สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้จะพาไปเที่ยวญี่ปุ่นในโหมดความรู้กันสักหน่อยนะคะ ที่ National Museum of Nature and Science ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ในสวนอูเอะโนะ กรุงโตเกียวค่ะ ซึ่งที่นั่น จขกท.ได้เจอหมาน้อยฮาจิโกะในตำนานตัวจริงมาด้วยหละ ^^
เว็บไซต์ทางการพิพิธภัณฑ์
http://www.kahaku.go.jp/english/
เมื่อเร็วๆนี้ได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของไทยเรา คือท้องฟ้าจำลอง ได้มีประเด็นที่พูดคุยแสดงความคิดเห็นกันอย่างออกรส ทั้งในฝ่ายของผู้เข้าชม และในฝ่ายของเจ้าหน้าที่ ทำให้ได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ต่างๆในประเทศไทยและปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกในใจหลายๆอย่าง
ส่วนตัวแล้วจขกท.ก็ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์แต่ไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ดังๆในต่างประเทศ นอกจากในญี่ปุ่นซึ่งก็เคยไปมาไม่กี่แห่ง และในประเทศไทยเองก็ไปมาบ้างแต่ไม่บ่อยนัก สำหรับท้องฟ้าจำลอง นับเป็นสถานที่ในความทรงจำเลยทีเดียวเพราะเคยมีคนพาไปเดทที่นี่ ^^ และอีกหลายๆที่ไปเที่ยวมาแล้วสนุกใช้ได้เลย แต่เมื่อเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทยแล้วก็อดเศร้าใจไม่ได้ จะโทษใครฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนักเพราะปัญหามันเกิดจากหลายๆอย่างสะสมกันมา ทั้งจากระบบและสภาพสังคมด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันนี้อยากจะมารีวิวพิพิธภัณฑ์ที่เคยไปมาในญี่ปุ่นบ้าง เผื่อจะทำให้เห็นระบบการจัดการของเขา และลักษณะสังคมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่ออย่างน้อยจะได้เป็นแบบอย่างและเป็นความหวังว่าซักวันหนึ่ง บ้านเราจะทำแบบเขาได้บ้างแม้สักนิดก็ยังดี และถ้ามีโอกาสไปในประเทศอื่นๆอีก จขกท.ก็อยากจะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกแล้วเอามารีวิวให้ดูกันอีกนะคะ

การมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์นั้น สำหรับหลายๆคนอาจจะไม่ถูกจริตอย่างแรง เพราะรู้สึกว่าน่าเบื่อและไม่ตื่นเต้น >__< ออกแนวสาระมากเกินไปไหม (ฉันต้องการมาเที่ยวและผ่อนคลายนะยะ ไม่ได้มาเรียนเสริม!/เพื่อนจขกท.คนหนึ่งบ่น) 555
แต่สำหรับอีกหลายๆคน การมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ เป็นโปรแกรมที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นสถานที่รวมองค์ความรู้หลายๆอย่าง ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิทยาการ ของประเทศนั้นๆไว้แบบ One-Stop Service เลยทีเดียว ^^ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ชั้นนำหลายๆแห่ง ต่างก็มีของจัดแสดงที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ จะมีกิจกรรมหรือเครื่องเล่นให้ทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นสื่อการเรียนรู้ชั้นยอด ซึ่งถ้าพาเด็กๆมาเที่ยว นอกจากจะสนุกสนานมากๆแล้ว ยังได้ความรู้กลับไปอย่างมากมายด้วยค่ะ ดังที่จะเห็นได้จากทุกๆพิพิธภัณฑ์ที่เคยไปมา ก็มักจะมีเด็กๆมาทัศนศึกษากันอยู่เสมอๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ คึกคักสุดๆกันเลยทีเดียว ^^
สำหรับรีวิวนี้ จขกท.ไปเที่ยวที่นี่มา 2 ครั้งคือ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2011 และ ฤดูใบไม้ร่วงปี 2012 ที่ไปมาสองครั้งก็เพราะว่าครั้งแรกดูไม่ครบ เดินได้แค่ตึกเดียวคือตึกที่จัดแสดงของในประเทศ(Japan Gallery) มาอีกครั้งเลยใช้เวลาทั้งวันเพื่อสำรวจตึกที่สอง (Global Gallery)และส่วนที่ยังไม่ได้ดูอีกเยอะแยะ เลยมารีวิวรวมกันทีเดียวเลย รูปจะเยอะสักหน่อยนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันล่ะ >__<"
เนื่องจากจขกท.มีไกด์ส่วนตัวเป็น
ว่าที่นักชีววิทยามาด้วย เลยได้รับความรู้ไปเต็มๆเลยค่ะ (จขกท.เรียนสายศิลป์ ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ช่างน้อยนิด) ดังนั้นถ้าพอมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์และสนใจทางด้านชีววิทยาอยู่บ้างจะทำให้เดินดูสนุกมากขึ้นเยอะเลยละค่ะ ^^ ของส่วนใหญ่จะมีป้ายเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มีภาษาอังกฤษอยู่บ้าง แค่ดูของที่จัดแสดงก็เพลินแล้วค่ะ (ปล. มีไกด์เสียงพกพาให้เช่าด้วยค่ะ ราคา 300 เยน มีน้องเค้าเคยเช่าบอกว่าภาษาอังกฤษและรายละเอียดใช้ได้ทีเดียวค่ะ ^^)
ว่าแล้วก็ไปดูรีวิวกันเถอะค่ะ อารัมภบทมายาวเกิ๊นน
เปิดกระทู้ด้วยรูปปั้นวาฬยักษ์ สัญลักษณ์หน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ
[CR] [JAPAN] ***แวะมาเยี่ยมหมาน้อยฮาจิโกะที่ National Museum of Nature and Science โตเกียว***
สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้จะพาไปเที่ยวญี่ปุ่นในโหมดความรู้กันสักหน่อยนะคะ ที่ National Museum of Nature and Science ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ในสวนอูเอะโนะ กรุงโตเกียวค่ะ ซึ่งที่นั่น จขกท.ได้เจอหมาน้อยฮาจิโกะในตำนานตัวจริงมาด้วยหละ ^^
เว็บไซต์ทางการพิพิธภัณฑ์ http://www.kahaku.go.jp/english/
เมื่อเร็วๆนี้ได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของไทยเรา คือท้องฟ้าจำลอง ได้มีประเด็นที่พูดคุยแสดงความคิดเห็นกันอย่างออกรส ทั้งในฝ่ายของผู้เข้าชม และในฝ่ายของเจ้าหน้าที่ ทำให้ได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ต่างๆในประเทศไทยและปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกในใจหลายๆอย่าง
ส่วนตัวแล้วจขกท.ก็ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์แต่ไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ดังๆในต่างประเทศ นอกจากในญี่ปุ่นซึ่งก็เคยไปมาไม่กี่แห่ง และในประเทศไทยเองก็ไปมาบ้างแต่ไม่บ่อยนัก สำหรับท้องฟ้าจำลอง นับเป็นสถานที่ในความทรงจำเลยทีเดียวเพราะเคยมีคนพาไปเดทที่นี่ ^^ และอีกหลายๆที่ไปเที่ยวมาแล้วสนุกใช้ได้เลย แต่เมื่อเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับพิพิธภัณฑ์ในเมืองไทยแล้วก็อดเศร้าใจไม่ได้ จะโทษใครฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนักเพราะปัญหามันเกิดจากหลายๆอย่างสะสมกันมา ทั้งจากระบบและสภาพสังคมด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันนี้อยากจะมารีวิวพิพิธภัณฑ์ที่เคยไปมาในญี่ปุ่นบ้าง เผื่อจะทำให้เห็นระบบการจัดการของเขา และลักษณะสังคมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่ออย่างน้อยจะได้เป็นแบบอย่างและเป็นความหวังว่าซักวันหนึ่ง บ้านเราจะทำแบบเขาได้บ้างแม้สักนิดก็ยังดี และถ้ามีโอกาสไปในประเทศอื่นๆอีก จขกท.ก็อยากจะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกแล้วเอามารีวิวให้ดูกันอีกนะคะ
การมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์นั้น สำหรับหลายๆคนอาจจะไม่ถูกจริตอย่างแรง เพราะรู้สึกว่าน่าเบื่อและไม่ตื่นเต้น >__< ออกแนวสาระมากเกินไปไหม (ฉันต้องการมาเที่ยวและผ่อนคลายนะยะ ไม่ได้มาเรียนเสริม!/เพื่อนจขกท.คนหนึ่งบ่น) 555
แต่สำหรับอีกหลายๆคน การมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ เป็นโปรแกรมที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นสถานที่รวมองค์ความรู้หลายๆอย่าง ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิทยาการ ของประเทศนั้นๆไว้แบบ One-Stop Service เลยทีเดียว ^^ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ชั้นนำหลายๆแห่ง ต่างก็มีของจัดแสดงที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ จะมีกิจกรรมหรือเครื่องเล่นให้ทดลองทางวิทยาศาสตร์เป็นสื่อการเรียนรู้ชั้นยอด ซึ่งถ้าพาเด็กๆมาเที่ยว นอกจากจะสนุกสนานมากๆแล้ว ยังได้ความรู้กลับไปอย่างมากมายด้วยค่ะ ดังที่จะเห็นได้จากทุกๆพิพิธภัณฑ์ที่เคยไปมา ก็มักจะมีเด็กๆมาทัศนศึกษากันอยู่เสมอๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ คึกคักสุดๆกันเลยทีเดียว ^^
สำหรับรีวิวนี้ จขกท.ไปเที่ยวที่นี่มา 2 ครั้งคือ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2011 และ ฤดูใบไม้ร่วงปี 2012 ที่ไปมาสองครั้งก็เพราะว่าครั้งแรกดูไม่ครบ เดินได้แค่ตึกเดียวคือตึกที่จัดแสดงของในประเทศ(Japan Gallery) มาอีกครั้งเลยใช้เวลาทั้งวันเพื่อสำรวจตึกที่สอง (Global Gallery)และส่วนที่ยังไม่ได้ดูอีกเยอะแยะ เลยมารีวิวรวมกันทีเดียวเลย รูปจะเยอะสักหน่อยนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันล่ะ >__<"
เนื่องจากจขกท.มีไกด์ส่วนตัวเป็น
ว่าที่นักชีววิทยามาด้วย เลยได้รับความรู้ไปเต็มๆเลยค่ะ (จขกท.เรียนสายศิลป์ ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ช่างน้อยนิด) ดังนั้นถ้าพอมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์และสนใจทางด้านชีววิทยาอยู่บ้างจะทำให้เดินดูสนุกมากขึ้นเยอะเลยละค่ะ ^^ ของส่วนใหญ่จะมีป้ายเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มีภาษาอังกฤษอยู่บ้าง แค่ดูของที่จัดแสดงก็เพลินแล้วค่ะ (ปล. มีไกด์เสียงพกพาให้เช่าด้วยค่ะ ราคา 300 เยน มีน้องเค้าเคยเช่าบอกว่าภาษาอังกฤษและรายละเอียดใช้ได้ทีเดียวค่ะ ^^)ว่าแล้วก็ไปดูรีวิวกันเถอะค่ะ อารัมภบทมายาวเกิ๊นน
เปิดกระทู้ด้วยรูปปั้นวาฬยักษ์ สัญลักษณ์หน้าพิพิธภัณฑ์ค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น