ภาษาไทย กับ ภาษาอังกฤษ เรื่องการเว้นระยะคำศัพท์

กระทู้คำถาม
ทำไมภาษาไทยเขียนแบบติดกันไม่เว้นระยะถึงอ่านง่ายกว่าแบบเว้นระยะครับ

แล้วทำไมภาษาอังกฤษต้องเว้นระยะคำศัพท์ด้วย

เป็นเพราะภาษาอังกฤษมันไม่มีอักขระแบบบนล่างอักษรใช่ไหมครับ

why english language must spaced between fonts
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
(ความเห็นส่วนตัว)
ขอมองต่างมุมนิ๊สหนึ่งนะ...โต้แย้งได้นะครับ
..............................................................................

ไม่ใช่ความเคยชิน หรือไม่ใช่ความนิยมในการใช้
แต่มันมีเหตุผลที่ชัดเจน ที่ทำให้ต้องเป็นเช่นนั้นครับ
..............................................................................

การเขียนภาษาต่าง ๆ จะเว้นวรรคหรือไม่เว้นนั้น มีองค์ประกอบ 2 อย่างคือ...
1.รูปแบบของการสร้างคำ....แบบพยางค์เดียว / แบบหลายพยางค์
2.รูปแบบอักษรที่ใช้เขียน....อักษรภาพ(จีน/อียิป) อักษรเสียง(ไทย/อังกฤษ/แขก/อาหรับ/ลาติน ฯลฯ)

ภาษาที่ต้องเว้นวรรคคำ...เพราะคำมีหลายพยางค์ เว้นเพื่อให้รู้ว่าคำจบลงตรงไหน
เช่น  ภาษาในอินเดีย  ในอาหรับ ในยุโรป ในอเมริกาใต้ เกือบทั่วโลกเลยก็ว่าได้...
จะเรียกว่า...เป็นธรรมชาติพื้นฐานทั่วไปเลยก็ได้ที่ ควรเขียนแบบเว้นวรรคคำอยู่แล้ว
ไม่งั้นก็จะอ่านยาก หรือถึงขั้นอ่านไม่รู้เรื่องเลย การเว้นวรรคคำจึงไม่มีข้อสงสัยใด ๆ
...............................................................................................................

แล้ว...ทำไม ไทยไม่เว้นวรรค ?

เพราะ...ไทยมีพื้นฐานการสร้างคำแบบ 1 คำ 1 ความหมาย...และมี 1 พยางค์เท่านั้น
ดังนั้น...จะเว้น หรือไม่เว้น เราก็คุ้นเคยที่จับความหมายคำ เป็นคำ ๆ แต่ละพยางค์อยู่แล้ว
เช่น  วัน นี้ ฉัน ไม่ ได้ ไป ทำ งาน เพราะ นัด เพื่อน ไว้ ว่า จะ ไป เที่ยว น้ำ ตก กัน
ให้สังเกตว่า...ทุกคำ ทุกพยางค์ มีความหมายหมด จะเว้นไม่เว้น ก็สามารถสื่อสารได้

แต่ถ้าประเทศที่คำมีหลายพยางค์ จะทำแบบนี้ไม่ได้ เช่น...
To distinguish each word from another one.
"ทู  ดิส ติ้ง กิช  อีช  เวิร์ด  ฟรอม  อะ นะ เตอร์ วัน"
สังเกตว่า...มีหลายพยางค์ที่สื่อสารเดี่ยว ๆ ไม่ได้ นอกจากต้องเกาะกลุ่มคำเท่านั้น
จึงต้องเป็น...
"ทู  ดิสติ้งกิช  อีช  เวิร์ด  ฟรอม  อะนะเตอร์ วัน".....แบบนี้เท่านั้น ที่จะสื่อสารได้
แม้แต่การออกเสียง ก็ต้องมีการเน้นเสียง เพื่อให้รู้สึกได้ว่า...คำนั้นเป็นคำ ๆ เดียว

ส่วนคนไทยส่วนใหญ่ ชอบติดนิสัยการอ่านเป็นคำ ๆ จึงชอบอ่านออกมาแบบนี้...
"ทู  ดิส ติ้ง กิช  อีช  เวิร์ด  ฟรอม  อะ นะ เตอร์ วัน"
ทำให้พูดกับฝรั่งไม่รู้เรื่อง ขณะที่ก็ฟังฝรั่งไม่รู้เรื่องด้วย เพราะชอบจับคำเป็น "คำ ๆ" (1พยางค์)
.......................................................................................................................

ส่วนประเทศต้นแบบของการไม่เว้นวรรคคำก็คือ...จีน ครับ
"อักษรจีน"...มีมา5000 กว่าปีแล้ว คือตัวกำหนดทุกอย่างให้เกิดขึ้นอย่างนั้น
คือ...เมื่อมีคำ ทุกพยางค์ต้องสื่อความหมายได้ เพื่อใช้ออกแบบอักษร 1 ตัว
ดังนั้น...คำจีน จะเป็น 1 คำ 1 พยางค์ 1 ตัวอักษร พยางค์ที่ไม่มีความหมายจะเขียนไม่ได้
เมื่อเขียน...จึงไม่มีเหตุผลต้องเว้นวรรคคำใด ๆ เพราะทุกอักษรคือ 1 คำครับ

ส่วนไทยนั้น...ใช้อักษรผสมเสียง(สร้างขึ้นภายหลังโดยพัฒนามาจากคนย่านนี้...เขมร/มอญ)
แต่ทำไม...ถึงออกแบบคำที่ใช้พยางค์เดียวแบบจีน  ทั้งที่ไม่ได้ใช้อักษรจีนเลย ดูไม่มีเหตุผล ?
แล้ว...ยัง"เขียนติดกัน"เหมือนคุณสมบัติแบบอักษรจีนอีกด้วย ทั้งที่ตนเองใช้อักษรแสดงเสียง


"หรือว่า...บรรพบุรุษไทยเคยใช้อักษรจีนมาก่อน ? "
..............................................................................

หมายเหตุ...พยางค์ที่ไม่มีความหมายในตัวเองในภาษาไทย เช่น...
มะ ม่วง............คำว่า"มะ" มาจากคำว่า"หมาก"...หมายถึง ผลหมากรากไม้
วิท ทะ ยา ลัย....ไม่ใช่คำไทยครับ (เพราะมีไม่มากนักเราจึงแบ่งคำได้ด้วยความคุ้นเคย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่