สวัสดี ชาวเพื่อนๆชาวพันทิป เราได้ความรู้หรือเรื่องอะไรก็ตามที่เราสงสัย จากในกระทู้พันทิปนี้เยอะมาก วันนี้เลยเอาความรู้ในที่มีอยู่น้อยนิดที่เห็นว่าใกล้ตัวเอามาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เราหยิบเรื่องยาคุมฉุกเฉิน ขึ้นมาเขียน เพราะคิดว่า ยาคุมฉุกเฉินขายดีมากๆเนื่องจากที่บ้านเราเปิดร้านขายยาเลยรู้เลยเห็นมาเยอะ มาเริ่มกันเลยเนอะ ปัจจุบันการคุมกำเนิด มีอยู่มากมายหลายประเภท หลากหลายทางเลือกให้ผู้ที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร เลือกใช้ ยาคุมฉุกเฉินก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนๆเลือกใช้ แต่เพื่อนๆรู้ไหมว่า ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีดีอย่างที่คิด

ยาคุมฉุกเฉินมีข้อบ่งใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีฉุกเฉิน ขอย้ำว่าใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น คำว่า “ฉุกเฉิน” ในที่นี้หมายความถึง การมีเพศสัมพันธ์ในคู่สามีภรรยา ที่มีการวางแผนครอบครัว และทำการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่เกิดความผิดพลาดจากวิธีคุมกำเนิดที่ใช้ เช่น การรั่วหรือฉีกขาดของถุงยางอนามัย การลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป เป็นต้น หรือใช้ในกรณีผู้หญิงที่ถูกข่มขืน
การทำงานของยาคุมฉุกเฉิน
ตัวยาจะเข้าไปขัดขวางการตกไข่ ทำให้น้ำเมือกบริเวณปากมดลูก(Cervical mucus) มีความเหนียวข้นขึ้น และทำให้สภาพของผนังของโพรงมดลูกไม่เหมาะสมกับการฝังตัวของไข่ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องกินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น เพราะหลังจากนี้ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะฝังตัวซึ่งยาจะไร้ผล
ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินมักเป็นอาการที่ไม่รุนแรง ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เจ็บคัดเต้านม มีเลือดออกกะปริดกะปรอยหรือมีเลือดออกมากระหว่างเดือน ประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ อาการข้างเคียงเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา การรับประทานในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่การใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ นอกจากประสิทธิภาพที่ด้อยกว่า เมื่อเทียบกับการรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติชนิดเม็ดแล้ว ยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง จากการที่มีระดับฮอร์โมนสูงในร่างกาย ส่งผลทำให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกถึง 2% เป็นต้น ดังนั้นการใช้ยานี้จึงควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และไม่แนะนำให้รับประทานเกิน 4 เม็ด หรือ 2กล่อง ต่อเดือน
ปล. เราหวังว่าบทความที่เราเอามาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านในวันนี้ น่าจะเป็นอีก หนึ่งทางเลือกที่ช่วยในการตัดสินใจในการเลือกใช้ยาคุม หากคิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ
PS. ก่อนที่เราจะรักใครหมดหัวใจ คนแรกที่เราต้องรักก็คือตัวเราเองนะคะ
ขอขอบคุณ บทความบางส่วน โดย : ภญ. พิชญา ดิลกพัฒนมงคล
[SR] ยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้มีดีอย่างที่คิด
ยาคุมฉุกเฉินมีข้อบ่งใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีฉุกเฉิน ขอย้ำว่าใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น คำว่า “ฉุกเฉิน” ในที่นี้หมายความถึง การมีเพศสัมพันธ์ในคู่สามีภรรยา ที่มีการวางแผนครอบครัว และทำการป้องกันการตั้งครรภ์ แต่เกิดความผิดพลาดจากวิธีคุมกำเนิดที่ใช้ เช่น การรั่วหรือฉีกขาดของถุงยางอนามัย การลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป เป็นต้น หรือใช้ในกรณีผู้หญิงที่ถูกข่มขืน
การทำงานของยาคุมฉุกเฉิน
ตัวยาจะเข้าไปขัดขวางการตกไข่ ทำให้น้ำเมือกบริเวณปากมดลูก(Cervical mucus) มีความเหนียวข้นขึ้น และทำให้สภาพของผนังของโพรงมดลูกไม่เหมาะสมกับการฝังตัวของไข่ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องกินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น เพราะหลังจากนี้ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะฝังตัวซึ่งยาจะไร้ผล
ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินมักเป็นอาการที่ไม่รุนแรง ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เจ็บคัดเต้านม มีเลือดออกกะปริดกะปรอยหรือมีเลือดออกมากระหว่างเดือน ประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ อาการข้างเคียงเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา การรับประทานในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่การใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ นอกจากประสิทธิภาพที่ด้อยกว่า เมื่อเทียบกับการรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติชนิดเม็ดแล้ว ยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง จากการที่มีระดับฮอร์โมนสูงในร่างกาย ส่งผลทำให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกถึง 2% เป็นต้น ดังนั้นการใช้ยานี้จึงควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และไม่แนะนำให้รับประทานเกิน 4 เม็ด หรือ 2กล่อง ต่อเดือน
ปล. เราหวังว่าบทความที่เราเอามาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านในวันนี้ น่าจะเป็นอีก หนึ่งทางเลือกที่ช่วยในการตัดสินใจในการเลือกใช้ยาคุม หากคิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ
PS. ก่อนที่เราจะรักใครหมดหัวใจ คนแรกที่เราต้องรักก็คือตัวเราเองนะคะ
ขอขอบคุณ บทความบางส่วน โดย : ภญ. พิชญา ดิลกพัฒนมงคล