ผู้กระหาย เชิญเข้ามาถึงน้ำแห่งชีวิต....

พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งที่มีชีวิตพระองค์ทรงใช้ “น้ำ” เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต เราทุกคนจึงต้องการ

น้ำเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต ไม่เพียงแค่ชีวิตในฝ่ายร่างกายเท่านั้น แต่จิตวิญญาณของเราทั้งหลายก็ต้องการเช่นกัน จิตวิญญาณที่ได้รับการหล่อเลี้ยง ก็เป็นจิตวิญญาณที่มีความสุข (สดด.1:1-3) เมื่อเราพบแหล่งน้ำที่กระทำให้เราอิ่มเอมและกลับออกไปอย่างมีกำลัง (ยน.7:37)

พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแม่น้ำที่มีน้ำธำรงชีวิต เมื่อเราวางใจในพระองค์ น้ำแห่งชีวิตนี้จะพลุ่งขึ้นในวิญญาณจิตของเราทั้งหลาย

ในเทศกาลอยู่เพิงเป็น “ฤดูกาลหรือเทศกาลแห่งความชื่นชมยินดี” จะมีพิธีกรรมหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับน้ำ ปุโรหิตและคนเลวีจะเดินลงไปตักน้ำด้วยถ้วยทองคำในสระสิโรอัม มาหลั่งน้ำมอบถวายแห่งพระเจ้า พิธีนี้มีความหมาย 2 อย่าง คือ หมายถึง การจัดเตรียมแหล่งน้ำของพระเจ้าให้แก่คนอิสราเอลท่ามกลางทะเลทราย ระลึกถึงช่วงเวลาแห่งการร่อนเร่พเนจรในถิ่นทุรกันดาร ในความยากลำบาก อีกความหมายหนึ่งให้ภาพของชนชาติที่มีอนาคต แม่น้ำแห่งชีวิตเป็นภาพเชิงเผยพระวจนะ (อสค.47:9) เป็นเวลาที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เข้ามาทำงานในชีวิตผู้เชื่ออย่างลึกซึ้ง การเคลื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่ทำงานในส่วนลึกของวิญญาณจิต ที่นำคนเข้ามาพบพระคริสต์ ผู้เป็นพระเจ้าของเราทั้งหลายซึ่งเป็นดั่งน้ำเป็นที่จะชโลมรดชีวิตของท่าน

ในพระธรรมตอนนี้เป็นการเผยพระวจนะถึงน้ำแห่งชีวิต มีลักษณะดังนี้


1.น้ำที่ไม่ทำให้กระหายอีก(ข้อ 1-2)

1 “เชิญ​ทุก​คน​ที่​กระหาย จง​มาถึง​น้ำ และ​ผู้​ที่​ไม่​มี​เงิน มา​ซื้อ​กิน​เถิด มา​ซื้อ​เหล้า​องุ่น​และ​น้ำนม​เถิด โดย​ไม่​ต้อง​เสีย​เงิน​เสีย​ค่า

2 ทำไม​เจ้า​จึง​ใช้​เงิน​ของ​เจ้า​เพื่อ​ของ​ซึ่ง​ไม่ใช่​อาหาร และ​ใช้​ทรัพยากร​ซื้อ​สิ่ง​ซึ่ง​มิ​ให้​อิ่ม​ใจ จง​เอา​ใจ​ใส่​ฟัง​เรา และ​รับประทาน​ของ​ดี และ​ให้​ตัว​ปีติ​ยินดี​ใน​ไขมัน


พระวจนะร้องเรียกเราทั้งหลายว่า “เชิญทุกคนที่กระหาย จงมาถึงน้ำ…” เป็นภาพของการเชิญเข้าร่วมมาเพื่อดื่มด่ำในค่ำคืนแห่งงานเลี้ยงฉลอง เพื่อจะหายเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงานหนักเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ

การดื่มน้ำนม-ให้ภาพสิ่งที่บำรุงเลี้ยงจิตวิญญาณให้เติบโต ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย

การดื่มไวน์-ให้ภาพของความดื่มด่ำ ในช่วงเวลาแห่งความสุข และความยินดี


พระเจ้าปรารถนาจะกระทำให้เรามีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในพระองค์ สำหรับบรรดาผู้กระหายหาความชอบธรรม จงกลับมา
และอิ่มใจอยู่ในพระเยซูคริสต์ อยู่ในนิเวศของพระองค์ (มธ.11:28)(มธ. 5:6) การให้พระองค์ประทับนั่งในส่วนลึกของวิญญาณจิต
ก็เหมือนการกินอาหารที่มันกระทำตัวให้อิ่ม ดังที่พระวจนะกล่าวว่า ผู้นั้นได้รับประทานของดี และกระทำตัวให้ปิติยินดีในไขมัน(สดด.81:10)

2.น้ำที่กระทำให้จิตวิญญาณมีชีวิต (ข้อ 3)

3 เอียง​หู​ของ​เจ้า และ​มา​หา​เรา จง​ฟัง เพื่อ​จิต​วิญญาณ​ของ​เจ้า​จะ​มี​ชีวิต และ​เรา​จะ​ทำ​พันธสัญญา​นิรันดร์​กับ​เจ้า อนุ​สนธิ์ ความ​รัก​อัน​มั่นคง​แน่นอน​ของ​เรา​ต่อ​ดาวิด

ในพระธรรมข้อนี้เป็นท่าทีของการกระตือรือร้น ใส่ใจ และวิ่งเข้าหาพระเจ้าด้วยหูที่ผึ่งเพื่อจะฟัง(โยบ 33:14-15) เป็นเสียงแห่งกำลัง
เสียงแห่งเรี่ยวแรง เป็นเสียงที่ปลุก ให้ชีวิตบังเกิดขึ้น(อสค.37:7-10)

เป็นภาพความรู้สึกที่ขอบรรยายเป็นบทเพลงรัก ของคุณอัญชลี จงคดีกิจที่ว่า

เหมือนฝนตกตอนหน้าแล้ง เหมือนเห็นสายรุ้งขึ้นกลางแจ้ง
เหมือนลมหนาวเดือนเมษา เหมือนว่าใจอ่อนล้ากลับแข็งแกร่ง

เหมือนคนกำลังมีรัก เหมือนคนหลงทางพบคนรู้จัก
เหมือนเจอของสำคัญที่หล่นหาย เหมือนร้ายนั้นกลายเป็นดีมาก
เหมือนที่ฉันนั้นได้มาพบกับเธอ ชีวิตฉันจึงได้เจอ เจอสิ่งที่สวยงาม...

ขอบคุณที่พระเจ้านำเราให้พบกับพระองค์ ได้ยินเสียงของพระองค์ และกระทำให้เรามีชีวิต

เสียงของพระองค์ เป็นเหมือนฝนที่ตกลงท่ามกลางทะเลทรายจริง ๆ

เพราะพระเจ้าไม่ผิดพลาดในชีวิตของเรา เพราะความรักของพระเจ้า พระองค์จะพาเราเดินไปถึงเส้นชัย
ไปถึงปลายทางของแต่ละคน
(สภษ.23:18)

3.น้ำที่หลั่งไหลออกไปสู่ประชาชาติ(4-5,8-11)

4 ดู​เถิด เรา​กระทำ​ให้​ท่าน​เป็น​พยาน​ต่อ​ชน​ชาติ​ทั้ง​หลาย เป็น​หัวหน้า​และ​เป็น​ผู้​บัญชาการ​เพื่อ​ชน​ชาติ​ทั้ง​ปวง

5 ดู​เถิด เจ้า​จะ​ร้อง​เรียก​ประชาชาติ​ซึ่ง​เจ้า​ไม่​รู้จัก และ​ประชาชาติ​ซึ่ง​ไม่​รู้จัก​เจ้า​จะ​วิ่ง​มา​หา​เจ้า เหตุ​ด้วย​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า และ​เพราะ​องค์​บริสุทธิ์​แห่ง​อิสราเอล เพราะ​พระ​องค์​ทรง​ให้​เจ้า​ได้รับ​เกียรติ

8 เพราะ​ความ​คิด​ของ​เรา​ไม่​เป็น​ความ​คิด​ของ​เจ้า ทั้ง​ทาง​ของ​เจ้า​ไม่​เป็น​วิถี​ของ​เรา” ​พระ​เจ้า​ตรัส​ดังนี้

9 “เพราะ​ฟ้า​สวรรค์​สูง​กว่า​แผ่นดิน​โลก​ฉัน​ใด วิถี​ของ​เรา​สูง​กว่า​ทาง​ของ​เจ้า และ​ความ​คิด​ของ​เรา​ก็​สูง​กว่า​ความ​คิด​ของ​เจ้า​ฉัน​นั้น”

10 “เพราะ​ฝน​และ​หิมะ​ลง​มา​จาก​ฟ้า​สวรรค์ และ​ไม่​กลับ​ที่​นั่น​เว้น​แต่​รด​แผ่นดิน​โลกกระทำ​ให้​มัน​บังเกิด​ผล​และ​แตก​หน่อ อำนวย​เมล็ด​แก่​ผู้​หว่าน​และ​อาหาร​แก่​ผู้​กินฉัน​ใด

11 คำ​ของ​เรา​ซึ่ง​ออกไป​จาก​ปาก​ของ​เรา จะ​ไม่​กลับมา​สู่​เรา​เปล่า แต่​จะ​สัมฤทธิ์​ผล​ซึ่ง​เรา​มุ่ง​หมาย​ไว้ และ​ให้​สิ่ง​ซึ่ง​เรา​ใช้​ไป​ทำ​นั้น​จำเริญ​ขึ้น​ฉัน​นั้น


น้ำแห่งการชโลมใจนี้จะหลั่งไหลออกไปสู่บรรดาประชาชาติ นั่นคือ พระคุณของพระเยซูคริสต์มิได้หยุดอยู่เพียงอิสราเอล แต่ไปถึงคนต่างชาติด้วย(5) เป็นภาพที่น่าตื่นตะลึง เป็นวาระที่เคลื่อนพ้นผ่านยุคเก่า คือ ยุคบาบิโลนที่แตกสลายแล้วนั้น เป็นวาระใหม่และยุคใหม่ พระเจ้าทำสิ่งใหม่ คือ เคลื่อนคนที่กำลังจะรอดวิ่งเข้ามาหาเราในพระนิเวศของพระองค์

ข้อ 8-11 พระวจนะของพระเจ้าที่ป่าวออกมานั้น เป็นถ้อยคำที่จะชโลมผืนแผ่นดิน เหมือนกับสายฝนที่ตกลงมาเพื่อชะโลมรดทำให้แผ่นดินเกิดดอกออกผล (ยรม.1:8-10)

สิ่งที่พระเจ้าจะกระทำในยุคของเรา คือ พระเจ้าจะส่งเราออกไปเป็นพยานต่อชนชาติทั้งหลาย ไม่เพียงแค่ส่งออกไปธรรมดาๆ แต่พระเจ้าจะยกชูเรา และพระวจนะบอกว่า พระเจ้าให้เกียรติเรา ในวาระสุดท้าย เสียงนมัสการจะดังสนั่น ตามถนนหนทาง ตามตรอกซอกซอย คนจะรู้ว่าพระเยซูคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า

นี่เป็นเวลาสำหรับประเทศไทย นี่เป็นเวลาสำหรับประชาชาติ

จงค้นหาตัวเองให้พบ ถามพระเจ้า เวทีของท่าน จุดของท่านอยู่ตรงไหนและไปตามการทรงเรียกของพระเจ้าในชีวิตของท่าน

4.น้ำที่ชะล้างวิถีชีวิตเก่า(ข้อ 6-7)

6 “จง​แสวงหา​พระ​เจ้า เมื่อ​จะ​พบ​พระ​องค์​ได้ จง​ทูล​พระ​องค์ ขณะ​พระ​องค์​ทรง​อยู่​ใกล้

7 ให้​คน​อธรรม​ละ​ทิ้ง​ทาง​ของ​เขา และ​คน​ไม่​ชอบธรรม​สละ​ความ​คิด​ของ​เขา ให้​เขา​กลับ​ยัง​พระ​เจ้า เพื่อ​พระ​องค์​จะ​ทรง​กรุณา​เขา และ​ยัง​พระ​เจ้า​ของ​เรา เพราะ​พระ​องค์​จะ​ทรง​อภัย​อย่าง​ล้น​เหลือ


น้ำแห่งชีวิตอยู่ในชีวิตของเราทั้งหลาย น้ำแห่งพระวิญญาณที่พลุ่งขึ้นในตัวเราทั้งหลาย
ในห้วงเวลาแห่งการพบพระองค์ เราจะสัมผัสถึงความบริสุทธิ์ของพระองค์ อยู่รายล้อมรอบตัวเรา
มันเป็นมิติแห่งความดีงามอยู่รอบแท่นพระบัลลังก์(วว.4:6-8)

5.น้ำที่นำพาความชื่นบานและสวัสดิภาพ(ข้อ 12-13)

12 “เพราะ​เจ้า​จะ​ออกไป​ด้วย​ความ​ชื่น​บาน และ​ถูก​นำไป​ด้วย​สวัสดิภาพ ภูเขา​และ​เนิน​เขา เปล่ง​เสียง​ร้อง​เพลง​ข้างหน้า​เจ้า และ​ต้นไม้​ทั้งสิ้น​ใน​ท้อง​ทุ่ง​จะ​ตบ​มือ​ของ​มัน

13 แทน​ต้น​หนาม​ขี้แรด ต้น​สน​สาม​ใบ​จะ​งอก​ขึ้น แทน​ต้น​ไมยราบ ต้น​น้ำ​มัน​เขียว​จะ​งอก​ขึ้น และ​แด่​พระ​เจ้า มัน​จะ​เป็น​อนุสรณ์ เพื่อ​เป็น​หมาย​สำคัญ​นิรันดร์​ซึ่ง​จะ​ไม่​ตัด​ออก​เลย”


แผนการพระประสงค์ของพระเจ้าถูกเปิดเผยออกมา ภูเขาและเนินเขาโค้งลงต่อหน้าประชากรของพระเจ้าเป็นพระสัญญาแห่งอนาคต สิ่งที่เป็นพืชมีหนามแห่งความทุกข์ลำบากจะพรากจากไปและจะมีสิ่งใหม่ได้เจริญงอกขึ้นมาใหม่อย่างอุดมสมบูรณ์

ต้นหนามขึ้แลดและต้นไมยราบ คือ คำแช่งสาปนั้นจะถูกไถ่ถอน

แทนที่แห่งการสาปแช่ง คือ ที่แห่งการเติบโต คือ ต้นไม้แห่งสวรรค์จะบังเกิดแทนที่

นี่เป็นมิติแห่งสวรรค์ ที่จะฟื้นคืนกลับมา

ต้นหนามขี้แลดและต้นไมยราบ คือภาพของอุปสรรค ขวากหนาม ความบาป

ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อชาวนากสิกรเมื่อจะฟื้นฟูที่ดิน ย่อมถอนวัชพืชสิ่งถ่วงรั้ง นี้ออกเสีย

พระวจนะบอกว่า เมื่อไถ่ถอนออกแล้ว ต้นสนสามใบ และต้นน้ำมันเขียวจะงอกขึ้น


นี่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นการพลิกฟื้น การรื้อฟื้น การเปลี่ยนโฉม การเปลี่ยนแปลง โดยฤทธิ์อำนาจอันไม่จำกัดของพระองค์ ทรงกระทำให้ถิ่นทุรกันดารกลายเป็นผืนป่าวนอุทยานอันอุดมสมบูรณ์

คำเผยพระวจนะของอิสยาห์ เล็งถึงการกลับสู่เยรูซาเล็ม คือ กลับสู่บ้าน เป็นการกลับบ้านด้วยความชื่นชมยินดี เป็นการกลับมาถึงพระเจ้าด้วยหมายสำคัญและการอัศจรรย์ (อสย.40:11) ​(สดด.63:3-8)

ในวันนี้เราสามารถรับน้ำแห่งชีวิตได้เดี๋ยวนี้ เพียงร่วมเดินทางกลับบ้านกลับสู่พระเจ้า และให้จิตวิญญาณกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของพระเจ้าและเลิงโลดอยู่ในทุ่งหญ้าของพระองค์ พระวจนะบอกว่า

"แด่​พระ​เจ้า มัน​จะ​เป็น​อนุสรณ์ เพื่อ​เป็น​หมาย​สำคัญ​นิรันดร์​ซึ่ง​จะ​ไม่​ตัด​ออก​เลย”

:ปัทมโรจน์ มากสุริวงศ์

                                                                        ขอพระเจ้าอวยพรครับ


                                             
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่