ร้านอาหารผมเว่อไหมครับ ได้เดือนละ 500,000 ช่วยดูทีครับ เว่อไหม

กระทู้คำถาม
ร้านอาหารผมเว่อไหมครับ ได้เดือนละ 500,000 ช่วยดูทีครับ

เป็นงานวิชานักลงทุนครับ ผมมาถึงจุด Financial แล้ว ( ธุรกิจที่คิดเอง )
ช่วยดูช่วยแก้ทีครับ ผมว่ามันต้องผิดอะไรสักอย่างแน่ๆ คือ Income per month มันเยอะไป

บอกก่อนเลยครับเป็นธุรกิจประเภทร้านอาหารเน้นที่อาหารปลาเป็นหลักๆ
คล้ายๆ เกียง้วนซีฟู๊ดอะไรสักอย่าง แต่จะเป็นปลาหลักๆครับ บรรยากาศก็จะทำประมาณ Vanilla Brasseries แต่กว้างกว่า
เราเน้นที่คุณภาพครับ จะนำปลาจากทั่วโลกมา
สถานที่ตั้งก็ประมาณ Central World



ดูกันเลยครับ









Expenditure : startup cost >>
Outlay :  700,000 b.- ( หุ้นส่วน 3 คน คนละ 200,000 บาท )
ส่วนต่างของเงินลงทุนเป็นประเภท depth financing กู้มา 100,000 b.-
    > rent : 50,000 b.-
    > furniture & decoration : 150,000
    > raw material : 50,000 b.-
    > salaries : 40,000 (  chef, waiter, chauffeur, )
    > public utility : 15,000
    > commercial : 10,000
    > interest : 15,000
    > insurrance : 10,000 ( คืออะไรก็ไม่รุ้ เขียนตามอาจารย์ )
    > other : 100,000
    > reserves : 200,000



Income ( monthly )

Revenue : 700,000 .00  ( ลูกค้าวันละ 25 หน่วย เฉลี่ยหน่วยละ 1000 รายต่อวันได้ 25,000 x 28 จะได้ประมาณ 700k  เว่อไหมเนี่ย )
COGS ( Cost of Goods Sold )
    - Total Materials : 50,000.00
    - Total Labor :        40,000.00
Total CGOS                 90,000.00
Gross Profit =  610,000

Other Costs
    - Rent :                     50,000.00
    - Commissions :     5,000.00
    - Public Utility :      15,000.00
                     Total :     70,000.00

Contribution Margin : 540,000.00
Break Even ยังไม่ถึงครึ่งปีเลยครับ จะบ้าตาย


มาถึงตรงนี้ไปต่อไม่ถูกละครับ
ผมค่อนข้างทำตามอาจารย
มึนๆมากๆครับ
เลยมาขอความช่วยเหลือ
ยังไงก็ช่วยหน่อยนะครบั



// ขอบคุณมากครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 42
มาชี้ืทางสว่างให้ครับ

หลักการใช้เครื่องมือบริหารธุรกิจ และการเขียนแผนธุรกิจนะครับ

1. เขียนเป็นภาษาไทยก่อนเลย ผมไม่ได้ว่าอังกฤษไม่ดีนะครับ เพราะผมก็ใช้ แต่ถ้าผมจะถามหามือเก๋าในวงการนี้ ผมเขียนภาษาไทยก่อน แล้วเวลาเขียนเป็นภาษาไทย ผมเชื่อว่าคุณจะเขียนได้ระเอียดกว่านี้อีก

2. แบบที่อาจารย์ให้มา อย่าไปใส่แต่ตัวเลขที่ คาดการเอาอย่างเดียว คุณต้องไปสืบมาว่าจริง ๆ ตัวเลขมันจะเป็นแบบไหนแต่ละหัวข้อรายละเอียดเป็นอย่างไร แบบที่แทบทุก comment แย้งล่ะครับว่า ค่าเช่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้นคุณจะตันแค่ตรงนี้

ถ้าคุณไม่หา ใส่ตัวเลขไปอย่างเดียว สุดท้ายตอนสอบ defence โดนถามจี้ถามมา โปรเจคคุณจะล่มตรงนั้นเลย เพราะถ้ารายจ่ายคิดผิด กำไรก็ผิดไปด้วย และการดำเนินธุรกิจของคุณจะเหมือนคนเลือดไหลไม่หยุด

3. อาจารย์ให้แบบคุณมาไม่หมด คุณต้องหา cost ออกมาให้ได้อีกอย่างน้อย 10 อย่างก่อนเปิดธุรกิจจริง ไอ่ cost ที่ว่าก็แยกมาจากคำว่า other 100,000 ที่คุณเขียนนั้นแหละครับ แยกออกมาให้ระเอียดอีกหน่อย แล้วสุดท้ายคิดไม่ออกจริง ๆ ค่อยไปใส่เป็น other ไป มีผลกับคะแนนคุณอย่างชัดเจนมาก ๆ และจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปเลย หากคุณจะเปิดธุรกิจจริง ๆ

ผมเขียนแผนธุรกิจมาตลอดตั้งแต่เรียน ปี1 ในทุกธุรกิจที่ผมอยากทำ มันป้องกันผมจากการเจ๊ง ครั้งแล้วครั้งเล่าให้คุณได้ หรืออย่างน้อย มันเจ๊งยากมากกว่าคนไม่ได้เขียน หลาย ๆ สิบเท่าตัว

จงถือคติครับว่า เจ๊ง ในกระดาษ ดีกว่า เจ๊งจริง ๆ ดังนั้น มีอะไรก็เขียนให้ระเอียดยิบเลยครับตอนเราไปพรีเซนต์ให้อาจารย์ หรือนายธนาคารฟัง เราจะได้มีของไปขายเค้าได้ว่า เราเอาตัวเลขพวกนี้มาจากไหน

และคุณจะรู้ด้วยตัวเองว่า ธุรกิจที่คุณจะสร้างนั้น รุ่ง หรือ ร่วง ก่อนที่บรรทัดสุดท้ายของรายงานคุณจะเสร็จเสียอีก
ความคิดเห็นที่ 2
ความเห็นบน ผมอ่านโจทย์อยู่ครับ  เม่าเนิร์ด
ความคิดเห็นที่ 1
คห.ล่างว่าไงครับ เต่าเอือม
ความคิดเห็นที่ 39
อย่าไปว่าน้องเขาแรงเกินไปนะครับ เขายังเด็ก เขายังไม่รู้
อย่างน้อยก็ดีที่กล้าถาม

วันนี้มาถามที่นี่ แล้วเจอแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าน้องจะเสียใจขนาดไหน
แต่อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้น้องกล้าถามในสิ่งที่ไม่รู้ต่อไปเรื่อยๆ

เพราะตอนที่เราไม่รู้อะไรเลย เราก็ต้องเริ่มจากถามให้ได้แนวกว้างๆก่อน
แล้วค่อยไปค้นตำราเจาะลึกครับ

สู้ๆ
insurrance แปลว่าค่าประกันครับ ค่าประกันก็มีหลายแบบ ตั้งแต่ประกันเฉพาะอัคคีภัยก็มี ประกันรวมถึงภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ การก่อการร้าย ก็มีครับ

ลองทำต้นทุนออกมาดูนะครับ ธุรกิจร้านอาหาร ส่วนมาก
ถ้าเรามีความรู้เรื่องบริหารจัดการและเราทำอาหารเก่ง
แล้วลงมือเป็นพ่อครัว+ผู้จัดการร้านเอง
กำไรขั้นต้นสูงสุดต่อเดือนจะอยู่แถวๆ 50% ของยอดขาย
แต่ถ้าเราไม่ได้ทำอาหารเก่ง แม้จะมีความรู้ด้านบริหารเก่ง
แต่ไม่ได้ลงแรงเป็นผู้จัดการร้านเอง ออกทุนอย่างเดียว
ถ้าโชคดีกำไรอาจจะได้ 3-10%

ถ้าคำนวนแล้วกำไรได้มากเกินกว่านี้ ลองวางแผนใหม่ครับ แผนอาจจะผิด

ยกตัวอย่างในส่วนของค่าแรง
ถ้าเราเป็นนายจ้างและจะจ่าย 10000 บาทให้พนักงาน
นั่นหมายความว่า เราจะมียอดจ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับพนักงานอีก 1.5-3 เท่าครับ
ยอดจ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับพนักงานตรงส่วนนี้จะมาจาก ค่าสวัสดิการต่างๆทั้งตามกฎหมายและ
ไม่ตามกฎหมายแต่เป็นไปเพื่อจูงใจให้คนมาทำงานให้เรา นอกจากนั้นยังมีค่าโบนัส ค่าน้ำค่าไฟของพนักงาน
ค่าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องพักพนักงาน ค่าจ้างคนทำบัญชีมาทำบัญชีจ่ายเงินให้พนักงานก็ต้องเสีย
แล้วยังมีค่าอุปกรณ์ของใช้ต่างๆอีก สิ่งเหล่านี้แรกๆจะมองไม่เห็น แต่เผื่อไว้ 3 เท่าเลยครับ
ทั่วไปมันเป็นแบบนี้

ลองคำนวนใหม่ครับ สมัยนี้ถ้าไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นมากมายจริงๆ ผมว่าเก็บตังค์ฝากแบงค์ไว้
แล้วไปเป็นลูกจ้างในธุรกิจที่ตัวเองอยากทำก่อนจะดีกว่าครับ
ฝึกวิชาจนมีวิชาติดตัว พัฒนาให้เก่งกว่าคนอื่นมากๆ แล้วค่อยหาทุนไปทำครับ
การหาทุนสมัยนี้ไม่ยากมากเหมือนสมัยก่อนครับ แต่การหาไอเดีย การฝึกทักษะให้เก่งๆ ไม่ว่าสมัยไหน ยังยากเหมือนเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่