เราเช่าห้องอยู่กับแฟน 2 คน ตอนนี้เราท้องได้8เดือนแล้ว
ย้อนหลังไปประมาณ 4 เดือนมีลูกพี่ลูกน้องเรามาขออาศัยอยู่ด้วย
เป็นผู้ชาย อายุ17 ปี จบม 6 มาหางานทำได้งานที่แฟมิลี่แห่งหนึ่ง
ตอนมาอยู่ทางเราและแฟนเราก็บอกเค้าว่าไม่ต้องจ่ายค่าห้องให้มาอยู่ฟรีๆ 5 เดือนแต่ต้องช่วย
หุงข้าว ล้างจาน แบบอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายอ่ะ
ตอนอาทิตย์แรกๆ ก็เหมือนจะดี ช่วยทำนู่นนี่ พอหลังจากนั้นเริ่มออกลาย
เราไม่ใช่คนขี้เหนียว มีอะไรซื้อมาให้กิน ในหนึ่งวันเค้ากินข้าวกับเราหนึ่งมื้อ
เริ่มไม่ค่อยล้างจาน ไม่หุงข้าวไว้รอ ไม่หยิบจับอะไรเลย สามีเรากลับมาต้องทำทุกอย่าง ทำกับข้าวกินด้วยกัน
เรากะบสามีกลับห้องมา 1 ทุ่ม เค้าก็ยังหลับอยู่ แถมเปิดทีวีทิ้งไว้ทุกวัน
ค่าไฟค่าน้ำเพิ่มเยอะกว่าก่อนมาก แต่เราก็ยังไม่คิดอะไรมากเพราะเป็นน้อง
พออยู่มาเรื่อยๆ เราสังเกตว่า ของใช้ส่วนตัวเราเริ่มผิดปกติ เราซื้อน้ำหอมมาค่อนข้างแพง จึงใช้อย่างประหยัดนานๆใช้ที
พอมาดูอีกที น้ำหอมเหลืออยู่ก้นขวด แม่เจ้า หยิบใช้โดยไม่ขอเลยหรือนี่ ใช้ไม่ว่าหรอก แต่ขอก่อนดีกว่าไหม
ความเกรงใจแทบไม่มีเลย สามีบอกว่าช่างมันเถอะ เค้าอยากใช้ก็ปล่อยอย่าไปว่าอะไรเด็กมันเลย
ต่อมามีวันหนึ่ง เรากลับมาห้องตอน1 ทุ่ม เปิดประตูมา มีสาวน้อยนั่งอยู่กับน้องเรา ข้างๆ มีเป้วางอยู่
เด็กมันก็หวัดดีนะ แต่เรารู้สึกช็อกไงไม่รู้ จะพาแฟนมาค้าง ไม่บอกกันสักคำ เราอึ้งไปเลย
แต่เราก็ไม่พูดอะไร หลังจากนั้นก็พามาค้างอีก สองสามครั้ง เราว่ามันไม่เหมาะไม่ควร เลยโทรไปหาแม่น้อง ให้ตักเตือนเรื่องผู้หญิง
พอตอนเย็นกินข้าวด้วยกัน เราเลยบอกน้องว่า อย่าพาผู้หญิงมาค้างที่ห้องอีก มันไม่ดี ผู้หญิงจะเสียหาย ถึงผู้หญิงจะเต็มใจมาก็ควรจะบอกว่ามันไม่เหมาะสม
น้องเราไม่ตอบอะไรนั่งเงียบ เราก็ทึกทักเอาเองว่าเด็กมันรับทราบ
ปรากฎว่า สองอาทิตย์ถัดมา ก็ยังคงพามาค้าง คุยกระหนุงกระหนิง โอ้ให้ตาย
คำพูดเราไม่มีความหมายเลย ตั้งแต่นั้นเราไม่พูดไม่คุยกับน้องเราอีก เรารู้สึกเหมือนเด็กมันไม่ให้เกียรติเรา
แต่สามีบอกว่าอย่าใจแคบ ความรักมันห้ามกันไม่ได้ แต่เราว่ามันไม่เหมาะสม อยากให้เด็กมันเก็บเงินไปเรียนให้จบก่อน
อยากมีแฟนเราไม่ว่า แต่ไปกลับได้ไหม ไม่รู้ว่าพ่อแม่ฝ่ายหญิงรู้หรือเปล่าว่ามาค้างกับแฟน
ทุกวันนี้เราแทบไม่อยากมองหน้าน้อง ใจก็คิดว่าเมื่อไหร่มันจะไปเรียนสักที
เพื่อนๆ ว่าเราใจแคบไปไหมคะ ขอโทษถ้าพิมพ์วกไปวนมา
เราใจแคบไปหรือเปล่า ช่วยบอกหน่อยค่ะ T^T
ย้อนหลังไปประมาณ 4 เดือนมีลูกพี่ลูกน้องเรามาขออาศัยอยู่ด้วย
เป็นผู้ชาย อายุ17 ปี จบม 6 มาหางานทำได้งานที่แฟมิลี่แห่งหนึ่ง
ตอนมาอยู่ทางเราและแฟนเราก็บอกเค้าว่าไม่ต้องจ่ายค่าห้องให้มาอยู่ฟรีๆ 5 เดือนแต่ต้องช่วย
หุงข้าว ล้างจาน แบบอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายอ่ะ
ตอนอาทิตย์แรกๆ ก็เหมือนจะดี ช่วยทำนู่นนี่ พอหลังจากนั้นเริ่มออกลาย
เราไม่ใช่คนขี้เหนียว มีอะไรซื้อมาให้กิน ในหนึ่งวันเค้ากินข้าวกับเราหนึ่งมื้อ
เริ่มไม่ค่อยล้างจาน ไม่หุงข้าวไว้รอ ไม่หยิบจับอะไรเลย สามีเรากลับมาต้องทำทุกอย่าง ทำกับข้าวกินด้วยกัน
เรากะบสามีกลับห้องมา 1 ทุ่ม เค้าก็ยังหลับอยู่ แถมเปิดทีวีทิ้งไว้ทุกวัน
ค่าไฟค่าน้ำเพิ่มเยอะกว่าก่อนมาก แต่เราก็ยังไม่คิดอะไรมากเพราะเป็นน้อง
พออยู่มาเรื่อยๆ เราสังเกตว่า ของใช้ส่วนตัวเราเริ่มผิดปกติ เราซื้อน้ำหอมมาค่อนข้างแพง จึงใช้อย่างประหยัดนานๆใช้ที
พอมาดูอีกที น้ำหอมเหลืออยู่ก้นขวด แม่เจ้า หยิบใช้โดยไม่ขอเลยหรือนี่ ใช้ไม่ว่าหรอก แต่ขอก่อนดีกว่าไหม
ความเกรงใจแทบไม่มีเลย สามีบอกว่าช่างมันเถอะ เค้าอยากใช้ก็ปล่อยอย่าไปว่าอะไรเด็กมันเลย
ต่อมามีวันหนึ่ง เรากลับมาห้องตอน1 ทุ่ม เปิดประตูมา มีสาวน้อยนั่งอยู่กับน้องเรา ข้างๆ มีเป้วางอยู่
เด็กมันก็หวัดดีนะ แต่เรารู้สึกช็อกไงไม่รู้ จะพาแฟนมาค้าง ไม่บอกกันสักคำ เราอึ้งไปเลย
แต่เราก็ไม่พูดอะไร หลังจากนั้นก็พามาค้างอีก สองสามครั้ง เราว่ามันไม่เหมาะไม่ควร เลยโทรไปหาแม่น้อง ให้ตักเตือนเรื่องผู้หญิง
พอตอนเย็นกินข้าวด้วยกัน เราเลยบอกน้องว่า อย่าพาผู้หญิงมาค้างที่ห้องอีก มันไม่ดี ผู้หญิงจะเสียหาย ถึงผู้หญิงจะเต็มใจมาก็ควรจะบอกว่ามันไม่เหมาะสม
น้องเราไม่ตอบอะไรนั่งเงียบ เราก็ทึกทักเอาเองว่าเด็กมันรับทราบ
ปรากฎว่า สองอาทิตย์ถัดมา ก็ยังคงพามาค้าง คุยกระหนุงกระหนิง โอ้ให้ตาย
คำพูดเราไม่มีความหมายเลย ตั้งแต่นั้นเราไม่พูดไม่คุยกับน้องเราอีก เรารู้สึกเหมือนเด็กมันไม่ให้เกียรติเรา
แต่สามีบอกว่าอย่าใจแคบ ความรักมันห้ามกันไม่ได้ แต่เราว่ามันไม่เหมาะสม อยากให้เด็กมันเก็บเงินไปเรียนให้จบก่อน
อยากมีแฟนเราไม่ว่า แต่ไปกลับได้ไหม ไม่รู้ว่าพ่อแม่ฝ่ายหญิงรู้หรือเปล่าว่ามาค้างกับแฟน
ทุกวันนี้เราแทบไม่อยากมองหน้าน้อง ใจก็คิดว่าเมื่อไหร่มันจะไปเรียนสักที
เพื่อนๆ ว่าเราใจแคบไปไหมคะ ขอโทษถ้าพิมพ์วกไปวนมา