เรื่องที่ผมจะเล่า มันอาจเป้นเรื่องเดิมๆ หรืออาจจะเหมือนเรื่องอื่นๆ ซึ่งคุณอาจจะเคยเจอมาก่อนหน้า
แต่ถ้าไม่ว่าอะไร ช่วยอ่านเรื่องของผม แล้วบอกผมที ว่าผมควรทำอย่างไร
ผมเป็นผู้ชาย ที่รักใครรักจริง รักเดียวใจเดียว ไม่เคยสนใจใครไม่เคยมองเลย นอกจากคนที่ผมรักเท่านั้น
ช่วงปีหนึ่ง ผมเจอผุ้หญิงคนหนึ่ง เธอน่ารักมากๆ เห็นแว๊บแรกก็รู้สึกชอบเลย โอกาสและช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้ผมได้พูดคุยกับเธอ มากขึ้นๆทุกวัน
จนเรารู้ใจกันและกัน เราย้ายมาอยู่ด้วยกันสองคน ผมมีความสุขมากจริงๆ เราเจอหน้ากันทุกวัน
ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแต่ผมก็ยังให้เกียรติเธอ โดยที่ผมไม่ได้นอนเตียงเดียวกับเธอ แต่ผมนอนบนโซฟาข้างๆเตียงของเธอ
ทุกๆคืนก่อนนอน ผมจะนั่งเล่นกีตาร์ ร้องเพลงสิ่งที่แสนดีให้เธอฟัง เธอก็ฟังแล้วร้องตาม จนเธอนั่นหลับไป
ผมนอนแอบมองใบหน้าที่น่ารักของเธอตอนเธอหลับทุกคืน
และวันหนึ่งผมก็คิดว่า มันถึงเวลาจริงๆแล้ว ที่ผมจะขอเธอเป็นแฟนอย่างเป็นทางการสักที
ผมเลยหาวันที่เธอมีเรียนทั้งวัน เป็นวันที่เธอไม่อยู่ห้อง แต่งห้องให้สวยๆ
ผมและเพื่อนๆของผมช่วยกันแต่งห้องด้วยลูกโป่งสีชมพู ขาว และเขียวอ่อนๆ ลูกโป่งถูกผูกไว้กับลิบบิ้นสีชมพูสดใส
แนวของลูกโป่งที่ห้อยลงมาจากเพดาน เรียงกันเป็นทางเดินเข้าไปด้านในสุดของห้อง ซึ่งตรงนั้นมีโซฟาที่ผมใช้นอนทุกคืนวางอยู่
ผมคิดว่าตรงนั้นแหละ คือที่ๆผมจะยืนรอเธอเดินเข้ามา
ทุกอย่างที่ทำเป็นไปอย่างราบลื่น จนประมาณหนึ่งทุ่มกว่าๆของวันที่ 3 เมษายน
เธอกลับมา เธอเปิดประตู แล้วก็ตกใจ เพราะว่าห้องเต็มไปด้วยลูกโป่ง แสงไฟสลัวๆ และเสียงเพลงสิ่งที่แสนดีที่ดังขึ้นมา
เธอค่อยๆเดินตามทางของลูกโป่ง จนมาหยุดลงที่ด้านหน้าของผม
ดูเธอตื่นเต้นมา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรไปจากผมเลย
ผมพูดกับเธอ ว่า "เค้าก็รักตัวเองมานานแล้วแหละ รักมากๆด้วย แต่แค่ไม่มีเวลาจะขอตัวเองมาเป็นแฟนเค้าสักที
วันนี้เค้าก็เลยจัดห้องนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะขอตัวเองมาเป็นแฟนเค้าแบบทางการ
เค้ารักตัวเองน่ะ รักตัวเองมาก ตัวเองคือสิ่งที่แสนดีของเค้าเสมอ ไม่ว่าจะยังไง เค้าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดน่ะ"
หลังจากที่ผมพูดจบ ผมหยิบดอกกุหลาบช่อให้ขึ้นมา คุกเข่าลงตรงหน้าเธอ แล้วก็พูดว่า "ตัวเอง เป็นแฟนกับเค้าน่ะ"
เธอยิ้มเขินอาย หน้าเธอแดง แล้วเธอก็มองมาที่ผม พูดว่า "ค่ะ" ผมดีใจมาก ดีใจมากจริงๆ เธอรับช่อดอกกุหลาบจากผม
ผมลุกขึ้น แล้วก็ขอกอดเธอ และมันก็เป็นกอดที่ผมจำได้ว่า เป็นกอดที่อบอุ่นมากจริงๆ
หลังจากนั้นผมก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอตลอดมา มีความสุขมากๆ เราเป็นของกันและกัน ไปไหนไปกัน
ผมทุ่มเทอย่างเพื่อที่จะให้เธอมีความสุขมากที่สุด จนเธอพูดกับผมว่า "เค้ารักตัวเองน่ะ และตัวเองรู้มั้ย ว่าเค้ายังไม่เคยมีใคร มาทำให้เค้ารู้สึกรักได้ขนาดนี้ และเค้าก็ไม่เคยบอกรักใครได้เต็มปากเลยน่ะ ตัวเองคือคนแรกที่เค้าพูดว่า รัก และเค้าก็รักตัวเองมากๆน่ะ"
วันหนึ่ง ประมาณแปดเดือนให้หลัง เรามีเรื่องทะเลาะกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมปัญญาอ่อนทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปเอง
และมันก็ปัญญาอ่อนมากจริงๆ ผมฟิวขาด ผมทำร้ายเธอ ทุบตีเธอจนเขียวช้ำ เธอตะโกนใส่หน้าผม บอกว่าจำวันนี้ไว้ เพราะมันจะไม่มีเราอีกแล้ว
ผมเดินออกจากห้องไปนอนห้องเพื่อน ผมนอนไม่หลับ ได้แต่คิดว่า ผมทำอะไรลงไป ช่วงเวลานั้นผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
วันต่อมาผมไปเรียน ทั้งเช้าทั้งบ่าย บอกตรงๆว่าไม่เป็นอันเรียนเลย แต่ระหว่างที่เรียนตอนบ่าย มีข้อความเข้ามา เป็นข้อความของเธอ
เธอบอกว่า "ตัวเอง รีบกลับมานะ เค้าคิดถึงตัวเอง เค้าให้อภัยตัวเองน่ะ เค้ารักตัวเองมากๆ" ผมน้ำตาไหลเป็นทางเลย
เลิกเรียนผมก็กลับห้อง ผมเข้าไปกอดเธอ แล้วก็บอกว่าผมขอโทด ขอโทดจริงๆ ผมมองเห็นรอยเขียวช้ำที่ผมทำกับเธอ ผมยิ่งรู้สึกผิดมากๆ
ไม่นานต่อมา ปัญหาใหม่ก็เกิดขึ้น เธอบอกว่า เธออยากมีเวลาส่วนตัวของเธอบ้าง อยากไปเที่ยว อยากอ่านหนังสือเงียบๆ อยากทำอะไรอย่างที่เธออยากทำ
ซึ่งเธออยู่กับผมเธอจะทำไม่ได้ เธอยังบอกอีกว่าผมควรจะให้เวลากับเพื่อนๆบ้าง ไม่ใช่อยู่กับเธออย่างเดียว ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ผมปล่อยละเลยไปจนกระทั้ง
เกือบจะครบหนึ่งปี การทำงานของเธอทำให้เธอต้องได้พบกับเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ ซึ่งมีเพื่อนร่วมงานของเธออยู่หนึ่งคนที่ผมไม่ชอบ
ไม่ชอบเพราะอาการที่มันแสดงออกกับเธอนั้นแปลกๆเหมือนมีอะไรบางอย่าง(ซึ่งปกติผมเป็นคนขี้หึงมากๆอยู่แล้ว)
แต่พยายามไม่คิดอะไร จนต่อมาเธอต้องไปทำงานกับเพื่อนกลุ่มใหม่นี้ ซึ่งบางวันกลับดึกมากๆ ผมก็เริ่มไม่ชอบ
ยิ่งเธอได้สนิทกับเพื่อนใหม่กลุ่มนั้น ยิ่งทำให้ผมไม่พอใจเข้าไปอีก จากที่กลับดึกเพราะการทำงาน กลายเป็นกลับดึกเพราะไปนั่งคุยนั่งเล่นกัน
ผมทะเลาะกับเธอเรื่องนี้บ่อยมาก จนคืนหนึ่งผมแอบเข้าไปดูในไอพอดของเธอ ผมก็ต้องใจสลาย เพราะในบันทึกของเธอ
เธอบันทึกถึงความรู้สึกดีๆที่มีต่อคนที่ผมไม่ชอบคนนั้น เธอบอกว่าเธอรู้สึกดี เธอลืมสายตาไม่ได้ ผมเสียใจมากๆ
วันหนึ่งผมถามเธอตรงๆ ว่าเธอชอบเขาใช่มั้ย เธอร้องไห้ และก็บอกว่าเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เราต่างเสียใจ ผมบอกว่า ถ้าชอบใครก็ชอบ ผมขอเป็นคนไปเอง แต่ด้วยความที่ว่า เราอยู่ด้วยกัน อยู่ห้องเดียวกัน ผมไปไหนไม่ได้ ผมยังเห็นว่าเธอทำอะไรๆอยู่ตลอดเวลา
เห็นว่าเธอไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนกลุ่มนั้น และก็กลับดึกๆอยู่บ่อยๆ จนคืนหนึ่ง ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมไม่ลากเธอกลับมา ผมฟิวขาดอีกแล้ว ผมตะโกนใส่หน้าเธอ เพราะโมโห และก็ปาโทรศัพท์ทิ้ง
หลังจากวันนั้นมาทุกอย่างของเราแย่ลงมาก จนมันเห็นได้ชัดว่าไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว
ไม่นานผมก็ย้ายไปอยุ่คนเดียว ซึ่งเป็นช่วงสอบพอดี จะปิดเทอมแล้ว ซึ่งปิดเทอมนี้จะนานถึงสามเดือน
ช่วงก่อนปิดนั้น ความรู้สึกของผมยังเหมือนเดิม ทั้งความรัก ความห่วงใย ที่เคยให้เธอเท่าไหร่ มันยังมีอยู่เหมือนเดิม
เราจากกันด้วยช่วงเวลาปิดเทอม สามเดือนที่ปิดไปนั้น ผมได้แต่หวังว่า มันจะทำให้เราคิดถึงกัน แล้วเมื่อเปิดเทอมเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
ระหว่างสามเดือนนั้น ผมทรมานมาก คิดถึงเธอตลอดเวลา ไม่เป็นอันทำอะไรเลย ผมพยายามลืมเธอให้ได้ ผมบล็อกเฟส ไลน์ และทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับเธอ เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้ผมคิดถึงเธออีก
สามเดือนผ่านไป วันแรกที่กลับมาเจอกัน เราได้มานั่งคุยกัน แต่กลายเป็นว่าเราตกลงกันว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้ เธอบอกว่าเธอยังเป็นห่วงเราเหมือนเดิม แต่แค่มันจะเหมือนตอนเป็นแฟนกันไม่ได้
ผมก็บอกว่าผมเข้าใจ แต่จริงๆแล้วในใจผม ผมอยากจะขอกอดเธออีกสักครั้งได้ไหม ขอเธอกลับมาเป้นแฟนผมเหมือนเดิมได้ไหม แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ได้แต่คิดในใจ
เปิดเทอมมาสองอาทิตย์แล้ว ผมเริ่มแอบเห็นบางอย่างเกี่ยวกับเธอ เธอดูแปลกๆไป เหมือนเธอจะมีความรักครั้งใหม่ แต่ก็ยังไม่แน่ใจ
จนวันหนึ่งเธอแชทเฟสมาบอกผมว่าเธอไม่อยากรู้สึกผิดอยู่แบบนี้ เธอก็เลยตัดสินใจบอกผมว่าตอนนี้เธอมีคนคุยแล้วน่ะ คุยกันมาได้สักพักแล้ว
ผมเสียใจมากอีกครั้ง ผมรีบวิ่งขึ้นไปห้องเธอ เธอเปิดประตู ผมก็เข้าไปกอดเธอเลย เธอเอามือลูบหัวผม เช็ดน้ำตาให้ผม ผมก็เลยบอกเธอไปตรงๆว่าผมยังไม่ลืมเธอเลย
เธอก็เข้าใจผม และก็บอกผมว่า "มันอาจจะยากที่จะเลิกรู้สึกรัก พยายามน่ะ เดวก็ทำได้"
และผมก็พยายามมาตลอด พยายามเลิกคิด เลิกสนใจ ผมเก็บของทุกชิ้นที่เกี่ยวกับเธอลงกล่อง เก็บไว้ไม่ให้มองเห็น จะได้ไม่คิด
ผมพยายามเปลี่ยนชีวิต ตื่นเช้าออกไปวิ่งออกกำลังกาย หาอะไรทำตลอดเวลา นั่งเล่นกีตาร์ อ่านหนังสือ โทรหาแม่บ่อยขึ้น(พยายามไม่ให้มีเวลาว่าง) เพราะถ้าว่างเมื่อไหร่ผมจะกลับไปคิดเรื่องเดิม
แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ คำถามเกิดขึ้นในใจผมตลอดเวลา
ผมมีความรักที่ผมต้องการ เธอบอกรักผมเป็นคนแรกของเธอ แต่ทำไมผมถึงทำลายมันลงด้วยตัวผมเอง
ทุกวันนี้ เรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คุยกันบ้าง ปรึกษาปัญหากันบ้าง หรืออาจจะไปกินข้าวด้วยกันบ้าง
เธอลืมผมไปสนิทแล้ว และกำลังจะมีความรักครั้งใหม่กับคนอื่น
ส่วนผม ก็อาจจะมีบ้างที่ยังรู้สึกอยู่ ยังหวงอยู่ แต่จะทำไงได้ ในเมื่อมันไม่เหมือนเดิมแล้ว
มันปวดหัวตรงที่ เทอมนี้ผมเจอเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เรียนด้วยกันเกือบทุกวิชา แรกๆผมไม่รู้สึกอะไร
แต่พอได้พูดได้คุยด้วย กลายเป็นผมรู้สึกดีกับเขาขึ้นมา และก็เป็นอย่างนี้มาจะสองเดือนแล้ว
ผมอยากจะบอกว่าผมโอเคน่ะ แต่ผมก็กลัวว่าถ้าบอกไปแล้วจะเสียความเป็นเพื่อนกัน เพราะเราก็สนืทกันในระดับหนึ่งแล้ว
อีกอย่างที่ทำให้ผมไม่กล้าตัดสินใจบอกคือ ผมยังมีบางช่วงเวลาที่ผมคิดถึงเธอคนนั้นอยู่เลย ผมกลับว่าถ้าเป็นแฟนกัน ผมอาจเป้นคนทำให้เพื่อนใหม่เสียใจเพราะผมยังลืมเธอคนนั้นไม่ได้
ผมควรทำอย่างไร
###ขอบคุณนะครับ ที่ทนอ่านเรื่องของผมจนจบ###
###ผมรู้ว่าผมเลวมาก ผมใช้กำลังกับผู้หญิง ผมสมควรโดนด่าครับ###
ผมควรทำอย่างไร
แต่ถ้าไม่ว่าอะไร ช่วยอ่านเรื่องของผม แล้วบอกผมที ว่าผมควรทำอย่างไร
ผมเป็นผู้ชาย ที่รักใครรักจริง รักเดียวใจเดียว ไม่เคยสนใจใครไม่เคยมองเลย นอกจากคนที่ผมรักเท่านั้น
ช่วงปีหนึ่ง ผมเจอผุ้หญิงคนหนึ่ง เธอน่ารักมากๆ เห็นแว๊บแรกก็รู้สึกชอบเลย โอกาสและช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้ผมได้พูดคุยกับเธอ มากขึ้นๆทุกวัน
จนเรารู้ใจกันและกัน เราย้ายมาอยู่ด้วยกันสองคน ผมมีความสุขมากจริงๆ เราเจอหน้ากันทุกวัน
ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแต่ผมก็ยังให้เกียรติเธอ โดยที่ผมไม่ได้นอนเตียงเดียวกับเธอ แต่ผมนอนบนโซฟาข้างๆเตียงของเธอ
ทุกๆคืนก่อนนอน ผมจะนั่งเล่นกีตาร์ ร้องเพลงสิ่งที่แสนดีให้เธอฟัง เธอก็ฟังแล้วร้องตาม จนเธอนั่นหลับไป
ผมนอนแอบมองใบหน้าที่น่ารักของเธอตอนเธอหลับทุกคืน
และวันหนึ่งผมก็คิดว่า มันถึงเวลาจริงๆแล้ว ที่ผมจะขอเธอเป็นแฟนอย่างเป็นทางการสักที
ผมเลยหาวันที่เธอมีเรียนทั้งวัน เป็นวันที่เธอไม่อยู่ห้อง แต่งห้องให้สวยๆ
ผมและเพื่อนๆของผมช่วยกันแต่งห้องด้วยลูกโป่งสีชมพู ขาว และเขียวอ่อนๆ ลูกโป่งถูกผูกไว้กับลิบบิ้นสีชมพูสดใส
แนวของลูกโป่งที่ห้อยลงมาจากเพดาน เรียงกันเป็นทางเดินเข้าไปด้านในสุดของห้อง ซึ่งตรงนั้นมีโซฟาที่ผมใช้นอนทุกคืนวางอยู่
ผมคิดว่าตรงนั้นแหละ คือที่ๆผมจะยืนรอเธอเดินเข้ามา
ทุกอย่างที่ทำเป็นไปอย่างราบลื่น จนประมาณหนึ่งทุ่มกว่าๆของวันที่ 3 เมษายน
เธอกลับมา เธอเปิดประตู แล้วก็ตกใจ เพราะว่าห้องเต็มไปด้วยลูกโป่ง แสงไฟสลัวๆ และเสียงเพลงสิ่งที่แสนดีที่ดังขึ้นมา
เธอค่อยๆเดินตามทางของลูกโป่ง จนมาหยุดลงที่ด้านหน้าของผม
ดูเธอตื่นเต้นมา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรไปจากผมเลย
ผมพูดกับเธอ ว่า "เค้าก็รักตัวเองมานานแล้วแหละ รักมากๆด้วย แต่แค่ไม่มีเวลาจะขอตัวเองมาเป็นแฟนเค้าสักที
วันนี้เค้าก็เลยจัดห้องนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะขอตัวเองมาเป็นแฟนเค้าแบบทางการ
เค้ารักตัวเองน่ะ รักตัวเองมาก ตัวเองคือสิ่งที่แสนดีของเค้าเสมอ ไม่ว่าจะยังไง เค้าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดน่ะ"
หลังจากที่ผมพูดจบ ผมหยิบดอกกุหลาบช่อให้ขึ้นมา คุกเข่าลงตรงหน้าเธอ แล้วก็พูดว่า "ตัวเอง เป็นแฟนกับเค้าน่ะ"
เธอยิ้มเขินอาย หน้าเธอแดง แล้วเธอก็มองมาที่ผม พูดว่า "ค่ะ" ผมดีใจมาก ดีใจมากจริงๆ เธอรับช่อดอกกุหลาบจากผม
ผมลุกขึ้น แล้วก็ขอกอดเธอ และมันก็เป็นกอดที่ผมจำได้ว่า เป็นกอดที่อบอุ่นมากจริงๆ
หลังจากนั้นผมก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอตลอดมา มีความสุขมากๆ เราเป็นของกันและกัน ไปไหนไปกัน
ผมทุ่มเทอย่างเพื่อที่จะให้เธอมีความสุขมากที่สุด จนเธอพูดกับผมว่า "เค้ารักตัวเองน่ะ และตัวเองรู้มั้ย ว่าเค้ายังไม่เคยมีใคร มาทำให้เค้ารู้สึกรักได้ขนาดนี้ และเค้าก็ไม่เคยบอกรักใครได้เต็มปากเลยน่ะ ตัวเองคือคนแรกที่เค้าพูดว่า รัก และเค้าก็รักตัวเองมากๆน่ะ"
วันหนึ่ง ประมาณแปดเดือนให้หลัง เรามีเรื่องทะเลาะกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมปัญญาอ่อนทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปเอง
และมันก็ปัญญาอ่อนมากจริงๆ ผมฟิวขาด ผมทำร้ายเธอ ทุบตีเธอจนเขียวช้ำ เธอตะโกนใส่หน้าผม บอกว่าจำวันนี้ไว้ เพราะมันจะไม่มีเราอีกแล้ว
ผมเดินออกจากห้องไปนอนห้องเพื่อน ผมนอนไม่หลับ ได้แต่คิดว่า ผมทำอะไรลงไป ช่วงเวลานั้นผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
วันต่อมาผมไปเรียน ทั้งเช้าทั้งบ่าย บอกตรงๆว่าไม่เป็นอันเรียนเลย แต่ระหว่างที่เรียนตอนบ่าย มีข้อความเข้ามา เป็นข้อความของเธอ
เธอบอกว่า "ตัวเอง รีบกลับมานะ เค้าคิดถึงตัวเอง เค้าให้อภัยตัวเองน่ะ เค้ารักตัวเองมากๆ" ผมน้ำตาไหลเป็นทางเลย
เลิกเรียนผมก็กลับห้อง ผมเข้าไปกอดเธอ แล้วก็บอกว่าผมขอโทด ขอโทดจริงๆ ผมมองเห็นรอยเขียวช้ำที่ผมทำกับเธอ ผมยิ่งรู้สึกผิดมากๆ
ไม่นานต่อมา ปัญหาใหม่ก็เกิดขึ้น เธอบอกว่า เธออยากมีเวลาส่วนตัวของเธอบ้าง อยากไปเที่ยว อยากอ่านหนังสือเงียบๆ อยากทำอะไรอย่างที่เธออยากทำ
ซึ่งเธออยู่กับผมเธอจะทำไม่ได้ เธอยังบอกอีกว่าผมควรจะให้เวลากับเพื่อนๆบ้าง ไม่ใช่อยู่กับเธออย่างเดียว ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ผมปล่อยละเลยไปจนกระทั้ง
เกือบจะครบหนึ่งปี การทำงานของเธอทำให้เธอต้องได้พบกับเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ ซึ่งมีเพื่อนร่วมงานของเธออยู่หนึ่งคนที่ผมไม่ชอบ
ไม่ชอบเพราะอาการที่มันแสดงออกกับเธอนั้นแปลกๆเหมือนมีอะไรบางอย่าง(ซึ่งปกติผมเป็นคนขี้หึงมากๆอยู่แล้ว)
แต่พยายามไม่คิดอะไร จนต่อมาเธอต้องไปทำงานกับเพื่อนกลุ่มใหม่นี้ ซึ่งบางวันกลับดึกมากๆ ผมก็เริ่มไม่ชอบ
ยิ่งเธอได้สนิทกับเพื่อนใหม่กลุ่มนั้น ยิ่งทำให้ผมไม่พอใจเข้าไปอีก จากที่กลับดึกเพราะการทำงาน กลายเป็นกลับดึกเพราะไปนั่งคุยนั่งเล่นกัน
ผมทะเลาะกับเธอเรื่องนี้บ่อยมาก จนคืนหนึ่งผมแอบเข้าไปดูในไอพอดของเธอ ผมก็ต้องใจสลาย เพราะในบันทึกของเธอ
เธอบันทึกถึงความรู้สึกดีๆที่มีต่อคนที่ผมไม่ชอบคนนั้น เธอบอกว่าเธอรู้สึกดี เธอลืมสายตาไม่ได้ ผมเสียใจมากๆ
วันหนึ่งผมถามเธอตรงๆ ว่าเธอชอบเขาใช่มั้ย เธอร้องไห้ และก็บอกว่าเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เราต่างเสียใจ ผมบอกว่า ถ้าชอบใครก็ชอบ ผมขอเป็นคนไปเอง แต่ด้วยความที่ว่า เราอยู่ด้วยกัน อยู่ห้องเดียวกัน ผมไปไหนไม่ได้ ผมยังเห็นว่าเธอทำอะไรๆอยู่ตลอดเวลา
เห็นว่าเธอไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนกลุ่มนั้น และก็กลับดึกๆอยู่บ่อยๆ จนคืนหนึ่ง ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมไม่ลากเธอกลับมา ผมฟิวขาดอีกแล้ว ผมตะโกนใส่หน้าเธอ เพราะโมโห และก็ปาโทรศัพท์ทิ้ง
หลังจากวันนั้นมาทุกอย่างของเราแย่ลงมาก จนมันเห็นได้ชัดว่าไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว
ไม่นานผมก็ย้ายไปอยุ่คนเดียว ซึ่งเป็นช่วงสอบพอดี จะปิดเทอมแล้ว ซึ่งปิดเทอมนี้จะนานถึงสามเดือน
ช่วงก่อนปิดนั้น ความรู้สึกของผมยังเหมือนเดิม ทั้งความรัก ความห่วงใย ที่เคยให้เธอเท่าไหร่ มันยังมีอยู่เหมือนเดิม
เราจากกันด้วยช่วงเวลาปิดเทอม สามเดือนที่ปิดไปนั้น ผมได้แต่หวังว่า มันจะทำให้เราคิดถึงกัน แล้วเมื่อเปิดเทอมเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
ระหว่างสามเดือนนั้น ผมทรมานมาก คิดถึงเธอตลอดเวลา ไม่เป็นอันทำอะไรเลย ผมพยายามลืมเธอให้ได้ ผมบล็อกเฟส ไลน์ และทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับเธอ เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้ผมคิดถึงเธออีก
สามเดือนผ่านไป วันแรกที่กลับมาเจอกัน เราได้มานั่งคุยกัน แต่กลายเป็นว่าเราตกลงกันว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้ เธอบอกว่าเธอยังเป็นห่วงเราเหมือนเดิม แต่แค่มันจะเหมือนตอนเป็นแฟนกันไม่ได้
ผมก็บอกว่าผมเข้าใจ แต่จริงๆแล้วในใจผม ผมอยากจะขอกอดเธออีกสักครั้งได้ไหม ขอเธอกลับมาเป้นแฟนผมเหมือนเดิมได้ไหม แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ได้แต่คิดในใจ
เปิดเทอมมาสองอาทิตย์แล้ว ผมเริ่มแอบเห็นบางอย่างเกี่ยวกับเธอ เธอดูแปลกๆไป เหมือนเธอจะมีความรักครั้งใหม่ แต่ก็ยังไม่แน่ใจ
จนวันหนึ่งเธอแชทเฟสมาบอกผมว่าเธอไม่อยากรู้สึกผิดอยู่แบบนี้ เธอก็เลยตัดสินใจบอกผมว่าตอนนี้เธอมีคนคุยแล้วน่ะ คุยกันมาได้สักพักแล้ว
ผมเสียใจมากอีกครั้ง ผมรีบวิ่งขึ้นไปห้องเธอ เธอเปิดประตู ผมก็เข้าไปกอดเธอเลย เธอเอามือลูบหัวผม เช็ดน้ำตาให้ผม ผมก็เลยบอกเธอไปตรงๆว่าผมยังไม่ลืมเธอเลย
เธอก็เข้าใจผม และก็บอกผมว่า "มันอาจจะยากที่จะเลิกรู้สึกรัก พยายามน่ะ เดวก็ทำได้"
และผมก็พยายามมาตลอด พยายามเลิกคิด เลิกสนใจ ผมเก็บของทุกชิ้นที่เกี่ยวกับเธอลงกล่อง เก็บไว้ไม่ให้มองเห็น จะได้ไม่คิด
ผมพยายามเปลี่ยนชีวิต ตื่นเช้าออกไปวิ่งออกกำลังกาย หาอะไรทำตลอดเวลา นั่งเล่นกีตาร์ อ่านหนังสือ โทรหาแม่บ่อยขึ้น(พยายามไม่ให้มีเวลาว่าง) เพราะถ้าว่างเมื่อไหร่ผมจะกลับไปคิดเรื่องเดิม
แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ คำถามเกิดขึ้นในใจผมตลอดเวลา
ผมมีความรักที่ผมต้องการ เธอบอกรักผมเป็นคนแรกของเธอ แต่ทำไมผมถึงทำลายมันลงด้วยตัวผมเอง
ทุกวันนี้ เรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คุยกันบ้าง ปรึกษาปัญหากันบ้าง หรืออาจจะไปกินข้าวด้วยกันบ้าง
เธอลืมผมไปสนิทแล้ว และกำลังจะมีความรักครั้งใหม่กับคนอื่น
ส่วนผม ก็อาจจะมีบ้างที่ยังรู้สึกอยู่ ยังหวงอยู่ แต่จะทำไงได้ ในเมื่อมันไม่เหมือนเดิมแล้ว
มันปวดหัวตรงที่ เทอมนี้ผมเจอเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เรียนด้วยกันเกือบทุกวิชา แรกๆผมไม่รู้สึกอะไร
แต่พอได้พูดได้คุยด้วย กลายเป็นผมรู้สึกดีกับเขาขึ้นมา และก็เป็นอย่างนี้มาจะสองเดือนแล้ว
ผมอยากจะบอกว่าผมโอเคน่ะ แต่ผมก็กลัวว่าถ้าบอกไปแล้วจะเสียความเป็นเพื่อนกัน เพราะเราก็สนืทกันในระดับหนึ่งแล้ว
อีกอย่างที่ทำให้ผมไม่กล้าตัดสินใจบอกคือ ผมยังมีบางช่วงเวลาที่ผมคิดถึงเธอคนนั้นอยู่เลย ผมกลับว่าถ้าเป็นแฟนกัน ผมอาจเป้นคนทำให้เพื่อนใหม่เสียใจเพราะผมยังลืมเธอคนนั้นไม่ได้
ผมควรทำอย่างไร
###ขอบคุณนะครับ ที่ทนอ่านเรื่องของผมจนจบ###
###ผมรู้ว่าผมเลวมาก ผมใช้กำลังกับผู้หญิง ผมสมควรโดนด่าครับ###