แพงๆมาใช้โดยเค้าให้เหตุผลว่า เพราะว่าแม่ค้าแถวนั้นเค้าใช้ chat กัน เลยอยากมีไว้ติดต่อแบบพวกเค้าบ้าง ซึ่งก็เริ่มจะมีเพื่อนใหม่ที่เป็นแม่ค้าแถวนั้นมากขึ้นๆ
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด"เกิดขึ้น แม่ค้าที่เป็นเพื่อนใหม่ภรรยาผมได้ไปนำเสื้อจากร้านที่ภรรยาผมรับมาขาย มาขายแข่งกัน ไม่ใช่ร้านเดียวนะ 2-3 ร้านเลยที่ขายแบบแนวเดียวกันและร้านก็อยู่ใกล้กัน จนรายได้เริ่มลดลง ภรรยาผมจึงตัดสินใจย้ายร้านไปอยู่อีกซอยนึงแทนซึ่ง ณ ตอนนั้นภรรยาผมก็เริ่มมีการกู้ยืมเงินจากหนี้นอกระบบมาลงทุน โดยในช่วงแรกไม่มีปัญหาในการชำระ แต่เริ่มมีตอนที่ย้ายร้านครั้งที่สามนี่แหละ เริ่มจ่ายไม่ตรงเวลา ทับถมกันมาเรื่อยๆ จนมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตครอบครัวครั้งแรกเกิดขึ้น.....
เริ่มต้นชีวิต Single Dad กับอารมณ์ที่บอกไม่ถูก
แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด"เกิดขึ้น แม่ค้าที่เป็นเพื่อนใหม่ภรรยาผมได้ไปนำเสื้อจากร้านที่ภรรยาผมรับมาขาย มาขายแข่งกัน ไม่ใช่ร้านเดียวนะ 2-3 ร้านเลยที่ขายแบบแนวเดียวกันและร้านก็อยู่ใกล้กัน จนรายได้เริ่มลดลง ภรรยาผมจึงตัดสินใจย้ายร้านไปอยู่อีกซอยนึงแทนซึ่ง ณ ตอนนั้นภรรยาผมก็เริ่มมีการกู้ยืมเงินจากหนี้นอกระบบมาลงทุน โดยในช่วงแรกไม่มีปัญหาในการชำระ แต่เริ่มมีตอนที่ย้ายร้านครั้งที่สามนี่แหละ เริ่มจ่ายไม่ตรงเวลา ทับถมกันมาเรื่อยๆ จนมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตครอบครัวครั้งแรกเกิดขึ้น.....